EG บทที่ 703 หลอกให้หลงเชื่อ 2

 

“คุณเฝิงครับ นี่คือข้อมูลทั้งหมดสำหรับการวิจัยนี้ ซึ่งมีมูลค่าอย่างน้อย 8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ นั่นเป็นเพราะว่าเราทำการวิจัยนี้ไปได้ไม่มากเท่าไหร่นัก ไม่งั้นเราจะไม่ยอมขายเด็ดขาดแม้ว่าจะเสนอเงิน 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐก็ตาม!”

 

8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ? ให้ตายสิ! คุณคิดว่าผมโง่หรือไง?! ขนาดคุณปล้นธนาคาร คุณยังไม่ได้เงินเยอะเท่านี้เลย

 

“คุณวิกเตอร์ครับ คุณบอกว่าคุณทำการวิจัยนี้ไปได้ยังไม่เยอะและข้อมูลมีน้อยมาก แล้วมันจะมีมูลค่า 8 ล้านได้ยังไงครับ?”

 

“ความเป็นไปได้สำหรับโครงการนี้มีสูงมากครับ พวกคุณจะได้รับผลตอบแทนสูงหลังจากที่คุณพัฒนายานี้สำเร็จแล้ว”

 

“แล้วถ้าโครงการนี้ดีมาก ทำไมคุณถึงขายล่ะครับ? ผมเดาว่าคงจะต้องใช้เงินจำนวนมากเพื่อดำเนินการวิจัยหรือไม่ก็เกิดปัญหากับงานวิจัยนี้ ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตามความน่าจะเป็นของโครงการนี้คงไม่ดีเท่าที่คุณอ้างไว้หรอกครับ” ไมเคิลหลิวพูด

 

วิกเตอร์ขมวดคิ้ว ล่ามคนนี้เป็นหนึ่งในผู้เจรจาต่อรองของเฝิงหยู่ เขาจับผิดและหาข้อบกพร่องเจอจากสิ่งที่ผมพูดได้ ให้ตายสิ! หากไม่มีล่ามคนนี้ เฝิงหยู่อาจจะยอมตกลงราคาแล้วก็ได้!

 

ก่อนที่วิกเตอร์จะเถียงกลับ ไมเคิลหลิวก็พูดต่อว่า “เว้นแต่ว่าพวกคุณจะรวมงานวิจัยทุกอย่างแล้วขายทั้งหมดมาให้เราในราคาเหมาจ่าย”

 

วิกเตอร์ตะลึง ขายรวมทั้งหมดในราคาเหมาจ่ายเนี่ยนะ? ฤทธิ์ของยาพวกนี้มีความคล้ายคลึงกันมาก แต่ถ้านำยาพวกนี้มาผสมเข้าด้วยกัน อาจจะกลายเป็นพิษได้ คนพวกนี้รู้หรือเปล่าว่ากำลังทำอะไรอยู่?

 

แม้ว่าพวกเขาจะไม่รู้เรื่องพวกนี้ทั้งหมด แต่ศาสตราจารย์หวังก็น่าจะรู้

 

คนจีนทุกคนเป็นแบบนี้กันหมด ยาจีนโบราณของพวกเขายังผสมสมุนไพรทุกชนิดเข้าด้วยกันเลยและอ้างว่าสามารถรักษาโรคได้ พวกเขาไม่มียามาตรฐานและสูตรยาต่างๆ ก็ถูกคิดค้นขึ้นมาโดยแพทย์ ช่างเป็นปาฏิหาริย์จริงๆ ที่ชาวจีนอยู่รอดมาได้นานขนาดนี้!

