แดนนิรมิตเทพ บทที่ 904
ครั้งนี้ ในที่สุดก็ถึงการประชุมแลกเปลี่ยนวิชาการ ศาสตราจารย์เสิ่นมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในด้านวิทยาศาสตร์ชีวภาพ ทุกคนในมหาวิทยาลัยหัวหนาน ต่างก็ตั้งหน้าตั้งตารอศาสตราจารย์เสิ่นจะสามารถช่วยล้างความอัปยศ เพื่อกู้หน้าให้กับมหาวิทยาลัยหัวหนานให้กลับคืนมา

แต่ว่า ไม่รู้ว่าครั้งนี้ศาสตราจารย์เสิ่นเป็นบ้าอะไร เขาถึงกับเจาะจงระบุชื่อแซ่ สั่งให้น้องใหม่ปีหนึ่งเป็นตัวแทนของเขาเพื่อเข้าร่วมงานประชุมแลกเปลี่ยนวิทยาศาสตร์ทางชีววิทยาในครั้งนี้

ผู้อำนวยการเกลี้ยกล่อม เพื่อนร่วมงานเกลี้ยกล่อม และนักศึกษาก็เกลี้ยกล่อม แต่ดูเหมือนศาสตราจารย์เสิ่นก็ยังใช้อารมณ์ดื้อรั้น ไม่ยอมอ่อนข้อ ไม่ว่ายังไงก็จะให้นักศึกษาใหม่คนนั้นเป็นตัวแทนของเขาไปเข้าร่วม เขาสามารถเป็นผู้ช่วยของนักศึกษาใหม่คนนั้น

ขณะนี้มหาลัยไม่มีทางเลือกอื่น ได้แต่ยอมตกลงกับคำขอของศาสตราจารย์เสิ่น แต่ไม่รู้ว่าน้องใหม่ที่ศาสตราจารย์เสิ่นให้ความสำคัญคนนั้น เป็นใครกันแน่?

น้องใหม่ปีหนึ่งที่ศาสตราจารย์เสิ่นกล่าวถึง แน่นอนก็คือเฉินโม่นั่นเอง

ตั้งแต่ที่เฉินโม่อยู่ต่อหน้าศาสตราจารย์เสิ่น มีความสามารถที่ล้ำเลิศใช้น้ำชีวิตแสดงวิถีการเกิดและการดับ และบรรยายถึงความหมายของชีวิตที่เกิดใหม่นั้น ศาสตราจารย์เสิ่นก็เชื่อมั่นในตัวเฉินโม่อย่างลึกซึ้งแล้ว

หากจะกล่าวว่าอยู่ในมหาวิทยาลัยหัวหนานบุคคลเดียวที่ศาสตราจารย์เสิ่นเชื่อมั่น ไม่ใช่ผู้ที่มีตำแหน่งสูงกว่าเขา หรือผู้ที่อายุมากกว่าเขาและมีคุณสมบัติมากกว่าเขา แต่กลับเป็นเฉินโม่นักศึกษาปีหนึ่งที่พึ่งเข้ามหาลัย

ชื่อของเฉินโม่ สาเหตุมาจากเรื่องของมู่หรงยานเอ๋อร์กับเล่หรูหั่ว นักศึกษามากกว่า80%ของมหาวิทยาลัยหัวหนานก็แทบรู้จักเขา

แต่พอหลังจากรู้ว่าบุคคลที่ศาสตราจารย์เสิ่นให้ความสำคัญเป็นเฉินโม่ เพื่อนร่วมชั้นทุกคนก็ตะลึง และถอนหายใจด้วยความโศกเศร้า

สาเหตุเพราะเรื่องของมู๋หรงยานเอ๋อร์กับเล่หรูหั่ว ในความคิดเห็นของเพื่อนร่วมชั้นส่วนใหญ่ที่มีต่อเฉินโม่คือเป็นคนที่การเรียนไม่เอาไหน เป็นเพียงไอ้สวะที่ชอบหยอกล้อเอาใจให้ผู้หญิงให้ดีใจเท่านั้น ให้เขาเข้าร่วมงานประชุมแลกเปลี่ยนวิทยาศาสตร์ เท่ากับไปอับอายขายหน้าเปล่าๆ?

แต่ท่าทีของศาสตราจารย์เสิ่นแน่วแน่ โดยอ้างว่าถ้าหากเฉินไม่ไป เขาก็จะปฏิเสธที่จะเข้าร่วมงานประชุมแลกเปลี่ยนในครั้งนี้

ตอนนี้ ทางมหาลัยทำได้แต่ประนีประนอมอีกครั้ง ถ้าหากศาสตราจารย์เสิ่นไม่ไป ให้ใครไปก็เป็นแค่ตัวสำรองเท่านั้น ขอเพียงศาสตราจารย์เสิ่นยอมไป แม้ว่าเขาจะเป็นแค่ผู้ช่วยของเฉินโม่ ก็ยังดีกว่าไม่ไปเลย!

