เห็นมายมิ้นท์ทำซุปให้กับตัวเอง ดวงตาของเปปเปอร์เป็นประกายขึ้นมาแวบหนึ่ง ในใจไม่สามารถพูดได้ว่าไม่ดีใจ
แต่ไม่ช้า เปปเปอร์ก็ระงับความดีใจนี้ลงไปอีกครั้ง มือใหญ่บีบโทรศัพท์มือถือเอาไว้แน่น
น้ำซุปนี้……เขาไม่สามารถรับเอาไว้ได้!
เหตุผลเดียวกันกับที่เขาเลือกที่จะอยู่ให้ห่างจากมายมิ้นท์ เลือกที่จะไม่พบมายมิ้นท์
ถ้าหากเขารับซุปนี้เอาไว้ แบบนั้นมายมิ้นท์ก็จะไม่รู้ ว่าเขาต้องการจะอยู่ห่างจากเธอ ครั้งต่อไป เธอก็จะส่งสิ่งเหล่านี้มาอีก
และเขาสามารถจะปฏิเสธได้อย่างต่อเนื่องอย่างนั้นหรือ?
ไม่ เขามั่นใจมากว่าเขาทำไม่ได้ เพราะถึงอย่างไรนั่นก็เป็นซุปที่ผู้หญิงที่รักทำให้ตัวเอง ไม่มีผู้ชายคนไหนที่จะปฏิเสธได้ลงคอซ้ำแล้วซ้ำเล่าหรอก
ถึงเวลานั้น การที่เขาพยายามออกห่างและยอมแพ้เรื่องมายมิ้นท์ในตอนนี้ ก็กลายเป็นเรื่องตลกเรื่องหนึ่ง
ดังนั้นไม่ว่าอย่างไร เขาก็จะไม่รับซุปนี้เอาไว้
เขาทำได้แค่ทำใจแข็ง แยกทุกอย่างออกห่างจากเธอตั้งแต่เริ่มแรก ไม่อย่างนั้นเมื่อถึงตอนสุดท้าย จะมีแต่ยิ่งอาลัยอาวรณ์มากขึ้น
คิดไป เปปเปอร์ก็หลับตาลงเล็กน้อย นวดไปที่ขมับ
ผ่านไปครู่หนึ่ง ในตอนที่เขาลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ในดวงตาเหลือเพียงความเด็ดเดี่ยวแน่วแน่
“เหมันตร์” เปปเปอร์ยกหูโทรศัพท์พื้นฐานขึ้นมา โทรไปยังห้องทำงานของผู้ช่วยเหมันตร์
ผู้ช่วยเหมันตร์กำลังยุ่งอยู่กับงานของตัวเอง ได้ยินโทรศัพท์พื้นฐานดังขึ้นมา ก็วางปากกาในมือลง แล้วรับสายโทรศัพท์ “ประธานเปปเปอร์”
“มายมิ้นท์ฝากซุปเอาไว้ให้ฉันที่แผนกต้อนรับ นายไปเก็บมา จากนั้นก็ส่งกลับไปให้เธอ บอกกับเธอว่า ต่อไปไม่ต้องเปลืองแรงพวกนี้อีก ฉันไม่รับ”
พูดจบ เขาก็วางโทรศัพท์ไปเลย
“……” ผู้ช่วยเหมันตร์ถือโทรศัพท์ค้างเอาไว้ มองดูกองเอกสารที่เขาต้องรีบจัดการให้เสร็จตรงหน้า อดที่จะกระตุกมุมปากไม่ได้
โอเค ดูท่าคืนนี้ก็ต้องทำโอทีอีกแล้ว
วางหูฟังโทรศัพท์พื้นฐานลงไปบนฐาน ผู้ช่วยเหมันตร์ตบหน้าเบาๆด้วยรอยยิ้มเจื่อนๆ จากนั้นก็ยืนขึ้นมา ออกไปจากโต๊ะทำงาน
ประมาณหนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น ผู้ช่วยเหมันตร์ถือกระติกเก็บความร้อน มาถึงเทนเดอร์กรุ๊ป
มายมิ้นท์กำลังประชุมอยู่ในห้องประชุม เลขาซินดี้ผลักประตูเข้ามา “ประธานมายมิ้นท์”
