บทที่ 603 เร่งด่วน
“คณิตศาสตร์เปิดเผยทุกสิ่งอย่างก็จริง แต่สุดท้ายแล้วสิ่งสำคัญที่สุดก็คือความหมายแท้จริงในทางอาร์คานาศาสตร์ และผลลัพธ์ที่เราจะคาดหวังได้ตามแต่รูปแบบที่ใกล้เคียงกัน หาใช่คำถามเชิงอภิปรายด้านคณิตศาสตร์เพียงอย่างเดียว นั่นคือเหตุผลที่เราออกสำรวจโลกและสืบเสาะหาความจริง” เฟอร์นันโดยอมรับความคิดของลูเซียนแต่ในขณะเดียวกันก็แสดงความเห็นของตัวเองด้วย “อย่างเช่น ไม่มีใครให้ความสนใจเรขาคณิตอีวานส์เลย ยกเว้นจอมเวทจากหอคอย จนกระทั่งมันกลายเป็นแบบจำลองกาล-อวกาศของทฤษฎีสัมพัทธภาพทั่วไป”

ลูเซียนเองก็มีความเห็นคล้ายคลึงกันในเรื่องนี้ “ใช่ขอรับ คณิตศาสตร์คือเครื่องมือที่ดีที่สุดของเรา มันคือตัวทำหน้าที่แทนภาพในจินตนาการของเรา แต่ไม่ว่าอย่างไร ก็เป็นความจริงที่ว่าเราต้องมีคำอธิบายให้กับการเล่นแร่แปรธาตุร่วมสมัย โครงสร้างภายในอะตอม และความหมายทางอาร์คานาของกลศาสตร์ควอนตัม แม้ว่าเราจะตั้งข้อสันนิษฐานได้อย่างใจกล้าขณะพยายามอธิบายพวกมัน แต่เราก็ต้องพิสูจน์ยืนยันให้รอบคอบอย่างยิ่ง ดังนั้น ข้าจึงยังให้คำตอบอะไรไม่ได้ขอรับ”

เฟอร์นันโดพยักหน้านิดๆ “ในเมื่อวิธีการทางคณิตศาสตร์ของเจ้าแก้สมการนี้ได้สำเร็จ พวกมันย่อมต้องมีความหมายแท้จริงที่เจ้ายังไม่ค้นพบเป็นแน่”

จากนั้นเขาก็ลูบปลายคิ้วแล้วบ่นพึมพำ “ในที่สุดข้าก็เป็นอิสระจากปัญหาทั้งหลายในการเล่นแร่แปรธาตุร่วมสมัยอย่างเช่นเงื่อนไขการแบ่งแยกอนุภาคที่กำหนดไว้ พวกมันบินวนเวียนอยู่ข้างหูข้าเหมือนกับแมลงวันนับหมื่นตัวมานานมาก จนข้านึกอยากจะทำลายล้างโลกใบนี้ทิ้ง ในที่สุดข้าก็จะสงบจิตใจและจดจ่อกับการกระจายตัวของอิเล็กตรอนได้เสียที มันยังมีอะไรอีกมากมายให้สำรวจสืบค้นเบื้องหลังหลักการกีดกันและหลักการพลังงานขั้นต่ำ”

แม้ว่าเขาจะไม่ได้ชื่นชมงานวิจัยของลูเซียนอย่างโจ่งแจ้ง แต่ท่าทีของเขาก็ยังแสดงให้เห็นว่าเขาค่อนข้างพอใจกับมัน

ทว่าลูเซียนกลับไม่ค่อยเห็นด้วยกับอาจารย์ของตน เพราะเห็นได้ชัดว่าอาจารย์เขาเพลิดเพลินไปกับการถกเถียงกับคนอื่นๆ เกี่ยวกับคำถามพวกนี้นัก

