ตอนที่ 326 ยังไม่ถึงเวลา
อวิ๋นเว่ยลูบท้ายทอย “เธอยังต้องไปเรียนครับ ไม่ใช่มาได้ตามใจชอบ ถ้าทำให้เสียการเรียนแล้วจะทำอย่างไร” ก่อนหน้านี้เขาเคยคิดเรื่องนี้ แต่ปัญหาคือตอนนั้นใกล้เปิดภาคเรียนแล้ว
เขาจะทำอะไรได้ เขาเองก็นึกเสียดาย แต่ไม่เป็นไรหรอก ต่อจากนี้ยังมีโอกาสที่จะให้พ่อแม่ตนได้พบเธอ
อวิ๋นเซินคิดเล็กน้อยแล้วพยักหน้า “ก็ใช่ เด็กคนนั้นยังเรียนมหาวิทยาลัย มหาวิทยาลัยไหน คณะอะไร มีรูปให้พ่อดูหน่อยไหม” สามารถทำให้ลูกชายตนชื่นชมได้ เด็กสาวคนนี้ไม่ธรรมดาแน่
“มีครับ พ่อ นี่ครับ” อวิ๋นเว่ยหยิบมือถือออกมา ท่าทางราวกับมอบของล้ำค่าให้ เปิดภาพถ่ายคู่ที่เขาเคยถ่ายกับอีลั่วเสวี่ย อย่าว่าไป ดูหน้าตาแล้วมีส่วนคล้ายกัน
พออวิ๋นเซินเห็นรูปถ่ายก็แปลกใจทันที “ลูกพ่อ แกแน่ใจนะว่าไม่ได้หาลูกสะใภ้ให้พ่อ ไม่มีผู้หญิงอื่น?” หรือเจ้าลูกนี้แอบไปมีผู้หญิงไว้ข้างนอกจริงๆ นี่ก็คือลูกสาวแท้ๆ ของพวกเขา
ก็แค่อาศัยโอกาสนี้ทำให้เธอมาปรากฏตัวต่อหน้าพวกเขาเท่านั้น ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง เขาไม่ยอมรับ คนตระกูลอวิ๋นของพวกเขา ไม่ว่าชายหญิงต้องปฏิบัติต่อความรักอย่างจริงจัง
แน่ละนี่เป็นสภาพพิเศษ ก่อนนี้พวกเขาเคยสนับสนุนให้ลูกชายแต่งงานใหม่ เพราะอย่างไรเขาก็ต้องมีคนมาดูแล จะอยู่เป็นหม้ายตลอดไปได้หรือ น่าเสียดายที่ลูกชายไม่ฟัง
อวิ๋นเว่ยได้ยินเช่นนั้นมุมปากกระตุกทันที “พ่อ พ่อพูดบ้าอะไร ผมเป็นคนประเภทนั้นหรือ?” เขานึกอย่างไรก็นึกไม่ถึงว่าหลังจากบิดาดูรูปถ่ายแล้วจะคิดถึงปัญหานี้
“ใครจะรู้ได้ พอลูกโตแล้ว พ่อแม่ก็คุมไม่ได้ พ่อจะรู้ได้อย่างไรว่าแกแอบไปทำอะไรไว้” อวิ๋นเซินสีหน้าจริงจัง
จากนั้นก็ขยายรูปให้ใหญ่ขึ้นแล้วดู พอดูอย่างละเอียด สีหน้าก็อ่อนโยนลง “เหมือน เหมือนจริงๆ ลูกพ่อ มีโทรศัพท์ไหม พ่ออยากคุยกับหลานสาวคนนี้ ไม่สิ พ่อจะคุยแบบวิดีโอคอลล์”
ยายหนูนี่ท่าทางฉลาดจริงๆ วันหลังเขามีหลานสาวแล้ว ถ้าใครยังหัวเราะเยาะเขา ต้องโดนดีแน่
อวิ๋นเว่ยรีบดึงมือถือกลับมา “ไม่ได้ ไม่ได้หรอกครับ เสวี่ยเอ๋องานเรียนยุ่งมาก เธอยังต้องจัดการงานของบริษัทด้วย ไม่มีเวลาคุยวิดีโอคอลล์กับพ่อหรอก” พูดเป็นเล่น แม้แต่จะคุยโทรศัพท์กับตัวเขาเองก็ยังไม่ค่อยมีเวลา จะให้พ่อตนเองไปรบกวนเธอได้หรือ
พอเห็นสีหน้าบิดาไม่พอใจ อวิ๋นเว่ยรีบพูดแก้ตัวทันที “อีกอย่าง ตัวพ่อสำหรับเธอแล้วถือว่าเป็นคนแปลกหน้า ต้องให้เวลาเธอปรับตัวบ้าง พ่อรู้ไหม พอใกล้ปลายปี ในวันเกิดครบหกสิบสี่ของพ่อ ถึงตอนนั้นผมจะพาเธอมานับญาติครับ”
พออวิ๋นเซินคิดทบทวนดู สีหน้าที่หมองคล้ำก็ค่อยๆ สดใสขึ้น “อย่างนี้ค่อยยังชั่วหน่อย จำไว้นะ ต้องพาเธอมาให้ได้ รู้ใช่ไหม” คนในครอบครัวตัวเองจะไม่มาได้อย่างไร
“ไม่ถูก แกจะปล่อยยายหนูไว้ที่นั่นได้ยังไง ถ้าพวกที่คราวก่อนมาลอบสังหารรู้ว่ายายหนูอยู่ที่นั่น จะไม่อันตรายหรือไง?”
