TQF:บทที่ 570 บรรลุอย่างรวดเร็ว(2)
พูดมาถึงตรงนี้เฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็อดนึกถึงเขาไม่ได้ ไม่รู้ว่าเขาอยู่ที่โถงวิหารสวรรค์รึเปล่า แล้วจะหาเขาพบหรือไม่
คนรอบข้างมองความคิดของนางออกทันที ฟางซูหยุนลูบมือนางเบาๆ “วางใจเถอะ พวกเราทำไปตามแผน ถึงเวลาที่จะพบก็ย่อมได้พบ ตอนนี้เจ้าก็เป็นจักพรรดิ์อมตะแล้ว เจ้าสามารถลงทะเบียนกลุ่มทหารรับจ้างได้แล้ว เจ้าทำเรื่องนี้ให้เสร็จก่อน อย่างไรซะในมิติก็มีทรัพยากรนับไม่ถ้วน จะสร้างกลุ่มทหารรับจ้างขึ้นมาน่ะง่ายกว่าคนอื่นๆ พอจำนวนทหารรับจ้างเยอะขึ้นก็ส่งพวกเขาออกไปสืบข่าว ข่าวจากคนของตัวเองย่อมมีความจริงมากกว่า”
หลังจากช่วงที่ผ่านมา ทุกคนก็รู้ถึงเหตุผลที่นางและหยูเฮงน้อยอยากจะสร้างกลุ่มทหารรับจ้างแล้ว ไม่ใช่เพราะอยากจะมีชื่อเสียง และก็ไม่ใช่เพื่อสร้างอิทธิพล ทุกอย่างก็เพื่อสืบที่อยู่ของโม่ซวนซุน
ตอนนี้วิทยายุทธของหยูเฮงน้อยเทียบเคียงกับระดับก้าวสู่เทพเทวา แม้ดูจากภายนอกจะดูไม่ออก แต่แท้จริงแล้ววิทยายุทธของนางสูงที่สุดในหมู่พวกเขา ต่อมาก็เป็นเฉิงเสี่ยวเสี่ยว จากการเลื่อนขั้นมิติครั้งนี้ เกิดการเปลี่ยนแปลงกับนางมากที่สุด บรรลุจากบรรลุราชันย์จักพรรดิ์ตอนต้นจนถึงจักพรรดิ์อมตะตอนปลาย สามารถบรรลุจุดสูงสุดได้ทุกเมื่อ เป็นตำนานอย่างแท้จริง
แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงของคนอื่นๆก็ไม่น้อย อาจารย์ปู่วิหารสวรรค์ก็เป็นบรรลุราชันย์จักพรรดิ์แล้ว ผู้เฒ่าหยิงเป็นปรากฏราชันย์จักพรรดิ์ ที่น่าแปลกใจและดีใจมากที่สุดก็ต้องเป็นฟางซูหยุน
หลังจากการชำระล้างจากกฎแห่งฟ้าดินและหมอกสีทอง คำสาปในร่างนางก็ถูกล้างออก วิทยายุทธก็พุ่งทะลุทะลวง จากระดับบรรลุราชันย์จักพรรดิ์แต่เดิมของนางไปจนถึงก้าวสู่เทพเทวา ตอนนี้นางถือว่าเป็นผู้เก่งกาจสำหรับผืนดินฉางไห่แล้ว อยู่ระดับเดียวกับท่านปู่ตระกูลฟางเมื่อก่อน
แต่นางยังอายุแค่ 50-60 เท่านั้น ถ้าหากปู่หลานคู่นี้กลับไปตระกูลฟาง ต้องถูกเทิดทูนราวกับเป็นเทวดาแน่นอน
ดังนั้นความกังวลที่อยู่บนใบหน้าของฟางซูหยุนตลอดก็ได้หายไป มีความปิติยินดีเข้ามาแทนที่
“ไป พวกเราออกเดินทางไปฮวงยันกัน…” หยูเฮงน้อยปรบมืออย่างดีใจ
แม้ว่านางจะโตขึ้นไม่น้อย แต่นิสัยก็ยังเหมือนเด็กอยู่ ไม่ได้เปลี่ยนไปเท่าไหร่นัก