“ส่งไปพิจารณาเดี๋ยวนี้เลย เหล่าจอมเวทจากสำนักเวทธาตุและเล่นแร่แปรธาตุต่างตั้งตารอคอยมันอย่างทดท้อมากแล้ว” แล้วเฟอร์นันโดก็ยกเรื่องสูตรคำนวณขึ้นมา “บอกตามตรงนะ เจ้าสามารถใช้สูตรคำนวณที่มีอยู่ก่อนได้เลย งานชิ้นนี้คงจะเป็นมิตรกับผู้อ่านกว่านี้มาก หากไม่ใช่ว่าเจ้าคือลูกศิษย์ข้า ข้าคงจะฉีกรายงานส่วนแรกของเจ้าทิ้งแล้วบอกให้กลับไปเขียนมาใหม่เป็นแน่”

จริงๆ แล้ว ลูกศิษย์ของท่านคือผู้ที่ถูกท่านโจมตีรุกไล่มากที่สุดแล้วขอรับ… ลูเซียนคิดในใจยิ้มๆ “ข้าเพิ่งนึกได้ว่ามีสูตรคล้ายคลึงกันนี้ในระบบอาร์คานาหลังจากที่ข้าสร้างสูตรนี้ขึ้นมาแล้วขอรับ แต่ไหนๆ ข้าก็คิดมันมาแล้ว ข้าจึงตัดสินใจส่งไปพร้อมกันเลย หลังจบพิธีแต่งงาน ข้าจะปรับแก้มันด้วยสูตรที่มีอยู่ก่อนหน้าขอรับ”

เฟอร์นันโดคุ้นชินกับนิสัยแปลกประหลาดของลูเซียนเสียแล้ว “ส่งต่อให้ลูกศิษย์เจ้าเสียสิ เจ้าไม่จำเป็นต้องเสียเวลากับเรื่องพรรค์นั้นหรอก อ้อ การเตรียมการสำหรับ ‘งานแต่ง’ ของเจ้าเป็นอย่างไรบ้างแล้ว นั่นน่ะเรื่องสำคัญมากๆ”

ลูเซียนพยักหน้าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม “ตอนนี้เหลือเพียงข้าที่ต้องสร้างอุปกรณ์ชั้นตำนานขอรับ”

“พูดกันตามตรง แม้ว่าทุกอย่างจะเตรียมการไว้พร้อมสรรพ มันก็ยังต้องใช้เวลาอย่างน้อยหนึ่งสัปดาห์เพื่อสร้างอุปกรณ์ชั้นตำนาน หากเจ้าล้มเหลวครั้งหนึ่ง เจ้าก็จะมีเวลาเหลือไม่มากพอ อย่าลืมไปยืม ‘มงกุฎหนาม’ เผื่อไว้ด้วยเล่า” เฟอร์นันโดเตือนเขา เวลานี้หาใช่เวลาจะมาคิดเล็กคิดน้อยเรื่องเงิน แม้ว่า ‘มงกุฎหนาม’ จะไม่ได้ดีเทียบเท่าอุปกรณ์ชั้นตำนานพิเศษที่สร้างขึ้นเอง มันก็ยังนับว่าใช้การได้ดี

“แม้ว่าข้าจะสร้างสำเร็จ ข้าก็ยังคิดยืมมันอยู่ดีขอรับ” ถึงแม้ว่าลูเซียนอาจเป็นพวกคลั่งไคล้เงินทอง แต่เขาก็รู้ว่าเวลาไหนที่เขาควรจะใช้มันอย่างไม่หวงแหน นอกจากนี้ เขาไม่อยากเสี่ยงกับความปลอดภัยของนาตาซา

“เอาล่ะ ข้าต้องกลับไปจัดการกับงานวิจัยของข้าแล้ว รายงานเจ้าจุดไฟในตัวข้าให้ลุกโหมขึ้นมาอีกครั้ง” เฟอร์นันโดเอ่ยชมลูเซียนตบท้าย

