บทที่ 2156+2157

ลำนำบุปผาพิษ

บทที่ 2156 หนี

กู้ซีจิ่วตะลึง

“…ไม่ได้!”

เธอย่อมรู้ดีว่าวิธีนี้ถูกต้องที่สุดแล้ว แต่เธอจะทอดทิ้งคนเหล่านั้นได้อย่างไร?

ผู้เฒ่าหลายท่านนั้นดีต่อเธอยิ่งนัก ยามปกติมีของกินดีๆ อันใดก็ล้วนเก็บไว้ให้เธอกิน ปฏิบัติต่อเธอเหมือนลูกหลานในสายเลือด…พวกเขามีน้ำใจสูงส่ง ได้รับความเคารพนับถือจากคนทั้งหมู่บ้าน

ผู้เฒ่าเหล่านี้ก็วาดหวังอยากออกไปเช่นกัน อยากออกไปดูโลกภายนอก หากทิ้งพวกเขาไว้ที่นี่…พวกเขาจะยังมีรอดอยู่อีกหรือ?!

เธอสูดหายใจเบาๆ

“พวกเราคิดกันอีกที น่าจะมีวิธีอื่นอยู่!”

ตี้ฝูอีย่อมเข้าใจจิตใจของกู้ซีจิ่วดี เขาตอบอืมคำหนึ่ง

“ได้ พวกเราคิดกันอีกที”

ยังไม่ทันได้พุดคุยสรุปผล พลันมีเสียงกู่ร้องโหยหวนแว่วมาจากด้านหน้า ในน้ำเสียงเจือความนุ่มนวลไว้ ทว่าเสียดทะลวงใจคนยิ่ง

สีหน้ากู้ซีจิ่วแปรเปลี่ยนในทันใด กุมกระบี่ในมือแน่น

“ตัวหัวหน้าโผล่มาแล้ว!”

ด้านหน้ามีสัตว์ร้ายมายากว่าสิบตัวโผล่ออกมา ก่อตัวเป็นทรงใบพัดดาหน้าเข้ามาหาฝูงชน!

เหล่าบุรุษทั้งหมดเข้าต้านรับอย่างฮึกเหิมทันที ในระยะเวลานั้น เสียงโห่ร้อง เสียงสัตว์คำราม เสียงฝีเท้า เสียงตะโกนปะปนเข้ากันหมด…

ตี้ฝูอีโน้มตัวไปเอ่ยกับกู้ซีจิ่ว

“ฆ่าตัวหัวหน้าก่อน! พาข้าไป!”

ตัวหัวหน้าร้องขึ้นคราหนึ่งมีสัตว์ร้ายขานรับนับร้อย หากมันสำแดงฤทธิ์เดชออกมา เกรงว่าจะเรียกสัตว์ร้ายมายานับร้อยมา เมื่อถึงเวลานั้นจะควบคุมไว้ไม่อยู่แล้ว มีแต่ต้องสังหารตัวหัวหน้าก่อน การโจมตีของมันถึงจะไม่สัมฤทธิ์ผล

กู้ซีจิ่วย่อมทราบถึงความร้ายกาจดีเช่นกัน เธอกำหนดทิศทางจากเสียงคำรามเมื่อครู่นั้นแล้ว ขอเพียงพาตี้ฝูอีไปหาได้ก็พอแล้ว

ตอบรับในทันใด

“ได้!”

แล้วตะโกนบอกฝูงชน

“พวกเราจะไปฆ่าตัวหัวหน้า พวกเจ้าตั้งรับไว้สักครู่เถิด”

“ได้!”

ทุกคนตอบรับอย่างพร้อมเพรียง

จากนั้นกู้ซีจิ่วก็แยกตัวจากทัพใหญ่ พาตี้ฝูอีเคลื่อนย้ายไปยังทิศตะวันออกเฉียงเหนือที่ห่างออกไปไม่กี่สิบจั้งทันที

ตัวหัวหน้าหลบซ่อนอยู่ตรงนั้น!

