บทที่ 1179 อยู่เป็นเพื่อนแฟนกับลูกชาย / บทที่ 1180 เติมเต็มความปรารถนาแรกก่อน

แผนรักร้ายคว้าหัวใจคุณสามี

บทที่ 1179 อยู่เป็นเพื่อนแฟนกับลูกชาย

“หวันหวั่น เมื่อกี้คุยอะไรกับเยี่ยอีอีเหรอ ฉันเหมือนเห็นเธอหน้าดำหมดแล้ว!” เยี่ยมู่ฝานเห็นเยี่ยหวันหวั่นกลับมาก็วิ่งมาซักถามทันที

เยี่ยหวันหวั่นยักไหล่ตอบ “ไม่ได้พูดอะไรนะ เธออยากดึงตัวฉันให้ฉันเสนอเงื่อนไข ฉันเลยให้เธอใช้ตระกูลเยี่ยมาแลก”

“เอ่อ…” เยี่ยมู่ฝานมุมปากกระตุกทันที “แก…โหดจริงๆ!”

มิน่าเยี่ยอีอีถึงโกรธจนเป็นแบบนั้น

เยี่ยหวันหวั่นถือโอกาสหยิบเครื่องดื่มบนเคาน์เตอร์ขึ้นมาหนึ่งแก้ว แต่เยี่ยมู่ฝานแย่งเครื่องมือในมือเธอมา จากนั้นส่งเครื่องดื่มอีกแก้วให้ “เครื่องดื่มนี่มีส่วนผสมแอลกอฮอล์ แกดื่มอันนี้ น้ำมะม่วง ฉันเพิ่งไปให้พนักงานคั้นมาให้แก!”

เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก

ท้องเธอเต็มไปด้วยน้ำผลไม้แล้ว…

หลังผ่านไปประมาณครึ่งชั่วโมง

ทุกคนดื่มเหล้านิดหน่อยก็เริ่มคุยเฮฮาแล้ว บรรยากาศครึกครื้นถึงขีดสุด ตามธรรมเนียมหลังจากนี้ยังไม่มีกิจกรรม ส่วนใหญ่ดำเนินถึงเที่ยงคืนจึงค่อยจบงาน

เยี่ยหวันหวั่นมองเวลาบนโทรศัพท์มือถือ จากนั้นก็เอ่ยกับเยี่ยมู่ฝาน “พี่ กิจกรรมหลังจากนี้ฉันไม่ร่วมแล้วนะ”

เยี่ยมู่ฝานงึมงำ “แกจะกลับเร็วขนาดนั้นไปทำอะไร”

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “ไปอยู่เป็นเพื่อนแฟนกับลูกชายไง!”

เยี่ยมู่ฝานนิ่งเงียบ

เยี่ยมู่ฝานคันมืออยากฟาดปากตัวเองสักที ให้เงียบปากๆ ทำไมต้องถามด้วย

เยี่ยหวันหวั่นยิ้มบาง “พวกพี่ไม่ได้ห้ามฉันไม่เมาไม่กลับสักหน่อย ฉันกลับไปอยู่เป็นเพื่อนแฟนกับลูกชายก็ไม่ผิดมั้ง”

เยี่ยมู่ฝานแสดงท่าที ไร้ข้อโต้แย้ง…

ขณะที่กำลังพูดคุยกันอยู่ มือถือส่วนตัวของเยี่ยหวันหวั่นก็พลันดังขึ้นมา เป็นสายจากสวี่อี้

เยี่ยหวันหวั่นพลันแววตาเปลี่ยนไปเล็กน้อย คงไม่ใช่ว่าซือเยี่ยหานเกิดเรื่องอะไรขึ้นอีกแล้วใช่ไหม

“พี่ ฉันจะรับสาย”

เยี่ยหวันหวั่นรีบร้อนถือโทรศัพท์เดินไปจุดที่ค่อนข้างเงียบสงบ

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “ฮัลโหล พ่อบ้านสวี่ เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ”

เพิ่งรับสาบ ฝั่งตรงข้ามก็มีเสียงจวนจะร้องไห้ของสวี่อี้ดังขึ้นในทันที “คุณหนูหวันหวั่น คุณหนูช่วยสำรวมหน่อยได้ไหมครับ…”

“ห๊ะ ฉันทำไมนะ” เยี่ยหวันหวั่นมีสีหน้างุนงง

สวี่อี้เอ่ยเสียงอุบอิบ “ข่าวซุบซิบของคุณหนูกับคุณหนูเจียงเยียนหรานดังกระฉ่อนไปทั่ว แถม…แถมตอนนี้บนอินเทอร์เน็ตเด็กผู้หญิงพวกนั้นยังเอาแต่หวีดว่า…ว่า…”

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “จะมาหาฉัน คลอดลูกลิงให้ฉัน? ”

สวี่อี่กล่าว “คุณหนูก็รู้นี่นา!”

