ถังหยวนขวัญหนี  ปู่มาส่งเขาเข้าด้านในและกลับไป  ถูกทิ้งให้พบองค์จักรพรรดิเพียงลำพัง ดังนั้น เจ้าอ้วนจึงเป็นกังวลยิ่ง

” ลุกขึ้น  มานั่นตรงนี้ “

องค์จักรพรรดิมิอาจกลั้นขำสนุสนานหลังจากได้เห็นเจ้าอ้วนในรูปร่างที่น่าสงสารนี้  น้ำเสียงพระองค์อ่อนโยนขณะโบกมือ

 

” ขอบพระทัย ฝ่าบาท “

ถังหยวนใช้มืออวบอ้วนของเขาพยุงขณะขณะคลานและลุกขึ้น  เขาปาดเหงื่ออย่างระมัดระวัง และเคลื่อนตัวไปนั่งบนเก้าอี้อย่างสุขุม

 

มิรู้ว่าเป็นการจงใจหรือไม่ … แต่ขันทีได้ยกเก้าอี้กลมมาให้เขา  เจ้าอ้วนพบว่าเก้าอี้นั้นมิได้ใหญ่เลย  ผู้ที่มีรูปร่างปกติสามารถนั่งลงได้อย่างง่ายดาย และนั่งได้อย่างสะบาย  ความจริง ยังมีพื้นที่เหลืออีกมากมาย  แต่ในกรณีของเจ้าอ้วน …. การนั่งลงบนเก้าอี้นั้นเป็นสิ่งที่ยากยิ่ง

 

ถังหยวนจำคำสั่งสอนของปู่ได้

” เมื่อเผชิญหน้ากับองค์จักรพรรดิ อย่าได้นั่งอย่างโอหัง หากพระองค์ขอให้เจ้านั่ง  เจ้าจงนั่งเพียงครึ่งก้น  จดจำสิ่งนี้ไว้ในใจ ! “

แต่ เก้าอี้ตัวนั้นจักเป็นปัญหา หากเขานั่งลงไปเพียงครึ่งก้น

ข้าคาดว่า แม้แต่ครึ่งก้นของข้าก็เพียงพอนั่ง  เก้าอี้นี้เล็กนัก  ไม่ประหลาดใจที่ผู้คนสามารถนั่งเพียงครึ่งก้นได้

 

เขาโกยจนก้นของเขาครึ่งหนึ่งเข้าไปได้  แต่เพียงส่วนนั้นก็เต็มทั้งเก้าอี้  ไขมันมหาศาลวางอยู่บนเก้าอี้  มีส่วนที่ล้นเก้าอี้ออกมา

 

” ฮ่า ฮ่า … “

องค์จักรพรรดิมิอาจทนได้อีก และเริ่มหัวเราะอย่างแปลกประหลาด  ถังหยวนรู้สึกเหงื่อไหล ขณะเขาหัวเราะตาม

 

” ถังหยวน ข้าได้ยินว่าเจ้าคือ หัวหน้านายประมูล ของ หอชนชั้นสูง  ? “

ไม่ว่าเหตุใด พระองค์หยุดหัวเราะและถาม  ประกายเยือกเย็นเปล่งขึ้นนัยตา

 

” พะยะคะ…. เจ้าพนักงานหนุ่ม … คนสามัญ … ข้า …. “

เจ้าอ้วนตะกุกตะกักก่อนเขาจะหยุดเอ่ยวาจา  เขาต้องการเรียกตัวเองว่า เจ้าพนักงานหนุ่ม แต่ไม่ถูกต้องเนื่องจากเขามิได้มีตำแหน่งในราชการ  จากนั้น เขาพยายามเรียกตัวเองว่า สามัญ แต่ก็ยังไม่ถูกต้อง  จากนั้นจึงพยายามแทนตัวเองว่า ข้า … แต่การเอ่ยเช่นนั้นไม่สุภาพยิ่งในสถานการณ์เช่นนี้

 

เขาเริ่มหายใจไม่ออก …

 

” ไม่ต้องมากพิธี เอ่ยตามที่เจ้าคิด “

จักรพรรดิเอ่ยด้วยท่าทีอ่อนโยน

” ถังหยวน เจ้าบอกข้าได้หรือไม่ ว่าผู้ใดเป็นผู้ออกความคิดให้ดำเนินการประมูลใน หอชนชั้นสูง  เช่นนั้น ? “

 

” นี่ … นั้นนน … พระองค์ … เขาเขา …คือ เป็นเช่นนี้ …. “

ถังหยวนใจเต้นรวดเร็ว

โอ้ว !  ไม่ประหลาดใจ ที่ท่านพี่ ย้ำนักหนากับข้าอย่างจริงจัง  ราวกับว่าอาวุโสผู้นี้รู้ว่า มีชนชั้นสูงอยู่เบื้องหลังการเตรียมการทั้งหมดนี้ … !

