ตอนที่ 147: ความหลงใหลของบ้านหลัว (2)

เปลี่ยนชีวิต พลิกชะตารัก

ตอนที่ 147: ความหลงใหลของบ้านหลัว (2) โดย Ink Stone_Romance

เฉินเยี่ยนลากรถไปแล้ว เวยหลายชุนไม่พอใจยังไงก็ได้แต่มอง เขาไปแย่งรถเฉินเยี่ยนไม่ให้เฉินเยี่ยนไปไม่ได้ มันไม่ถูกต้อง

กลับมาที่เคาน์เตอร์ เวยหลายชุนเริ่มใจไม่อยู่กับเนื้อกับตัว เฉินเยี่ยนบอกว่าเฉินเวยออกจากบ้านมาตั้งแต่เช้า เธอกลับไม่ได้มาหาตัวเอง แล้วเธอไปไหม?

ตอนเริ่มแรกเฉินเวยมาหาเขาแทบทุกวัน ก่อนหน้านี้เฉินเวยมาน้อยลง บอกว่าที่บ้านดูเธออยู่ บอกว่าแม่เธอไม่ให้เธอมาในอำเภอ ไม่ให้เธอไปมาหาสู่กับเขา เธอได้รับความกดดันจากทางบ้าน หาโอกาสหนีมาพบเขา

เขาซาบซึ้งมาก รู้สึกว่าเฉินเวยชอบเขาด้วยใจจริง เพื่อเขาเลยถึงกับยอมเสียสละมากมาย

ทุกครั้งที่เจอสายตาเฉินเวยเต็มไปด้วยความรัก มองใบหน้าเขินอายของเฉินเวย เขาพึงพอใจมาก เขาคิดว่าเฉินเวยคือคนที่ดีที่สุด

แต่วันนี้คำพูดเฉินเยี่ยนกลับทิ่มแทงใจเขา เขาบอกตัวเองว่าเฉินเยี่ยนอิจฉา ต้องการจะทำให้เขาและเฉินเวยแตกกัน ถึงได้พูดแบบนี้ แต่อีกด้าน เขาก็รู้สึกว่าเฉินเยี่ยนไม่ได้พูดโกหก หลังจากรู้จักเฉินเยี่ยน เฉินเยี่ยนไม่เคยโกหกเขาเลย ถ้าเป็นเรื่องจริง งั้นเฉินเวยไปไหน?

เธอจะไปหาอวี๋เหวยหมินคนนั้นหรือเปล่า?

ไม่รู้ว่าทำไมเวยหลายชุนถึงคิดถึงอวี๋เหวยหมิน ใจเขาไม่สงบสุข

ไม่พูดถึงเวยหลายชุน พูดถึงเฉินเยี่ยน เธอออกจากสหกรณ์ ระหว่างทางลากรถกลับ เดินไปได้ครึ่งทาง เธอหาร่มไม้นั่งลงพัก เหนื่อยมากจริงๆ

และไม่รู้ว่าซินห้าวทำอะไรอยู่ เรื่องโรงงานตกลงได้หรือยัง

จะช้อนซื้อโรงงานนั่นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ คนงานยุคนี้เนื้อหอมมาก กิจการโรงงานทั่วไปก็ดีมาก โรงงานนี้ไม่ยอมให้ค่าจ้าง หมายความว่าไม่ได้กำไร ซินห้าวซื้อโรงงานมาก็ไม่รู้ว่าจะทำให้โรงงานเปลี่ยนไปในทิศทางที่ดีได้หรือไม่? เพราะซินห้าวยังอายุน้อย เขาไม่มีประสบการณ์ ถ้าถึงเวลากิจการโรงงานไปต่อไม่ได้ ก็ไม่รู้ว่าซินห้าวจะกดดันหรือไม่

แต่ไม่เป็นไร พวกเขายังเด็ก ยังรับความล้มเหลวได้อยู่ ช่วงตอนเริ่มต้นปฏิวัติ คนมากมายที่ธุรกิจล้มเหลว นับประสาอะไรกับพวกเขาที่จะต้องประสบความสำเร็จ?

เธอไม่เป็นห่วงฝั่งซินห้าว เธอเชื่อว่าซินห้าวสามารถจัดการได้

แล้วเธอล่ะ?

เธอจะสร้างโรงงานด้วยดีไหม?

เรื่องซื้อโรงงานลืมไปได้เลย เธอไม่มีเงินทุน อีกอย่างถึงแม้จะซื้อ เหมือนเธอทำได้เพียงเรื่องบุหรี่ ซื้อมาแล้ว มีเรื่องอีกมากที่ต้องเผชิญแต่ละฝ่าย แล้วยังต้องติดต่อกับคนของรัฐอะไรอีก กฎระเบียบในการทำโรงงานก็ไม่น้อย เธอไม่ชอบเป็นคนโดนควบคุม เรื่องนี้ไม่เหมาะกับเธอ

แต่ให้เธออาศัยการห่อบุหรี่อย่างเดียว เมื่อไรเธอถึงจะเติบโตขึ้นมา?