ทันทีที่สองคนนั้นจากไป เหล่าบุรุษในกลุ่มนี้ก็เข้าเผชิญหน้ากับคมเขี้ยวกรงเล็บของสัตว์ร้ายมายาเหล่านี้…

หากเป็นเหมือนก่อนหน้านี้ ที่แต่ละครั้งมีสัตว์ร้ายมายาโผล่มาแค่ตัวสองตัว บุรุษเหล่านี้สามารถตอบโต้กลับไปได้ แต่ตอนนี้กลับกระโจนเข้ามากว่าสิบตัว และเห็นได้ชัดว่าสิบกว่าตัวนี้ได้รับคำสั่งมา พุ่งเข้าโจมตีจุดอ่อนของกลุ่มโดยเฉพาะ…

พวกเถี่ยตั้น เถี่ยหนิวตาแดงก่ำแล้ว รวมตัวเข้าด้วยกัน พยายามต่อสู้ปัดป้องสุดชีวิต ต่อสู้โรมรันกับสัตว์ร้ายเหล่านั้น

และโชคดีที่ตี้ฝูอีสอนค่ายกลไว้ให้พวกเขาล่วงหน้าแล้ว ยามที่ถูกโจมตียังดูแลป้องกันตั้งแต่หัวจรดท้ายได้ ไม่ถึงกับเสียรูปขบวนไป

กลับคาดไม่ถึงว่าในบรรดาสัตว์ร้ายที่เข้าโจมตีครั้งนี้จะมีประเภทที่บินได้ด้วย บินแหวกอากาศเข้ามาโดยตรง เหินข้ามกระบี่เหล็กของเหล่าบุรุษที่อยู่รอบนอก พุ่งเข้าสู่ใจกลางขบวน…

ใจกลางขบวนคือเด็กสตรีและคนชราที่ไม่มีกำลังจะต่อสู้

เห็นได้ชัดว่าทุกคนไม่ได้เตรียมการไว้ ท่ามกลางเสียงหวีดร้อง สัตว์ร้ายมายาตัวนั้นพุ่งเข้าใส่เด็กน้อยคนหนึ่งที่อยู่กลางขบวน!

มองเห็นกรงเล็บแหลมคมกำลังจะตะปบเข้าที่กระหม่อมของเด็กน้อย ผู้เฒ่าคนหนึ่งพลันวิ่งตัดเข้ามาในแนวทแยง โผไปด้านหน้าอย่างสุดชีวิต ปกป้องเด็กน้อยเอาไว้ใต้ร่าง

ส่วนกรงเล็บของสัตว์ร้ายมายาก็เจาะทะลวงเข้าที่หลังของผู้เฒ่าคนนั้น…

ยามนี้เหล่าบุรุษที่อยู่วงนอกต้านรับสัตว์ร้ายมายาตัวอื่นอยู่ ไม่อาจปลีกตัวไปช่วยเหลือคนที่อยู่กลางวงได้ ขณะที่วุ่นวายอลหม่านกันไปหมด สัตว์ร้ายมายาตัวนั้นก็พุ่งเข้าใส่เด็กน้อยอีกคนหนึ่ง…

“พวกเราตายไปก็ไม่สำคัญหรอก ช่วยเด็กไว้!”

ผู้เฒ่าตะโกนออกมาด้วยเสียงแหบเครือก่อนจะล้มลงบนพื้น

ด้วยเหตุนี้จึงมีผู้เฒ่าอีกคนถลาเข้าไปที่ร่างเด็กน้อย แล้วถูกสัตว์ร้ายมายาตัวนั้นตะปบตาย…

เสียงกรีดร้องดังระงม

เถี่ยตั้นทนไม่ไหวอีกต่อไป ต้องการออกจากตำแหน่งของตนเพื่อเข้าไปช่วยเหลือคนอื่นๆ…

————————————————————————————-

บทที่ 2157 หนี 2

“พวกเราออกไปเถอะ ออกไปล่อพวกมัน”

“ได้เลยตาเฒ่า”

“พวกเราจะสู้ตายกับพวกมัน!”