 

” พระองค์ ข้า เอ่อ เอ่ ยังอ่อนวัยนักในเวลานั้น … และไร้ไหวพริบ … ข้าได้ทำผิดครั้งยิ่งใหญ่  ท่านปู่ขับไล่ข้าออกจากจวน  ดังนั้น… ข้าจึงตัดสินใจทำบางสิ่งซึ่งจะทำให้อาวุโสผู้นั้นประหลาดใจว่า ที่ขับไล่ข้าออกจากจวนนั้นเป็นการกระทำที่ผิด “

ถังหยวนเกาหัวเขินอาย

” แต่อันใดที่ข้าจักสามารถทำได้ ?  ข้าสนใจเพียงการหาเงิน … “

 

 

” เจ้า … เจ้ากำลังบอกว่านั่นคือความคิดของเจ้า ? “

สีหน้าองค์จักรพรรดิห่อเหี่ยว  จากนั้น ความกดดันที่มองไม่เห็นกดลลงไปยังถังหยวน

 

มิใช่ปราณจากยอดฝีมือเชวียน … เป็นพลังบริสุทธิ์ขององค์จักรพรรดิเอง

 

เป็นบางสิ่งที่แม้แต่ คุณชายน้อยจวิน และ แปดยอดปรมาจารย์ ก็มีอาจคาดการณ์ได้

 

” พะยะคะ !  พระองค์ … เพียงเท่านั้น เป็นกิจการซื้อขายเล็กๆ … เพียงเท่านั้น ! “

เสื้อผ้าของถังหยวนมีเหงื่อซึมออกมาภายในไม่กี่วินาที  จนเขาสามารถรู้สึกเปียกไปทั่วทั้งตัว  ปากเขาแห้งผาก ปากสีแดงและฟันขาวดั่งงาช้างของเขาพยายามเอ่ยสิ่งเหล่านี้ออกมา

 

” เพียงเท่านี้ ?  เป็นเพียงกิจการซื้อขายเล็กๆ ?  ถังหยวน เจ้ารู้ถึงผิดบาปที่เจ้าทำ ? “

จักรพรรดิหรี่ตาเล็กขณะพระองค์เพ่งมองสีหน้าของถังหยวนอย่างกระตือรือร้น

 

” เล็กๆ มันมิได้สำคัญ … กระทำผิดไป .. ข้า … กระทำผิดพลาด … โดยไม่รู้ … ข้าเชิญ เชิญท่านปู่เพื่อ …. “

ถังหยวนเริ่มวิตกกังวล  ความจริงเขาไม่รู้ว่าจักพูดกับตัวเองอย่างไร  จากนั้น เขาจดจำสิ่งที่เด็กน้อยเรียกเขาในโรงโสเพณีได้  เขาครุ่งคิดอยู่ชั่วขณะ และตัดสินใจว่ามันเหมาะสม

 

เขาจดจำได้เพียงคำพูดของเด็กชายเนื่องจากตอนนี้กำลังเสียขวัญ  มิได้คำนึงถึงน้ำเสียงของเด็กชายผู้นั้น  เขามิอาจคาดได้ว่า เด็กผู้นั้นใช้น้ำเสียงนี้กับ ลูกค้า โรงโสเภณี เนื่องจากเขาประสงค์เพียงหลีกเลี่ยงการสร้างความขุ่นเคืองหากกระทำผิดโดยไม่รู้ตัว

 

ทันใดนั้น ราวกับเจ้าอ้วนเป็นพ่อค้าข้างถนนผู้ที่ถือกาน้ำชาสองกา ขณะที่ องค์จักรพรรดิคือเจ้านายผู้ไม่ระมัดระวัง …

 

” เจ้ารู้สึกผิด ?  ผลจากการประมูลของเจ้าสร้างความโกลาหลไปทั่วทั้งนคร และก่อเกิดความวุ่นวายทุกหนแห่ง  เป็นเรื่องที่น่าเวทนายิ่ง ! “

