ตอนที่ 184 ออกจากเขตหวงห้าม / ตอนที่ 185 ผู้ใหญ่สองฝ่ายพบกัน

จอมใจจ้าวพิษ

ตอนที่ 184 ออกจากเขตหวงห้าม 

 

 

 

 

 

แม้เถิงเฟิงจะพูดเช่นนี้ แต่ถัดมาก็ตามถังเฉียนมายังสถานที่อีกแห่งหนึ่ง รอบๆ เต็มไปด้วยต้นไม้เขียวครึ้ม ขึ้นสูงเป็นร่มเงาบดบังบ้านเรือนที่อยู่ด้านล่าง บ้านสร้างอย่างประณีตดูแปลกตา บ้านหลังนี้หันหลังให้ลมสามด้าน อีกด้านมองเห็นเป็นทิวทัศน์ของทะเล เป็นครั้งแรกที่ถังเฉียนได้เห็นทิวทัศน์ที่งดงามเช่นนี้ ดังนั้นนางจึงไม่รู้สึกเหมือนว่าตนเองนั้นอยู่ในความฝัน แล้วจึงถามเถิงเฟิงซึ่งอยู่ข้างตัวว่า 

 

 

“ที่นี่เป็นที่ใดหรือ” 

 

 

เถิงเฟิงตอบว่า 

 

 

“เป็นสวนดอกไม้หลังบ้านข้าเอง ข้าปลูกต้นอิงเถากับต้นกุ้ยฮวา ในดินแดนศักดิ์สิทธิ์นั้นถือว่าต้นกุ้ยฮวาเป็นต้นไม้สูงส่ง อิงเถาเป็นต้นไม้มงคล เจ้าชอบหรือไม่” 

 

 

ถังเฉียนเข้าไปดู ต้นอิงเถาเพิ่งสูงนิดเดียว แต่ก็ถือว่าเขาอุตส่าห์มีน้ำใจเช่นนี้ จึงรู้สึกปลาบปลื้ม แม้ว่าที่นี่จะเป็นเหมือนความฝัน แต่ทุกสิ่งอย่างช่างเหมือนจริงมาก หากสามารถอยู่ที่นี่ได้ชั่วชีวิตก็คงนับว่าเป็นเรื่องที่ดี 

 

 

ถังเฉียนเพิ่งมายังดินแดนศักดิ์สิทธิ์ก็อยู่ในสภาพสลบไสลไม่ฟื้น คงเพราะเกี่ยวพันถึงเถิงเฟิง คนทั้งระดับบนและล่างต่างพากันรับมือกับเรื่องนี้อย่างวุ่นวาย อาการโรคเช่นนี้จะดูผ่านๆไม่ได้ ท่านทวดได้ยินว่าถังเฉียนถูกอาคมของคนอื่นดูดดวงวิญญาณ จึงรีบมาตรวจดูอาการ เถิงเฟิงซึ่งนอนอยู่ในเขตหวงห้ามตลอดเวลา ทำเช่นนี้แล้วจะสามารถเป็นเพื่อนนางในความฝันได้ 

 

 

“ท่านทวด ดูเด็กคนนี้สิ โชคชะตาแปลกมาก เหตุใดอยู่ดีๆ ถึงมีคนดูดวิญญาณนางออกไป นี่เป็นเข็มทองช่วยชีวิตที่สืบทอดกันในตระกูลฮว่า นี่ถือเป็นการที่พวกเขาขอร้องให้เราช่วย” 

 

 

อิ๋นซานเห็นถังเฉียนครั้งแรกก็รู้ฐานะของนาง เพราะหลังจากที่นางได้รับพรศักดิ์สิทธิ์แล้วใน สายตาอิ๋นซานบนร่างนางราวกับมีแสงสีทองเรืองออกมา เป็นปาฏิหาริย์ที่เกิดจากการที่ชายชาวพีส่าสามารถมอบให้เท่านั้น 

