ตอนที่ 596 : กลับ

Virtual World – Peerless White Emperor

เย่ฉางหยิบสมุดบันทึกขึ้นมาอ่าน

เบาะแสหลุมศพของค้อนวายุ: ค้อนวายุ- โลดาล ไบเซอร์ นายพลผู้ยิ่งใหญ่ของเผ่าคนแคระ มันเป็นอาวุธสำคัญที่เขาใช้ต่อสู้กับปีศาจ เขาเป็นตำนาน ร่องรอยของหลุมศพลึกลับของเขาถูกเขียนลงบนค้อนนี้ จะพบเบาะแสหรือไม่ขึ้นอยู่กับโชควาสนาของคุณ (เขียนโดยราชานักสำรวจ – เทพบุตรหน้ามน)

จากนั้นเขาก็หยิบไอเทมต่างๆมาดู

Hands of Wormman – Carbellamodys (Dark gold – Abyss)

ประเภท: สนับมือชนิดพิเศษ

ความต้องการ: ไม่มี

Strength +35

Constitution +34

Dexterity +30

พลังป้องกัน + 76

ค่าสถานะทั้งหมด + 8%

พลังโจมตี +30

เจาะเกราะ +55

ทุกการโจมตีจะดูดเลือด

Swallow Absorb: เมื่อใช้ใส่เป้าหมาย เป้าหมายจะติดสตั้นและติดสถานะเลือดออก ภายใน 3 วินาทีจะดูดซับพลังชีวิต 25% จากเป้าหมาย (พลังชีวิตที่ได้รับจะเท่ากับความเสียหายที่ทำกับเป้าหมาย) คูลดาวน์: 30 นาที

Geisel’s Scale Greaves (Platinum – Abyss)

ประเภท: สนับแข้ง

Strength +55

Constitution +60

พลังป้องกัน +160

พลังป้องกันการเจาะเกราะ +100

ความเสียหายทางกายภาพที่ได้รับลดลง 30%

ความเสียหายที่ได้รับจากเวทธรรมชาติลดลง 50%

ความต้านทานเวทธรรมชาติ +100

Constitution + 10%

Strength + 10%

Geisel’s Scale : ความเสียหายที่ได้รับลดลง 31 หน่วย

Fish Hook (Dark gold – Abyss)

ประเภท: กริช

พลังโจมตี: 45-49

Strength +40

Dexterity +71

Dexterity + 15%

ความเร็ว +50

เจาะเกราะ +60

ความเสียหายจากพิษ: 20-35

ทุกการโจมตีจะดูดเลือด

Fish hook – Bleed / Blood Suck : การโจมตีครั้งต่อไปจะทำให้มีเลือดออกอย่างรุนแรง การโจมตีเจาะเกราะจะเกิดความเสียหายอย่างมาก และค่าสถานะอื่นๆของเป้าหมายจะได้รับผลกระทบ พลังการโจมตีของอาวุธจะเพิ่มขึ้นอย่างมากชั่วคราว และจะได้รับการฟื้นฟูพลังชีวิตอย่างมาก คูลดาวน์: 5 นาที

Mid-air Rapid Attack: ปลดปล่อย 4 การโจมตีที่รวดเร็วในกลางอากาศ การโจมตีแต่ละครั้งจะสร้างความเสียหาย 85% ของพลังโจมตี สุดท้ายตามมาด้วยการโจมตีอย่างหนักใส่เป้าหมาย และกระแทกเป้าหมายลงพื้น สร้างความเสียหาย 150% และทำให้เป้าหมายติดสตั้น คูลดาวน์: 2 นาที ใช้ค่าความโกรธ, พลังงาน และพลังซี่

Sudden Sky Flash: การจู่โจมอย่างฉับพลันโดยการฟาดดาบไปที่เป้าหมาย ทำให้เกิดความเสียหาย 225% รวมถึงทำให้เป้าหมายตายทันที, ติดสถานะเลือดออก และเกราะแตก ใช้ค่าพลังงาน คูลดาวน์: 5 นาที

Mud element : อัญเชิญมนุษย์โคลน – บาร์เซียน

Curse of Evil Spirit: ร่ายคำสาปใส่เป้าหมาย ภายในระยะเวลาที่ติดคำสาป เป้าหมายจะได้รับความเสียหายจากการโจมตีด้วยเงามากเป็นพิเศษ นอกจากนี้จิตใจของเป้าหมายยังจะถูกโจมตีโดยปีศาจและวิญญาณชั่วร้าย อีกทั้งยังถูกเบิร์นมานาอีกด้วย คูลดาวน์: 20 นาที

Frost Explosion: ร่ายเสาน้ำแข็งใส่เป้าหมาย ทำให้เป้าหมายถูกแช่แข็ง และจะสร้างความเสียหายแก่พื้นที่รอบๆเป้าหมาย อีกทั้งยังทำให้คนที่โดนโจมตีมีการเคลื่อนที่ช้าลง คูลดาวน์: 1 นาที ใช้มานา