ผู้เฒ่าที่เหลือราวกับหารือกันมาก่อนแล้ว จู่ๆ ก็ฟาดไม้เท้าเหล็กในมือใส่สัตว์ร้ายมายาตัวนั้นพร้อมกัน!

ถึงอย่างไรพวกเขาก็ชรามากแล้ว ฟาดไม้เท้าเหล็กลงบนร่างของสัตว์ร้ายมายาตัวนั้นก็ไม่ได้ทำให้มันบาดเจ็บเลย กลับเป็นการยั่วให้สัตว์ร้ายมายาตัวนั้นหงุดหงิด กู่ร้องเสียงยาว พุ่งเข้าใส่ผู้เฒ่าเหล่านั้น

“เอาเลย!”

ท่ามกลางความอลหม่านไม่รู้ว่าผู้ใดที่ตะโกนขึ้นมา เห็นได้ชัดว่านี่คือสัญญาณลับ ผู้เฒ่าทั้งหกผลักลูกหลานที่ขวางอยู่ด้านหน้าออกไป แล้วพุ่งออกไปจากขบวนทันที…

พวกเถี่ยตั้นไม่นึกไม่ฝันเลยว่าผู้เฒ่าเหล่านี้จะพุ่งออกไปเช่นนี้ เข้าช่วยเหลือไม่ทันกาล ได้แต่เบิกตามองพวกเขาพุ่งผ่านไปอย่างรวดเร็ว…

สัตว์ร้ายมายาเหล่านั้นเนื่องจากทำให้กลุ่มคนกระจัดกระจายกันออกไปไม่ได้จึงหงุดหงิดงุ่นง่านอยู่แล้ว ทันทีที่เห็นว่ามีอยู่ห้าหกคนที่แตกกลุ่มออกไป จึงมีหลายตัวไล่ตามไป

ฝูงชนย่อมตกตะลึงยิ่ง ชายหนุ่มหลายคนคิดจะไล่ตามไปโดยไม่แยแสสิ่งใดแล้ว

“ท่านปู่!”

“ท่านย่า!”

กู้ซีจิ่วที่อยู่ไกลออกไปย่อมมองเห็นทุกสิ่งเช่นกัน แต่ตอนนั้นเธอพร้อมด้วยตี้ฝูอีกำลังติดพันกับหัวหน้าสัตว์ร้ายตัวนั้นอยู่ รอบกายของตัวหัวหน้ามีสัตว์ร้ายมายาสูงใหญ่สองตัวคุ้มกันอยู่ พวกเขาละมือไปไม่ได้ชั่วขณะ…

เมื่อได้ยินเสียงวุ่นวายทางด้านนี้ กู้ซีจิ่วที่ยุ่งง่วนอยู่จึงหันไปมองตามสัญชาตญาณ

มองเห็นผู้เฒ่าคนหนึ่งถูกสัตว์ร้ายกระโจนใส่จนล้มลงพอดี…

ในสมองเธอเกิดเสียงดังตูม เกือบจะโดนสัตว์ร้ายตัวหนึ่งตะปบแขนเข้าแล้ว…

ผู้สูงวัยวิ่งได้ช้า ส่วนสัตว์ร้ายมายาก็วิ่งเร็วยิ่ง ผู้เฒ่าเหล่านั้นวิ่งไปได้ไม่เท่าไหร่ก็ถูกสัตว์ร้ายเหล่านั้นจู่โจมสังหารแล้ว…

ในสายลมเหลือเพียงเสียงร่ำร้องสุดท้ายของพวกเขา

“พวกเจ้าอย่าตามมานะ…”

“สือโทว พาพวกเด็กๆ ออกไปเถอะ แบบนั้นการตายของคนแก่แบบพวกเราก็คุ้มค่าแล้ว…”

“สือโทว ต้องฝากพวกเขาไว้กับเจ้าแล้ว…”

….

ดวงตากู้ซีจิ่วแดงก่ำแล้ว!

