บทที่ 503 สังคมแห่งมอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์ (5)
[อังกฤษ, พระราชวังบักกิ้งแฮม]
อาแฮอิน แขกที่มีชื่อเสียงที่สุดของ พระราชวังบักกิ้งแฮม กำลังชมทิวทัศน์ภายนอกผ่านทางหน้าต่างของพระราชวัง เธอดูเหมือนจะใจเย็นเป็นปกติของเธอ แต่ตอนนี้มันแตกต่างกันเล็กน้อย
นั่นคือจำนวนดาวที่จารึกไว้บนเสื้อคลุมของเธอซึ่งตอนนี้มี 9 อัน
เมื่อสัปดาห์ที่แล้วเธอได้เลื่อนตำแหน่งให้เป็นจอมเวทย์ระดับ 9 ดาว ความสามารถในการเรียก 3 ใน 4 ผู้พิทักษ์ทำให้เธอได้รับเกียรตินี้มา
ในโลกนี้ จอมเวทย์ 9 ดาวมีเพียง 30 คนในประวัติศาสตร์ เท่ากับว่าตอนนี้ อาแฮอิน รู้สึกเหมือนโลกในวันนี้ดูแตกต่างออกไปเล็กน้อย
เธอดื่มด่ำกับความงามของอังกฤษด้วยความคิดที่ลึกซึ้ง
ต๊อก แต๊ก ต๊อก แต๊ก
ในขณะนั้นเองก็มีเด็กบางคนกระโดดไปหา อาแฮอิน อีเวนเดล เหลือบมองไปที่ อาแฮอิน แล้วเลียนแบบใบหน้าอันเคร่งขรึมของเธอ จอมเวทย์ทั้ง 2 ยืนเคียงข้างกันและจ้องมองออกไปนอกหน้าต่าง เรเชลซึ่งพา
อีเวนเดล มาที่นี่ยิ้มและพยายามที่จะกลั้นเสียงหัวเราะของเธอเอาไว้
“ขอแสดงความยินดีกับการเลื่อนขั้นของอาจารย์นะคะ” อีเวนเดล พูด
“ก็ไม่มีอะไรมาก นอกจากนี้เธอไม่จำเป็นต้องแสดงความยินดีกับฉัน เพราะเธอเองก็กำลังจะได้รับมันมาเหมือนกัน”
“เอ้? หนูด้วยเหรอ?”
ดวงตาของ อีเวนเดล เบิกกว้าง อาแฮอินยิ้มเบาๆ
“…ใช่เธออยู่ในระดับ 8 ดาวแล้ว”
คุณภาพของการอัญเชิญของ อีเวนเดล นั้นเท่ากับการอัญเชิญจาก
จอมเวทย์ระดับ 8 ดาว แต่ถ้าเรื่องจำนวนอย่างเดียวเธอน่าจะอยู่ในขอบเขตระดับ 9 ดาวได้อย่างง่ายดาย อีกไม่นานคุณภาพการอัญเชิญของเธอจะไปถึงขอบเขต 9 ดาว ด้วยเวลาและระดับ 10 ดาวเองก็คงไม่ไกลเกินจริงอย่างแน่นอน
“อ้า ขอบคุณคะ”
อีเวนเดล โค้งคำนับ เมื่อมองดูการเติบโตของ อีเวนเดล แล้ว อาแฮอิน
ก็อดไม่ได้ที่จะคิดว่าเธอช่างน่ารักเหลือเกินแต่เธอก็น่าเป็นห่วงเช่นกัน
โลกภายนอกนั้นมันโหดร้ายและเต็มไปด้วยความน่ากลัวอาแฮอิน สงสัยว่าเด็กที่ไร้เดียงสาแบบนี้จะสามารถยืนหยัดอยู่ได้ยังไง
“…อีเวนเดล.”
“ค่าาาาาาา?”