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็ชอบนิสัยแบบนี้ของนาง ไม่ขอให้นางเปลี่ยน อย่างไรซะสำหรับนางแล้ว 13-14 ก็ยังเป็นเด็กคนนึงอยู่
ทั้งหมดเตรียมออกจากหุบเขา แต่ก่อนจะไป หยูเฮงน้อยได้รดน้ำวิเศษจำนวนมากในหุบเขา และยังได้ปลูกสมุนไพรเลอค่ากับผลไม้จำนวนหนึ่ง หลังจากนี้นับสิบหรือนับร้อยปี ก็จะต้องกลายเป็นดินแดนสวรรค์ได้อีกอย่างแน่นอน
เรื่องที่สำคัญที่สุดนางก็ไม่ได้ลืม หยูเฮงน้อยสะกดหุบเขานี้ไว้ หากคนข้างนอกบุกมาได้ถึงตรงนี้ ถ้าวิทยายุทธไม่ถึงระดับปรากฏเทพเทวาก็คลายมนต์สะกดนี้ไม่ได้
ด้วยวิทยายุทธของทุกคน ไม่จำเป็นต้องให้สัตว์เลี้ยงคอยพาไป นอกเสียจากว่าเดินทางที่ไกลมากจริงๆ ในระยะร้อยลี้ขอแค่แปปเดียวก็สามารถไปให้ถึง
จากหุบเขาไปถึงฮวงยันก็แค่ไม่กี่ร้อยลี้เท่านั้น เพราะฉะนั้นครั้งนี้จึงไม่มีใครเรียกสัตว์เลี้ยงออกมา อย่างไรซะพวกสัตว์เลี้ยงก็ได้บรรลุเป็นสัตว์อมตะกันถ้วนหน้าแล้ว
สัตว์อมตะเองก็เป็นสิ่งมีชีวิตไม่ธรรมดาสำหรับผืนดินฉางไห่ทุกคนยังไม่อยากเป็นที่สนใจนัก อย่างไรซะระยะทางหลายร้อยลี้ก็เป็นเหมือนการเดินเล่นสำหรับทุกคนเท่านั้น ใช้เวลาไม่ถึง 2 ชั่วโมง
เมื่อทุกคนมาปรากฏตัวนอกฮวงยันก็ผ่านไปครึ่งวันแล้ว สาเหตุก็เป็นเพราะหยูเฮงน้อยให้หนูล่าสมบัติตามหาของล้ำค่าอยู่ จึงล่าช้าไปกว่าครึ่งวัน
นอกจางฟางซูหยุนแล้ว คนอื่นๆก็เพิ่งจะเคยเห็นเมืองใหญ่ขนาดนี้เป็นครั้งแรก กำแพงเมืองถูกสร้างขึ้นจากหินดำสูง 7-8 เมตร โอ่งอ่าอลังการ การยืนอยู่นอกเมืองรู้สึกได้ถึงแรงกดดันบางอย่างที่ทำให้หายใจไม่ออก
แน่นอนว่าที่นี่ก็แค่อำเภอชั้น 2 เท่านั้น ถ้าหากไปถึงอำเภอชั้น1 ก็ไม่รู้ว่าจะขนาดไหน
ตอนนี้เป็นช่วงบ่าย คนเข้าออกไม่เยอะมาก เหล่าหญิงสาวใส่หมวกปิดหน้าไว้บวกกับชายหนุ่ม 3 คนที่ท่าทางไม่ธรรมดาทำให้คนอื่นไม่กล้าดูหมิ่นพวกเขา
เมื่อเข้าไปในประตูแล้วก็มีทหารยามขอดูแผ่นคริสตัลประจำตัว ทุกคนต้องจ่ายด้วยหินพลังวิญญาณระดับกลาง 1 ก้อนเพราะพวกเขามาจากอำเภอชั้น 3
กับเรื่องเล็กๆแบบนี้แล้วไม่มีใครคิดมาก อย่างไรซะแต่ละที่ก็มีวิถีชีวิตของที่นั่น จะไปเรียกร้องอะไรไม่ได้ มีแต่ตัวเราเองที่ต้องไปชินกับวิถีนั้นๆ
“คุณหนู ตอนนี้พวกเราจะไปไหน” หยูเฮงน้อยไม่สนใจเมืองอันคึกคักนี่เท่าไหร่ นางถามเฉิงเสี่ยวเสี่ยวเบาๆ
“ตอนนี้…..”