มือสั่นสะท้านไปหมด

ตี้ฝูอีก็สลดใจเช่นกัน

เขามองออกว่าผู้เฒ่าแปดคนนั้นคือตัวถ่วงที่ทำให้ความเร็วในการเดินทางล่าช้า ดูจากท่าทางของพวกเขา เห็นได้ชัดว่าหารือกันมาก่อนแล้ว ด้วยเหตุนี้ถึงได้ฉวยโอกาสนี้พลีชีพอย่างเยือกเย็น หนึ่งคือลดแรงกดดันในการต่อสู้ให้คนหนุ่มสาว สองคือไม่เป็นตัวถ่วงขบวนอีกต่อไป…

เดิมทีเขาไม่รู้สึกอะไรกับผู้คนที่นี่เลย เหตุผลที่ช่วยเหลือพวกเขาทั้งหมดก็เป็นเพราะเห็นแก่หน้ากู้ซีจิ่ว

ดังนั้นเขาถึงพิจารณาข้อดีข้อเสียอย่างเยือกเย็นได้ หาวิธีที่เหมาะสมที่ออกมา

แต่ตอนนี้ เมื่อเห็นฉากนี้แล้ว จิตใจเขาพลันสั่นไหว

ไม่แปลกเลยที่กู้ซีจิ่วจะอยากช่วยเหลือพวกเขาโดยไม่แยแสสิ่งใดทั้งสิ้น…

….

ผ่านไปห้านาที ในที่สุดตี้ฝูอีก็สังหารตัวหัวหน้าได้แล้ว จากนั้นทั้งสองคนก็ทะยานกลับมา กำจัดสัตว์ร้ายมายาที่เหลือ

ส่วนผู้เฒ่าแปดท่านนั้นกลับถูกสัตว์ร้ายมายาเหล่านั้นฉีกทึ้งเป็นชิ้นๆ แล้ว…

หัวหน้าเผ่าทำได้เพียงพาคนไปเก็บซากกระดูกของพวกเขากลับมา…

ในขบวนมีคนกำลังร่ำไห้อยู่ ดวงตาของทุกคนล้วนมีน้ำตาเอ่อคลอ

กู้ซีจิ่วสูดหายใจลึกๆ เฮือกหนึ่ง เธอจ้องมองตี้ฝูอีแวบหนึ่ง! สายตานี้ช่างแปลกไปยิ่งนัก ตี้ฝูอีตัวแข็งทื่อทันที กู้ซีจิ่วละสายตาไปแล้ว กวาดมองฝูงชน

เธอก็เสียใจมากเช่นกัน แต่ว่าตอนนี้ไม่ใช่เวลามาเสียใจ

“ข้าจะพาพวกเจ้าทั้งหมดออกไปให้ได้!”

เธอไม่ได้ร้องไห้ แต่นัยน์ตาแดงก่ำนิดๆ น้ำเสียงหนักแน่น

“จะไม่เสียใครไปอีกแล้ว!”

“ไม่เสียใครไปอีกแล้ว!”

“ใช่ จะไม่เสียใครไปอีกแล้ว!”

ในฝูงชนมีคนขานรับ แต่ละคนกำมือแน่น!

ขบวนเริ่มออกเดินทางอีกครั้ง ครั้งนี้ความเร็วในการเดินทางเพิ่มขึ้นมาก ทุกคนแทบจะวิ่งกันแล้ว

เนื่องจากตัวหัวหน้าจะปรากฏตัวขึ้นวันละครั้งเท่านั้น ครั้งนี้ถูกสังหารไปแล้ว เส้นทางเบื้องหน้าของพวกเขาจะไม่ถูกโจมตีจากสัตว์ร้ายเป็นฝูงอีกแล้ว

กู้ซีจิ่วเม้มปากไว้ตลอดพุ่งทะยานนำอยู่ด้านหน้า ราวกับว่าการตายของผู้เฒ่าทั้งแปดไม่ได้ส่งผลกระทบต่อเธอสักเท่าไหร่ แต่ตอนที่ตี้ฝูอีต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับนาง สัมผัสถูกมือของนางบ้างเป็นครั้งคราว พบว่าฝ่ามือของนางเย็นเฉียบ…

———————————