เพ่งเล็งตระกูลหลิน

และในตอนที่ซิงเหอคิดว่าเขาจะทำอะไรไปมากกว่านี้ เขาก็หยุด แต่ถึงแม้ว่าเขาจะไม่หยุด เธอก็จะเป็นคนหยุดมันอยู่ดีเพราะร่างกายของเขาอาจทนต่อแรงกดดันไม่ไหว

 

 

มู่ไป๋ขยับลงมาจากตัวเธอและยังหายใจแรงขณะที่เขาพูดว่า “ครั้งนี้ผมจะปล่อยคุณไป แต่หลังจากเรื่องนี้จบลง พวกเราจะแต่งงานกัน”

 

 

เขาไม่อยากทำลายทุกอย่างก่อนคืนแต่งงานอันศักดิ์สิทธิ์ เขาจะทำให้คืนนั้นเป็นคืนที่เธอไม่มีวันลืม อย่างไรก็ตามซิงเหอไม่ได้คิดถึงเรื่องแต่งงานเลย พอตอนนี้เขาพูดถึงมัน เธอเลยจะเก็บมันไปคิด ไม่ว่าจะตกลงหรือไม่ก็เป็นเรื่องที่ควรคุยกันวันหลัง

 

 

“เราคุยเรื่องนี้กันทีหลังได้ค่ะ ฉันง่วงแล้ว” ซิงเหอหันหลังให้เขาแล้วปิดตาลง แก้มของเธอแดงก่ำ อารมณ์ใคร่ที่ไม่สามารถควบคุมได้ก่อนหน้านี้ทำให้ใจเธอไม่สงบ

 

 

มู่ไป๋ยิ้มขณะที่มองการตอบสนองของเธอ เขาโอบกอดเธอจากด้านหลังและกระซิบเข้าไปในใบหูของเธอ “โอเค ครั้งหน้าก็ได้”

 

 

ในที่สุดเขาก็ปิดตาที่เมื่อยล้าลงและสูดดมกลิ่นกายของเธอ เขาเหนื่อยแต่การมีซิงเหออยู่ในอ้อมแขนทำให้เขารู้สึกพอใจและปลอดภัย

 

 

เขาสัญญาว่าจะไม่จากเธอไปไหนอีกในอนาคตและเขาจะไม่ทำให้เธอต้องเป็นห่วง

 

 

คืนนั้นเป็นคืนที่พวกเขาทั้งคู่หลับสบายที่สุดนับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ระเบิด ในที่สุดความกังวลของซิงเหอก็สลายไปเมื่อมีมู่ไป๋อยู่ข้างเธอโดยปลอดภัย

 

 

ภารกิจที่เหลือก็คือการแก้แค้นตระกูลหลิน!

 

 

ซิงเหอคิดเกี่ยวกับแผนการที่เธอได้ร่างไว้แล้ว

 

 

 

 

วันถัดมาพวกเขาก็ยังปรึกษากันว่าจะทำอะไรต่อไป

 

 

“คุณวางแผนจะทำยังไงต่อ” มู่ไป๋ถามเธอด้วยรอยยิ้มนิดๆ เขาชอบดูเวลาซิงเหอครุ่นคิด มันแสดงให้เห็นถึงความเฉลียวฉลาดและการพึ่งพาตนเอง เหมือนกับราชินีที่บัญชาประเทศของเธอ

 

 

กลุ่มของอาลิก็อยากรู้เหมือนกันว่าเธอมีแผนอะไร

 

 

ซิงเหอยิ้มบางๆ “แน่นอนว่าเราจะฟ้องร้องถงเยียน”

 

 

อาลิประหลาดใจ “แต่เธอบอกว่าให้ปล่อยหล่อนไปก่อนไม่ใช่เหรอ”

 

 

“เราสามารถใช้หล่อนเพื่อจัดการกับตระกูลหลิน แล้วพวกเราจะปล่อยหล่อนไปได้ยังไง”

 

 

“แต่ว่าเมื่อวาน…” แซมก็สับสนเช่นกัน

 

 

ซิงเหออธิบาย “นั่นก็เพราะว่าในท้ายที่สุดพวกเราก็ไม่สามารถฟ้องร้องหล่อนได้จริง แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าเราจะตัดหล่อนออกจากเรื่องนี้ มีแค่การเพ่งเล็งเธอเท่านั้นถึงจะเพิ่มความโกรธที่ตระกูลถง ตระกูลเฉิน และประธานาธิบดีมีต่อตระกูลหลิน”

 

 

มู่ไป๋อดไม่ได้ที่จะแสยะยิ้มออกมา “คุณตั้งใจจะทำให้ตระกูลหลินกลายเป็นศัตรูของสาธารณชน?”

 

 

ซิงเหอพยักหน้า “ลำพังแค่ตระกูลสีอาจไม่สามารถทำอะไรตระกูลหลินได้ แต่ถ้ารวมอำนาจของตระกูลถง ตระกูลเฉิน และประธานาธิบดีเข้ามาด้วย ดูซิว่าตระกูลหลินจะหาทางรอดไปจากเรื่องนี้ได้ยังไง”

 

 

“ซิงเหอ นั่นมันเยี่ยมไปเลย!” อาลิมองเธอด้วยความชื่นชม “ฉันเข้าใจที่เธอพูดแล้ว เธอจะยืมมือพวกเขาเพื่อจัดการกับตระกูลหลิน”

 

 

ซิงเหอพยักหน้าด้วยรอยยิ้ม “ถูกต้อง”

 

 

แคร์นยิ้ม “ตอนที่ตระกูลหลินวางแผนเอาชีวิตเธอ พวกเขาคงไม่ตระหนักว่ามันเป็นการมอบหลักฐานให้เธอ”

 

 

แซมเริ่มหัวเราะ “มีแค่เธอเท่านั้นที่สามารถใช้ประโยชน์จากทุกอย่างได้อย่างยอดเยี่ยม ถ้าตระกูลหลินรู้ว่าเธอวางแผนอะไรไว้ พวกเขาคงต้องกระอักเลือดเพราะความเสียใจแน่”

 

 

อันที่จริงมู่ไป๋ก็คิดแผนนี้ได้เหมือนกันแต่เขาสุขใจแทนซิงเหอ “เยี่ยมไปเลยที่คุณสามารถคิดแผนการดีๆ แบบนี้ได้”

 

 

ซิงเหอกระพริบตามองเขาอย่างงงงวย เธอรู้สึกว่าแผนนี้คิดออกได้ไม่ยากนัก แต่ก็นะผู้หญิงคนอื่นคงจะไม่สามารถใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ของตัวเองเพื่อโต้กลับหลังจากที่โดนจ้องเอาชีวิตได้หรอก ไม่ใช่แค่นั้นแผนการของเธอยังลากกลุ่มคนที่มีอิทธิพลของเมือง A เข้ามาเกี่ยวข้องอีกด้วย