มายมิ้นท์มองดูกระติกเก็บความร้อนที่อยู่บนโต๊ะ รู้สึกแค่ว่าในใจมีความรู้สึกที่อธิบายไม่ถูก รู้สึกไม่ค่อยดีเท่าไหร่นัก
เปปเปอร์มาไม้นี้ ทำให้เธอไม่รู้ว่าต่อไปควรจะทำอย่างไรดีแล้ว หนี้บุญคุณที่ติดเขา ก็ไม่รู้ว่าควรจะตอบแทนอย่างไรดีแล้ว
จะทำเหมือนอย่างที่ผู้ช่วยเหมันตร์บอก คิดเสียว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้นมาก่อน ไม่ตอบแทนบุญคุณแล้วเหรอ?
แต่ว่าถ้าหากไม่ตอบแทนบุญคุณ บุญคุณครั้งนี้ก็จะติดตัวเธอไปตลอด ให้เธอสะบัดไม่ออก ปล่อยวางไม่ได้
ตัวเธอเองก็เป็นคนที่ไม่ชอบเป็นหนี้คนอื่น เมื่อเป็นหนี้ใครแล้ว ก็จะคิดหาวิธีชดใช้กลับไปในเวลาอันสั้น ไม่อย่างนั้นจะรู้สึกมีก้อนอยู่ในใจตลอด กินไม่ได้นอนไม่หลับ
ดังนั้นบุญคุณนี้ เธอจะต้องตอบแทน ไม่อย่างนั้นเธอใช้ชีวิตได้อย่างไม่เป็นสุขแน่
ส่วนที่ว่าจะตอบแทนอย่างไร……
มายมิ้นท์นวดหว่างคิ้วแล้วนั่งลงไป รู้สึกแค่ว่าเหนื่อยล้าไปหมดทั้งตัว
เวลานี้ จู่ๆห้องทำงานก็ถูกคนเคาะดังขึ้นมากะทันหัน
ความคิดของมายมิ้นท์ถูกขัดจังหวะ เงยหน้ามองไป “เชิญเข้ามา”
ประตูห้องทำงานถูกเปิดออก ลาเต้สาวเท้าก้าวใหญ่เดินเข้าไปข้างใน “ยาหยี ยุ่งเหรอ?”
“คุณมาได้อย่างไร?” มายมิ้นท์มองดูเขาอย่างประหลาดใจ
ลาเต้เดินไปถึงตรงข้ามโต๊ะทำงานของเธอ ดึงเก้าอี้ออกมานั่งลงไป “ผมมารอคุณเลิกงาน จากนั้นก็พาคุณกลับไปบ้านผม คุยกันไว้แล้วไม่ใช่เหรอ วันนี้จะไปพบแม่ผมที่บ้านผม”
“โอ๊ะใช่ เกือบจะลืมไปแล้ว” มายมิ้นท์ยิ้มอย่างอายๆ
“ไม่เป็นไร ผมก็มาเตือนความจำคุณอยู่นี่ไง” ลาเต้โบกมือ จากนั้นสายตาก็ไปหยุดอยู่ที่กระติกเก็บความร้อน “ยาหยี นี่คืออะไร คุณห่อข้าวมาเหรอ?”
