กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 1034

“งั้นก็เปลี่ยนให้เป็นการยินยอมของเราทั้งคู่สิ”

“……” เขาบ้าไปแล้วหรือไง

“เจ้าคงไม่ได้กลัวที่จะนอนกับข้าใช่ไหม?”

“พูดอะไรเช่นนั้น ข้าเป็นถึงผู้นำของรัฐ ข้าจะกลัวเจ้าหรือ? ข้าแค่รู้สึกว่าข้าเดินไม่สะดวก เลยอยากเรียกนางกำนัลเข้ามาดูแลก็เท่านั้นเอง”

“ฝ่าบาทจะเรียกคนอื่นไปทำไมกัน ให้ข้าเป็นคนดูแลฝ่าบาทดีกว่า”

“เจ้า…..?”

กู้ชูหน่วนกวาดสายตาไปยังขาที่พิการทั้งสองข้างของเขาด้วยความสงสัย

เยี่ยจิ่งหานเข็นรถเข็นมาข้างนาง จากนั้นก็อุ้มนางทันที

จากนั้นรถเข็นก็เคลื่อนไปยังข้างเตียงด้วยตัวเองโดยที่เขาไม่ได้เอื้อมมือไปเข็น และนางก็ถูกเยี่ยจิ่งหานวางลงบนเตียงอย่างนุ่มนวล

“เจ้าทำอะไร?”

กู้ชูหน่วนจับมือของเขาเอาไว้

“แน่นอนว่าข้ากำลังช่วยปลดชุดให้ฝ่าบาทยังไงล่ะ”

“เยี่ยจิ่งหาน เจ้าคิดจะทำอะไรของเจ้ากันแน่?”

กู้ชูหน่วนเปลี่ยนจากสถานการณ์ที่ถูกกระทำเป็นผู้กระทำเสียเอง จากนั้นนางก็คว้าคอเสื้อของเขาและจ้องมองเขาอย่างเย้ายวน

“ฝ่าบาทคือจักรพรรดินี กระหม่อมคือพระสวามีที่คอยปรนนิบัติดูแลฝ่าบาท ฝ่าบาทคิดว่ากระหม่อมต้องการทำอะไรอย่างนั้นหรือ?”

“เจ้าอยากให้ข้าปรนเปรอเจ้า?”

เยี่ยจิ่งหานจับมือที่กำลังคว้าคอเสื้อของเขาและค่อยๆ เลื่อนลงไปเบื้องล่างอย่างเชื่องช้า

“แล้วฝ่าบาทยอมที่จะปรนเปรอไหม?”

กู้ชูหน่วนยิ้มแฉ่งและไม่นานรอยยิ้มนั้นก็หายไป จากนั้นก็สะบัดมือของเขาออกไป

“แน่นอนว่า…..ไม่ ยอม”

รอยยิ้มของเยี่ยจิ่งหานหุบลง

ต่อให้ตอนที่นางยังมีชีวิตอยู่ เขาก็ไม่เคยเป็นฝ่ายลุกมากขนาดนี้มาก่อน

และไม่ต้องพูดถึงเรื่องอย่างว่ากับนาง

ทว่านาง……

กลับไม่ให้เกียรติเขาเลยแม้แต่นิดเดียว

ในอดีต อย่างน้อยนางก็หลงใหลในความหล่อเหลาของเขาและผลักเขาลงไปกับเตียง

เมื่อเห็นแววตาที่เย็นชาและไม่แยแสของนาง ทำให้เยี่ยจิ่งหานที่เย่อหยิ่งและสูงศักดิ์รู้สึกบอบช้ำ

“อาหน่วน…..”

ทันใดนั้นกู้ชูหน่วนก็แสดงรอยยิ้มที่สดใสอีกครั้ง ราวกับว่าความเศร้าโศกเมื่อสักครู่นี้เป็นเพียงภาพลวงตา “เสี่ยวเยี่ยเยี่ย เจ้าต้องการให้ข้าอยู่ที่หอดาบก็ได้ คืนละหนึ่งแสนตำลึง ข้าไม่ต้องการทองคำตำลึงอะไรทั้งนั้น หากเจ้าสามารถจ่ายได้ ข้าก็จะอยู่กับเจ้า”

เยี่ยจิ่งหานทำหน้าไม่ถูก

เขาควรจะดีใจที่ตัวเองยังมีเงินเหลืออยู่ ไม่งั้นผู้หญิงคนนี้คงไม่สนใจเขาแน่นอน

“ตกลง”

“เจ้าเป็นพระสวามีรองที่รวยมากที่กล้าจ่ายจำนวนมากเช่นนี้”

“พระสวามีรอง? ข้าไม่อยากเป็นพระสวามีรอง”

“งั้นเจ้าต้องการอะไร”

“ต้องการเป็นพระสวามีของฝ่าบาท พระสวามีเพียงคนเดียว หย่ากับเหวินเส่าอี๋ต้องใช้เงินจำนวนเท่าไร”

“เงินแค่ไหนก็ไม่ได้ ตำแหน่งพระสวามีของเสี่ยวหูเตี๋ยจะไม่มีวันเปลี่ยนไปเด็ดขาด”

เขาเป็นถึงหัวหน้าเผ่าเพลิงฟ้าที่มีกองกำลังที่แข็งแกร่ง และยังเป็นคนที่หมายหมั้นให้แต่งงานกัน บรรดาขุนนางและข้าราชบริพารในราชสำนักไม่มีทางยอมเด็ดขาด

รู้จักเหวินเส่าอี๋มานานขนาดนี้ เขาก็ไม่เคยทำอะไรผิดต่อนาง ทว่ากลับคอยช่วยเหลือนางให้รอดพ้นจากอันตรายอยู่บ่อยครั้ง แค่เรื่องเหล่านี้ก็ไม่สามารถยกเลิกตำแหน่งพระสวามีของเขาไปได้

“เสี่ยวหูเตี๋ย? เรียกได้สนิทสนมเช่นนี้ อย่าลืมว่าเขาเป็นศัตรูตัวฉกาจของเจ้า”

“เจ้าก็เป็นศัตรูตัวฉกาจของข้าด้วยไม่ใช่หรือ อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้เหี้ยมโหดเหมือนใครบางคนที่เอาแต่บีบบังคับให้ข้าปล่อยเลือดออกมา”

เยี่ยจิ่งหานขมวดคิ้ว

เขาคิดไม่ถึงว่านางคืออาหน่วน

หากเขารู้ละก็ เขายอมปล่อยเลือดของตัวเองให้หมดตัวโดยที่ไม่ยอมให้นางต้องปล่อยเลือดออกมาแม้แต่หยดเดียว

“ยังเจ็บข้อมือไหม?”

“ง่วงเหลือเกิน พรุ่งนี้ข้ายังต้องไปที่ท้องพระโรงแต่เช้า หากเจ้าไม่ง่วงงั้นข้านอนก่อนล่ะ อย่าลืมเอาเงินหนึ่งแสนตำลึงมาให้ข้าตามเวลาล่ะ”

กู้ชูหน่วนหาวและนอนลงโดยไม่ปลดเสื้อผ้า

นางคาดทายนับร้อยนับพันเหตุผลที่เยี่ยจิ่งหานเปลี่ยนไปมากขนาดนี้ ทว่ากลับไม่มีเหตุผลไหนที่ฟังขึ้น

ผู้ชายคนนี้ฉลาดยิ่งกว่าสุนัขจิ้งจอก เขาไม่มีทางดีกับนางและยอมนางไปทุกเรื่องเช่นนี้

เขาคิดจะทำอะไรกันแน่?