หลังจากตกลงกันได้แล้ว ทางมหาลัยก็เริ่มตามหาเฉินโม่ แต่พบว่าเฉินโม่ได้หนีเรียนมาหลายวันแล้ว และจี๋ต๋าจิ่วตูที่ช่วยเฉินโม่ลงชื่อเข้าเรียนมาโดยตลอด ก็ถูกจับได้ทันที

จี๋ต๋าจิ่วตูที่น่าสงสารแน่นอนต้องถูกทุกคนวิพากษ์วิจารณ์อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่ทุกคนหาเฉินโม่ไม่พบ ดังนั้นพวกเขาจึงต้องพุ่งเป้าไปที่ตัวจี๋ต๋าจิ่วตู

ดังนั้น ตัวจี๋ต๋าจิ่วตูจึงได้รับความไว้วางใจให้รับหน้าที่สำคัญ ให้เขาตามหาเฉินโม่ภายในเวลาที่กำหนด ไม่งั้นก็จะถูกลงโทษอย่างรุนแรง

ตัวจี๋ต๋าจิ่วตูได้โทรหาเฉินโม่ แต่โทรศัพท์ของเฉินโม่อยู่ในช่วงปิดเครื่องโดยตลอด ตัวจี๋ต๋าจิ่วตูไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากเฝ้ารออยู่หน้าบ้านเช่าของเฉินโม่ทุกวัน ในที่สุดวันนี้เขาก็รอจนพบเฉินโม่ มีหรือจี๋ต๋าจิ่วตูจะไม่ตำหนิติเตียน?

หลังจากได้รู้รายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว เฉินโม่อดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมาศาสตราจารย์เสิ่นคนนี้น่าสนใจจริงๆ!

ศาสตราจารย์เสิ่นเป็นญาติของเสิ่นเจี้ยนเหวิน แต่เขาเป็นคนซื่อตรง ไม่เพียงไม่ช่วยเสิ่นเจี้ยนเหวินก่อการทำชั่ว แต่กลับตำหนิเสิ่นเจี้ยนเหวินอย่างโกรธเคือง

นี่คือบุคคลที่มีความศรัทธาและมีศีลธรรม และเฉินโม่ก็มีความเคารพนับถือต่อศาสตราจารย์เสิ่นอยู่บ้าง

แต่ว่า เฉินโม่คงไม่มีเวลาเข้าร่วมงานประชุมแลกเปลี่ยนนั้น ตอนนี้เขาได้วิญญาณธาตุน้ำ ต่อไปเขาไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับพลังชาตะธาตุน้ำ เขาสามารถตั้งใจฝึกฝนร่างธาตุน้ำ

“เอาล่ะ พวกนายช่วยฉันไปบอกศาสตราจารย์เสิ่นด้วย บอกว่าฉันซาบซึ้งในความเมตตาของเขามาก แต่ว่าฉันไม่สนใจ!” เฉินโม่ปฏิเสธอย่างไร้ความปรานี

“ไม่ได้!”

คาดไม่ถึงว่า จี๋ต๋าจิ่วตูปฏิเสธอย่างแรง “ไอ้เบื๊อกเฉินเอ้ย ไม่ว่ายังไงนายก็ต้องกลับไปมหาลัยกับฉัน ถ้าหากพรุ่งนี้นายไม่ปรากฏตัว ฉันก็จะถูกไล่ออกจากมหาลัยแล้ว!”

“ถึงขั้นร้ายแรงขนาดนี้เลยเหรอ?” เฉินโม่มองไปที่กู่หลินเฟินและคนอื่นๆ

กู่หลินเฟินและคนอื่นๆต่างก็พยักหน้า

เจี่ยจวินเซี่ยก็พูดว่า “ถ้าแค่ช่วยนายลงชื่อว่าได้เข้าเรียน ก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรมากนัก มีนักศึกษาจำนวนมากที่ทำแบบนี้เหมือนกัน แต่เป็นเพราะการยืนกรานที่แน่วแน่ของศาสตราจารย์เสิ่น ทำให้มหาลัยไม่พอใจในตัวนายมาก ดังนั้นจึงทำให้ไอ้อ้วนที่น่าสงสารต้องมาเดือดร้อนด้วย”