“เปล่า นี่เป็นซุปกระดูกที่จะให้เปปเปอร์” มายมิ้นท์ส่ายหัวหนึ่งครั้งแล้วตอบกลับไป
ลาเต้ได้ยินว่าจะให้เปปเปอร์ ก็เบ้ปากในทันที “นึกไม่ถึงว่าเป็นซุปที่ทำให้เขา”
“เขาบาดเจ็บ ทำซุปให้เขาไม่ถูกเหรอ?” มายมิ้นท์เหล่มองเขาครู่หนึ่ง
ลาเต้พิงไปทางด้านหลัง สองมือไขว้อยู่ที่หลังศีรษะตอบกลับมาอย่างเกียจคร้าน: “มันไม่ใช่อย่างนั้น ผมกำลังหึงอยู่ เพราะคุณไม่เคยทำซุปให้ผมมาก่อนเลย”
“เปปเปอร์เขาบาดเจ็บ คุณบาดเจ็บเหรอ?” มายมิ้นท์พูดอย่างไม่สบอารมณ์: “ถ้าหากว่าคุณบาดเจ็บ ฉันก็จะไปเยี่ยมคุณ ทำซุปเพื่อแสดงความเสียใจกับคุณด้วย”
“แหะๆ งั้นก็ช่างมันไปเถอะ ผมอยู่อย่างแข็งแรงแบบนี้ดีกว่า” ลาเต้พูดพร้อมหัวเราะแหะๆ
มายมิ้นท์ลุกขึ้นรินน้ำให้เขาแก้วหนึ่ง “งั้นก็โอเคแล้วไง”
ลาเต้เอามือลงจากหลังศีรษะ ยกแก้วน้ำขึ้นมาดื่มไปคำหนึ่ง “ว่าแต่ เลิกงานแล้วคุณยังต้องไปเยี่ยมเปปเปอร์ที่โรงพยาบาล ส่งซุปนี้ไปให้เขาใช่ไหม? ถ้าหากว่าจะไป ผมจะให้ป้าที่บ้านทำอาหารช้าหน่อย”
“ไม่แล้ว” มายมิ้นท์ส่ายหน้า ในสายตามีประกายความซับซ้อนแวบขึ้นมา “ฉันไม่ต้องส่งไปให้เขาแล้ว เขาออกจากโรงพยาบาลแล้ว และเขาก็บอกแล้วว่า ไม่ต้องให้ฉันดูแลต่อแล้ว”
“งั้นก็ดีเลยสิ” ดวงตาลาเต้เป็นประกายขึ้นมา ปรบมือแล้วพูดขึ้นมาว่า: “ไม่ต้องให้คุณดูแล คุณก็จะได้ผ่อนคลาย”
“นี่มันไม่เหมือนกัน” มายมิ้นท์ขมวดคิ้ว “ถ้าหากว่าเขาหายดีแล้ว ไม่ต้องการให้ฉันดูแล ฉันก็สามารถผ่อนคลายลงมาได้จริงๆ แต่ว่าเขายังไม่หายดี……”
ได้ยินคำพูดประโยคนี้ จู่ๆลาเต้ก็นึกอะไรบางอย่างขึ้นมา ลูบไปที่คางแล้วพูดขึ้นมาด้วยสีหน้าท่าทางแปลกประหลาด: “นี่มันไม่ถูกต้องนะ นี่ไม่เหมือนเปปเปอร์เลย”
“หืม?” มายมิ้นท์มองดูเขาด้วยความสงสัย
ลาเต้เอ่ยปากพูดขึ้นว่า: “ยาหยีคุณคิดดูนะ เปปเปอร์มีความรักต่อคุณ ยังพูดซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่าจะตามง้อขอคืนดีกับคุณ ดังนั้นคุณดูแลเขา เขาแทบรอไม่ไหวด้วยซ้ำ จะเป็นไปได้อย่างไรที่เขาจะไม่ต้องการให้คุณดูแล”
“แต่นี่ก็คือความจริง” มายมิ้นท์พูดพร้อมกับมองไปที่กระติกเก็บความร้อน
ไม่เพียงไม่ต้องการให้เธอดูแล แม้แต่ซุปก็ยังคืนกลับมา
ลาเต้พยักหน้า “เพราะงั้นผมถึงบอกว่ามันไม่ถูกต้อง ผมคิดว่า เปปเปอร์ต้องคิดวางแผนอะไรอยู่แน่ ไม่อย่างนั้นมันไม่มีทางอธิบายได้เลย นอกเสียจากเขากินยาผิดไป”
“คุณสิกินยาผิดไป อย่าพูดเหลวไหล” มายมิ้นท์กลอกตาใส่เขาครู่หนึ่ง
ลาเต้รีบร้อนพูดขึ้นว่า: “ผมไม่ได้พูดเหลวไหลนะ เปปเปอร์ทำแบบนี้ ก็เหมือนกินยาผิดไปไม่ใช่เหรอ ไม่อย่างนั้นทำไมถึงไม่ต้องการให้คุณดูแล ถ้าไม่ใช่กินยาผิดไป ก็คือเขากำลังใช้กลยุทธ์แสร้งปล่อยเพื่อจับ”
“แสร้งปล่อยเพื่อจับ?” มายมิ้นท์เลิกคิ้ว
ลาเต้อืมๆออกมาสองคำ “ใช่แล้ว คุณลองคิดดูสิยาหยี ตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาตามอยู่ข้างหลังคุณ คุณก็ไม่เคยให้การตอบรับเขาเลย ดังนั้นเขาก็เลยเปลี่ยนใจหาวิธีอื่น เฉยเมินกับคุณนิดหน่อย แล้วคุณก็จะเริ่มไม่ชินกับความเฉยเมยของเขา ให้เขา……”
“พอแล้ว อย่าเดามั่วซั่วไป” มายมิ้นท์จับหน้าผากอย่างจนใจ “คุณรู้สึกว่านี่มันเป็นไปได้เหรอ? ไม่ต้องพูดถึงว่าเปปเปอร์ดูไม่เหมือนคนที่ทำเรื่องแบบนี้ได้ และคุณคิดว่า ฉันจะไม่ชินต่อความเฉยเมยของเขาเหรอ? ความเฉยเมยที่ฉันได้รับมาตลอดหกปีมันสูญเปล่างั้นสิ?”