จักรพรรดิพ่นลมทางจมูกขณะพระองค์ยังคงสำแดงอำนาจต่อไป  จักรพรรดิเป็นผู้รักการเรียนรู้  พระองค์เข้าใจว่ามิอาจหยั่งถึงความลึกลับนี้ เนื่องจากเด็กผู้นี้รู้ทัน

 

” เวลานั้นข้ามิได้ใตร่ตรองให้ดี  ประสงค์เพียงยืนด้วยขาตัวเอง  ข้าวางแผนเพื่อหาเงินจำนวนหนึ่งเพื่อความอยู่รอด  เพียงเท่านั้น  ข้ามิได้คิดถึงเรื่องเช่นนั้น  ข้ามิได้บังคับให้ทุกคนซื้อสุราเหล่านั้น พวกเราทำมันด้วยประสงค์ตัวเอง นายท่าน “

เม็ดเหงื่อของถังหยวนไหลลงมาเป็นเส้นสาย

 

นายท่าน …

 

บรรทัดนี้ทำให้จักรพรรดรู้สึกดั่งเป็นผู้อุปถัมภ์  ยิ่งไปกว่านั้น ถังหยวนมิรู้เลยว่า จักรพรรดิและลูกชายพระองค์ … ความสัมพันธ์ของทั้งสี่ไม่ต่างอันใดกับเพื่อนเที่ยว

 

” จากที่เอ่ยมาก่อนหน้านี้ …อย่างแรกเจ้ายกตัวละครชนชั้นสูง เจ้ายั่วยุผู้มั่งคั่งและทรงพลังในนครเพื่อเปรียบเทียบกับสิ่งเหล่านี้  และสถานการณ์รุนแรงขึ้นทุกวันผ่านไป  จากนั้น ราคาสินค้าทุกสิ่งในเมืองพุ่งทะยานเพราะเจ้าเพียงส่งบัตรเชิญหนึ่งใบไปยังแต่ละสถานประกอบการ  และ แท้จริงแล้ว บัตรเชิญเหล่านั้นถูกส่งไปยังเหล่าชนชั้นสูงที่แท้จริง ทำให้เกิดความขัดแย้งในกลุ่มกิจการ  ทุกกิจการเกลือและเสื้อผ้าภายใน นครเทียนเชียง เปิดฉากการต่อสู้ และวางแผนต่อสู้กันขณะที่เราเสวนากันอยู่นี้ !  สถานการณ์เช่นนี้อาจนำไปสู่การนองเลือด !  ยิ่งไปกว่านั้น ทั้งสถานการณ์บ้านเมืองก็ยังคงสั่นคลอน … “

จักรพรรดิมิอาจเอ่ยประโยคสุดท้ายเสียงดังได้  แต่ เรื่องที่เขายกมานั้นมิได้สลักสำคัญ  แท้จริงแล้ว ทั้งหมดเพื่อข่มขู่ถังหยวน

 

ท่านพี่คิดแผนการนี้ขึ้นมาอย่างเป็นความลับ และจากนั้นควบคุมทุกสิ่งอยู่เบื้องหลัง !  ข้า… น่าอัศจรรย์ยิ่ง !  และ ข้าคิดว่าทั้งหมดนี้เพียงเพื่อเงิน  โง่เขลายิ่งนัก !  ข้ามิสามารถบุกฝ่านแนวศัตรูไปได้ … แต่นายท่านนั่งอยู่ข้างหลัง  สิ่งนี้เรียกว่า บัญชาการจากที่ไกลนับพันลี้ !

 

จักรพรรดิมั่นใจหลังจากมองสีหน้างุนงงของถังหยวน เขามิได้วางแผนการนี้  หรืออย่างน้อย … เขามิใช่ผู้วางแผน  เขาลุกจาก ราชบัลลังก์ เชื่องช้า  จากนั้นก้าวเฉื่อยชาสองก้าว และ ยืนห่างจากถังหยวนราวสามสิบหลา

” ถังหยวน เจ้าคือหลานชายของเสนาบดีผู้กล้าหาญ และภักดี !  เจ้าอาจเป็นอันธพาล … แต่เจ้าควรจักได้รับตำแหน่งและความมั่งคั่งในอนาคต แม้นว่าเจ้าจักไร้สามารถ  เช่นนั้นเหตุใดเจ้าต้องประสบความทุกข์ทนในนามของผู้อื่นเช่นนี้ ?  เจ้าจักทำลายอนาคตของเจ้าและสกุลถังเพื่อสิ่งนี้ ?  เจ้าคิดว่ามันคุ้มค่าหรือ ? “

 

สิ่งนี้คือการโจมตีทางจิตวิทยา !  ชัดเจนว่าคือการโจมตีทางจิตวิทยา !