 

 

“บนตัวนางบ่งบอกว่านางถูกอาคมเล่นงาน สามารถลงมือภายใต้สายตาของเค่ออี้ได้ คนผู้นี้นับว่าไม่ธรรมดาเลย” 

 

 

คำพูดของท่านทวดยิ่งมีความหมายลึกซึ้ง อิ๋นซานเองก็เข้าใจ แม้เค่ออี้จะไม่ใช่ผู้สืบเชื้อสายของสกุลเถิง แต่เขานั้นรับใช้ข้างกายท่านทวดมาตั้งแต่ยังเด็ก มีฝีมือเป็นที่ประจักษ์ เกรงว่าคงไม่ใช่ง่ายๆ แค่มือผีหรือเงาผี อาจจะเป็นผู้อื่น 

 

 

“อาหรูน่าเป็นเพียงเด็กคนหนึ่ง ประมุขนิกายนั้นคงไม่ลงมือด้วยตนเองหรอก” 

 

 

ท่านทวดพูดอีกครั้ง อิ๋นซานเข้าใจดี คนที่ลงมือได้มีเพียงคนใกล้ชิดเท่านั้นหรือเป็ฯพวกเดียวกัน ความคิดเช่นนี้ทำให้นางระวังตัวยิ่งขึ้น 

 

 

“จะอย่างไรนางก็เป็นคนที่เถิงเฟิงชอบ ท่านทวดวางใจเถอะ ข้าจะดูแลนางเป็นอย่างดี” 

 

 

อิ๋นซานจัดให้ถังเฉียนอยู่ในเรือนรับแขก ให้สาวใช้ข้างกายคอยดูแลนาง เพราะไม่ไว้ใจคนอื่น สมุนไพรบนเขาศักดิ์สิทธิ์ช่วยรักษานางสองวันแล้ว เถิงเจินหัวหน้าผู้บวงสรวงแห่งเผ่าพีส่าออกไปจากเขตหวงห้ามแล้ว วันที่ถังเฉียนมาถึง เขาตรวจรู้ถึงสาเหตุแล้ว แต่ถึงกระนั้นก็ยังจำเป็นที่ต้องตรวจสอบให้ชัดเจนอีกขั้นหนึ่ง จึงสั่งให้ปิดเขตหวงห้ามเพื่อตรวจสอบ แล้วมอบถังเฉียนให้อิ๋นซานเป็นผู้ดูแล 

 

 

“เฟิงเอ๋อร์รบเร้าจะออกนอกเขตหวงห้ามก่อนเวลา เขายังไม่หายดี ถ้าอาหรูน่ายังไม่หาย เขาก็ย่อมเป็นห่วง” 

 

 

เถิงเจินโอบไหล่อิ๋นซาน แล้วบอกว่า 

 

 

“จะกังวลสิ่งใด ขอเพียงเด็กคนนี้อยู่ที่เขาศักดิ์สิทธิ์ ไม่ต้องกลัวว่าจะเสียชีวิต เรื่องอื่นข้ามีแผนในใจแล้ว ให้เจ้าหนูนั่นพักรักษาตัวในนี้ดีๆ ใครใช้ให้เขาทำอะไรโดยไม่คำนึงถึงกำลังของตัวเองเล่า” 

 

 

อิ๋นซานรู้ว่าเถิงเจินทำทุกอย่างเพื่อเถิงเฟิง แต่ก็ยังอดเป็นห่วงไม่ได้ ใบหน้าไร้รอยยิ้มตลอด เถิงเจินดูอาการถังเฉียนแล้วบอกว่า 

 

 

“ข้าส่งคนไปตามท่านป้าแล้ว เหตุจนถึงเดี๋ยวนี้ก็ยังไม่มา หรือท่านได้รับบาดเจ็บภายในจากพิธีอัญเชิญเทพครานี้” 

 

 