‘อาจารย์ขอรับ ท่านมักเต็มไปด้วยไฟและแรงผลักดันเสมอ สมาชิกสภาสูงสุดและจอมเวททุกคนที่ท่านระดมโจมตีรุกไล่สามารถยืนยันเรื่องนั้นได้…’ ลูเซียนคัดลอกรายงานของตนแล้วออกมาจากห้องสมุด

ขณะยกมือขึ้นทาบหน้าผาก เฟอร์นันโดก็เอ่ยกับตนเองด้วยความสับสนมึนงง “ผลคูณของโมเมนตัมและตำแหน่งไม่เท่ากับผลคูณของตำแหน่งและโมเมนตัมของอนุภาค อะไรคือความหมายทางอาร์คานาของมันกันนะ”

ไม่นาน รายงานของลูเซียนก็ส่งตรงถึงราเวนติและแกสตันโดยชีวินรสายนเวท

ราเวนติ ผู้ที่การเลื่อนระดับพลังขึ้นสู่ชั้นตำนานถูกทำให้ล่าช้าเพราะความยากเย็นในทฤษฎีการเล่นแร่แปรธาตุร่วมสมัย กำลังพิจารณาฟังก์ชันคลื่นของอิเล็กตรอนอยู่เมื่อเขาได้รับรายงานจาก ‘ผู้ส่งสาร’

ในฐานะนักปฏิบัตินิยมผู้หนึ่งที่ยอมรับเพียงความจริงและผลการทดลองเท่านั้น เขาได้ยอมรับแนวคิดของลูเซียนที่ว่าอิเล็กตรอนคือสสารที่พวกเขายังไม่รู้จัก แทนที่จะระบุว่ามันคืออนุภาคหรือคลื่น

แน่นอนว่าเขายังไม่ยอมรับเสียทั้งหมด ภาพการทดลองตลอดเวลาที่ผ่านมาทำให้เขามีปฏิกิริยาต่อต้านอย่างรุนแรงกับแนวคิดของคลื่นอิเล็กตรอน เขารู้สึกว่าการเล่นแร่แปรธาตุร่วมสมัยได้มาถึงช่วงเวลาสำคัญแล้ว และอาจมีใครสักคนออกมาประกาศว่ามันไม่ถูกต้องได้ทุกเมื่อ การวิจัยของเขาจึงเป็นไปอย่างเชื่องช้า

เมื่อรับรายงานปึกหนามา ราเวนติก็พลันตกตะลึง “‘ว่าด้วยเรื่องกลศาสตร์ควอนตัม’ โดยลูเซียน อีวานส์ เอ็กซ์ งั้นหรือ”

ราเวนติไม่ได้เชื่อมโยงหัวข้อรายงานกับการเล่นแร่แปรธาตุร่วมสมัย กลับคิดว่าลูเซียนกำลังศึกษาเรื่องสนามแรงและทฤษฎีสัมพัทธภาพอยู่ “กลศาสตร์ควอนตัมหรือ ทฤษฎีสัมพัทธภาพที่แบ่งแยกย่อยงั้นหรือ”

แต่ไม่ว่ารายงานฉบับนี้จะเกี่ยวกับอะไร ผลงานการวิจัยของลูเซียนก็ควรค่าแก่การเรียนรู้เสมอ ราเวนติเริ่มอ่านมันอย่างตั้งอกตั้งใจ เมตริกซ์ทั้งหลายในช่วงต้นทำให้เขารู้สึกอึดอัดคับข้องใจอย่างยิ่ง ไม่ใช่เพราะว่ามันยาก แต่เพราะว่ามันชวนสับสนมึนงงอย่างยิ่งสำหรับเขา ผู้ที่คุ้นเคยกับสูตรคำนวณอื่นๆ เขาจึงขมวดคิ้วมุ่น

แต่เมื่ออ่านต่อไป ราเวนติก็เลิกขมวดคิ้ว เขาตกอยู่ในภวังค์ความคิด เมตริกซ์หาได้แปลกประหลาดอันใด แต่แนวคิดที่ลูเซียนนำเสนอในรายงานต่างหากที่ยอดเยี่ยมไม่ใช่น้อย!

