บทที่ 2154+2155

ลำนำบุปผาพิษ

บทที่ 2154 ถ้าเมื่อก่อนเธอถ่อมตัวแล้วกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง?

โชคดีที่ง่ามมือเขามีเพียงแผลปริฉีก หลังจากทายาลงไป เลือดก็หยุดไหล บาดแผลก็มีสัญญาณว่าจะสมานเข้ากันแล้ว

ตี้ฝูอีมองดวงหน้าน้อยๆ ที่ซีดเซียวของนาง เกรงว่านางจะได้รับบาดเจ็บจากแรงสะเทือน พลันตวัดข้อมือจับมือนางไว้

“เจ้าไม่บาดเจ็บตรงไหนใช่ไหม?”

กู้ซีจิ่วปล่อยให้เขาจับอย่างว่าง่าย ส่ายหน้าแล้วเอ่ยตอบ

“ไม่มี” จากนั้นก็ชะงักไปคู่หนึ่ง

“ขอโทษนะ”

“หือ?”

“เมื่อกี้ถ้าข้าไม่เดินเข้าไปอีกสองก้าว ก็คงไม่กระตุ้นให้มันโมโห ทำให้เจ้าบาดเจ็บ”

เมื่อถึงยามนี้กู้ซีจิ่วสำนึกเสียใจแล้ว

ตี้ฝูอีถอนหายใจ ยื่นมือไปลูบผมนาง

“เด็กโง่ ทำไมชอบโทษตัวเองขนาดนี้ล่ะ? เมื่อกี้ต่อให้เจ้าไม่ขยับ ถ้าหากมันเห็นเจ้า ก็จะคลุ้มคลั่งขึ้นมาอยู่ดี นอกจากจะคลุ้มคลั่งช้าไปอีกสักนิดแล้ว ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลงไปหรอก”

กู้ซีจิ่วเลิกคิ้ว

“มันชิงชังคั่งแค้นข้าหรือ? ทำไมล่ะ?”

คำถามข้อนี้ตี้ฝูอีก็ค่อนข้างฉงนเช่นกัน ฮุ่นตุ้นตัวนั้นพอเห็นกู้ซีจิ่วก็คลุ้มคลั่งอย่างยิ่ง ราวกับมีความแค้นต่อกัน

“บางทีเมื่อก่อนเจ้าอาจจะเคยมีชัยเหนือร่างเดิมของมันกระมัง?”

เขาคาดเดา

“หา?”

เธอเคยเก่งกาจปานนี้เชียว?

“ข้าเดาน่ะ”

ตี้ฝูอีถอนหายใจ

ถึงอย่างไรเขาก็ไม่เติบโตมาพร้อมกันกับนาง ตอนเขายังไม่ถือกำเนิดนางก็เรืองอำนาจขึ้นมาแล้ว

ไม่แน่ว่าในช่วงเวลานั้นนางอาจจะเคยเอาชนะตัวฮุ่นตุ้นได้ หากว่าเป็นเช่นนั้น ร่างเดิมของฮุ่นตุ้นตัวนี้มาจากดินแดนเบื้องบนงั้นหรือ?

กู้ซีจิ่วกะพริบตา ค่อนข้างสงสัย

“ตัวฮุ่นตุ้นนี้ร้ายกาจถึงเพียงนี้ หากว่าข้าเคยเอาชนะมันได้ ด้วยความสัมพันธ์เหมยเขียวม้าไม้ไผ่ของพวกเรา ก็น่าจะบอกต่อเจ้ากระมัง?”

กู้ซีจิ่วรู้สึกว่าหากเคยเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ขึ้น เธอต้องไม่ปิดบังคู่หมั้นตัวเองแน่นอน จะต้องคุยโวโอ้อวดเป็นแน่…

ตี้ฝูอีพาดมือลงบนไหล่เธอ

“ซีจิ่ว เมื่อก่อนเจ้าถ่อมตัวมาก”

กู้ซีจิ่วนิ่งงัน ถ้าเมื่อก่อนเธอถ่อมตัวแล้วกลายเป็นแบบนี้ได้ยังไง?

ตี้ฝูอีไม่อยากพูดคุยปัญหานี้กับนางต่อไปแล้ว เลี่ยงไม่ให้เผยพิรุธออกมาระหว่างสนทนา เขาจึงเปลี่ยนหัวข้อเสีย

 “เอาล่ะ ในที่สุดร่างมายาฮุ่นตุ้นตัวนี้ก็หลับใหลไปแล้ว น่าจะหลับประมาณสองชั่วยาม  อีกสองชั่วยามให้หลัง เขตแดนนี้จะปิดกั้นอีกครั้ง พวกเรากลับไปพาคนอื่นๆ ออกมาเถอะ!”

กู้ซีจิ่วตกตะลึงยิ่ง!

มีเวลาหนีออกไปข้างนอกแค่สองชั่วยามหรือ?!

กู้ซีจิ่วไม่ครุ่นคิดถึงปัญหาที่ว่าตนเคยเป็นคนถ่อมตัวหรือไม่อีกแล้ว!