แต่การไหลของเวลาไม่อาจหยุดยั้ง แม้แต่น้ำใสที่สุดก็จะเต็มไปด้วยโคลนเมื่อเวลาผ่านไปและการเปลี่ยนแปลงในยุคสมัยก็หลีกเลี่ยงไม่ได้
เวลาจะมาถึงสุดท้าย อีเวนเดล ก็จะต้องเปิดเผยพลังที่เธอครอบครองและเมื่อถึงเวลานั้นผู้ใหญ่จำนวนนับไม่ถ้วนจะพยายามใช้เธอเพื่อประโยชน์ของพวกเขา
“ถึงเวลาฝึกซ้อมแล้ว”
อาแฮอิน ตัดสินใจเตรียม อีเวนเดล สำหรับวันที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
“ฝึกซ้อม… ?”
อีเวนเดล พูดด้วยความประหม่า แต่การออกเสียงของเธอเปลี่ยนไปเล็กน้อยเนื่องจากฟันหน้าของเธอหายไป
“อ๋อ.”
อาแฮอิน ยิ้ม
“อีเวนเดล ได้เวลาสร้างเครือข่ายของเธอแล้ว”
เพื่อปกป้องเธอ เธอต้องเข้มแข็งขึ้น แค่เส้นสายและโชคลาภไม่เพียงพอ เธอต้องมีพลังที่สมบูรณ์แบบซึ่งจะทำให้มีอำนาจเหนือศัตรูทั้งหมด
“…เครือข่าย?”
อีเวนเดล เงยหัวเธอ
“ใช่แล้ว เครือข่าย”
นักเวทย์ส่วนใหญ่มี ‘เวิร์คช็อป’ ของตัวเองไม่ว่าพวกเขาจะอ่อนแอ
แค่ไหน พวกเขาก็จะมีบาเรียเป็นป้อมปราการแปลกๆที่พวกเขาสามารถพัฒนาเวทมนต์ของพวกเขาและป้องกันไม่ให้คนนอกเข้ามาเมื่อเบาเรียของจอมเวทเกิดขึ้นก็จะมีองครักษ์ออกมาเพื่อป้องกันผู้บุกรุกที่ต้องการเข้าถึงตัวจอมเวทย์ อาแฮอิน เคยมีประสบการณ์การต่อสู้มากมายก่อนที่จะมาถึงดินแดน 8 ดาว
แต่บาเรียไม่เพียงพอสำหรับ อีเวนเดล แม้ว่าแนวคิดระดับสูงของบาเรียคือ ‘ฐานที่มั่น’ แต่นั่นก็ไม่เพียงพอสำหรับพรสวรรค์ของ อีเวนเดลแนวคิดที่อยู่เหนือ ‘ป้อมปราการ’ ที่ไม่มีนักเวทย์คนไหนทำได้ แม้แต่
อาแฮอินหรือจอมเวทย์ 9 ดาว ‘แต่ โอแจจิน สามารถบรรลุถึงมีนได้
นั่นคือ ‘เครือข่าย’
“มันใช้เวลานานมากและเธอจะไม่สามารถพบใครได้ในระหว่างนี้”
อีเวนเดล มีความสามารถในการสร้างและรักษา ‘เครือข่าย’ แต่เนื่องจากเทคนิคนี้ทำให้ผู้คนรอบข้างอยู่ภายใต้คำสั่งของจอมเวทย์
พวกเขาจึงต้องอยู่ในสถานที่หนึ่งเพียงลำพังเป็นเวลานานเพื่อปรับตัว
“มันจะเหงาและเหนื่อยมากก แต่เครือข่ายนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งสำหรับเธอ”
ความแข็งแกร่งเพื่อความอยู่รอดแม้โลกจะล่มสลาย พลังของเธอก็จะยิ่งใหญ่จนสามารถเอาตัวรอดได้อย่างสบายๆอาแฮอิน ต้องการให้
อีเวนเดล พัฒนาไปจนถึงจุดที่ได้รับอิสระอย่างแท้จริงในโลกใบนี้
“…เธอพร้อมไหม?”