“มีอะไร?” มายมิ้นท์วางมือลงเล็กน้อย ให้สัญญาณว่าพักการประชุมเอาไว้ก่อน จากนั้นมองไปที่เลขาซินดี้แล้วถาม
เลขาซินดี้มองดูทุกคนในห้องประชุม จากนั้นก็เดินเข้าไปข้างตัวเธอ โน้มตัวเข้าไปใกล้หูของเธอแล้วพูดว่า: “ผู้ช่วยเหมันตร์มาค่ะ”
“เขามาทำไม?” มายมิ้นท์เลิกคิ้ว
เลขาซินดี้ส่ายหน้า “ไม่รู้ค่ะ แต่ตามที่แผนกต้อนรับแจ้งมา เขาถือกระติกเก็บความร้อนเอาไว้ด้วยค่ะ”
มายมิ้นท์เกี่ยวริมฝีปากยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย
เธอรู้แล้ว
เปปเปอร์น่าจะให้ผู้ช่วยเหมันตร์มาคืนกระติกเก็บความร้อน
“คุณให้เขาไปรอฉันที่ห้องทำงานของฉันก่อน ฉันใกล้เสร็จการประชุมนี้แล้ว” มายมิ้นท์พูดพร้อมชี้ไปที่แล็ปท็อปของตัวเอง
เลขาซินดี้ตอบรับคำหนึ่ง หันหลังออกไป
มายมิ้นท์เก็บการแสดงออกทางสีหน้าเอาไว้ สายตามองไปทางทุกคน พูดขึ้นมาอย่างราบเรียบ: “เอาล่ะ ประชุมกันต่อเลย”
ในห้องประชุมกลับมามีบรรยากาศเคร่งขรึมอีกครั้ง
ประมาณสิบกว่านาทีหลังจากนั้น การประชุมก็จบลง
มายมิ้นท์ปิดสมุดบันทึกลง ออกไปจากห้องประชุมก่อนก้าวหนึ่ง
กลับไปถึงห้องทำงาน มายมิ้นท์ผลักประตูเข้าไป ผู้ช่วยเหมันตร์รีบลุกยืนขึ้นมา ทักทายอย่างเย็นชาห่างเหิน “คุณมายมิ้นท์”
“สวัสดีค่ะผู้ช่วยเหมันตร์” มายมิ้นท์พยักหน้าเล็กน้อย เดินไปทางโต๊ะทำงานของตัวเอง
ตอนที่เดินไปถึง เธอเห็นกระติกเก็บความร้อนที่อยู่บนโต๊ะทำงานของตัวเอง กำลังจะเอ่ยปากพูดอะไรออกมา
ผู้ช่วยเหมันตร์ก็ชิงพูดออกมาก่อน: “คุณมายมิ้นท์ นี่คือซุปที่คุณเคี่ยวให้ประธานเปปเปอร์ของเรา เปปเปอร์ให้ผมส่งกลับมาให้คุณ”
ได้ยินคำพูดประโยคนี้ สีหน้าของมายมิ้นท์แข็งทื่อ
อะไรคือ ซุปที่เธอเคี่ยวให้กับเปปเปอร์ เปปเปอร์ให้เขาส่งกลับมาให้เธอ
หรือว่า……
มายมิ้นท์เม้มริมฝีปากแดงครู่หนึ่ง ยื่นมือไปคว้าหูจับของกระติกเก็บความร้อน จากนั้นก็ยกกระติกเก็บความร้อนขึ้นมา
กระติกเก็บความร้อนหนักมาก น้ำหนักเท่ากับตอนที่เธอตักซุปใส่แล้วถือเอาไว้ในตอนเช้า
ซึ่งก็หมายความว่า เปปเปอร์ไม่ได้ดื่มซุปที่เธอเคี่ยว
มือของมายมิ้นท์ที่จับหูจับของกระติกเก็บความร้อนกระชับแน่นขึ้นมาเล็กน้อย ถามด้วยเสียงที่ไม่ค่อยสบายเท่าไหร่นัก “เพราะอะไร? ทำไมเขาถึงไม่ดื่ม?”