เมื่อกี้ยังเหมือนไม่ค่อยใส่ใจ แต่หลังจากดูรูปแล้ว ก็เปลี่ยนเป็นเรียกยายหนูทุกคำ คงเห็นเธอเป็นหลานสาวจริงๆ แล้ว คนตระกูลอวิ๋นง่ายๆ และยอมรับความจริง
ยอมรับคนเร็วมาก แต่กลับปกป้องตลอดไป
อวิ๋นเว่ยเห็นบิดาเอาใจใส่อีลั่วเสวี่ยเช่นนี้ ก็ดีใจมาก
“วางใจเถอะครับ เสวี่ยเอ๋อฝีมือเยี่ยมมาก อีกอย่างยังมีเฉวียนหมิงคอยปกป้องเธอ เรื่องนี้พ่อไม่ต้องกังวลครับ” สำหรับเฉวียนหมิงนั้น แม้ว่าตอนนี้เขาไม่ค่อยเห็นด้วยที่จะให้ทั้งสองคนอยู่ด้วยกัน แต่เขาเป็นคนที่ผ่านโลกมา มองออกว่าลูกสาวเธอดีต่อเขาเป็นพิเศษ คิดดูแล้วคงต้องปล่อยไปเอง ขณะนี้ร่างกายเขาดีขึ้นแล้ว ย่อมคุ้มครองเธอไม่ให้ได้รับอันตรายเด็ดขาด
ตอนที่ 327 ข้อเสนอของแม่เฒ่า
ส่วนปัญหาความปลอดภัยนั้น ผ่านเหตุการณ์ครั้งก่อน ทำให้เขาไม่วิตกแม้แต่น้อย เธอเป็นผู้บำเพ็ญเพียร ฝีมือยังเหนือทหารในหน่วยเขาสิบคนรวมกัน
ถึงตอนนั้นเธอไม่เล่นงานคนก็ดีแล้ว ไม่จำเป็นต้องกังวลว่าคนอื่นจะเล่นงานเธอ อีกอย่างนอกจากเฉวียนหมิงแล้วยังมีหลิงเป่าถังอยู่ที่นั่น เขารู้ดีถึงความสัมพันธ์ระหว่างเธอกับหลิงเป่าถัง ถ้าเกิดอะไรขึ้นจริงๆ หลิงเป่าถังไม่นิ่งนอนใจแน่นอน จะอย่างไรเฟิงฉี่ก็เรียกเธอว่าเจ๊ทุกคำ ไม่ใช่เรียกอย่างเรื่อยเปื่อย
“เฉวียนหมิง เฉวียนหมิง…หลานชายของตาเฒ่าเฉวียนสือหรือ?” อวิ๋นเซินคิดเล็กน้อย ในหัวมีภาพเด็กชายหน้าตาหล่อเหลา แววตาฉลาดเฉลียวแฝงไว้ด้วยความเย็นชา
อวิ๋นเว่ยผงกหัว “ใช่เขาครับ ดังนั้นพ่อวางใจได้”
“วางใจ เจ้าหนูนั่นตอนเด็กก็ฉลาดดีหรอก แต่เวลานี้ใครจะรู้ว่าเป็นยังไงบ้าง แม้ตาเฒ่าเฉวียนสือจะพูดอวดไม่ขาดปากว่าหลานชายตัวเองเก่งกาจขนาดไหน แต่เขานั่งเก้าอี้เข็นไม่ใช่หรือ แล้วจะคุ้มครองยายหนูได้ยังไง”
มุมปากอวิ๋นเว่ยกระตุก คิดในใจว่า “พ่อ อย่าดูถูกคนอย่างเฉวียนหมิงเชียว ถ้าเฉวียนสือได้ยินเข้า ถ้าไม่ทะเลาะกันก็คงแปลก”
“เขากินโอสถทิพย์ที่เฟิงฉี่แห่งหลิงเป่าถังขอมาจากอาจารย์ เดินเหินไม่มีปัญหาแล้ว ผมว่านะ พ่อ ทำไมพอตื่นเต้นยิ่งกว่าผมอีก เสวี่ยเอ๋อเป็นลูกสาวผม ผมหามา” อวิ๋นเว่ยเน้นคำพูดสองประโยคหลัง
เวลานี้ดูแล้วเขาเป็นเหมือนแม่บ้าน ต้องคอยรายงานความเคลื่อนไหวของอีลั่วเสวี่ยให้รู้
อวิ๋นเซินไม่สนใจคำพูดของลูกชาย เขาพึมพำออกมา “ลูกสาวแกก็คือหลานฉัน มีปัญหาไหม?”