นอกเหนือจากอุปกรณ์ระดับ Dark Gold สองชิ้น และอุปกรณ์ระดับ Platinum หนึ่งชิ้น และไอเทมบางอย่างแล้ว อูนา, OldWang และ AV ก็เลือกส่วนที่เหลืออย่างมีความสุข

“สนับแข้งเป็นของอาเฉียง สำหรับกริช, SpyingBlade คุณรับมันไป คุณเป็นคนเดียวที่ใช้อาวุธของแอสซาซิน ฉันเคยชินกับการใช้อาวุธยาวๆแล้ว น้องเล็กไดโนรับสนับมือไป สำหรับหนังสือสกิล ทุกคนสามารถรับได้ตามความต้องการของแต่ละคน” เย่ฉางพูดอย่างหมดแรง

FrozenCloud เอาสกิล ]Mid-air Rapid Attack] ส่วนสกิล [Sudden Sky Flash] SpyingBlade ยกให้หลินหลี่ ส่วนสกิลอัญเชิญมอบให้แก่ OldWang เท่านั้น สำหรับสกิล [Curse of Evil Spirit] มันเป็นของฟางชิอย่างชัดเจน สำหรับสกิล [Frost Explosion] อูนาต้องการที่จะเอามัน แต่เธอรู้ว่ามันจะเป็นการเสียของหากเธอรับมันไป การควบคุมเวทย์มนตร์ของเธอยังไม่ดีเท่าเย่ฉาง ดังนั้นเธอจึงไม่เอาสกิลนี้ “หัวหน้าทีม นายเอาสกิลนี้ไปเถอะ”

SpyingBlade ยิ้ม ‘ในหนังสือสกิลเหล่านี้ สกิล [Curse of Evil Spirit] และ [Frost Explosion] เป็นหนังสือสกิลที่มีค่าที่สุด ความสามารถของอูนานั้นดีมาก แต่มันก็ยังไม่มากพอ’ จากนั้นเขาก็หันไปมองจางเจิ้งเฉียงและยิ้มอย่างขมขื่น ‘ด้วยร่างกายที่เต็มไปด้วยเกราะ จะมีใครฝ่าพลังป้องกันของเขาไปได้ไหม’

เดิมทีเย่ฉางไม่ต้องการมัน เพราะเขามีสกิลมากมายอยู่แล้ว ‘แต่บางทีมันก็ไม่ได้แย่เท่าไหร่ ฉันมีสกิลธาตุน้ำและน้ำแข็งค่อนข้างมาก’ จากนั้นเขาก็หยิบมันขึ้นมา “สุดท้ายคือสมุดบันทึกที่นักสำรวจงี่เง่าคนหนึ่งได้บันทึกเอาไว้ เย่เทียน เธอรับไปและลองหาเบาะแสดู”

เย่เทียนมีความสุข ‘ได้เวลาที่ฉันจะเปล่งประกายอีกครั้ง!’ เธอหยิบสมุดบันทึกและพลิกอ่านอย่างรวดเร็ว “มีปริศนาทางภูมิศาสตร์ และรหัสตามตัวอักษรมากมาย แต่มันก็ไม่ยากเกินไป เพียงต้องเปลี่ยนปริศนาจัดเรียงลำดับของคำใหม่ โดยใช้ภาษาเอลฟ์และภาษาคนแคระโบราณเพื่ออ่านและแปล นั่นคือทั้งหมด”

จากนั้นเย่เทียนก็จัดเรียงประโยคด้วยสองภาษาที่แตกต่างกัน เมื่อมองแล้วเย่ฉางก็แปล “ที่ตั้งของหลุมศพอยู่บนภูเขาทางด้านซ้ายของป่าเอลฟ์ เราต้องผ่านภูเขา 4 ลูกทางทิศตะวันตก และจากนั้นก็ผ่านภูเขา 4 ลูกทางทิศใต้ จากนั้นก็ผ่านป่าเหล็ก เมื่อถึงสถานที่ซึ่งมีอีกาหลายหมื่นตัวบินอยู่บนท้องฟ้า มันตั้งอยู่ใต้รอยเลื่อนที่อยู่ด้านหลังหินรูปตัววี”

ทุกคนเปียกโชกไปด้วยเหงื่อเย็น ‘นายรู้กี่ภาษานี่! นายยังสามารถอ่านภาษาเอลฟ์และภาษาคนแคระโบราณได้อีก’