กู้ซีจิ่วเป็นคนเคลื่อนไหวรวดเร็วคนหนึ่ง เอ่ยขึ้นว่า

“เช่นนั้นจะช้าอยู่ไย รีบกลับไปบอกให้คนอื่นหนีกันเถอะ”

จากนั้นก็ลากตี้ฝูอีใช้วิชาเคลื่อนย้ายกลับไปทันที

พวกเขามีเวลาไม่มาก จะต้องรีบพาทุกคนหนีออกไปโดยเร็วถึงจะดี…

ส่วนที่ว่าสุดท้ายแล้วสถานการณ์นอกหุบเขาจะเป็นอย่างไร เธอก็ไม่มีเวลาไปสำรวจดูแล้ว เดินทางไปคุยไปก็แล้วกัน!

….

โชคดีที่คนในหมู่บ้านต่างเตรียมตัวพร้อมหมดแล้ว พอกู้ซีจิ่วกับตี้ฝูอีกลับมา โบกมือให้สัญญาณ ทุกคนก็รีบตั้งขบวนค่ายกลอย่างที่เตรียมการไว้ตอนแรกแล้วพุ่งออกมาจากถ้ำแห่งนั้น…

แน่นอน ถึงอย่างไรก็เป็นที่พักพิงมากว่าร้อยปีแล้ว คนส่วนใหญ่ถือกำเนิดที่นี่ เติบโตที่นี่ ถึงแม้สภาพความเป็นอยู่ของที่นี่จะเลวร้ายยิ่งนัก แต่พอต้องจากไปจริงๆ คนมากมายก็ค่อนข้างหักใจไม่ลงอยู่บ้าง…

ยามที่จะจากไป คนบางส่วนที่อารมณ์ค่อนข้างอ่อนไหวมีน้ำตาคลอหน่วย ความรู้สึกลังเลแพร่กระจายไปในหมู่ชน…

สภาพอารมณ์เช่นนี้ย่อมไม่เป็นผลดีในยามที่ต้องต่อสู้ หัวหน้าเผ่าจึงพูดปลุกขวัญทุกคนทันที

“ทุกคนไม่อยากออกไปดูโลกภายนอกหรือ? โลกภายนอกงดงามยิ่งนัก ในเมืองมีอาคารบ้านเรือน ร้านรวงเรียงราย อยู่ที่นั่นอยากกินอะไรก็ได้กิน อยากใส่อะไรก็ได้ใส่ ชีวิตสงบสุข พวกเด็กๆ สามารถวิ่งเล่นในเมืองอย่างหนำใจได้…

————————————————————————————-

บทที่ 2155 เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีในอนาคต พวกเขาจะสู้ตาย!

สามารถเข้าไปร่ำเรียนหาความรู้ในสำนักศึกษาได้ ไม่ต้องหัวหกก้นขวิด กินแกลบกินรำกับพวกเราอยู่ที่นี่อีก…หลังจากพวกเราเข้าไปลงหลักปักฐานในเมืองแล้ว หากว่าทุกคนยังคิดถึงที่นี่อยู่ ก็หาโอกาสกลับมาเยี่ยมได้”

วาจานี้ของหัวหน้าเผ่ากระตุ้นขวัญกำลังใจได้มากนัก ทำให้ทุกคนกระปรี้กระเปร่าขึ้นมา!

เพื่อเด็กๆ!

เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีในอนาคต พวกเขาจะสู้ตาย!

เนื่องจากมีการเตรียมตัวล่วงหน้าอย่างรอบคอบแล้ว ดังนั้นยามที่ต้องออกไปคนเหล่านี้จึงมีระเบียบวินัยยิ่ง เรียบร้อยมีแบบแผน

คนชราเด็กน้อยและสตรีอยู่ตรงกลาง เหล่านักสู้ที่สามารถต่อสู้ตั้งรับได้อยู่วงนอกสุด ตี้ฝูอีและกู้ซีจิ่วนำขบวน เหล่าชายชาตรีที่แข็งแรงกำยำอย่างพวกเถี่ยตั้น เถี่ยหนิวปิดท้าย

ไม่ว่าจะถูกสัตว์ร้ายโจมตีมาจากทิศทางไหน กู้ซีจิ่วและตี้ฝูอีล้วนใช้วิชาเคลื่อนย้ายไปให้การสนับสนุนได้…

เนื่องจากมีคนจำนวนมาก ย่อมทำให้สัตว์ร้ายมายาเหล่านั้นแตกตื่นกันเป็นธรรมดา พากันวิ่งออกมาโจมตี…

โชคดีที่ยามสัตว์ร้ายเหล่านี้ปรากฏตัวขึ้น ส่วนใหญ่จะโผล่มาแค่ตัวสองตัวเท่านั้น มากสุดก็โผล่มาสามสี่ตัวพร้อมกัน ไม่ได้ปรากฏตัวขึ้นปานยกโขยงกันมา