 

“คุณเฝิงครับ นี่คือสิ่งที่คุณต้องการหรอ?” วิกเตอร์หันมาหาเฝิงหยู่

 

“ใช่ครับ โอเคมั้ยครับ? ทำไม่ได้หรอครับ? การวิจัยทั้งหมดนี้ยังเสร็จสมบูรณ์เพียงแค่ครึ่งเดียวไม่ใช่หรอครับ? พวกคุณน่าจะใช้เงินไปไม่เยอะมากเท่าไหร่สำหรับโครงการพวกนี้ คุณกังวลฤทธิ์ของยาพวกนี้จะชนกันใช่มั้ยครับ? เราสามารถเพิ่มสารยับยั้งบางอย่างลงไปได้และก็จะช่วยแก้ปัญหาพวกนี้ได้ทั้งหมด” เฝิงหยู่ตอบกลับด้วยสีหน้าและท่าทางแบบว่า “ผมเป็นผู้เชี่ยวชาญ อย่าพยายามหลอกผมเลย”

 

วิกเตอร์ประหลาดใจที่เฝิงหยู่รู้จักสารยับยั้ง

 

สารยับยั้งสามารถนำมาใช้ในการหยุดหรือลดผลกระทบของปฏิกิริยาทางเคมีระหว่างสารต่างๆ ได้ มันคือตัวเร่งปฏิกิริยาเชิงลบ

 

แต่ถึงแม้ว่าจะเพิ่มสารยับยั้งเข้าไปแล้ว แต่ก็ไม่สามารถหยุดปฏิกิริยาทางเคมีของยาได้อย่างสมบูรณ์ คนโง่เขลาไม่ใช่เรื่องน่ากลัว แต่สิ่งที่น่ากลัวคือคนโง่เขลาที่คิดว่าตัวเองรู้ทุกเรื่อง

 

ในสายตาของวิกเตอร์ เฝิงหยู่เป็นคนแบบนี้ แต่คนประเภทนี้มีข้อดีอย่างหนึ่ง ซึ่งก็คือพวกเขาจะถูกหลอกได้ง่ายเมื่อคุณใช้ศัพท์เฉพาะบางอย่างที่พวกเขาไม่เข้าใจ

 

ไมเคิลหลิวกล่าวเสริม “ไฟเซอร์น่าจะมีผลิตภัณฑ์สารยับยั้งมากมาย พวกคุณสามารถขายสารยับยั้งบางส่วนให้เราได้นะครับ เรายินดีจ่าย”

 

พวกเขายังต้องการซื้อสารยับยั้งด้วยหรอ? ไฟเซอร์มีสารยับยั้งมากมายที่ถูกเพิ่มเข้าไปในยาของพวกเขา แต่ถ้าพวกเขาจะขายสารยับยั้ง มันก็ต้องสามารถนำไปใช้งานได้หรืออย่างน้อยก็ใช้ได้ในขั้นตอนการสังเกตการณ์ระหว่างการทดลอง

 

“คุณเฝิงครับ ผมต้องปรึกษากับทางบริษัทผมก่อน เราสามารถพูดคุยเรื่องราคาสำหรับงานวิจัยอื่นๆ ก่อนได้มั้ยครับ?” วิกเตอร์ถาม

เฝิงหยู่โบกมือ “เราต้องพูดคุยเรื่องราคาสำหรับยาทั้งหมดนี้ เราต้องการผสมรวมทุกอย่างเพื่อผลิตยาที่มีประสิทธิภาพสูงสุด แล้วเราจะคุยเรื่องราคายาแค่หนึ่งตัวได้ยังไงกันล่ะครับ?”

 

ให้ตายสิ! คุณคิดว่าคุณกำลังทำเมนูผลไม้รวมมิตรหรือไง? การผสมยาทั้งหมดเข้าด้วยกันจะไม่ได้ก่อให้เกิดยาที่มีประสิทธิภาพสูงสุดนะ แต่คุณจะได้รับพิษขั้นสุดยอดแทน!

 

เฝิงหยู่ไม่เปิดโอกาสให้วิกเตอร์โน้มน้าวเขาอีกต่อไป เขากลับไปที่โรงแรมทันที

 

วิกเตอร์รู้สึกผิดหวัง เขาคิดว่าเฝิงหยู่จะซื้องานวิจัยที่ล้มเหลวอย่างน้อยสองงานในวันนี้ และเขาจะบรรลุเป้าหมาย 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐได้อย่างง่ายดาย

 

ถ้าวิกเตอร์สามารถขายงานวิจัยพวกนี้ได้ในราคาที่สูงกว่า 10 ล้าน เขาก็ยังได้รับรางวัลตอบแทนอย่างงาม แต่คนพวกนี้กำลังคิดอะไรอยู่? พวกเขาเชื่อจริงๆ หรอว่าการได้รับข้อมูลงานวิจัยมากขึ้นและรวมทุกอย่างเข้าด้วยกันจะทำให้พวกเขาผลิตยาใหม่ขึ้นมาได้?