ทำให้ใหญ่? ทำเป็นโรงงานห่อบุหรี่ รียกให้คนมาห่อบุหรี่ แล้วขยายการขายเพิ่ม?

บุหรี่ของเธอไม่มียี่ห้อ เป็นของที่ไม่มีการรับประกัน ถ้าโดนจับได้ ถ้าไม่โดนปิด ก็โดนปรับ ถ้าขยายใหญ่ ความเสี่ยงก็ไม่น้อยเลย

หรือเธอจะยื่นขอยี่ห้อบุหรี่? ถ้าทำบุหรี่ ต้องมีสูตรของตัวเอง แล้วต้องมีสถานที่ถึงจะยื่นสมัครได้สินะ? ตอนนี้เธอไม่ได้เตรียมเรื่องพวกนี้ไว้เลย

แล้วเธอรู้เรื่องว่าอีกหลายปี พวกที่ทำกระดาษทิชชู่หาเงินได้มาก เปิดโรงงานผลิตกระดาษทิชชู่ เงินก็ทะลักเข้ามา แต่สร้างโรงงานกระดาษ ต้องมีเงินลงทุนเครื่องจักร

สุดท้ายแล้วก็คือเงิน! เงินจ๋า รีบวิ่งเข้ามาหาฉันหน่อย ไม่มีเงินเธอคิดจะทำอะไรก็ไม่สำเร็จ

เฉินเยี่ยนกำหญ้าขึ้นมา คิดถึงแผนการอันยิ่งใหญ่ของเธอ แต่กลับปวดหัวเรื่องเงินลงทุน

“เยี่ยนจื่อ เธอคือเยี่ยนจื่อ? ทำไมมาอยู่ตรงนี้?”

มีจักรยานคันหนึ่งขี่ผ่านมาข้างหน้าเฉินเยี่ยน คนนั้นจ้องมองเฉินเยี่ยน เดิมทีขี่ผ่านไปแล้ว แต่กลับย้อนกลับมา

“คุณคือ?”

เฉินเยี่ยนมองประเมินดูคนที่เรียกเธอ อายุประมาณยี่สิบสอง รูปร่างสูงประมาณ 175 เซนติเมตร หน้าตาถือว่าใช้ได้ ถือว่าเป็นชายหนุ่มที่ดูสดใส ดูจากการแต่งกาย ใส่เสื้อกับกางเกงเข้าชุดกัน เป็นแบบทันสมัยที่สุดในยุคนี้ แล้วยังขี่จักรยาน ดูแล้วฐานะทางบ้านไม่แย่

ผู้ชายคนนี้ดูหน้าตาคุ้น แต่เฉินเยี่ยนมั่นใจว่าไม่เคยเจอหลังตัวเองกลับชาติมาเกิดแน่นอน น่าจะเป็นเจ้าของร่างเดิมรู้จัก แต่เธอนึกไม่ออก

“จำพี่ไม่ได้แล้วหรือ พี่เสี่ยวเฟยของเธอไง หูเฟย”

ผู้ชายที่ชื่อหูเฟยยิ้มให้เฉินเยี่ยน เฉินเยี่ยนจำเขาไม่ได้ไม่แปลก เฉินเยี่ยนน่าจะไม่ได้เจอเขามาหลายปีแล้ว พูดขึ้นมาเขาเพิ่งได้เจอเฉินเยี่ยนมาเมื่อปีก่อน แต่ตอนนั้นเขาไม่ได้เข้าไปคุยกับเฉินเยี่ยน ดังนั้นเขาจำเฉินเยี่ยนได้ แต่เฉินเยี่ยนกลับจำเขาไม่ได้

“อ้อ อ้อ ฉันนึกออกแล้ว พี่เสี่ยวเฟยบ้านคุณป้าฮวาเอ๋อร์”

เฉินเยี่ยนนึกขึ้นมาได้ทันที เธอรู้ว่าผู้ชายคนนี้คือใครจากความทรงจำของเจ้าของร่างเดิม

หูเฟย เธอน่าจะเรียกว่าพี่ชาย แม่หูเฟยกับแม่เธอหวางนิวเป็นลูกพี่ลูกน้องกัน แต่ว่า เป็นลูกพี่ลูกน้องขั้นที่สาม แต่เพราะที่บ้านหวางนิวลูกไม่เยอะ ดังนั้นเลยสนิทกับหลิวฮวาเอ๋อร์แม่ของหูเฟย วันปีใหม่ หลิวฮวาเอ๋อร์จะไปเยี่ยมญาติที่บ้านแม่หวางนิว