เยี่ยหวันหวั่นมีสีหน้าไร้เดียงสา “ฉันก็ไม่มีทางเลือกนะโอเคไหม ก็ไม่ใช่เพราะว่ากลัวหน้าตานี่จะไปยั่วเพศตรงข้ามฉันถึงได้ปลอมตัวแสดงเป็นผู้ชายหรอกเหรอ ตอนนั้นคุณก็ว่าแผนนี้ดีมากนี่!”

สวี่อี้เอ่ย “ตอนนั้นผมไร้เดียงสาเกินไป…”

เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก

สวี่อี้เอ่ยต่อ “งั้นคุณหนูกับกงซวี่แล้วก็ลั่วเฉินในสังกัดคุณหนูอีก…มันเรื่องอะไรกันครับ”

เยี่ยหวันหวั่นหมดคำพูดเล็กน้อย “ฉันจะมีอะไรกับพวกนั้นได้? สองคนนั้นเป็นผู้ชายตัวโต…”

สวี่อี้ถอนหายใจ “คุณหนูหวันหวั่น คุณหนูดูข่าวก่อนดีกว่า…”

“ทำไมเหรอ” เยี่ยหวันหวั่นเปิดเว็บไซต์ ค้นหาคีย์เวิร์ดดูอย่างสงสัย

รอจนอ่านข่าวซุบซิบใหม่ล่าสุดหมด เยี่ยหวันหวั่นก็แทบตาบอดแล้ว

ทำไมพลังจินตนาการของสื่อสมัยนี้ถึงล้ำเลิศนักนะ

ถ้าเป็นข่าวซุบซิบของเธอกับเจียงเยียนหรานก็แล้วไป ข่าวลือไร้มูลฐานระหว่างชายหญิงในวงการอย่างนี้มีให้เห็นเกลื่อนกลาด ต่อให้เธอระวังขนาดไหน นักข่าวก็สามารถเชื่อมโยงออกมาเป็นข่าวลือรักใคร่เผ็ดร้อนได้ พอข่าวหายดังคนก็เลิกสนใจแล้ว ปลอดภัยไร้ปัญหา

แต่เชื่อมโยงเธอกับลั่วเฉินและกงซวี่ การกระทำนี้ เกรงว่าคงอยากทำลายเธอให้ราบคาบ…

คนใหญ่คนโตเพศชายมีกติกาซ่อนเร้นกับศิลปินชาย นี่เพียงพอจะสร้างข่าวอื้อฉาวนำไปสู่การแบน ถึงตอนนั้นไม่เพียงแค่ตัวเธอ แม้แต่ศิลปินชายภายใต้สังกัดของเธอทุกคนก็จะโดนผลกระทบด้วย

——————————————————————————————

บทที่ 1180 เติมเต็มความปรารถนาแรกก่อน

ข่าวซุบซิบนี้เหมือนมีคนวางแผนเตรียมไว้แล้วยังไงยังงั้น ในชั่วเวลาสั้นๆ ก็เริ่มแพร่กระจายไปทั่วอินเทอร์เน็ตอย่างผึ้งแตกรัง ไม่นานก็ติดอันดับค้นหายอดนิยม

ที่ยิ่งโอเวอร์คือ ในโพสต์ที่โด่งดังที่สุดนั้นถึงกับมีคนเปิดแพร่งพราย พูดว่าเยี่ยไป๋ไม่เพียงเป็นเกย์ที่ชอบผู้ชาย แต่ยังเป็นโรคจิตที่ชอบสวมเสื้อผ้าผู้หญิงด้วย…

เยี่ยหวันหวั่นพูดไม่ออก

พูดในบางมุมแล้ว คำพูดนี้ก็เรียกได้ว่าไม่ผิดอะไรนัก

เธอชอบผู้ชายจริงๆ แล้วก็สวมเสื้อผ้าผู้หญิงด้วย

เวลานี้ในงานเลี้ยงคาดว่าคงไม่ศิลปินไม่น้อยเห็นข่าวพวกนี้แล้ว สายตาที่มองเธอยามนี้จึงแฝงความหมายลึกซึ้งพอสมควร

“พ่อบ้านสวี่ ฉันเข้าใจแล้ว ฉันจะหาวิธีจัดการค่ะ”

เยี่ยหวันหวั่นเพิ่งสายจากสวี่อี้แล้วเดินกลับมา เยี่ยมู่ฝานก็รีบร้อนเอ่ยขึ้น “หวันหวั่น แกเห็นข่าวลือพวกนั้นบนอินเทอร์เน็ตแล้วหรือยัง”

เยี่ยหวันหวั่นพยักหน้า “เพิ่งเห็นเมื่อกี้”

เยี่ยมู่ฝานสีหน้าดำทะมึน “บัดซบ ต้องเป็นฝีมือของพวกเยี่ยอีอีแน่เลย!”

