แดนนิรมิตเทพ บทที่ 903
เฉินโม่กลับไปที่หน่วยรบพิเศษเทพอินทรีในยานจิง ได้มอบยายาก่อฐานสามสิบหกเม็ดให้กับหน่วยรบพิเศษ

เฉินโม่คอยดูแลพวกเขาอยู่ข้างๆ รอจนกระทั่งชี่พิฆาตในร่างกายของหน่วยรบทุกคนถูกขับจนหมดสิ้น เฉินโม่ถึงจะไปจากที่นี่อย่างวางใจ

มียาก่อฐานช่วยเหลือ พลังความแข็งแกร่งของหน่วยรบพิเศษเหล่านี้ ก็ได้ยกระดับสูงขึ้นอีกครั้ง

อีกทั้งการฝึกฝนในอนาคต ก็จะราบรื่น และจะไม่ถูกชี่พิฆาตโจมตีอีกต่อไป

หากไม่มีเหตุสุดวิสัย หน่วยรบพิเศษเทพอินทรีทั้งสามสิบหกคน ใช้เวลาไม่นาน ก็จะกลายเป็นปรมาจารย์ทั้งสามสิบหกคน

หน่วยรบพิเศษที่ก่อตั้งด้วยปรมาจารย์สามสิบหกคน เชื่อว่าต้องทำให้ทุกประเทศสั่นสะเทือนอย่างแนนอน

ก่อนที่เฉินโม่จะจากไป ได้โทรหาเจียงเหอซาน และบอกเจียงเหอซานว่าภารกิจของเขาได้สำเร็จเสร็จสิ้นแล้ว

หลังจากที่เฉินโม่จากไป เจียงเหอซานก็มาที่ฐานหน่วยรบพิเศษเทพอินทรีด้วยตนเอง เพื่อตรวจสอบสภาพร่างกายของหน่วยรบพิเศษเทพอินทรี

ปรมาจารย์ทั้งสองคนซึ่งเป็นผู้ใต้บังคับบัญชาของเจียงเหอซาน หลังจากตรวจสอบสภาพร่างกายพวกหน่วยรบพิเศษเทพอินทรีแล้ว ก็ตกตะลึงจนยืนอยู่ที่เดิม

“เกิดอะไรขึ้น? ยังมีปัญหาอยู่หรือ? ฉันว่าแล้วไอ้เด็กนั่นเชื่อถือไม่ได้!” เจียงเหอซานกล่าวอย่างโกรธจัด

“ไม่ใช่ครับ เจียงโส่วจ่าง ไม่รู้ว่าเฉินโม่เอาอะไรให้พวกเขากิน ทำให้ความแข็งแกร่งของพวกเขาเพิ่มขึ้นอีกครั้ง และชี่ทิพย์ในร่างกายของพวกเขานั้นยิ่งใหญ่มาก ใช้เวลาไม่นาน พวกเขาก็จะกลายเป็นปรมาจารย์อย่างแน่นอน

ชั่วขณะเจียงเหอซานก็ตกตะลึง ทหารผ่านศึกคนนี้ ที่เคยอยู่ในสนามรบและประสบความสำเร็จนับไม่ถ้วน ก็ตกตะลึงกับข่าวนี้เช่นกัน!

ปรมาจารย์สามสิบหกคน นั่นมันความคิดอะไรเนี่ย!

หากเจ้าหน้าที่จีนมีพลังเช่นนี้ ควบคู่ไปกับความแข็งแกร่งของหน่วยมังกร ก็เพียงพอที่จะกวาดล้างทุกสำนักบู๊ของโลกนักบู๊ในประเทศหัวเซี่ย

ยิ่งกว่านั้น หน่วยรบพิเศษทั้งสามสิบหกคนหลอมรวมมาจากปรมาจารย์บู๊ และปรมาจารย์ในยุคสมัยใหม่ที่ใส่ชุดเกราะมีอาวุธครบและแข็งแกร่งสุดๆ แต่ละคนไม่ด้อยไปกว่าระเบิดนิวเคลียร์ที่มนุษย์สร้างขึ้น

ปรมาจรย์ทั้งสามสิบหกคน พลังนี้ไม่ได้ง่ายเหมือนหนึ่งบวกหนึ่งเท่ากับสองแบบนั้นแน่นอน ความแข็งแกร่งที่พวกเขารวมพลังกัน จะยิ่งเพิ่มขึ้นเป็นร้อยเท่า

เป็นครั้งแรกที่เจียงเหอซานหัวเราะ ยินดีปรีดา “เจ้าเด็กคนนี้ ในที่สุดก็ได้ทำเรื่องที่ดีที่สุด!”

“ผู้บังคับบัญชาชาญฉลาด!” หลังจากที่อารมณ์สงบลง เจียงเหอซานรู้สึกประทับใจกับการตัดสินใจของผู้บังคับบัญชาในเวลานั้น

ถ้าหากเปลี่ยนเป็นเจียงเหอซานเป็นผู้ตัดสินใจ เกรงว่าเขาคงจะกลายเป็นศัตรูตัวฉกาจของเฉินโม่ไปแล้ว

ในช่วงบ่าย เฉินโม่พึ่งจะกลับมาถึงมหาวิทยาลัยหัวหนานไม่นาน ก็มีจี๋ต๋าจิ่วตูและคนอื่นๆมาหาถึงที่

เมื่อเห็นสีหน้าที่กระตือรือร้นของทุกคน เฉินโม่นึกว่าเกิดอะไรขึ้น รีบถามว่า “เกิดอะไรขึ้น?”

จี๋ต๋าจิ่วตูแสดงสีหน้าไม่ได้รับความเป็นธรรมทันที แล้วร่ำร้องระบายความทุกข์ต่อเฉินโม่ “ไอ้เบื๊อกเฉินเอ้ย ทำไมนายถึงได้เก่งกาจขนาดนี้? แม้แต่ผู้ที่เข้มงวดและมีชื่อเสียงอย่างศาสตราจารย์เสิ่น ก็ยังโปรดปรานนายมาก!”

“แต่นายรู้ไหมว่า นายทำให้ฉันได้รับความลำบาก!”

เมื่อมองไปที่ห่าวเจี้ยนและคนอื่นกำลังอมยิ้ม เฉินโม่ก็รู้ว่าไม่มีเรื่องสำคัญอะไร ก็รู้สึกผ่อนคลายทันที

“ตกลงเกิดอะไรขึ้น นายช่วยอธิบายให้ชัดเจนหน่อยได้ไหม?” เฉินโม่เตะจี๋ต๋าจิ่วตู และดุด้วยรอยยิ้ม

จากการฟังทุกคนที่ต่างปั้นเรื่องราวขึ้น ในที่สุดเฉินโม่ก็เข้าใจแล้วว่าเกิดอะไรขึ้น

หลังจากวันชาติผ่านไป มหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงหลายแห่งกำลังเตรียมจัดงานประชุมแลกเปลี่ยนวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ศาสตราจารย์เสิ่นเป็นบุคคลที่มีอำนาจมากที่สุดในมหาวิทยาลัยหัวหนานสาขาวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ดังนั้นเขาจึงได้รับเชิญให้เข้าร่วม

ก่อนหน้านี้เคยมีการแลกเปลี่ยนเช่นนี้ แต่เป็นด้านสาขาวิชาอื่นๆ ทุกครั้งที่มหาวิทยาลัยหัวหนานได้รับเชิญให้เข้าร่วม สุดท้ายก็กลายเป็นตัวสำรองสำหรับคนอื่นๆ ความเด่นดังก็ถูกมหาวิทยาลัยใหญ่ๆแย่งไปหมด