ตอนที่ 316 เจ้านาย จะทักทายไหม
โชคดีที่เรื่องในวันนี้พวกเขาเป็นฝ่ายชนะ ไม่เช่นนั้นยังไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ชายแก่คิดแล้วยังกลัวไม่หาย
“ลุงเกรงใจเกินไปแล้วค่ะ”
“ไม่ไม่ ลุงต้องขอบใจพวกคุณ ลุง…” ชายแก่พูดแล้วไม่รู้ว่าจะเอาอะไรมาขอบคุณ รู้สึกอึดอัดใจ
“ลุงคะ ถ้าจะขอบใจล่ะก็ ลุงก็ถือเสียว่าวันนี้ฉันตอบแทนน้ำใจที่ลุงให้น้ำผึ้งฉัน อย่าเก็บไว้ในใจเลยค่ะ”
ช่างเป็นคนแก่ที่จิตใจบริสุทธิ์มาก คนอายุปูนนี้แล้วยังคอยคำนึงถึงหนุ่มสาวแปลกหน้า หาได้ยากแล้ว เธอเจอคนอายุรุ่นนี้มักจะทำให้คนอื่นรำคาญ
อย่างผู้ชายคนเมื่อกี้ ถ้าอายุมากขึ้น จนแก่เท่ากับลุงคนนี้ คงจะร้ายกาจยิ่งขึ้น
ชายแก่ชะงัก “แม่หนูพูดอย่างนี้ ถ้าลุงยังพูดอะไรอีกก็คงไม่เข้าท่า จริงสิ คุณกินน้ำผึ้งหมดหรือยัง ถ้าหมดแล้วไปเอาที่บ้านลุง หรือให้ที่อยู่ลุงไว้ ลุงจะส่งมาให้”
เป็นเด็กที่น่ารักมาก ชอบน้ำผึ้งของเขาที่ไม่ผ่านการปรุงแต่ง น่าประทับใจจริงๆ
“ยังมีค่ะ ไม่ได้หมดเร็วอย่างนั้น จริงสิ คุณลุงไปซื้อของมาหรือคะ?” ตลาดสินค้าเกษตรในเมือง F จะไปซื้อสินค้าสะดวกมาก
แต่รถของลุงดูสภาพเละเทะอย่างนี้ คงไปซื้อสินค้าจากแหล่งที่ไกลมาก
“ใช่แล้ว ลุงไปที่ชนบทแห่งหนึ่ง ที่นั่นมีแต่เด็กกับคนแก่อาศัยอยู่ ส่งผักสดออกมาได้ยาก การถนนหนทางไม่สะดวก พ่อค้าส่วนหนึ่งไม่อยากเขาไปรับซื้อ ร้านลุงเลยไปที่นั่นอาทิตย์ละครั้ง ช่วยเขาบ้าง เท่ากับช่วยลุงเองด้วย”
ผักเหล่านี้ทั้งสดใหม่และปลูกแบบธรรมชาติ สอดคล้องกับชีวิตบ้านไร่แบบแก ยังเป็นสินค้าที่เรียกลูกค้าได้ ไม่หลอกลวงผู้บริโภค
อีลั่วเสวี่ยเข้าใจทันที เธอนึกนับถือชายแก่ “ที่แท้ที่ลุงอุตส่าห์ลำบากแบบนี้ก็มีเหตุผล คงเหนื่อยแย่”
“ไม่เหนื่อย ไม่เหนื่อย เอาละ คงต้องเลิกคุยแล้ว ลุงต้องรีบไป สายเกินไปเดี๋ยวจะส่งสินค้าไม่ทัน” พูดจบก็ล่ำลาอีลั่วเสวี่ยกับพวก แล้วขับรถจากไป
หูปิงและพวกนึกนับถือชายแก่ ในโลกนี้ยังมีคนที่เอาใจใส่คนอื่น ทำดีเงียบๆ ไม่เคยโอ้อวด และไม่สนใจว่าจะมีคนรู้หรือไม่ แม้ว่าคนเหล่านนี้จะมีจำนวนเพียงน้อยนิด แต่เป็นคนดีที่น่ายกย่อง