 

วิกเตอร์รายงานเรื่องนี้ให้จอร์จรับทราบและจอร์จก็ลังเล สารยับยั้งต้องมีฤทธิ์เป็นผลถ้าพวกเขาจะขายให้กับ เฝิงหยู่ ไม่มีทางที่พวกเขาจะหลอกเฝิงหยู่เรื่องสารยับยั้งได้ แต่พวกเขาก็เป็นคนคิดค้นสารยับยั้งพวกนี้เองและใช้เงินทุนจำนวนมาก พวกเขาไม่เคยคิดที่จะขายสารยับยั้งพวกนี้

 

แต่ถ้าพวกเขาขายสารยับยั้งพวกนี้เหมารวมไปพร้อมกับงานวิจัยอื่นๆ พวกเขาก็จะสามารถขายข้อมูลการวิจัยที่ไร้ประโยชน์พวกนั้นและได้เงินมากกว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งราวกับว่าเงินนี้ตกลงมาจากท้องฟ้าเลยทีเดียว

 

“คุณจอร์จครับ ถ้ารวมสารยับยั้งเข้าไปด้วย พวกเขาก็จะซื้อผลิตภัณฑ์ของเราแน่นอน และผมมั่นใจว่าเราสามารถขายให้พวกเขาได้ในราคาที่สูงขึ้น มากกว่า 10 ล้านดอลลาร์สหรัฐแน่นอนครับ!”

 

“ไม่ได้ เราใช้เวลาในการพัฒนาสารยับยั้งพวกนี้มาตั้งนาน แค่ 10 ล้านไม่พอหรอก เราจะต้องได้อย่างน้อย 20 ล้านดอลลาร์สหรัฐ! คุณจัดการได้หรือเปล่า?” จอร์จตัดสินใจ

 

วิกเตอร์กัดฟันแล้วพูดว่า “ได้ครับ ถ้าคุณช่วยบอกมาร์คให้พวกเขาเลือกสิ่งที่พวกเขาต้องการจากสารยับยั้งทั้งหมดของเรา!”

 

“ไม่มีปัญหา ผมเชื่อใจคุณและผมหวังว่าคุณจะไม่ทำให้ผมผิดหวัง หากข้อตกลงนี้สำเร็จ ผมจะไม่ลืมคุณเลย แต่ถ้าคุณทำไม่สำเร็จ ผมจะส่งคุณไปแอฟริกา!”

 

แอฟริกา? วิกเตอร์ไม่อยากไปแอฟริกา!

 

วิกเตอร์ตั้งใจแน่วแน่ที่จะทำข้อตกลงนี้ให้สำเร็จ เขาต้องใช้วิธีการเล่ห์เหลี่ยมบางอย่างแล้วล่ะ

 

“คุณจอร์จครับ ผมต้องการเงินจำนวนหนึ่งเพื่อไปเลี้ยงต้อนรับพวกเขาครับ”

 

“เท่าไหร่ว่ามา”

 

“1 ล้านดอลลาร์สหรัฐครับ ผมสัญญาว่าผมจะขายข้อมูลการวิจัยให้ได้มากกว่า 21 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เราจะสามารถชดเชยค่าใช้จ่ายในการเลี้ยงต้อนรับพวกนี้ได้! ในประเทศจีน คนจีนชอบของขวัญกันครับ”

 

จอร์จมองหน้าวิกเตอร์สักครู่แล้วหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาบนโต๊ะเพื่อโทรไปที่แผนกการเงิน “เตรียมเงินหนึ่งล้านให้วิกเตอร์เป็นค่าใช้จ่ายเลี้ยงต้อนรับลูกค้า”

 

วิกเตอร์ขอบคุณจอร์จและกลับไป เขามั่นใจว่าเขาจะประสบความสำเร็จ!