“นี่……” มุมปากของลาเต้กระตุกเล็กน้อย รู้สึกไม่ต่อไม่ถูกในทันที
มายมิ้นท์ถอนหายใจ “ช่างเถอะ อย่าเพิ่งพูดเรื่องพวกนี้เลย รอฉันถามเขาพรุ่งนี้ก็รู้แล้ว”
พูดไป เธอก็มองดูเวลา “ไปเถอะ ไปที่ห้างสรรพสินค้ากับฉันก่อน ไปหาซื้อของขวัญให้คุณป้า หลังจากนั้นก็ไปที่บ้านคุณเลย”
“โอเค ไปกันเลย” ลาเต้ยืนขึ้นมา
มายมิ้นท์ปิดคอมพิวเตอร์ หยิบกระเป๋าขึ้นมาสะพายไหล่ ลุกขึ้นแล้วเดินตามเขาออกจากห้องทำงานไปพร้อมกัน
อีกด้านหนึ่ง นวบดินทร์กรุ๊ป
ผู้ช่วยเหมันตร์กลับมาถึงห้องทำงานของเปปเปอร์ “ประธานเปปเปอร์ กระติกเก็บความร้อนส่งกลับไปให้คุณมายมิ้นท์แล้ว และสิ่งที่คุณให้ผมพูด ผมก็บอกกับคุณมายมิ้นท์ไปแล้ว”
มือของเปปเปอร์ที่วางอยู่บนเมาส์กระชับแน่นขึ้นมากะทันหันเล็กน้อย “เธอมีปฏิกิริยาอย่างไร?”
“คุณมายมิ้นท์ประหลาดใจมาก และมีอารมณ์บางอย่างที่อธิบายไม่ได้” ผู้ช่วยเหมันตร์เล่าถึงการแสดงออกทางสีหน้าของมายมิ้นท์ในขณะนั้น
“อารมณ์ที่อธิบายไม่ได้?” เปปเปอร์หรี่ตา
มันคืออารมณ์แบบไหน
“มายมิ้นท์……รับปากไหมว่าต่อไปจะไม่มาอีก?” จากนั้นเปปเปอร์ก็ถามขึ้นมาอีก
ผู้ช่วยเหมันตร์ครุ่นคิดไปครู่หนึ่ง ส่ายหน้า “ก็ไม่ได้เป็นแบบนั้น แต่ว่าผมดูท่าทางของคุณมายมิ้นท์ น่าจะรับปากแล้ว”
ตอนนั้นคุณมายมิ้นท์ไม่ได้พูดอะไร น่าจะยอมรับไปโดยปริยายแล้วมั้ง
เพราะถึงอย่างไรเดิมทีคุณมายมิ้นท์ก็ไม่ชอบประธานเปปเปอร์อยู่แล้ว ประธานเปปเปอร์ไม่ให้เธอดูแล เธอน่าจะดีใจมากถึงจะถูก
“งั้นเหรอ งั้นก็ดีแล้ว” เปปเปอร์พยักหน้าเล็กน้อย แต่กลับพูดด้วยเสียงแหบแห้งทุ้มต่ำออกมาคำหนึ่ง
มายมิ้นท์รับปากว่าต่อไปจะไม่มาดูแลเขาแล้ว ในใจของเขาทั้งโล่งอก และทรมานเล็กน้อย
เพราะเขาผลักไสคนที่ตัวเองรักออกไป ด้วยมือของเขาเอง
“หัวหน้าชรัลเคลียร์งานที่อยู่ในมือเสร็จหรือยัง?” เปปเปอร์บีบไปที่จมูก จู่ๆก็ถามขึ้นมากะทันหัน
ผู้ช่วยเหมันตร์ดันแว่นตาแล้วตอบว่า: “ยังไม่เสร็จครับ บัญชีที่อยู่ในมือของหัวหน้าชรัลมีเยอะเกินไป ยังมีบางส่วนที่ยังส่งมอบไม่เสร็จ”