 

ไม่มีเยาวชนผู้ใดจักสงบอยู่ได้หากมีการโจมตีสกุลของเขาเช่นนั้น  จักรพรรดิมั่นใจในสิ่งนี้  ดังนั้น พระองค์จึงดำรัสและจ้องมองใบหน้าถังหยวนเช่นนั้น ขณะที่พระองค์เฝ้ามองเขาอย่างถี่ถ้วน

 

แต่ องค์จักรพรรดิมิรู้เลยว่า จวินโม่เซี่ย ค้นพบการโน้มน้าวเช่นนี้ และเผยมันออกมาก่อนหน้านี้นานแล้ว  ความจริง เขาเคี่ยวกรำถังหยวนด้วยท่าทีเช่นนั้นหลากหลายหนเพื่อฝึกฝน  คุณชายน้อยจวินมิได้มีอำนาจดั่งองค์จักรพรรดิ แต่ จิตสังหารของเขาก้าวล้ำเกินกว่าพลังที่น่ารำคาญนี้  แต่ เจ้าอ้วนจักรับมือได้อย่างไร ?

 

ความจริง จักรพรรดิจักล่อลวงถังหยวนหากเอ่ยถึงสกุลของเขาเช่นนี้ต่อ … ดั่งเช่นการหลอกลวงของจิ้งจอกเฒ่าหรือ ?  เด็กหนุ่มจะบอกสิ่งที่เขาพยายามปกปิดไว้ในไม่ช้า  จากนั้น จุดต่างๆจักเชื่อต่อกับข้อมูล  ไม่ว่าเจ้าอ้วนจักฝึกฝนเช่นไร เขาก็มิอาจต้านทานความความพยายามนี้ได้

 

แต่ มีผู้คนนับพันรอคอยอยู่ภายนอก  ดังนั้น องค์จักรพรรดิจึงมองหาวิธีการเพื่อเผด็จศึก แต่ แท้จริงแล้ว จวินโม่เซี่ย ได้คาดการถึงสถานการณ์เช่นนี้ในแผนการของเขาไว้แล้ว

 

สถานการณ์ของถังหยวนเปรียบ … เหมือนกัน … การเล่าเรียนมิอาจช่วยให้นักศึกษามีคะแนน  ดังนั้น นักศึกษาจึงตัดสินใจท่องจำ กระดาษข้อสอบของปีก่อน … แต่พบว่าคำถามเหล่านั้นประกอบไปด้วยชุดทดสอบทั้งหมดในการสอบของวันถัดไป  …

 

ท่านพี่คือนักวางแผนผู้ล้ำเลิศ !  ถังหยวนนับถือท่าน !

 

รับไว้ !

 

” พระองค์ .. ไม่เข้าใจ  ที่สิ่งที่ผู้ต่ำต้อยเช่นข้าเอ่ยกับท่าน  ข้าถูกท่านปู่ขับไล่ออกจากบ้าน  อย่างไรก็ตาม … ข้าสมควรได้รับการลงโทษ  ปู่ของข้า เฆี่ยนตีข้าในวันนั้น และข้าถูกส่งออกมาพร้อมรอยแผลและฟกช้ำ  ข้าโดดเดียวและไร้หนทาง  ข้าเดินไปทั่วนครโดยไร้ซึ่งเงินตรา  แต่พระเจ้ามิได้ละทิ้งข้า ท่านพี่แสนดี จวินโม่เซี่ยจากสกุลจวินปรากฏตัวขึ้น !  เขามิได้ละทิ้งข้า และ พาข้ากลับจวน  เขารักษาอาการของข้า และดูและร่างกายที่อ่อนล้า  เขาเฝ้าดูแล และปฐมพยาบาลจนข้ากลับมาเป็นปกติด้วยความใส่ใจ … “

ดูเหมือนความรู้สึกปรากฏขึ้นบนใบหน้าถังหยวน

 

” เช่นนั้น แผนการนั้นเป็นความคิดของ คุณชายน้อยแห่งสกุลจวิน ? “

จักรพรรดิรู้สึกสิ้นหวังเล็กน้อยเนื่องจากเจ้าอ้วนดูราวกำลังออกนอกเรื่อง  น่ารังเกียจยิ่ง

 