ขณะอ่านต่อไป เส้นเลือดบนมือทั้งสองข้างของเขาก็เริ่มโป่งพอง พร้อมกับที่ใบหน้าเขาเริ่มซูบซีด เพราะประกายเจิดจ้าทั้งหมดไปรวมกันอยู่ในดวงตาของเขา

ทันใดนั้น เขาก็วางรายงานลงและหยิบปากกาขนนกมาคิดคำนวณตามเนื้อหา

ขนนกสีขาวสั่นไหวอย่างไม่หยุดยั้ง ขณะที่เวลาเคลื่อนคล้อยผ่านไป ราเวนติจำไม่ได้เลยสักนิดว่าเขาใช้เวลาอ่านอยู่นานเพียงใด รู้เพียงแต่ว่าหัวใจเขาเต้นกระหน่ำด้วยความตื่นเต้นอยู่ตลอด

สมการแสนซับซ้อนถูกเขียนออกมา ขณะที่ดวงจันทราลับหาย เปิดทางให้ดวงอาทิตย์ลอยขึ้นที่นอกหน้าต่าง

เงื่อนไขต่างๆ และสมการเอมพิริคัลของการแบ่งแยกอนุภาคสรุปผลออกมาได้อย่างลื่นไหลผ่านการคำนวณและตรงกับข้อมูลจากการทดลองอย่างสมบูรณ์แบบ! แกร๊ก ปากกาขนนกของราเวนติพลันหักครึ่ง

เขาเอนกายพิงพนักเก้าอี้ พลางหลับตาลง ใบหน้าเขาเต็มไปด้วยความตื่นเต้นและความพึงพอใจ

หลังจากนั้นครู่ใหญ่ เมื่อเขาลืมตาขึ้นอีกครั้ง ก็พบว่าแสงอาทิตย์ยามบ่ายกำลังสาดแสงจ้าและให้ความอบอุ่น เหมือนดั่งอารมณ์ของเขาในยามนี้ เขาหยิบปากกาขนนกขึ้นมาแล้วเขียนจดหมายจ่าหน้าถึงมอร์ริสอีกหนึ่งฉบับ

‘…ช่วงต้นเดือนที่ผ่านมาข้าตั้งข้อสังเกตไว้ว่าการเล่นแร่แปรธาตุร่วมสมัยได้มาถึงช่วงเวลาสำคัญแล้ว มันใกล้จะประสบความสำเร็จ แต่มันก็เป็นช่วงเวลาที่แสนมืดมัวและอันตราย เราจำต้องหาทางประนีประนอมให้กับข้อสันนิษฐานที่ขาดหลักฐานจับต้องได้มาสนับสนุน ข้าไม่คาดหวังเลยสักนิดว่าความมืดมัวนี้จะเลือนหายไปและบัลลังก์แสนงดงามแห่งเวทมนตร์และอาร์คานาจะปรากฏขึ้น ลูเซียนคือชายผู้นำทางเราผ่านราตรีแห่งภัยร้ายด้วยคณิตศาสตร์ อย่างที่เขาเคยกล่าวเอาไว้ เมื่อเราสำรวจไปในสิ่งที่ไม่รู้ เราจะพึ่งพาได้เพียงคณิตศาสตร์ ซึ่งเป็นเหมือนประภาคารกลางท้องทะเล…’

จดหมายที่บรรจุความตื่นเต้นของเขาและสำเนารายงานถูกส่งไปยังหอคอยเวทมนตร์ของมอร์ริส

มอร์ริสกำลังเอร็ดอร่อยกับมื้อเย็นในตอนที่เขาได้รับจดหมาย เขาเพลิดเพลินไปกับรสชาติของเนื้อสเต็กกึ่งสุกขณะเปิดอ่านจดหมายของราเวนติด้วยความผ่อนคลาย