ผู้ช่วยเหมันตร์ดันแว่นแล้วตอบว่า: “ประธานเปปเปอร์คงจะไม่ชอบดื่มมั้งครับ”
“ไม่ชอบ?” มายมิ้นท์เงยหน้ามองดูเขา ในดวงตาเขียนเอาไว้ชัดเจนว่าเป็นไปไม่ได้
วันที่เธอดูแลเปปเปอร์เป็นครั้งแรก หลังจากที่เขากินของที่มีรสชาติเล็กน้อยได้แล้ว ก็ตุ๋นน้ำซุปกระดูกให้เขา สามารถช่วยในการสมานแผล
ตอนนั้นในสายตาของเขาชอบมันอย่างเห็นได้ชัด และตั้งหน้าตั้งตารอมัน
ทำไมตอนนี้ถึงบอกว่าไม่ชอบแล้วล่ะ?
เธอไม่เชื่อเลยสักนิด!
ผู้ช่วยเหมันตร์ย่อมมองออกถึงความไม่เชื่อในสายตามายมิ้นท์ พูดตามความจริง เหตุผลที่เขาพูดออกมาข้อนี้ ตัวเองยังไม่เชื่อเลย
เพราะประธานเปปเปอร์รักคุณมายมิ้นท์มากขนาดนั้น
ถึงแม้คุณมายมิ้นท์จะทำอาหารสุนัขให้ประธานเปปเปอร์ถ้วยหนึ่ง ประธานเปปเปอร์ก็จะกินมันลงไปอย่างมีความสุข
ดังนั้นเหตุผลที่เขาใช้เมื่อกี้เบี่ยงเบนประเด็นไปไกลแค่ไหน ย่อมไม่จำเป็นต้องพูดเลย
แต่ก็ไม่มีทางเลือก ถึงจะเบี่ยงเบนไปอย่างน้ำขุ่นๆ เขาก็ต้องพูดให้คุณมายมิ้นท์เข้าใจ
“ใช่ครับคุณมายมิ้นท์ ประธานเปปเปอร์บอกว่าเขาไม่ชอบ แล้วยังบอกอีกว่าต่อไปคุณก็ไม่ต้องทำซุปพวกนี้ให้เขาอีก เขาไม่รับทั้งนั้น พร้อมกันนี้ประธานเปปเปอร์ยังบอกอีกว่า ต่อไปคุณก็ไม่ไปต้องหาเขาอีก” ผู้ช่วยเหมันตร์มองดูมายมิ้นท์ ถ่ายทอดคำพูดที่เปปเปอร์ให้เขาพูด ถ่ายทอดออกมา
หลังจากที่มายมิ้นท์ฟังจบ จู่ๆในใจก็หดตัวลงกะทันหัน กำฝ่ามือขึ้นมา “เขาหมายความว่าอย่างไร? อะไรที่เรียกว่าไม่รับทั้งนั้น ไม่ต้องหาเขาอีก? ฉันยังไม่ได้ตอบแทนบุญคุณ เขา……”
“ประธานเปปเปอร์บอกว่า เขาไม่ต้องการให้คุณมายมิ้นท์ตอบแทนบุญคุณ ประธานเปปเปอร์ช่วยคุณ เป็นความยินยอมของประธานเปปเปอร์เอง ดังนั้นประธานเปปเปอร์ไม่เคยหวังว่าจะได้อะไรตอบแทน พร้อมกันนี้ประธานเปปเปอร์ยังบอกอีกว่าต่อไปจะไม่มาตามตื๊อคุณมายมิ้นท์อีก แล้วก็จะไม่พูดคำพูดอะไรที่ว่าจะตามง้อขอคืนดีกับคุณมายมิ้นท์อีก ดังนั้นคุณมายมิ้นท์วางใจได้เลย ต่อไปคุณก็จะไม่ต้องตกอยู่ในสถานการณ์ลำบากใจ เพราะรู้สึกว่าประธานเปปเปอร์น่ารำคาญแต่ก็ไล่ไม่ไปอีกแล้ว” ผู้ช่วยเหมันตร์พูดด้วยรอยยิ้มไม่แยแส
มายมิ้นท์กัดริมฝีปาก หัวใจกระชับแน่นยิ่งขึ้น
เป็นแบบนั้นจริงๆ เปปเปอร์ไม่ตามตื๊อเธออีก ไม่จีบเธอแล้ว เธอควรจะดีใจที่ในที่สุดตัวเองก็หลุดพ้นจากคนน่ารำคาญคนหนึ่ง
แต่……เธอกลับไม่รู้สึกดีใจเลยสักนิด
เห็นมายมิ้นท์ก้มหน้าไม่พูดอะไร ผู้ช่วยเหมันตร์โค้งคำนับเล็กน้อยไปทางเธอ หันหลังก็จะจากไป
มายมิ้นท์ได้ยินเสียงฝีเท้า ได้สติกลับมาทันที เรียกเขาเอาไว้ “รอเดี๋ยว”
“คุณมายมิ้นท์ยังมีธุระอะไรอีกเหรอครับ?” ผู้ช่วยเหมันตร์หยุดฝีเท้าเอาไว้ หันหน้ามองไปทางเธอ
มายมิ้นท์สูดลมหายใจเข้าเฮือกหนึ่ง มือทั้งสองข้างกำเอาไว้แน่น “ฉันอยากรู้ อะไรคือเหตุผลที่ทำให้จู่ๆเปปเปอร์ก็ปฏิเสธที่จะให้ฉันดูแลเขากะทันหัน?”
