TQF:บทที่ 579 ฮือฮาทั่วเมือง (1)

 

 

 

 

“พวกเจ้าคือ…”

 

คนอื่นเมื่อได้เห็นหญิงสาวเลอโฉมขนาดนี้ก็อึ้งกันไปหมด โดยเฉพาะเมื่อพบว่าเหล่าคนตรงหน้านี้อยู่ระดับจักพรรดิ์อมตะทั้งนั้นก็ตกใจจนพูดอะไรไม่ออก

 

เห็นท่าทางของพวกเขาแล้วเฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็รู้ได้ทันทีว่าคนพวกนี้อยู่ในกลุ่มทหารรับจ้างระดับ 5 เท่านั้น แถมยังสายตาเจ้าเล่ห์ ไม่ใช่คนดีอะไรแน่นอน

 

“ตีขาพวกเขาให้หัก” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวไม่ปราณีต่อคนแบบนี้อยู่แล้ว

 

“ขอรับ เจ้านาย”

 

ไป๋ต้าหู่พุ่งไปยังเจ้าพวกดวงซวยทันที

 

ตอนนี้พวกเกาชิงหยางมาอยู่ข้างๆเฉิงเสี่ยวเสี่ยวแล้ว นางสั่งเพียงคำเดียวว่า “ไปเถอะ”

 

สั่งเสร็จไม่แม้แต่จะมองพวกเขา ยิ่งไม่คิดจะใส่ใจกับคนพวกนั้น หันหลังเดินจากไปทันที

 

พวกเกาชิงหยางรีบตามขึ้นไป และในตอนนั้นก็มีเสียงโหยหวนและเสียงกระดูกหักดังขึ้นด้านหลังพวกเขา ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าสถานการณ์ข้างหลังเป็นอย่างไร

 

ตอนนี้ผู้คนที่อยู่หน้าสมาคมเห็นภาพนี้หมด แต่ก็ไม่มีใครว่าอะไร ในสายตาของพวกเขามีความนับถือและความระแวงเมื่อมองไปยังฝูงคนที่เดินไปไกลแล้ว

 

ข่าวที่กลุ่มทหารรับจ้างเถี่ยฉุยถูกตีจนขาหักกระจายออกอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกันก็บอกไว้ด้วยว่ากลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนระดับ 4 ที่เพิ่งลงทะเบียนไปเป็นคนลงมือ

 

ข่าวที่ใหญ่ที่สุดก็คือกลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนมีจักพรรดิ์อมตะอย่างน้อย 11 คน เมื่อข่าวนี้กระจายออกไปก็ฮือฮากันไปทั้งเมือง ไม่ใช่ว่าในเมืองไม่มีกลุ่มทหารรับจ้างระดับ 4 แต่พวกเขาก็มีจักพรรดิ์อมตะเพียง 3 คนเท่านั้น แต่กลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนที่เพิ่งลงทะเบียนไปกลับมีถึง 11 คน น่าตกใจจริงๆ

 

ต่อไปนี้ก็คงมีแค่สมาคมทหารรับจ้างและ 2 อิทธิพลใหญ่จากสมาคมผู้ฝึกฝนวิทยายุทธไร้สำนักเท่านั้นที่กล้าแหยมกับกลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุน

 

แน่นอนว่ายังมีอีกเรื่องที่เป็นเรื่องสนุกปากของเหล่าทหารรับจ้าง ก็คืออดีตสมาชิกของกลุ่มทหารรับจ้างไป๋หู่ 3 คนได้เข้าร่วมกลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนด้วย ทำให้หลายๆคนนึกสนุกอยู่ไม่น้อยว่า 3 คนนั้นจะแก้แค้นกลุ่มทหารรับจ้างตีเสวี่ยรึเปล่า

 

ก่อนหน้านี้คนของกลุ่มทหารรับจ้างตีเสวี่ยฆ่าคนของกลุ่มทหารรับจ้างไป๋หู่ไปเกือบหมดเพื่อชิงยาวิเศษที่พวกเขาหามาได้ เหลือแค่ไม่กี่คนจะจะตายแหล่มิตายแหล่ บัดนี้เหลือ 3 คนนี้ที่ยังลงมือได้อยู่ ในเมื่อเข้าร่วมกับกลุ่มทหารรับจ้างที่แข็งแกร่งขนาดนี้แล้วจะแก้แค้นหรือไม่ ก็เป็นหัวข้อสนทนาที่หลายๆคนพูดถึง

 