เขาไม่สามารถรักษาอาการป่วยของถังเฉียนได้ตามลำพัง ต้องให้เถิงเสวี่ยมาช่วยอีกแรง แต่รอแล้วรอเล่าก็ยังไม่มาเสียที 

 

 

ตอนที่ 185 ผู้ใหญ่สองฝ่ายพบกัน 

 

 

 

 

 

รออยู่นานเถิงเสวี่ยก็ยังไม่มาสักที กลับเป็นคณะของจินซิวอ๋องและฮว่าเหยียนมาถึงก่อน ฮว่าเหยียนเห็นถังเฉียนยังมีสภาพเช่นนี้ก็วิตกมาก แต่อยู่บนเขาศักดิ์สิทธิ์นางไม่กล้าที่จะพูดตามอำเภอใจ 

 

 

“พอจะรักษาอาหรูน่าได้หรือไม่ ไม่รู้ว่าเกิดสิ่งใดขึ้นกับเด็กคนนี้ ท่านหัวหน้าผู้บวงสรวงต้องช่วยนางด้วย” 

 

 

เถิงเจินสวมชุดสีแดงเข้ม ปักลายมังกรดำด้วยด้ายดำ บนศีรษะใช้รัดเกล้าหยก แม้จะเข้าสู่วัยกลางคนแล้วแต่ยังคงสง่างาม เถิงเจินเห็นฮว่าเหยียน แม้ว่านางจะไม่เหมือนที่เขาคาดคิด แต่อย่างไรก็เป็นการที่ผู้ใหญ่ของสองฝ่ายพบกัน 

 

 

“ท่านหมอฮว่าเหยียนไม่ต้องยึดถือแบบแผนเกินไป แม้สองคนนั้นจะตัดสินเรื่องชั่วชีวิตกันเอง แต่สำหรับเผ่าพีส่าเรากฎเกณฑ์ก็คือกฎเกณฑ์ อาหรูน่าเป็นคนของสกุลเถิงเราแล้ว ในเมื่อมีคนบังอาจมาคุกคาม ย่อมเท่ากับทำตัวเป็นศัตรูกับข้าสกุลเถิง” 

 

 

ฮว่าเหยียนดูสีหน้าเถิงเจินแล้วก็คลายความวิตกลงบ้าง แววตานางยังฉายแววสงสัยออกมา แล้วพูดว่า 

 

 

“ตามเหตุผลแล้ว เลือดของเด็กคนนี้สามารถทำลายภูตผีได้ เมื่อกลางวันมือผีเพิ่งพ่ายแพ้ไป แม้นางจะสูญเสียพละกำลังไปบ้าง แต่ก็ไม่น่าจะถูกเล่นงานได้ง่ายๆ ท่านหัวหน้าพอจะมีความคืบหน้าใดบ้าง” 

 

 

เถิงเจินพยักหน้า แล้วว่า 

 

 

“เราต้องสืบหาคนร้ายให้ได้ แต่ตอนนี้คงต้องขอความช่วยเหลือจากท่านหมอฮว่าเหยียน ช่วยถอนเข็มสกุลฮว่าออกก่อน ไม่เช่นนั้นเราจะไม่สามารถตรวจหาดวงวิญญาณได้ ไม่อาจรู้ว่าวิญญาณนางไปที่ใดแล้ว” 

 

 

ก่อนหน้านี้ฮว่าเหยียนใช้เข็มทองคำปิดกั้นชีพจรของถังเฉียน อนึ่งก็เพื่อรักษาชีวิตถังเฉียนไว้ อีกประการหนึ่งเพื่อป้องกันสกุลเถิงตรวจสอบวิญญาณนาง 

 

 

“สกุลฮว่าเราเร้นกายมาหลายปี ท่านย่อมรู้ว่ามีความลับหลายอย่างที่ไม่อาจเปิดเผยต่อภายนอกได้ ดังนั้นเราจึงไม่สามารถให้ตรวจสอบดวงวิญญาณได้ ส่วนคนร้ายนั้นเราจับได้หนึ่งคน หากแต่…” 