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวกำลังจะพูดแต่ฟางซูหยุนชิงพูดก่อน “เสี่ยวเสี่ยว ถ้าเจ้าอยากจะลงทะเบียนกลุ่มทหารรับจ้างที่นี่ละก็ ข้าคิดว่าให้ตึกว่านซางหาบ้านใหญ่ๆให้เราก่อนดีกว่า เราต้องอยู่ที่นี่ก่อน และยังเป็นศูนย์กลางของกลุ่มทหารรับจ้างได้ ไม่อย่างนั้นการอยู่โรงเตี๊ยมทำให้หลายๆอย่างไม่สะดวกเท่าไหร่”
“ตึกว่านซางขายบ้านด้วยหรือ” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวถามอย่างแปลกใจ
“ใช่แล้ว พวกเขามีบริการจัดหาบ้าน หากต้องการก็ให้พวกเขาแนะนำบ้านที่เหมาะสมได้เลย แน่นอนว่าพวกเขาเก็บค่าบริการส่วนนี้ด้วย”
“อ๋อ เหมือนกันนายหน้าขายบ้าน” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวผู้มาจากโลกปัจจุบันพอได้ฟังก็เข้าใจทันที
หยูเฮงน้อยกล่าวยิ้มๆ “ใช่ อย่างไรซะพวกเราก็ต้องมีบ้านหลังใหญ่ บ้างตัวเองสิถึงจะอยู่สบาย โรงเตี๊ยมดีแค่ไหนก็เป็นแค่โรงเตี๊ยม อยู่นานๆก็ไม่ดี”
ทุกคนเห็นด้วยกับคำพูดของเจ้าตัวเล็ก จึงพากันไปเลือกบ้านที่ตึกว่านซาง
ถามทางกับคนแปลกหน้าไปแปปเดียวก็หาตึกว่านซางเจอ
กำลังจะเดินเข้าไปก็สวนกับผู้ชาย 3 คนที่ออกมาจากตึกว่านซาง หยูเฮงน้อยตกใจจนอุทานออกมา “เอ๋…”
“หืม…..” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็เห็นคนคุ้นหน้าทั้ง 3 ผ่านที่ปิดหน้า สีหน้าของพวกเขาไม่สู้ดีเหมือนว่าจะเจอเข้ากับปัญหาบางอย่าง
เพียงแต่พวกนางใส่ที่ปิดหน้ากันหมด เกาชิงหยางและ 2 สหายจึงจำพวกนางไม่ได้ เดินผ่านทุกคนไปเลย เดินไปก็หารือกันไปว่าจะทำอย่างไรดี
“คุณหนู ข้าให้ของพวกเขาไปเยอะมาก ทำไมแค่ 2 เดือนพวกเขาก็เป็นแบบนี้ซะแล้ว หรือว่าจะเกิดปัญหาอะไร” หยูเฮงน้อยคิดไม่ตกจริงๆ
เฉิงเสี่ยวเสี่ยวส่ายหน้าเบาๆ “รอบข้างพวกเขาน่าจะเกิดบางอย่างขึ้น ช่างเถอะ ต่างคนต่างก็มีวาระของตัวเอง เรายุ่งมากไม่ได้หรอก”
———————