หลังจากหวาดตาอ่านครู่หนึ่ง ใบหน้าเขาก็พลันแข็งทื่อ จากนั้นเขาจึงก้าวพริบตาไปยังห้องสมุด ทุ่มเทสมาธิทั้งหมดเพื่อเริ่มต้นอ่าน คิดคำนวณ และพิจารณา

ข้ารับใช้ของเขาต่างตะลึงงัน มอร์ริสคือคนตระหนี่ถี่เหนียว เขาจึงไม่เคยเหลืออาหารทิ้งไว้เลย แต่วันนี้เกิดอะไรขึ้น

จนกระทั่งวันที่สอง มอร์ริสจึงเป็นอิสระจากการพิสูจน์ยืนยันแสนซับซ้อน เขาออกความเห็นเสียงแผ่ว “หลังจากที่ข้าค้นพบความหมายทางอาร์คานาที่ซุกซ่อนอยู่ในทฤษฎีของลูเซียนได้ โลกแห่งปัญญาของข้าจะต้องรวมตัวเป็นปึกแผ่นกึ่งหนึ่งแน่”

ดวงตาเขาเหม่อมองไปทั่ว แต่ฉับพลันนั้นก็หยุดอยู่ที่ต้นหญ้าที่กำลังเติบโต และแสงอาทิตย์ในฤดูใบไม้ผลิที่ด้านนอกหน้าต่าง ซึ่งนั่นทำให้เขารู้สึกกระฉับกระเฉงเบิกบานยิ่ง

“ฤดูหนาวจบลงแล้ว”

วันที่หนึ่งเมษายน โอโนเร นักเวทระดับล่าง มาถึงสนามสอบที่จัดเตรียมโดยฝ่ายบริหารจัดการนักเวท เพราะผู้คุมสอบสองคนเป็นสตรีอ่อนเยาว์หน้าตางดงาม เขาจึงอดไม่ได้ที่จะลอบมองพวกนาง แต่แล้วเขาก็ได้ยินทั้งสองหารือกันว่า

“ไฮดี้ เจ้าอยากสมัครเป็นอาจารย์สอนที่วิทยาลัยเวทมนตร์โฮลต์งั้นหรือ เจ้าไม่กลัวว่างานในสถาบันส่วนของเจ้าจะล่าช้าไปงั้นหรือ” สตรีที่ผูกผมสีดำเป็นหางม้าเอ่ยถามด้วยความมึนงง

ไฮดี้ตอบด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “ข้าอ่านข้อกำหนดแล้วล่ะ ข้าจำเป็นต้องสอนเพียงสามชั้นเรียนต่อสัปดาห์เท่านั้น ฉะนั้นข้าจะมีเวลาว่างมากพอ อีกอย่าง อาจารย์เราก็เป็นอาจารย์ใหญ่ด้วย เราต้องสนับสนุนท่านไม่ทางใดก็ทางหนึ่งสิ เลย์เรีย เจ้าจะไม่มาด้วยหรือ”

ตอนนี้ลูกศิษย์ทุกคนต่างมีงานวิจัยของตนเอง ลูเซียนแทบไม่สั่งงานใดเป็นพิเศษหลังจากบอกแนวทางอย่างกว้างๆ ให้พวกเขา

“เจ้าอยากจะส่งเสริม ‘ชุดข้อสอบคณิตศาสตร์อีวานส์’ ใช่ไหมเล่า” เลย์เรียมองทะลุแผนการร้ายของไฮดี้อย่างง่ายดาย

ไฮดี้ยิ้มเบิกบานแต่ไม่ตอบคำถามนั้น กลับเปลี่ยนเรื่องไป “สรุปแล้วก็คือ ข้าจะสอนพื้นฐานการเล่นแร่แปรธาตุร่วมสมัย”