เปปเปอร์อืมออกมาคำหนึ่ง “บอกกับเขาด้วยว่า หลังจากที่ส่งมอบเสร็จแล้ว ให้รีบไปสมัครงานที่เทนเดอร์ทันที”
“ครับ” ผู้ช่วยเหมันตร์มองดูเขา ตอบรับคำหนึ่งด้วยความรู้สึกทอดถอนใจเล็กน้อย
ประธานเปปเปอร์รักคุณมายมิ้นท์มากเหลือเกินจริงๆ
ด้านหนึ่ง ประธานเปปเปอร์ทำตัวเหินห่างจากคุณมายมิ้นท์ อีกด้านหนึ่ง ก็แอบวางแผนทำเพื่อคุณมายมิ้นท์ คุณมายมิ้นท์ขาดอะไร ก็แอบจัดเตรียมอะไรเอาไว้ให้คุณมายมิ้นท์อย่างเงียบๆ
หัวหน้าชรัลในครั้งนี้ก็ใช่
หัวหน้าชรัลเป็นหนึ่งในผู้สอบบัญชีรับอนุญาตของนวบดินทร์กรุ๊ป และเป็นหนึ่งในสามของหัวหน้าฝ่ายการเงิน ทำงานในนวบดินทร์กรุ๊ปมาสิบกว่าปีแล้ว แต่ทันทีที่ประธานเปปเปอร์รู้ว่าคุณมายมิ้นท์กำลังมองหาหัวหน้าฝ่ายการเงิน ก็รีบเรียกตัวหัวหน้าชรัลไปที่ห้องทำงานทันที ให้หัวหน้าชรัลไปที่เทนเดอร์เพื่อช่วยคุณมายมิ้นท์
เกรงว่าประธานเปปเปอร์คงอยากจะใช้ชีวิตที่เหลือสุดท้ายในสามปีนี้ ปูทางทุกทางเท่าที่สามารถจะปูได้เอาไว้ให้คุณมายมิ้นท์ ด้วยวิธีนี้ ถึงแม้จะไม่มีประธานเปปเปอร์แล้วจริงๆ ปราศจากการปกป้องคุ้มกันของประธานเปปเปอร์แล้ว ทางของคุณมายมิ้นท์ ก็สามารถเดินได้ง่ายมากยิ่งขึ้น
และทุกสิ่งทุกอย่างนี้ คุณมายมิ้นท์ไม่รู้เลยสักนิด
มองดูประธานเปปเปอร์ทุ่มเทอย่างเงียบๆ พูดตามความจริง เขาอยากจะบอกคุณมายมิ้นท์มาก อยากจะขอร้องคุณมายมิ้นท์ให้กลับมาคบกับประธานเปปเปอร์ อยู่กับประธานเปปเปอร์สามปี เห็นแก่ที่ประธานเปปเปอร์ลงเอยด้วยชีวิตที่เหลือเวลาอีกเพียงสามปีเพราะช่วยชีวิตเธอ ถึงแม้เธอจะไม่รักประธานเปปเปอร์ เธอก็สามารถแสร้งทำเป็นว่ามีความรู้สึกต่อประธานเปปเปอร์ ให้ในสามปีนี้ประธานเปปเปอร์ไม่ทิ้งความเสียใจเอาไว้
เผื่อว่าสุดท้ายประธานเปปเปอร์……จริงๆเธอก็สามารถจากไปได้ ไม่เสียเปรียบหรอก
แต่เขารู้ดีว่า ประธานเปปเปอร์ไม่อนุญาตให้เขาทำแบบนี้แน่
ประธานเปปเปอร์ยอมแบกรับมันเอาไว้เอง ก็ไม่อยากจะเสียเวลาสามปีของคุณมายมิ้นท์!