บทที่ 898

บทที่ 900

เฉินโม่มองไปรอบ ๆ และสุดท้ายก็หยุดอยู่บนหน้าผาที่อยู่ตรงหน้า

“นักพรตตานติ่งมีความตั้งใจจริง ๆ สร้างค่ายกลกลืนเซียนร้อยพิษเพื่อผนึกสัตว์ร้าย แต่น่าเสียดายที่คนรุ่นหลังไร้ความสามารถ และไม่รู้เจตนาที่แท้จริงของค่ายกลนี้”

หลังจากเฉินโม่กล่าวจบ เขาก็ชี้นิ้วออกไป แล้วพลังทิพย์ที่ทรงพลังก็พุ่งเข้าใส่ห้องหินบนหน้าผาที่มู่หงเต้าปลีกวิเวก

บูม!

ห้องหินพังทลายลงมา ฝุ่นควันกระจายไปทั่ว

มู่เจิ้งเฟิงและคนอื่น ๆ ยิ่งรู้สึกสับสนมากขึ้น พวกเขาไม่เข้าใจว่าเฉินโม่กำลังทำอะไรอยู่?

โอ้อวดเหรอ?

แต่ตระกูลมู่ยอมจำนนแล้ว เฉินโม่ก็ไม่จำเป็นต้องโอ้อวดอีก

ขณะที่ทุกคนกำลังสงสัย ก็มีเสียงแหลมและโหยหวนดังจากทุกทิศ

เสียงนั้นเหมือนเสียงร้องของทารก แสบแก้วหูเป็นอย่างยิ่ง จนทำให้ทุกคนรู้สึกขนลุก

“มันคืออะไร? ผีเหรอ!”

สมาชิกรุ่นใหม่ของตระกูลมู่ต่างรู้สึกขวัญหนีดีฝ่อ ถึงแม้พวกเขาจะเป็นนักบู๊ แต่พวกเขาก็เกรงกลัวผีและเทพเจ้า

เงาสีขาวพุ่งออกมาจากด้านล่างของห้องหินที่อยู่บนหน้าผาอย่างรวดเร็ว และพุ่งตรงไปทางทิศตะวันตก

“คิดจะหนีเหรอ? มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก” เฉินโม่ยิ้มเล็กน้อย ก้าวเท้าออกไป แล้วยืนอยู่กลางอากาศ จากนั้นยื่นมือออกไปจับเงาสีขาว

“มันคืออะไร?” มู่เจิ้งเฟิงมองเงาสีขาวขนาดเท่าทารกที่อยู่กลางอากาศ ด้วยสีหน้าประหลาดใจ

สมาชิกรุ่นใหม่ของตระกูลมู่ต่างตกใจจนเข่าอ่อน เพราะเงาสีขาวนั้นเหมือนผี และน่ากลัวมาก!

เงาสีขาวนั้นคล่องแคล่วว่องไวมาก เฉินโม่ยื่นมือไปจับแต่ไม่สามารถจับได้ เพราะมันหลบเลี่ยงอย่างคล่องแคล่ว

เงาสีขาวยังคงอยู่กลางอากาศ และหัวเราะแปลก ๆ ด้วยน้ำเสียงที่แสบแก้วหู ราวกับกำลังเยาะเย้ยเฉินโม่

เฉินโม่ลอยอยู่กลางอากาศ ด้วยสีหน้าราบเรียบ และกล่าวด้วยความเย็นชาว่า “เจ้าสัตว์ร้าย ยอมให้จับเสียดี ๆ!”

หลังจากกล่าวจบ เฉินโม่ชี้ไปกลางอากาศ และกล่าวอย่างเย็นชาว่า “สกัดกั้น!”

เฉินโม่ใช้คาถาต้องห้ามวิชาห้าธาตุ จากนั้นเกราะป้องกันที่มองไม่เห็นก็ปกคลุมพื้นที่รัศมีหนึ่งร้อยเมตร เงาสีขาวส่งเสียงร้องโหยหวน และดูเหมือนว่ามันจะหวาดกลัวมาก และเริ่มหนีอย่างบ้าคลั่ง

มันชนกระแทกไปทุกทิศ แต่ไม่ว่ามันจะหนีไปทางไหน มันก็จะกระแทกกับเกราะป้องกันที่มองไม่เห็น และกระเด็นกลับมา

เฉินโม่ยืนอยู่กลางอากาศ และมองมันอย่างเงียบ ๆ ด้วยสีหน้ามั่นใจ

มู่เจิ้งเฟิงและคนอื่น ๆ ต่างมองเงาสีขาวที่พุ่งชนไปทั่ว มันเหมือนถูกตาข่ายยักษ์ที่มองไม่เห็นปกคลุม ไม่ว่ามันจะดิ้นรนอย่างไร ก็ไร้ประโยชน์

“หรือว่าเฉินไต้ซือสามารถควบคุมพื้นที่ได้?” มู่เจิ้งเฟิงจำตำนานบางเรื่องได้ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตกใจ “ถ้าสามารถควบคุมพื้นที่ได้จริง ๆ ความแข็งแกร่งของเขาช่างน่าสะพรึงกลัวมาก!”

“สมาชิกทั้งหมดของตระกูลมู่ร่วมมือกันแล้วก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา!” มู่เจิ้งเฟิงถอนหายใจ

สุดท้ายเงาสีขาวก็หยุดดิ้นรน ลอยอยู่กลางอากาศ ด้วยท่าทางหดหู่เล็กน้อย และส่งเสียงร้องเบา ๆ เป็นครั้งคราว ราวกับขอความเมตตา

เฉินโม่กล่าวเยาะเย้ยว่า “เจ้าสัตว์ร้าย ไม่หนีแล้วเหรอ?”

ดูเหมือนว่าเงาสีขาวจะเข้าใจคำพูดของมนุษย์ ถึงแม้ว่ามันจะไม่มีศีรษะและแขนขา แต่มันกระดุกกระดิกมาทางเฉินโม่ เห็นชัดว่ามันพยักหน้า

“งั้นก็เข้ามาเถอะ!” แหวนเก็บของที่อยู่บนนิ้วโป้งของเฉินโม่ประกายแสงสีขาว เงาสีขาวส่งเสียงร้องเบา ๆ ด้วยความไม่เต็มใจและหายไป

ทุกคนรู้สึกเหมือนกำลังดูมายากล และรู้สึกสับสนตั้งแต่ต้นจนจบ

แม้แต่มู่เจิ้งเฟิงก็เหมือนกัน

เฉินโม่ค่อย ๆ ร่องลงมาอยู่ตรงหน้ามู่เจิ้งเฟิงและคนอื่นๆ ด้วยรอยยิ้ม ดูมีความสุขมากกว่าการสยบสมาชิกทั้งหมดของตระกูลมู่เสียอีก

โจวลี่เต๋อที่เป็นเด็กไร้เดียงสา ถามด้วยความสงสัยว่า “เงาสีขาวนั้นคืออะไร?”

มู่เจิ้งเฟิงและสมาชิกรุ่นใหม่ของตระกูลมู่ที่อยู่ด้านหลัง ต่างมองเฉินโม่ด้วยสีหน้าสงสัย และหวังว่าเฉินโม่จะทำให้พวกเขาหายสงสัย