เสี่ยวเฟิงเอียงคอ ดึงสายตากลับมา “หัวหน้า เมื่อไหร่พวกเราจะได้ไปเที่ยวบ้านไร่บ้าง ไปอุดหนุนลุงแกบ้าง” สมัยนี้ คนดีมีไม่มากแล้ว
“ก็ดี ไม่มีปัญหา เงื่อนไขก็คือถัดจากนี่ไปบางทีนายจะไม่มีเวลาแล้ว” ทั้งหมดพูดคุยหัวเราะกัน เดินตรงไปทางบริษัท
ขณะที่ห่างออกไปจากพวกเชาไม่ไกลนัก มีรถคันหนึ่งจอดอยู่ คนหนึ่งบนรถจ้องมองที่อีลั่วเสวี่ย
“เจ้านาย เธอใช่ไหมครับ?” อาเซิงสายตาเฉียบแหลม
ซีเหมินหลงเซี่ยวเอนตัวไปข้างหลัง มีรอยยิ้มที่มุมปาก “ไม่แน่ใจ แต่เธอไม่ใช่คนที่เราเห็นเมื่อสองวันก่อนที่ดูเงียบขรึมไร้เดียงสา กลับมีความคิดแยบยลมาก ไม่เสียทีที่เป็นผู้หญิงของเฉวียนหมิง”
คนอย่างเฉวียนหมิงไปหายอดหญิงคนนี้มาจากไหน ทั้งจิตใจดีงามและมีสติปัญญา เป็นผู้หญิงเก่งที่หาได้ยาก
อาเซิงแปลกใจ พูดชมผู้หญิงของคนอื่น อะไรกันนี่
“เจ้านาย เราจะเข้าไปทักทายเธอไหมครับ อย่างไรก็เคยเจอกันมาก่อน” ในเมื่อเจ้านายตัวเองสนใจอีลั่วเสวี่ย ทั้งยังอยากดึงเฉวียนหมิงมา ทำไมไม่ลงมือจากผู้หญิงคนนี้ล่ะ
ซีเหมินหลงเซี่ยวสั่นหัว “ไม่ จำคำหนึ่งไว้ ใจร้อนจะทำไม่สำเร็จ ทำอะไรอย่าวู่วาม”
ตอนที่ 317 พวกบ้าคอยตามอีกคนแล้ว
จะอย่างไรที่นี่ไม่ใช่เขตอิทธิพลของพวกเขา จะทำอะไรตามอำเภอใจไม่ได้ พวกเขามาที่นี่ในนามแล้วเป็นการมาทำธุรกิจ เมื่อทำธุรกิจก็ต้องทำตัวให้เหมือนนักธุรกิจ
อีกประการหนึ่งเฉวียนหมิงคอยระวังตัวเขา ถ้าเขาทำอะไรลงไป อาจถูกเฉวียนหมิงขัดขวาง ถึงตอนนั้นจะทำให้เขาพัฒนางานที่นี่ไม่ได้
ต้องรู้จักแยกแยะหนักเบาให้ชัดเจน เมื่อดูผู้หญิงคนนี้แล้ว เธอไม่ใช่เจอคนแปลกหน้าไม่กี่ครั้งก็จะพูดคุยด้วยง่ายๆ ดังนั้นเขาจึงไม่ควรปิดทางถอยของตัวเอง
การล่าเหยื่อ ต้องรู้จักอดทน ไม่เช่นนั้นถ้าเหยื่อตกใจ คิดจะจับอีก ย่อมไม่ง่ายแล้ว
อาเซิงคิดทบทวน แล้วผงกหัว “ยังเป็นเจ้านายที่คิดรอบคอบกว่า”
“ฮ่า ฮ่า…” ซีเหมินหลงเซี่ยวหัวเราะ ไม่พูดอะไร แล้วชี้นิ้วไปข้างหน้า คนขับรถเร่งเครื่องทันที ขับรถจากไป
เขาไม่รู้ตัวว่ามีลูกบอลเล็กๆ อยู่บนกระจกหน้ารถ ฟังที่พูดคุยกันทั้งหมด ยังถ่ายคลิปไว้ด้วย ถ่ายจากมุมที่ชัดที่สุด
“คริคริ จะแค่ไหนเชียว ลูกบอลอย่างข้าได้ยินหมดแล้ว ยังทำเป็นอวดเก่ง?” ลูกบอลเงินพึมพำกับตัวเองแล้วบินไปหาอีลั่วเสวี่ย