หลิวฮวาเอ๋อร์แต่งงานไปในอำเภอ ตอนนี้สามีเป็นคนงานในโรงงานหนึ่ง ตำแหน่งยังเล็กอยู่ แต่ฐานะที่บ้านดีมาก

ตอนที่เฉินเยี่ยนอายุสิบสองสิบสามปี หวางนิวอุ้มเฉินหู่มาหาหมอในอำเภอ แล้วยังมาอยู่ที่บ้านของฮวาเอ๋อร์ด้วย

ป้าฮวาเอ๋อร์คนนี้ ฐานะทางบ้านถือว่าใช้ได้ แต่ไม่ว่าญาติคนไหนไปเยี่ยม เธอจะต้อนรับแค่น้ำแก้วเดียว ถึงแม้จะเรียกให้อยู่กินข้าว อาหารก็แย่มาก ที่บ้านเธอมีคนเอาอาหารกระป๋องมาให้ ถึงแม้จะไม่เท่าไร เธอก็เสียดายที่จะเอาออกมาต้อนรับญาติอยู่ดี

ถือว่าเป็นคนที่ขี้เหนียวมาก

เธอมีลูกชายสองคน คนโตชื่อหูชิ่ง แต่งงานแล้ว แต่ยังไม่มีลูก

คนเล็กชื่อหูเฟย ยังไม่ได้แต่งงาน

เธอไม่มีลูกสาว แม่ก่อนตอนเจอเฉินเยี่ยน ยังบอกว่าจะให้เฉินเยี่ยนเป็นลูกสาวเธอ แต่เฉินเยี่ยนไม่ชอบเธอ รู้สึกว่าเธอเก่งแต่พูด นิสัยกลับขี้งก อีกอย่างเจ้าของร่างเดิมพูดไม่เก่ง ทุกครั้งที่เจอ เธอไม่เคยเป็นฝ่ายเข้าหาฮวาเอ๋อร์ก่อนเลย

แต่เฉินเวยกลับชอบพูดคุยกับป้าฮวาเอ๋อร์คนนี้มาก แต่ถึงแม้เฉินเวยจะประจบขนาดไหน ป้าฮวาเอ๋อร์ก็ไม่เคยให้เฉินเวยกินอะไรเลย ตอนหลังเฉินเวยเลยไม่เข้าหาแล้ว

ที่น่าสนใจกว่านั้นคือ เจ้าของร่างเดิมกับหูเฟยเคยเป็นคู่หมั้นหมายกันตอนเด็กมาก่อน

นี่ไม่ใช่ความคิดของป้าฮวาเอ๋อร์ เป็นคุณตาของเฉินเยี่ยน หวางนิวก็คิดว่าไม่แย่ ส่วนป้าฮวาเอ๋อร์ไม่ได้พูดอะไร ทั้งสองบ้านเลยตกลงกัน

แต่ต่อมาฐานะทางบ้านหูนับวันยิ่งดีขึ้น บ้านเฉินกลับไม่ได้ดีอะไร ป้าฮวาเอ๋อร์เลยไม่พูดเรื่องแต่งแล้ว

ตอนที่เฉินจงให้เฉินเยี่ยนหมั้นกับอวี๋เหวยหมิน หวางนิวยังบ่นถึงเรื่องนี้ แล้วยังไปถึงบ้านหู แต่หลังจากกลับมาหวางนิวก็ไม่พูดอะไรเลย ยังไงในความทรงจำของเจ้าของร่างเดิมเธอไม่ได้พูดอะไรเหมือนกัน เจ้าของร่างเดิมเลยหมั้นกับอวี๋เหวยหมิน

หลังจากนั้นมาเธอก็ไม่ได้เจอหูเฟยอีกเลย บางทีอาจจะเห็นไกลๆ แต่จำไม่ได้ คิดไม่ถึงว่าวันนี้จะได้เจอ

“ทำไมเธอมาอยู่ตรงนี้?”

หูเฟยเห็นเฉินเยี่ยนจำเขาได้ก็ดีใจมาก

“มาซื้อของในอำเภอ บ้านฉันสร้างบ้านอยู่ไม่ใช่หรือ? คนกินข้าวเลยเยอะ”

เฉินเยี่ยนยิ้ม แต่กลับไม่รู้สึกอึดอัด สำหรับเธอแล้ว หูเฟยคือคนแปลกหน้า ส่วนเรื่องหมั้นตอนเด็กที่จบไปแล้ว ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ

—————