ด้วยคำพูดเหล่านี้ อาแฮอิน หันกลับมาอย่างช้าๆ เรเชลกำลังจ้องมองเธอด้วยใบหน้าที่เป็นกังวล ความกังวลของเรเชลนั้นได้รับการพิสูจน์ว่าเป็นสิ่งที่โหดร้ายแต่ก็จำเป็นสำหรับจอมเวทย์การที่มีเครือข่ายจะ
ไร้เทียมทานแต่ กระบวนการนี้อาจใช้เวลาตั้งแต่ 6 เดือนถึง 10 ปี
แต่ อาแฮอิน ยิ้ม
“ไม่ต้องเป็นห่วงเรเชล อีเวนเดล เป็นเด็กที่แข็งแกร่งกว่าที่เธอคิด”
เธอมองดู อีเวนเดล ที่คิดอยู่นาน ภาพลักษณ์ของเฟลรีนที่เจ็บปวดจากการจู่โจมของโทจิผุดขึ้นมาในใจ แม้ว่าตอนนี้เขาจะหายดี แต่ อีเวนเดล ก็เจ็บปวดอย่างมาก มันเป็นครั้งแรกที่เธอรู้สึกไร้พลัง ถ้าเธอแข็งแกร่งขึ้น เฟนรีล หรือสัตว์ตัวอื่นๆของเธอก็จะไม่ได้รับบาดเจ็บ
“… .”
อีเวนเดล ยกหัวของเธอขึ้นมา ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความมุ่งมั่น
“หนูต้องการแข็งแกร่งขึ้น”
“ดีมาก…”
“ตะ…แต่ก่อนหน้านั้น…”
อีเวนเดล พูดขึ้นมาว่า…
“…หนู….หนูอยากเจอฮาจิน”
*************************************************************************
[แอฟริกา หมู่บ้านระดับกลาง ลูพิตัน]
พระอาทิตย์ตกดินและความมืดก็ได้ลงมาในหมู่บ้าน มนุษย์ทุกคนต่างก็กลับบ้านเมื่อถึงเวลาเคอร์ฟิว กล่าวอีกนัยหนึ่งก็ถึงเวลาที่พวกเราจะบุกเข้าไปในบ้านของท่านลอร์ด
“เตรียมพร้อม.”
เจนและผมเตรียมตัวเองตามคำสั่งของบอส บอสจะแทรกซึมเข้าไปในที่พำนักของลอร์ดโดยใช้เงาและผมจะใช้ [การเร่งความเร็วเกินขีดจำกัด] เจนก็อำพรางตัวเองเป็นมอนสเตอร์รูปร่างมนุษย์เพื่อเข้าไปในประตูหน้า
“พวกเราพร้อมแล้ว.”
พวกเราพร้อมที่จะเริ่มแผนของพวกเรา…
ดิ้งงงงงงงงงงงงงงงงงงง
ผมรับสายวิดีโอบน smartwatch
“โอ้? มันคือ อีเวนเดล”
ผมวางแผนที่จะเพิกเฉยถ้ามันเป็นของ คิมซูโฮ หรือ ยูยอนฮา แต่
อีเวนเดล นั้นแตกต่าง ผมสอบถามบอสซักพักแล้วก็รับสาย
– ฮาจิน~
ใบหน้าที่ยิ้มแย้มของ อีเวนเดล ก็เข้ามาดูทันที
“ใช่……..มีอะไรเหรอ?”
ผมยิ้มกลับ อีเวนเดล หัวเราะคิกคักและพูดออกมา
– หนูอยากเจอคุณ~
“ตอนนี้เหรอ? เกิดอะไรขึ้น?”
ผมโทรหรือส่งข้อความอย่างน้อยวันละ 1 ครั้งและก่อนที่จะมาแอฟริกาผมมักจะไปเยี่ยมเธอกับสปาร์ตัน
– ไม่มีเหตุผล ~
“…มีอะไรเกิดขึ้นสินะ?”