ขอเพียงมีสัตว์ร้ายมายาโผล่ออกมาก็จะถูกสังหารทันที ไม่กลายเป็นภัยใหญ่หลวง

สัตว์ร้ายมายาเหล่านี้ย่อมมีตัวที่ดุร้ายเป็นพิเศษเช่นกัน แต่สุดท้ายแล้วก็มีจำนวนน้อย ยามพุ่งเข้ามาล้วนถูกเหล่าบุรุษที่อยู่วงนอกพยายามตอบโต้กลับไป จากนั้นก็ถูกกู้ซีจิ่วและตี้ฝูอีร่วมมือกันสังหาร ตลอดการเดินทางนี้นับว่าปลอดภัยไร้อันตรายก็เป็นเวลาเพียงเจ็ดแปดนาที

แหล่งอาศัยของทุกคนอยู่ห่างจากเขตแดนรอบนอกของหุบเขายี่สิบลี้ ถ้ากู้ซีจิ่วใช้วิชาเคลื่อนย้าย และคนอื่นๆ ที่นี่เป็นเพียงวิชาหมัดมวยธรรมดา หากว่าให้พวกเขาเดินทางโดยไร้สิ่งกีดขวาง พวกเขาจะใช้เวลาเดินทางครึ่งชั่วยาม แต่ในกลุ่มมีเด็กสตรีและคนชราอยู่ด้วยไม่น้อยเลย ความเร็วในการเดินทางของคนกลุ่มนี้ย่อมลดต่ำลง ประกอบกับมีสัตว์ร้ายมายาโผล่ออกมาโจมตีอย่างกะทันหันเป็นพักๆ ความเร็วในการเดินทางจึงล่าช้าลงไปอีกมาก

ผ่านไปแล้วหนึ่งชั่วยาม ทั้งคณะเพิ่งผ่านมาได้ครึ่งทางเท่านั้น โชคดีที่ไม่มีใครพลัดหลงตกหล่น

กู้ซีจิ่วเม้มริมฝีปากบาง ถ้าเดินทางด้วยความเร็วเช่นนี้ต่อไป เกรงว่ายังไม่ทันไปถึงเขตแดน ฮุ่นตุ้นที่หลับใหลอยู่ตัวนั้นคงจะตื่นขึ้นมาก่อน…แต่ผู้คนที่นี่ล้วนทุ่มเทเร่งเดินทางกันอย่างสุดชีวิตแล้ว เว้นแต่จะทอดทิ้งผู้เฒ่าผู้แก่ผู้ป่วยผู้พิการในกลุ่มที่ถ่วงรั้งการเดินทางให้ล่าช้าไปเสีย มิเช่นนั้นเกรงว่าคนกลุ่มนี้คงพังพินาศไปด้วยกันหมด…

ต้องทำยังไงถึงจะเร่งความเร็วขึ้นได้นะ?

“ฝูอี ช่องมิติของเจ้าสามารถบรรจุคนได้หรือไม่?”

กู้ซีจิ่วนึกถึงมิติเก็บของๆ ตี้ฝูอี หากว่าสามารถใส่ผู้เฒ่าทั้งแปดที่ถ่วงให้การเกินทางล่าช้าลงไปในช่องมิติของตี้ฝูอีได้ล่ะก็…

“ไม่ได้!”

ตี้ฝูอีปฏิเสธอย่างเด็ดขาดยิ่ง

“ในนั้นบรรจุได้เพียงสิ่งไม่มีชีวิต”

ช่องมิติของเขาไม่มีอากาศหายใจ ถ้าคนเข้าไปจะขาดอากาศตาย…

กู้ซีจิ่วเม้มริมฝีปากบางนิดๆ จู่ๆ ก็เกิดความคิดหนึ่งขึ้นมา เธอสามารถพาคนใช้วิชาเคลื่อนย้ายไปได้ทีละสองคน จากนั้นค่อยกลับมารับคนที่เหลือ…

แต่พอเธอกล่าวความคิดนี้ออกมาก็ถูกตี้ฝูอีปฏิเสธทันควัน

“ในแต่ละครั้งเจ้าเคลื่อนย้ายได้สองถึงสามลี้ และถ้าในระยะสองสามลี้นี้มีสัตว์ร้ายมายาโผล่มา เจ้าพาคนเหล่านั้นไปโยนทิ้งไว้ตามลำพัง รอจนกลับมารับคนที่เหลือไปอีก ไม่แน่ว่าไม่กี่คนที่พาไปก่อนนั้นอาจถูกสัตว์ร้ายมายาเขมือบไปแล้ว!”

กู้ซีจิ่วคิดออกมาอีกหลายแผนการ ทั้งหมดล้วนถูกปฏิเสธเนื่องจากจุดบกพร่องเช่นนั้นบ้างเช่นนี้บ้าง

“ซีจิ่ว แผนการสำหรับตอนนี้มีแต่ต้องสละคนชราไม่กี่คนนั้นไป ไม่มากเลย เพียงแปดคน มิเช่นนั้นทุกคนจะตายอยู่ที่นี่กันหมด”

ตี้ฝูอีเข้าใจหลักเหตุผลที่สุดและเลือดเย็นที่สุดด้วย สายตาก็เฉียบคมนัก มองออกว่าเป็นคนชราทั้งแปดที่ถ่วงรั้งการเดินทางจริงๆ เป็นชายสองหญิงหก…

———————————-