 

 

ฮว่าเหยียนมองซ้ายมองขวา เถิงเจินสั่งให้คนอื่นออกไปทันที ในห้องเหลือเพียงพวกเขาสองคนและอิ๋นซาน 

 

 

“เรื่องนี้ยิ่งมีคนรู้น้อยก็ยิ่งดี ที่เราสามารถอยู่ในเผ่าม้งมานานหลายปี แต่ละเผ่าย่อมมีความลับของตนเอง ในเมื่อท่านหมอฮว่าเหยียนไม่เห็นด้วยให้ตรวจสอบวิญญาณ ก็ไม่เป็นไร ค่อยๆ จัดการก็ย่อมได้” 

 

 

ฮว่าเหยียนรู้ดีว่าการทำเช่นนี้ทำให้อีกฝ่ายไม่พอใจ แต่นางมีเหตุผลที่ต้องทำเช่นนี้ 

 

 

“แม้จะไม่สามารถหาดวงวิญญาณของอาหรูน่า แต่พระชายารองของจินซิวอ๋องคนนี้แปลกมาก คิดว่าท่านหัวหน้าคงสนใจเป็นแน่” 

 

 

เค่ออี้เอ่ยถึงเรื่องนี้ในจดหมายแล้ว แต่ฮว่าเหยียนเอ่ยถึงเรื่องนี้เป็นพิเศษ จึงรู้สึกว่าซูซินเหลียนน่าจะเกี่ยวข้องกับการที่ถังเฉียนป่วยอย่างกะทันหัน 

 

 

“ซูซินเหลียนคนนี้นับว่าแปลกมาก หลายวันมานี้ตามข่าวที่พวกเจ้าแจ้งในจดหมาย ข้าได้พลิกอ่านตำราที่เกี่ยวข้องของหนานเจ้าและดินแดนศักดิ์สิทธิ์ เรื่องนี้มีความเป็นไปได้เพียงสองประการ แต่ขณะนี้ยังไม่เจอนาง จึงไม่อาจสรุปอย่างชัดเจน รอให้ข้าพบนางก่อน ย่อมต้องแจ้งต่อท่านหมอฮว่าเหยียน” 

 

 

คำพูดเขาเป็นการทำให้ฮว่าเหยียนต้องกลับไปก่อนเป็นนัยๆ รอจนในห้องเหลือเพียงสองสามีภรรยาแล้ว อิ๋นซานก็อดเอ่ยขึ้นไม่ได้ 

 

 

“ท่านพี่รู้แล้วไม่ใช่หรือ เหตุใดจึงไม่พูดออกมา ฮว่าเหยียนเป็นญาติผู้ใหญ่ฝ่ายนั้น ไม่ใช่คนนอก ท่านพี่กังวลสิ่งใดหรือ” 

 

 

เถิงเจินส่ายหน้าแล้วถอนหายใจ หลายปีมานี้เขาจัดการทุกเรื่องอย่างละเอียดรอบคอบ ดังนั้นสำหรับอาหรูน่ารวมทั้งฮว่าเหยียนด้วย เขาจึงเลือกที่จะระวังตัวเช่นเดิม เขาอยากรู้ว่าสองคนนี้จงใจเข้ามาตีสนิทกับเถิงเฟิงหรือไม่ เพียงแต่เขารู้ว่าคำขอร้องนี้ต้องถูกปฏิเสธ แต่เขารู้สึกว่าแม่ลูกคู่นี้ดูแปลกๆ 

 

 

“เจ้าไม่คิดหรือว่าฮว่าเหยียนกับอาหรูน่าหน้าตาไม่เหมือนกันเลย อีกอย่างท่านป้ายังไม่มา ทุกอย่างรอให้ท่านป้ามาก่อนก็ยังไม่สาย