เฉินโม่เหลือบมองทุกคน ดูเหมือนว่าเขาจะอารมณ์ดี และกล่าวช้า ๆว่า “ฟ้าดินมีกฎระเบียบ สรรพสิ่งล้วนมีหน้าที่ของตนเอง ถ้าบังเอิญเจอโอกาสที่เหมาะสม สรรพสิ่งในโลกก็จะสามารถรู้แจ้งได้………… ”

เฉินโม่พูดคำที่ลึกลับซับซ้อนมากมาย ดูเหมือนว่าทุกคนจะเข้าใจ แต่แท้จริงแล้วกลับไม่เข้าใจ แต่ก็มีบางคนเข้าใจบางอย่าง

โดยเฉพาะโจวลี่เต๋อ เขารู้สึกตกตะลึง ยืนอยู่ที่เดิมราวกับว่าเขาหลับไปแล้ว

คนต่อมาคือมู่เจิ้งเฟิง เขาเป็นคนใจกว้าง และเขาทุ่มเทให้กับการกลั่นยา ทำให้พลังบำเพ็ญของเขาล่าช้า

ตอนนี้เมื่อเขาได้ยินคำพูดของเฉินโม่แล้ว สีหน้าของมู่เจิ้งเฟิงจริงจังกว่าที่เคย และดูเหมือนว่าเขาจะเข้าใจอะไรบางอย่าง

แม้แต่สมาชิกรุ่นใหม่ของตระกูลมู่เหล่านี้ ก็มีบางคนที่เข้าใจอะไรบางอย่าง

เฉินโม่เปรียบเสมือนปรมาจารย์ลัทธิเต๋า ที่กำลังถ่ายทอดวิถีการบำเพ็ญให้กลุ่มลูกศิษย์

ความจริงแล้วสิ่งที่เฉินโม่พูดเหล้านี้ เป็นประโยชน์ต่อพวกเขามากกว่าการบอกวิธีบำเพ็ญโดยตรง เพราะนี่คือความเข้าใจของเฉินโม่ เกี่ยวกับการบำเพ็ญที่บรรลุแดนดั่งเทพของตนเอง และบอกพวกเขาอย่างตรงไปตรงมา

แบบนี้มันสามารถทำให้คนธรรมดาเข้าใจได้ง่ายขึ้น

สัตว์มากมายที่อยู่รอบ ๆ รวมตัวแล้วเดินมุ่งหน้ามาทางเฉินโม่ นกที่อยู่บนท้องฟ้าเริ่มบินวนอยู่เหนือศีรษะของเฉินโม่

แต่ไม่มีสัตว์หรือนกส่งเสียงแม้แต่ตัวเดียว ดูเหมือนว่าสัตว์ทุกตัวจะจดจ่ออยู่กับคำเทศนาของเฉินโม่

โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว เฉินโม่บอกทุกคนถึงความเข้าใจของตนเองเกี่ยวกับการบำเพ็ญ และอธิบายให้ทุกคนด้วยวิธีที่เข้าใจง่าย แม้แต่เฉินโม่เองก็นึกไม่ถึงว่าวันหนึ่ง เขาจะเทศนาให้กับกลุ่มคนธรรมดาบนโลกใบนี้ฟัง

เฉินโม่หยุดพูด มองไปยังกลุ่มคนที่กำลังครุ่นคิด และจดจ่ออยู่กับสิ่งที่เขาอธิบายเมื่อสักครู่ ยิ้มเล็กน้อยแต่ไม่ได้รบกวนพวกเขา แต่รออย่างเงียบ ๆ

เฉินโม่มองนกที่บินวนอยู่บนท้องฟ้า และเหล่าสัตว์เล็กที่ฟังอยู่ไกล ๆ เฉินโม่ยิ้มเล็กน้อยและกล่าวว่า “วันนี้ถือว่าพวกเจ้าโชคดี จะสามารถหลุดพ้นจากสัตว์เดียรัจฉานได้หรือไม่ มันก็ขึ้นอยู่กับความเข้าใจของพวกเจ้าแล้ว”