“ครับ ไม่มีปัญหา” อวิ๋นเว่ยพูดคล้อยตาม ถึงตอนนี้ประตูเปิดออก แม่เฒ่าท่าทางมีสง่าราศรีคนหนึ่งเดินเข้ามา
แม่เฒ่าสวมเสื้อตัวหลวมโพรก คลุมไหลด้วยผ้าคลุมไหล่ขนแกะหนาหนัก ดูท่าทางสูงศักดิ์แต่ไม่ขาดความเมตตา ข้างๆ เป็นเด็กสาวคนหนึ่ง ขณะนี้กำลังเกาะมือเด็กสาวคนนี้
“อะไรไม่มีปัญหา สองพ่อลูกนี่พอลูกชายกลับมาก็แอบมาคุยกันเอง จนลืมยายแก่อย่างฉันไปแล้ว” ฝานเหม่ยหลิงถลึงตาใส่อวิ๋นเซิน ท่าทางไม่พอใจมาก
ทุกครั้งทำเหมือนปรึกษางานใหญ่ของชาติ ทำให้แม่เฒ่าต้องรอพักหนึ่งจึงจะมาพบได้
“แม่ ไม่ใช่อย่างนั้นหรอกครับ ตอนที่ผมมาถึง ได้ยินว่าแม่พักผ่อนอยู่ ก็เลยมาพบพ่อที่นี่ก่อน แม่ก็รู้ที่เราคุยกันนั้นแม่ไม่สนใจหรอกครับ” อวิ๋นเว่ยพูดพลางคลำหน้าผาก แล้ววิ่งมาหามารดา ช่วยพยุงแม่เฒ่า
“สวัสดีค่ะอาอวิ๋น” เด็กสาวทักทาย มองดูเขาด้วยสายตาเคารพ ยิ้มอย่างมีมารยาท เธอชื่อฝานเจียวเจียว เป็นหลานสาวของพี่ชายแม่เฒ่า จึงถือเป็นหลานของนางด้วย
อวิ๋นเว่ยพยักหน้ารับ แสดงว่าตนเองได้ยินแล้ว แล้วพยุงมารดานั่งลง
ฝานเจียวเจียวช่วยจัดผ้าคลุมไหล่ให้แม่เฒ่าทันทีด้วยความเอาใจใส่ “เข้าฤดูใบไม้ร่วงแล้ว อากาศเย็น ย่ารองต้องระวังหน่อยค่ะ”
แม่เฒ่าดึงฝานเจียวเจียวนั่งลงด้วยความใจดี “เป็นเจียวเจียวค่อยเอาใจใส่ ถ้าหนูเป็นหลานสาวฉันก็คงดีหรอก เสี่ยวเว่ย ไม่งั้นลูกรับเจียวเจียวเป็นลูกสาวเถอะ พออย่างนี้แล้วยายแก่อย่างแม่จะได้มีคนอยู่เป็นเพื่อนแล้ว”
ลูกชายตนเองไม่แต่งงานใหม่เสียที ไม่รู้ว่าสกุลอวิ๋นจะมีผู้สืบทอดหรือไม่ นางไม่ใช่คนที่ยึดติดแบบแผนโบราณ ต้องมีผู้สืยสายเลือดสกุลอวิ๋นให้ได้ ก็เพียงอยากมีคนฝากผีฝากไข้ได้สักคน ไม่เช่นนั้นพอพวกตนสามคนพ่อแม่ลูกจากไปแล้ว กิจการใหญ่โตของสกุลอวิ๋นจะทิ้งไว้ให้ใคร?
อวิ๋นเว่ยขมวดคิ้ว “แม่ เรื่องนี้แม่เอ่ยถึงหลายครั้งแล้ว พ่อแม่ของเจียวเจียวก็ยังอยู่ ยังเป็นลูกสาวคนเดียวด้วย แม่จะแย่งหลานสาวคนอื่นหรือครับ?”
ฝานเหม่ยหลิงมีหลานสาวฝานเจียวเจียวมาอยู่เป็นเพื่อนบ่อยๆ หลานสาวคนนี้อยากได้อวิ๋นเว่ยเป็นพ่อบุญธรรม ต้องการอาศัยอิทธิพลของตระกูลอวิ๋นไต่เต้าสูงขึ้น