 

ในช่วงบ่าย เฝิงหยู่ได้รับโทรศัพท์จากวิกเตอร์ วิกเตอร์บอกเขาว่าบริษัทได้อนุมัติการขายสารยับยั้งแล้ว เขาขอให้เฝิงหยู่ไปที่ห้องปฏิบัติการของไฟเซอร์เพื่อดูว่าพวกเขาต้องการสารยับยั้งตัวไหน

 

เฝิงหยู่บอกเขาตรงๆ ว่าเขาเหนื่อย ศาสตราจารย์หวังและล่ามจะไปทำหน้าที่แทนเขา

 

วิกเตอร์ไม่คิดว่าเรื่องต่างๆ จะดำเนินไปได้อย่างราบรื่นขนาดนี้ เฝิงหยู่จะไม่มา และสองคนนั่นที่เขาต้องการติดสินบนจะเป็นคนมาที่ห้องปฏิบัติการแทน

 

ศาสตราจารย์หวังมองดูเทคนิคการผลิตสารยับยั้งของไฟเซอร์ นอกจากนี้ เขายังพบข้อมูลการวิจัยที่เฝิงหยู่ กำลังมองหาด้วย

 

“ศาสตราจารย์หวังครับ คุณมาที่อเมริกาสักพักนึงแล้ว คุณอยากซื้อของฝากกลับไปให้ครอบครัวบ้างมั้ยครับ?”

 

“โอ้ เดี๋ยวผมคงต้องซื้อบ้างแหละครับ”

 

“ศาสตราจารย์หวังครับ นี่ครับของขวัญสำหรับคุณ คุณสามารถนำไปขึ้นเงินที่ประเทศจีน” วิกเตอร์ส่งเช็คให้กับศาสตราจารย์หวัง วิกเตอร์รู้ว่าศาสตราจารย์หวังชอบเงินตอนที่พวกเขาเล่นแบล็คแจ็คบนเครื่องบิน

 

ศาสตราจารย์หวังหรี่ตา 100,000 ดอลลาร์สหรัฐหรอ? วิกเตอร์ต้องการติดสินบนเขาจริงๆ

 

“คุณวิกเตอร์ครับ ผมรับของขวัญนี้ไว้ไม่ได้ครับ”

 

“ไม่ได้นะครับ ……นี่คือของขวัญสำหรับคุณโดยเฉพาะเลย ผมคิดว่าคุณต้องการสิ่งนี้ จริงมั้ยครับ? ไม่มีใครรู้เรื่องนี้หรอกครับ หลังจากที่คุณกลับไปที่จีน ผมก็จะยังให้เงินจำนวนหนึ่งกับคุณอยู่”

 

“คุณต้องการอะไรจากผม?” ศาสตราจารย์หวังถาม

 

“ผมแค่อยากรู้ว่าข้อมูลการวิจัยไหนที่เฝิงหยู่ต้องการและเขาจะยอมจ่ายให้เท่าไหร่?”

 

“ผมรู้แค่ว่าเขาสนใจงานวิจัยชิ้นไหน แต่ผมไม่รู้ว่าเขาจะจ่ายเท่าไร ล่ามหลิวพอจะรู้เรื่องนั้นบ้าง”

 

“ขอบคุณครับ แค่รู้ว่าเขาจะเลือกงานวิจัยชิ้นไหนก็เพียงพอแล้วครับ”

 

“คุณไม่คิดว่าเงิน 100,000 ดอลลาร์สหรัฐน้อยเกินไปหรอครับ?” อยู่ดีๆ ศาสตราจารย์หวังก็พูดขึ้นมา

 

วิกเตอร์หัวเราะ เขาไม่กลัวว่าศาสตราจารย์หวังจะต้องการเงินเพิ่มอีก เขาแค่กังวลว่าศาสตราจารย์หวังจะไม่รับสินบน

 

“ผมจะส่งให้คุณอีก 200,000 ดอลลาร์สหรัฐหลังจากได้รับข้อมูลครับ”

 

“300,000 ดอลลาร์สหรัฐ”

 

“ฮ่าๆๆๆ ศาสตราจารย์หวังเป็นคนพูดจาตรงไปตรงมามากเลยครับ ตกลงครับ 300,000 ดอลลาร์สหรัฐ ผมจะจ่ายให้คุณภายหลัง หวังว่าจะได้ร่วมงานกับคุณนะครับ!”