” พระองค์ยังไม่เข้าใจสิ่งที่ข้าเอ่ย  ได้โปรดให้ข้าเอ่ยให้หมดสิ้น  ข้าได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากจวนสกุลจวินโดยพี่ชายที่แสนดี  สกุลจวินมอบอาหารเสื้อผ้า และที่ซุกหัวนอน ให้แก่ข้า  แม้นว่าข้าจักเป็นอันธพาล … ข้าก็รับรู้ได้ถึงความเมตตาของพวกเขา … และ แท้จริงแล้วข้าคือแขกภายใต้หลังคาของผู้หนึ่ง  ข้าเริ่มครุ่นคิดจักชดใช้ความเมตตานี้  การค้าคือสิ่งสำคัญสำหรับข้า … ดังนั้นข้าจึงเกิดแรงบันดาลใจ !  ข้าคิดว่าข้า และท่านพี่จวินที่แสนดี มีบางสิ่งเหมือนกัน … “

 

สิ่งใดที่เจ้ามีเหมือนกัน ?  เจ้าทั้งสองเป็นอันธพาล ?  เจ้าทั้งสองเป็นพ่ายแพ้ ?  เจ้าทั้งสองล้มเหลวในการมีชีวิตตามที่คาดหวัง ?  มีสิ่งใดอื่นอีก ?

 

” พระองค์จักต้องรู้ถึงข่าวลือในตรอกว่าข้า และพี่ที่แสนดีจวิน เป็นอันธพาลอันดับหนึ่งในนครหลวง  ผู้ต่ำต้อยนี้พยายามค้นหาแรงบันดาลใจในคาวมจริงนี้  ข้าจดจำได้ว่่าในอดีต ข้าไม่เห็นคุณค่าของเงิน !  ผู้ต่ำต้อยผู้นี้ใช้จ่ายเงินอย่างไร้ค่าและฟุ่มเฟือย … บ่อยครั้งกับสิ่งที่มีค่าเพียงเล็กน้อย  ข้าใช้จ่ายเงินตราอย่างหุนหัน  และเมื่อข้ามองไปรอบตัวในเวลานี้ ข้าพบว่าข้าและคุณชายน้อยจวิน มิใช่คนหมู่น้อยในรุ่นราวคราวเดียวกัน  ดูเหมือนว่าอันธพาล อาจใช้แทนคำว่า ชนชั้นสูง แต่ ชนชั้นสูงจักเทียบกับอันธพาลได้เช่นไร ?  แต่สิ่งนี้อาจถือได้ว่าเป็นหนทางหาเงินตราเนื่องจากคนเช่นนี้มิได้ใช้จ่ายเงินตราอย่างบ้าคลั่ง !

 

” น่าบังเอิญ ข้าได้มาพบกับ นักหมักสุราผู้เป็นเลิศเมื่อหลายวันก่อน พี่ซ้งฉาง  และเขาตกลงจะหมักสุราชั้นเลิศและโดดเด่นนี้แก่ หอชนชั้นสูง   พวกเราจึงมาถึงสถานการณ์ในวันนี้เนื่องจากความโชคดีต่างๆเกิดขึ้น  หากพระองค์ยังคงขัดข้องพระทัย ถังหยวนจักอธิบายเพิ่มเติม ! “

ไม่รู้ว่าเจ้าอ้วนจะเชื่อฟังหรือไม่ กระนั้น จวินโม่เซี่ยคาดการณ์ การตอบสนองของ องค์จักรพรรดิได้อย่างแม่นยำ  เจ้าอ้วนยังคงตระหนก…ไม่หยุดหย่อน

 

เขาจักตอบคำถามที่องค์จักรพรรดิจะถามมากมาย ได้อย่างง่ายดายได้เช่นไร

 

เจ้าอ้วนคงจักไม่สับสนหากเขารู้เรื่องนี้  เขาตอบแต่ละคำถามอย่างง่ายดาย ด้วยตรรกะที่หนักแน่น .. และมีเหตุผลที่เหมาะควร  เมื่อมาถึงเรื่องที่เขาถูกขับไล่จากสกุล … เจ้าอ้วนทำตามบทที่จวินโม่เวี่ยเขียนไว้ได้อย่างยอดเยี่ยม  เขาหลั่งน้ำตาขณะ เขาตะโกน

 

สายน้ำตาหลั่งไหลจากใบหน้าของเจ้าอ้วนร่วงสู่ธรณี ฉากนี้ค่อนข้างยากจิตนาการ …