“เพื่อน เราจะไปที่นั่นตอนนี้เลยหรอ?” จางเจิ้งเฉียงเต็มไปด้วยความตื่นเต้น

“พี่ใหญ่เฉียง คุณพ่อ หนูคิดว่าตอนนี้เราควรพักกันก่อน เราไม่ทราบระดับความยากของหลุมฝังศพ และสิ่งที่แย่ที่สุดคือความสัมพันธ์ของอาณาจักรพลาเนเทอรี่กับเอลฟ์และคนแคระนั้นยังตึงเครียดอยู่ ถ้าเราแอบเข้าไปค้นหาหลุมศพ มันคงยากที่เราจะหนี ตอนนี้เราสามารถทำใจให้สบาย รอให้สงครามระหว่างเรากับพวกเอลฟ์หยุดก่อน และจากนั้นเราจะหารือกันอีกที” เย่เทียนน้อยวิเคราะห์อย่างจริงจังตามสถานการณ์ในตอนนี้

“พี่ใหญ่ขาว เทียนน้อยพูดเหมือนที่ผมคิดไว้เลย” เมื่อเห็นว่าเย่ฉางดูเหมือนว่าจะเห็นด้วยกับความคิดของเย่เทียน หลินหลี่จึงพูดขึ้นมาทันที

“ถ้าอย่างนั้นอีกนานแค่ไหนสงครามถึงจะหยุด?” เย่ฉางพยักหน้าและถาม

“มันน่าจะเร็วๆนี้แหละ การขนส่งทรัพยากรจากเมืองแบล็คร็อคเริ่มสะดวกและรวดเร็วขึ้นเรื่อยๆ ในตอนนี้การสู้รบในแนวหน้าจึงแตกต่างจากในอดีต และทางด้านพวกเอลฟ์ พวกเขาอาจจะลงนามในข้อตกลงสงบศึกเพื่อยุติสงคราม เนื่องจากมันไม่มีอะไรดีที่จะยืดสงครามออกไป นอกจากนี้เหตุผลที่สงครามเกิดขึ้นก็เป็นเพราะข่าวลือระหว่างจักรพรรดิที่ 17 ของอาณาจักรพลาเนเทอรี่ และราชินีเอลฟ์ – มาร์เฟลรี่ พวกเขายังรู้ว่าศัตรูหลักของอาณาจักรพลาเนเทอรี่คืออาณาจักรเหล็กไหล ดังนั้นพวกเขาจึงหวังที่จะพ้นจากปัญหานี้ และยืนอยู่ตรงกลางระหว่างสองอาณาจักรนี้ เราสามารถไปลองคุยกับมาร์เฟลรี่ได้ เธอส่งผลกระทบต่อเรื่องนี้ไม่มากก็น้อย” เย่เทียนอธิบาย อูนาคุ้นเคยกับคำอธิบายที่ยาวเยียดที่ผู้ใหญ่ต้องอายของเย่เทียนดี

“พี่ใหญ่ขาว ผมก็คิดแบบนั้น” หลินหลี่บีบคางแล้วค่อยๆพยักหน้า

“…… ” คนอื่นๆพูดอะไรไม่ออก

“เอาล่ะ! ไว้ค่อยวางแผนกันอีกที ตอนนี้เรากลับเมืองกันก่อน” เมื่อพูดจบ เย่ฉางก็บอกให้อันซ่าส่งชาล่าติดตามเขากลับไปที่เมืองฟาร์ซารี เมื่อมาถึงเมือง ชาล่าก็รู้ได้ว่าตำแหน่งของเย่ฉางสูงแค่ไหนในเมืองฟาร์ซารี โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อตอนแนะนำนายกเทศมนตรีไมนอกซ์ มือของปรมาจารย์เย่ฉางก็ยังอยู่บนก้นของเธอเลย

หลังจากทราบแผนของเย่ฉางแล้ว ไมนอกซ์ก็ตอบตกลง จากนั้นเธอก็มอบหมายให้มนุษย์สัตว์บางคนที่รู้วิธีพูดภาษามังกร เพื่อพูดคุยเกี่ยวกับการสร้างท่าเรือชั่วคราวกับชาล่า ในอีกด้านหนึ่งเย่ฉางขึ้นเรือและแล่นผ่านมหาสมุทรแห่งนรกไปทางทิศเหนือ เมื่อมาถึงหมู่บ้านทะเลทราย โครงสร้างของท่าเรือก็เริ่มเป็นรูปเป็นร่างแล้ว เมื่อมองไปที่หอคอยหินสูง เย่ฉางจึงถามว่า “นั่นอะไร?”

“ลานจอดสำหรับเรือเหาะ หนูคิดว่าคงเป็นความคิดของมาร์ควิสอัสชาร่า เนื่องจากระยะทางจากเมืองแบล็คร็อคมาที่นี่มันไกลเกินไป มันจะเป็นการดีที่จะเดินทางโดยเรือเหาะ” เย่เทียนคุ้นเคยกับสิ่งก่อสร้างทางวิศวกรรมดี