ผมสังเกตเห็นบรรยากาศหนักอึ้งจากสีหน้าของ อีเวนเดล
– อืม…ดี…
อีเวนเดล ลังเลสักครู่ก่อนจะเอนศีรษะ
– หนูคิดว่าหนูคงจะไม่ได้เจอคุณอีกนานเลย
หัวใจของผมตกลงไปที่พื้นเมื่อผมได้ยินคำพูดเหล่านั้น มันเป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกสับสนมากในปีที่ผ่านมา ผมถามกลับอย่างรวดเร็ว
“ทะ-ทำไม?”
– อาาา…อืม…หนูตัดสินใจที่จะสร้างเครือข่ายกับ อาจารย์…
“เครือข่าย? …อา.”
โชคดีที่มันไม่ได้มีอะไรคุกคามชีวิต ผมเข้าใจอย่างรวดเร็วว่าเธอหมายถึงอะไร เครือข่ายของจอมเวทย์
แน่นอน อีเวนเดล เองในนิยายต้นฉบับเธอก็พยายามสร้างเครือข่ายของเธอเอง
– ใช่ ดังนั้นหนูจะไม่ได้เห็นคุณอีกนานเลย หนูได้ยินว่าพลังเครือข่ายจะลดลงหากมีใครเข้ามาในระหว่างสร้างรากฐาน
“ไม่ต้องห่วงเรื่องนั้น พวกเราสามารถพบกันได้ทุกเมื่อ”
พื้นฐานคุณสมบัติของการแยกตัวออกของ [ชุดดอกบัวดำ] ของผมคือความเป็นธรรมชาติ ไม่เพียงแต่ลบการปรากฏตัวของผู้สวมใส่เท่านั้น แต่ยังลบร่องรอยการดำรงอยู่ของผู้สวมใส่ทั้งหมดได้อีกด้วย เนื่องจากแม้แต่สัญชาติญาณเหนือธรรมชาติของ แชนายอน ก็ไม่สามารถมองเห็นมันได้จึงไม่ควรส่งผลกระทบต่อเครือข่ายของ อีเวนเดล
– เอ้?
อีเวนเดล เงยหัวของเธอขึ้น
“ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่ได้เจอฉัน ฝึกฝนให้หนักเพื่อสร้างเครือข่ายของเธอ ทำให้มันสวยงามและแข็งแกร่งละ ฉันจะไปหาบ่อยๆ”
– …จริงๆเหรอ?
อีเวนเดล ดูประหลาดใจซึ่งไม่น่าแปลกใจเมื่อพิจารณาว่ามันยากขนาดไหน เธอจะทำการตัดสินใจนี้
– จริงๆเหรอ?
“แน่นอน ฉันเคยโกหกเธอหรือไง ฟังอาจารย์ อาแฮอิน และฝึกฝนให้หนัก ฉันจะไปเจอเธอสัปดาห์หน้า”
– เฮ้ออออออ…! เอาล่ะ!
อีเวนเดล ยิ้มอย่างสดใสและพยักหน้า
“ฉันยุ่งอยู่นิดหน่อย…แล้วฉันจะโทรหาเธอตอนที่ทำเสร็จแล้วนะ”
– โอเคคะ!
เสียงอันมีชีวิตชีวาของ อีเวนเดล ทำให้หูของผมสดชื่น
“น่ารัก”
ผมยิ้มและวางสาย สายตาของบอสและเจนนั้นค่อนข้างน่ารำคาญ
แต่ผมไม่สนใจพวกเขาและไอแห้งๆ
“อะแฮ่ม เอาล่ะไปกันเถอะ”
“…นายสนิทกับเธอจังเลยนะ”
เสียงของบอสแสดงความหึงหวงเล็กน้อย
“เธอเป็นแค่เด็กเองนะ”
“…ยังไงก็เถอะ ไปกันต่อ”
************************************2************************************