ความจริงแล้วเงาสีขาวนั้นเป็นวิญญาณธาตุน้ำที่อยู่ในพลังของธาตุทั้งห้า ซึ่งเกิดจากพลังชะตาธาตุน้ำบริสุทธิ์ที่สุดระหว่างฟ้าดิน

ตอนนี้เฉินโม่กำลังฝึกร่างธาตุน้ำอยู่ จากความคืบหน้าในปัจจุบัน ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะสามารถฝึกร่างธาตุน้ำสำเร็จสมบูรณ์ได้

แต่เมื่อมีวิญญาณธาตุน้ำแล้ว เฉินโม่ไม่ต้องกังวลเรื่องพลังชะตาน้ำอีกต่อไป แล้วเฉินโม่จะไม่มีความสุขได้อย่างไร?

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าวิญญาณธาตุน้ำจะรู้แจ้งแล้ว แต่มันไม่ใช่สิ่งมีชีวิตพรสวรรค์ แต่เป็นการรู้แจ้งด้วยความบังเอิญภายหลัง มิเช่นนั้น ด้วยพลังความแข็งแกร่งในปัจจุบันของเฉินโม่แล้ว ไม่สามารถสยบมันได้อย่างแน่นอน

ถ้าเรียกตามชื่อของโลกบำเพ็ญเซียนแล้ว วิญญาณธาตุน้ำน่าจะเป็นกลุ่มปีศาจที่บำเพ็ญ ตอนนั้นความแข็งแกร่งของนักพรตตานติ่ง ไม่สามารถปราบมันได้ ดังนั้นเขาจึงใช้ค่ายกลขังวิญญาณธาตุน้ำไว้ในที่แห่งนี้

เพียงแต่หลังจากวิญญาณธาตุน้ำรู้แจ้งแล้ว มันจึงวางแผนใช้ตระกูลมู่ เพื่อดูดซับพลังของผู้บำเพ็ญคนอื่น และหวังว่าจะสามารถทำลายผนึกของนักพรตตานติ่งได้

วิญญาณธาตุน้ำรวบรวมพลังชะตาธาตุน้ำที่บริสุทธิ์ที่สุดในโลกเข้าด้วยกัน ถึงแม้ว่าพลังชะตาธาตุน้ำจะมีคุณสมบัติในการหล่อเลี้ยง แต่ทุกอย่างย่อมมีสองด้าน

วิญญาณธาตุน้ำที่เกิดจากพลังชะตาธาตุน้ำที่บริสุทธิ์ ยังสามารถกลายเป็นพิษได้ ซึ่งมันน่ากลัวกว่าการกัดกร่อนของน้ำยาวพันเสียอีก และมันยังเป็นผู้ที่สร้างเถาวัลย์พิษเหล่านั้นขึ้นมา

ความจริงแล้วการที่นักพรตตานติ่งทิ้งจดหมายสั่งเสียฉบับนั้นไว้ เขายังมีจุดประสงค์อื่น นั่นก็คือเขากังวลว่าสักวันหนึ่งวิญญาณธาตุน้ำจะหลบหนีออกมาทำร้ายคนอื่น และหวังว่าจะมีคนสามารถปราบมันได้

แต่นักพรตตานติ่ง ต้องนึกไม่ถึง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเหตุใดที่ทำให้ยิ่งอยู่ผู้บำเพ็ญยิ่งถดถอยลงเรื่อย ๆ ถ้าเฉินโม่ไม่ได้บังเอิญพบเจอ เกรงว่าจะไม่มีใครสามารถจัดการวิญญาณธาตุน้ำตนนี้ได้

เมื่อมองทุกคนที่ยังคงจดจ่ออยู่กับการเรียนรู้เมื่อสักครู่ เฉินโม่เดินจากไปตามลำพัง เพื่อไปเอาวัตถุดิบยาที่ห้องศึกษายา