“ต้นแบบแรกน่ะหรือ” เลย์เรียอึ้งไปเล็กน้อย

“ก็ ข้าคงพูดถึงการปรับปรุงไม่มากก็น้อยแหละ”

‘เอ่อ ทางวิทยาลัยคงจะพิมพ์ตำราเกี่ยวกับการเล่นแร่แปรธาตุร่วมสมัยมาให้ใช่ไหม’ โอโนเรไม่เข้าใจข้อถกเถียงในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมาเลยสักนิด

หลังจากที่เขาสอบวิเคราะห์เวทมนตร์เสร็จในตอนเช้า เขาก็ได้พบกับไฮดี้และเลย์เรียอีกครั้งขณะออกจากสถานที่สอบ ในตอนนั้นเอง ทั้งสองดูจะตื่นเต้นดีใจอย่างยิ่ง

“ฮ่าๆ หากอาจารย์เราไม่ได้ตีพิมพ์บทความมานาน ท่านมักสร้างความสำเร็จได้น่าตกใจเสมอเลย ทีนี้ ปัญหาส่วนใหญ่ก็แก้ไขเรียบร้อยแล้ว” ไฮดี้พูดด้วยท่าทางเปี่ยมสุขและภาคภูมิใจ

เลย์เรียเองก็เอ่ยอย่างดีใจ “แม้ว่าข้าจะไม่เข้าใจความหมายทางอาร์คานาของงานชิ้นนี้ แต่อย่างน้อยมันก็หมายความว่าเส้นทางนี้ใช้ได้จริงๆ ไฮดี้ ข้าเกรงว่าเนื้อหาในตำรา ‘การเล่นแร่แปรธาตุร่วมสมัยเบื้องต้น’ ของเจ้าคงต้องเปลี่ยนแล้วล่ะตอนนี้ เจ้าจะสอนได้ดีหรือไม่ ไม่สิ เจ้าเข้าใจบทความนี้ทั้งหมดแล้วหรือ”

“คือ…” ไฮดี้พูดอะไรไม่ออก

โอโนเรเองก็ตกตะลึงเช่นกัน ‘เกิดการเปลี่ยนแปลงทางทฤษฎีขนานใหญ่อีกแล้วหรือ’

ขณะเดินทางกลับบ้าน เขาได้พบกับจอมเวทที่กำลังตื่นเต้นอีกหลายคนและได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นจากพวกเขา เขาจึงบันทึกไว้ในสมุดด้วยความรู้สึกที่หลากหลายว่า

‘…ความก้าวหน้าของอาร์คานาเป็นเหมือนดั่งกระแสน้ำไหลหลากที่ไม่มีผู้ใดสามารถตามทัน ก่อนการสอบในเช้าวันนี้ เหล่าผู้คุมสอบ ผู้ตรวจสอบ และนักเวทที่เข้าสอบต่างพูดคุยเรื่องต้นแบบดั้งเดิมของการเล่นแร่แปรธาตุร่วมสมัย แม้แต่ตำราก็เตรียมการไว้ตามนั้น แต่ว่า ทุกอย่างกลับต่างออกไปเมื่อการสอบจบลงในตอนเที่ยง ทุกคนต่างถกเถียงกันเรื่องกลศาสตร์ควอนตัม การรื้อสร้างต้นแบบดั้งเดิมของการเล่นแร่แปรธาตุร่วมสมัย และการเปลี่ยนแปลงในตำรา…’

‘…เพียงบ่ายวันเดียว ความเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวงก็บังเกิดขึ้น ตำราเดิมถูกเขียนขึ้นใหม่ก่อนที่มันจะมอบให้ลูกศิษย์ด้วยซ้ำ นี่คือยุคสมัยแห่งความลี้ลับอย่างแท้จริง เราต่างต้องวิ่งให้ทันความเร็วบังคับนี้ ต้องขอบคุณที่มีวิทยาลัยเวทมนตร์เพื่อสอนเราทุกๆ เรื่อง…’

…………………………………………