ขณะนี้อีลั่วเสวี่ยกับหูปิงและพวกมาถึงใต้ตึกบริษัทแล้ว ถอยรถออกมา
“หัวหน้า ให้เราไปส่งคุณก่อนเถอะ” แม้อีลั่วเสวี่ยจะเป็นหัวหน้าของพวกเขา แต่คนเหล่านี้ยังรู้สึกว่าเธอเป็นเด็กสาวอ่อนแอ ควรจะได้รับปกป้อง
“ส่งฉัน? อย่าดีกว่า ฉันกลับเองได้ พวกนายกลับไปจัดการตัวเองให้ดี ทำเรื่องของตัวเอง มีอะไรก็โทรหาฉัน ส่วนเรื่องร้านคาราโอเกะกับบาร์ พอฉันมีแผนแล้ว จะบอกให้พวกนายรู้”
หูปิงกับพวกพากันพยักหน้า “หัวหน้าทำธุรกิจเยี่ยมมากครับ”
“งั้นไปละ” อีลั่วเสวี่ยนั่งในรถ คาดเข็มขัดนิรภัย หมุนพวงมาลัย แล้วขับรถหรูที่มีเพียงไม่กี่คันออกไป
แม้จะดูเป็นการอวดตัวไปหน่อย แต่จะเป็นไรไป ในโลกนี้รถยนต์ก็เหมือนสัตว์ปีศาจบินได้ในโลกของเธอ ในเมื่อมี แล้วทำไมจะไม่ใช้ล่ะ
“ใคร?” อีลั่วเสวี่ยปิดหน้าต่างรถ แล้วชำเลืองมองเจ้าลูกบอลเงินที่เก้าอี้ข้างคนขับ เจ้านี่ไม่มีร่างกาย ยังรู้จักเอาอย่างคนนั่งบนเก้าอี้
ลูกบอลเงินได้ยินก็กระโดดเหยงๆ บนเก้าอี้ “เจ้าทายดู เป็นคนที่เรารู้จัก แต่เจ้าไม่ชอบขี้หน้าเขา”
คนที่รู้จัก แต่ไม่ชอบ ยังคอยลอบมองดูเธอ หรือเป็นหนานหลิวเฟิง ไม่น่าใช่ ถ้าหมอนี่มาปรากฏตัว ต้องหาข้ออ้างมาพูดคุยกับเธอแน่นอน
โดยเฉพาะในสถานที่อย่างวันนี้ เขาต้องออกมาแน่ เป็นการเพิ่มชื่อเสียงของตัวเองให้เป็นที่รู้จัก “หรือเป็นมั่วเฉินเซวียนคนโรคจิตที่ชอบตาม?”
“โถ…น่าสางสารมั่วเฉินเซวียนจริง ได้รับฉายาแปลกใหม่แบบนี้ แต่ครั้งนี้เจ้าทายผิดแล้ว ไม่ใช่เขา แต่เป็นคนที่เราพบเมื่อวาน”
เมื่อวาน? อีลั่วเสวี่ยแปลกใจ คนที่เพิ่งเจอครั้งแรก ทำไมต้องมาคอยเฝ้ามอง ต้องการทำอะไรหรือ?
“เดี๋ยวนะ หรือเป็นซีเหมินหลงเซี่ยว?” คนพิเศษที่เจอเมื่อวานก็คือเขา หรือเขารู้แล้วว่าเธอคือหมอปีศาจ? ไม่ เป็นไปไม่ได้หรอก ถ้าเขารู้ ย่อมต้องเปิดโปงเธอต่อหน้าเฉวียนหมิงจึงจะถูก
หรือไม่ก็นัดพบเธอตามลำพัง ขู่เอาแหวนหยกวงนั้นจากเธอไป
“ใช่ เขานี่แหละ ยังมี ข้าจะให้เจ้าดูอะไร เจ้าต้องสนใจแน่” ลูกบอลเงินพูดจบก็ยิงแสงสายหนึ่งออกจากตัว ส่องไปบนกระจกหน้ารถ
ดวงตาอีลั่วเสวี่ยเป็นประกาย หาที่จอดรถริมถนนชั่วคราว แล้วจอดรถ