จู่ๆเขาก็ยอมแพ้เรื่องของเธอ เธอสามารถที่จะไม่ถาม ถึงอย่างไรเธอก็ไม่สนใจอยู่แล้ว เธอเองก็แทบอยากจะให้มันเป็นแบบนี้……แหละ
แต่ว่ามีเพียงเรื่องที่เขาไม่ให้เธอดูแลข้อนี้ เธอต้องรู้ให้ได้
ผู้ช่วยเหมันตร์ไม่แปลกใจเลยที่มายมิ้นท์ถามคำถามข้อนี้ออกมา
เพราะถึงอย่างไรการปล่อยมือของประธานเปปเปอร์มันกะทันหันเกินไป คุณมายมิ้นท์ไม่แปลกใจถึงจะแปลก
ผู้ช่วยเหมันตร์ดันแว่นตา ตอบกลับมาอย่างแยกเรื่องงานออกจากเรื่องส่วนตัว: “ที่จริงเหตุผลมันง่ายมาก ก็แค่ประธานเปปเปอร์รู้สึกว่าคุณมายมิ้นท์ใจแข็งเกินไป ประธานเปปเปอร์มองไม่เห็นความหวังที่จะทำให้คุณใจอ่อน ตามง้อขอคืนดีกับคุณสำเร็จ ดังนั้นประธานเปปเปอร์ก็เลยตัดสินใจปล่อยมือจากคุณ ในเมื่อปล่อยมือแล้ว งั้นประธานเปปเปอร์ก็ย่อมต้องอยู่ห่างจากคุณ ดังนั้นประธานเปปเปอร์ก็ย่อมจะไม่ให้คุณมายมิ้นท์ดูแลเขาอีกต่อไป คุณมายมิ้นท์ยังมีข้อสงสัยอีกไหม?”
“……” ริมฝีปากแดงของมายมิ้นท์ขยับเล็กน้อย ผ่านไปครู่หนึ่ง ถึงได้ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงซับซ้อนเล็กน้อย “ไม่มีแล้ว……”
เปปเปอร์ปล่อยมือจากเธอ ดังนั้นจะอยู่ให้ห่างจากเธอ ไม่ให้เธอดูแลเขาอีก เหตุผลข้อนี้ โดยรวมแล้วก็สมเหตุสมผลจริงๆ
เพียงแต่ จู่ๆที่เขาปล่อยมือกะทันหันเพราะมองไม่เห็นความหวังจริงๆเหรอ?
ไม่รู้ว่าทำไม มายมิ้นท์ถึงได้รู้สึกว่า ยังมีสาเหตุอื่นอยู่ในนั้น
เพราะการปล่อยมือของเปปเปอร์ กะทันหันเกินไปจริงๆ
ก่อนหน้านั้นวันหนึ่งท่าทียังเหมือนเดิมแท้ๆ วันถัดมาจู่ๆก็เปลี่ยนไปกะทันหัน นี่ทำให้คนอดคิดมากไม่ได้ว่าเธอไปทำอะไร ให้เขาตัดสินใจปล่อยมือหรือเปล่า
เพราะอย่างไรหากเปปเปอร์จะปล่อยมือ ก็คงปล่อยไปนานแล้ว ไม่รอจนถึงตอนนี้หรอก
“ในเมื่อคุณมายมิ้นท์ไม่มีข้อสงสัยแล้ว งั้นผมก็ขอตัวลาก่อน” ผู้ช่วยเหมันตร์ยิ้มให้กับมายมิ้นท์อย่างสุภาพ ก้าวเท้าเดินออกไป