ตอนที่ 625 ทําให้เต็มที่ไม่งั้นก็กลับบ้านไป

 

ท่านผู้หญิงก้มหน้าด้วยความละอายใจ ตระกูลเฉินคุ้นชินกับการป้องกันข้อบกพร่องของตัวเอง พ่อของเธออาการหนักที่สุด เขาจะกลายเป็นคนไม่มีเหตุผลเพื่อปกป้องคนของเขา ถงเยียนเป็นหลานสาวคนเดียวของเขา เขาคงยอมเสียสละชีวิตของตัวเองเพื่อปกป้องเธอ

 

นี่คือเหตุผลที่ถงเยียนสามารถทำเรื่องผิดกฎหมายร้ายแรงแบบนี้โดยไม่เกรงกลัว

 

ท่านผู้หญิงกังวลว่าตระกูลเฉินและตระกูลถงจะทะเลาะกับตระกูลสีเพราะเรื่องความผิดของถงเยียน และนี่จะทำให้เกิดเรื่องไร้สาระ แล้วสามีของเธอจะตกอยู่ในสถานการณ์ยากลำบาก

 

เขาอาจเป็นประธานาธิบดีแต่เขาก็เป็นผู้ตัดสินพวกคนที่มีอำนาจ ไม่อย่างนั้นประเทศนี้คงตกอยู่ในความวุ่นวายไปแล้ว อย่างไรก็ตามเขายังต้องต่อสู้กับอาการเจ็บป่วยของตัวเอง เธอไม่อยากให้เรื่องนี้มาทำลายสุขภาพของเขา

 

ประธานาธิบดีเข้าใจความกังวลของเธอ เขาปลอบใจเธอ “อย่าห่วงเลย เรื่องนี้จะถูกตัดสินอย่างเงียบๆ และถึงแม้ว่าจะไม่เป็นแบบนั้น มันก็ไม่ทำให้ผมถึงตายหรอก”

 

“อย่าพูดเรื่องแบบนั้นสิคะ” ท่านผู้หญิงตำหนิเขาด้วยใบหน้าบึ้งตึง “คุณจะไม่เป็นไร หลังจากที่ลู่ฉีสร้างหัวใจกลเสร็จ อาการเจ็บป่วยของคุณก็จะถูกรักษา”

 

ประธานาธิบดีหัวเราะ “ผมจะรอให้ถึงวันนั้น ผมเชื่อว่าผมจะไม่เป็นไร ดังนั้นคุณไม่ควรกังวลจนเกินไป ยังมีผมอยู่ พวกเขาไม่กล้าทำอะไรหรอก”

 

“แล้วถ้าตระกูลสีไม่ยอมอ่อนข้อให้ล่ะคะ?”

 

“หลักฐานที่สีมู่ไป๋ทำผิดกฎหมายยังอยู่กับพวกเรา ดังนั้นตอนนี้เราจะให้พวกเขาหาทางออกกันเอาเองก่อน หากจำเป็นจริงๆ เราก็จะเข้าไปยุ่ง อันที่จริงพวกเขาก็ผิดกันทุกคนแต่ตอนนี้ความสมดุลของอำนาจยังไม่คงที่ ชั่วขณะที่ตราชั่งเอนเอียงอาจทำให้เกิดโศกนาฏกรรมที่ไม่สามารถจินตนาการได้ หวังว่าพวกเขาจะตัดสินเรื่องนี้ได้ด้วยตัวเอง ไม่อย่างนั้นเราก็จะจับพวกเขาทุกคนเข้าคุก” ประธานาธิบดีพูดอย่างขุ่นเคือง

 

ท่านผู้หญิงรู้สึกดีขึ้นหลังจากที่ได้ยินสามีของเธอพูดแบบนั้น เธอรู้ว่าสามีของเธอจะต้องจัดการเรื่องนี้ได้อย่างดี เพื่อประเทศนี้เขาต้องเผชิญกับความทุกข์ทรมานและเสียสละมามากแล้ว

 

บางครั้งก็จำเป็นต้องยอมละทิ้งกฎหมายเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวมของทั้งประเทศและประชาชน

 

 

คุณปู่สีมาถึงเมือง A ในคืนนั้น ซิงเหอกับมู่ไป๋เดินทางไปรับเขาที่สนามบินด้วยตัวเอง

 

การกลับมาเมือง A ก่อให้เกิดอารมณ์หลากหลายขึ้นในใจของเขา “ฉันได้กลับมาที่นี่อีกครั้ง ฉันคิดว่าจะไม่ได้เห็นเมืองนี้อีกแล้วในชีวิตนี้”

 

มู่ไป๋แสยะยิ้ม “การที่คุณปู่กลับมาในครั้งนี้ก็เพื่อทำภารกิจยิ่งใหญ่ นี่เป็นการกลับมาอย่างสมเกียรติสำหรับคุณปู่”

 

คุณปู่สีหัวเราะ “นั่นก็ยังไม่แน่ ไม่มีใครบอกได้ว่าเรื่องนี้จะจบลงยังไง”

 

“จะมีแค่บทสรุปเดียวเท่านั้น” มู่ไป๋ตอบอย่างมั่นใจ “พวกเราจะชนะเพราะว่าพวกเราต้องชนะ!”

 

“หลานพูดถูก! พวกเราต้องชนะ!” ความรู้สึกแรงกล้าปรากฏขึ้นในดวงตาของคุณปู่สีทันที นี่คือจิตวิญญาณของตระกูลสี การไม่ยอมแพ้

 

“เร็วเข้า ขึ้นรถกันเถอะ หลานจะได้เล่ารายละเอียดให้ปู่ฟัง”

 

“โอเคครับ”

 

ซิงเหอกับมู่ไป๋ช่วยพยุงเขาเข้าไปในรถแล้วพวกเขาก็ขับรถตรงไปยังฮิลส์เรสซิเดนซ์ ในรถ มู่ไป๋เล่าเรื่องทั้งหมดให้คุณปู่ของเขาฟังอย่างละเอียด”

 

คุณปู่สีพยักหน้าด้วยความพอใจ เขาหันไปกล่าวชมซิงเหอและเห็นด้วยกับเธอ “แผนของเธอยอดเยี่ยมมาก พวกเราควรทำแบบนี้แหละ ใช้ประโยชน์จากกำลังของคนอื่นเพื่อโจมตีตระกูลหลิน การสู้กับพวกเขาโดยตรงไม่ใช่ความคิดที่ฉลาด”

 

“ดังนั้นพวกเราจึงต้องการความร่วมมือจากคุณปู่ในวันพรุ่งนี้” มู่ไป๋พูดด้วยรอยยิ้มบางๆ

 

คุณปู่สีตอบด้วยความมั่นใจ “ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของปู่เถอะ ปู่รู้จักตาแก่สองคนจากตระกูลถงและตระกูลเฉินมาหลายปีแล้ว ปู่รู้แล้วว่าพวกเขาจะมาไม้ไหน ปู่จะไม่มีวันยอมให้พวกเขามารังแกตระกูลสีของเรา พวกเราจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด!”