กงซวี่จ้องโทรศัพท์ โกรธจนใกล้จะระเบิดแล้ว “เชี่ย เรื่องบ้าอะไรเนี่ย! พวกมันสิโรคจิต! สร้างข่าวบนอินเทอร์เน็ตว่าพี่เยี่ยชอบแต่งหญิงบ้าบอ เหมือนข่าวจะเผลอหลุดออกมาจากในกลุ่มบริษัทจากเมื่อครั้งก่อน เรื่องนั้นพวกเราแค่พนันกัน พูดว่าถ้าพี่เยี่ยแพ้จะแต่งหญิงโอเคไหม ทำไมกลายเป็นพี่ชอบแต่งหญิงลับๆ ไปแล้ว

“พี่เยี่ย พี่ไม่ต้องห่วงนะ เมื่อกี้ผมโพสต์เวยป๋อแล้ว สกรีนช็อตบทสนทนาทั้งหมดไปล้างมลทินแล้ว!”

เยี่ยหวันหวั่นมองท่าทางโมโหอย่างหาได้ยากของกงซวี่ ในใจรู้สึกอบอุ่นเล็กน้อย “ล้างมลทินอะไร”

กงซวี่เอ่ย “แน่นอนว่าก็ต้องล้างมลทินข่าวลือพวกนั้น บอกพวกเขาว่าพี่ไม่ได้มีงานอดิเรกเหลวไหลพวกนั้นไง!”

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “ไม่จำเป็น”

กงซวี่ขมวดคิ้ว “ทำไมไม่จำเป็นล่ะ” ผู้ชายคนไหนเขารับข่าวลืออย่างนี้ได้บ้าง

เยี่ยหวันหวั่นมองอีกฝ่ายอย่างคลุมเครือแวบหนึ่ง “ถ้า ไม่ใช่ข่าวลือล่ะ”

กงซวี่พลันชะงัก จ้องเยี่ยหวันหวั่นตาค้าง “เอ่อ…อ่า? มะ…หมายความว่าไง”

เยี่ยหวันหวั่นกล่าว “ถ้าฉันชอบผู้ชายจริงๆ แล้วก็มีงานอดิแรกแต่งงานจริงๆ ล่ะ”

ตอนที่ได้ยินประโยคท่อนหลัง กงซวี่พลันตัวแข็งค้าง “วะ…ว่าไงนะ”

พี่เยี่ยชอบผู้ชายเรื่องนี้เขารู้ แต่ ชอบแต่งหญิง…

กงซวี่ยืนอึ้งตะลึงอยู่ตรงนั้น ก็ไม่รู้ว่าคิดฟุ้งซ่านอะไรอยู่ ใบหน้าจึงแดงขึ้นเรื่อยๆ

“มะ…ไม่มั้ง…จริงหรือหลอกน่ะ พี่เยี่ยพี่…พี่มีงานอดิเรกอย่างนั้นจริงๆ …” กงซวี่พลันมีสีหน้ายากบรรยาย

เห็นท่าทางหวาดกลัวของกงซวี่ เยี่ยหวันหวั่นก็หลุดหัวเราะขึ้นมา

กงซวี่เห็นแบบนั้นก็ถอนหายใจโล่งอกแล้วเอ่ยบ่น “พี่เยี่ย พี่แกล้งผม!”

เยี่ยหวันหวั่นก็ไม่ได้อธิบาย แต่เอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง “กงซวี่ นายได้รางวัลราชาจอเงินแล้ว ฉันจะเติมเต็มความปรารถนาแรกของนายก่อน”

“ความปรารถนาแรก…” กงซวี่ชะงักก่อนเล็กน้อย จากนั้นดวงตาก็เปล่งประกายทันที “พี่เยี่ย พี่หมายถึง…ให้ผมเจอเสี่ยวมี่เจี้ยนเหรอ”

เยี่ยหวันหวั่นตอบรับ “อืม”

คงเพราะความสุขมากะทันหันเกินไป กงซวี่ตะลึงงันอยู่เนิ่นน่านกว่าจะตอบสนองกลับมา “จะ…จริงหรือหลอก? พี่เยี่ยพี่อย่าหลอกผมนะ! เจอตอนไหน เจอที่ไหน”

เยี่ยหวันหวั่นจัดปากแขนเสื้อไปด้วยกล่าวไปด้วย “อีกประมาณสิบห้านาทีก็อยู่ที่นี่แล้ว”

พูดพลางก็เดินตรงไปยังทางออก

เยี่ยมู่ฝานรีบตามมา เอ่ยปากเสียงเบา “หวันหวั่น แกจะให้เด็กนั่นเจอ ‘เสี่ยวมี่เจี้ยน’ จริงๆ เหรอ”

เยี่ยหวันหวั่นเอ่ย “ฉันรับปากเขาแล้ว”

………………………………