เรื่องฮือฮาข้างนอกนั่นไม่ส่งผลอะไรต่อบ้านตระกูลเฉิงที่ถนนชิงหัวทั้งนั้น ที่สำคัญก็คือทุกคนไม่เคยเห็นคนในบ้านตระกูลเฉิงออกมาหาซื้ออาหารเลย ทำให้คนอื่นแปลกใจไม่น้อย

 

ไม่ว่าข้างนอกจะอยากรู้แค่ไหนก็ได้แต่มอง ไม่เกี่ยวอะไรกับคนในตระกูลเฉิงทั้งนั้น ไม่มีใครสนใจเรื่องภายนอก

 

วันที่ 2 คนของสมาคมทหารรับจ้างก็มาถึงที่ พวกเขาเองก็แปลกใจเหมือนกันว่าตระกูลเฉิงเป็นยังไงกันแน่ มาถึงก็ลงทะเบียนกลุ่มทหารรับจ้างระดับ 4 เลย แน่นอนว่านี่ยังไม่ใช่เรื่องที่พวกเขาตะลึงที่สุด ที่สำคัญสุดคือทหาร 10 นายของตระกูลเฉิงที่พามาด้วยล้วนเป็นจักพรรดิ์อมตะทั้งนั้น ทำให้สมาคมทหารรับจ้างนั่งไม่ติดเลยทีเดียว

 

เมื่อพวกเขามาถึง ผู้เฒ่าหยิงซึ่งเป็นพ่อบ้านก็ให้การต้อนรับ

 

พอเข้าไปในบ้านตระกูลเฉิง สีหน้าของแต่ละคนก็เปลี่ยนไป พวกเขาลอบมองหน้ากันก็เห็นความตื่นตระหนกจากแววตาอีกฝ่าย

 

พลังในบ้านตระกูลเฉิงแกร่งมากจริงๆ มองจากระดับวิทยายุทธของพวกเขาแล้ว ในนี้น่าจะมียอดฝีมือซ่อนอยู่นับร้อย และยอดฝีมือพวกนี้ก็อาจจะอยู่ระดับจักพรรดิ์อมตะทั้งนั้น

 

จักพรรดิ์อมตะนับร้อยคน นี่มันอะไรกัน แม้แต่พวกตาแก่ที่มีชีวิตอยู่มาหลายร้อยปีก็ยังตะลึง เกรงว่ามีแต่กลุ่มทหารรับจ้างเอ้าชังที่เก่งและเป็นตำนานถึงจะมีต้นทุนขนาดนี้ล่ะมั้ง

 

ที่สำคัญเหล่าจักพรรดิ์อมตะเหล่านี้มาจากที่ไหนกัน พวกเขามากันตั้งแต่เมื่อไหร่ คนที่เป็นเจ้าถิ่นฮวงยันอย่างพวกเขากลับไม่รู้เรื่องเลย จะไม่ให้ตกใจได้อย่างไร

 

ในขณะนี้ พวกเขาที่ยโสมาตลอดไม่สามารถวางท่าอะไรได้อีก คนของตระกูลเฉิงมากเพียงพอที่จะตั้งสำนักเองได้ ใครจะกล้าดูถูกอีก

 

แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้แสดงความคิดแบบนี้ออกมา แม้ว่าเมื่อกี้จะเกิดการเปลี่ยนแปลงกับสีหน้าก็แค่เพียงครู่เดียวเท่านั้น

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวที่เพิ่งกินข้าวเข้าเสร็จเมื่อได้รับแจ้งก็ไม่ได้แปลกใจอะไร เดินตรงไปยังห้องรับแขก

 

“คุณหนูมาถึงแล้ว…”

 

สาวใช้ที่เฝ้าอยู่ด้านนอกห้องรับแขกตะโกนบอก ทุกคนมองไปตามเสียงก็เห็นหญิงสาวชุดขาวพลิ้วไหวคนหนึ่ง

 

ตอนนี้อาจารย์ปู่วิหารสวรรค์มาอยู่ที่ห้องรับแขกแล้ว เขานั่นแหละที่อยู่เป็นเพื่อนแขก เฉิงเสี่ยวเสี่ยวพยักหน้าให้ตาเฒ่าทั้งหลาย

 

“เสี่ยวเสี่ยว เจ้ามาแล้วเหรอ” อาจารย์ปู่วิหารสวรรค์ยิ้ม

 

“ต้องมาอยู่แล้ว นานๆจะมีแขกพิเศษขนาดนี้มา” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวยิ้มอ่อนๆ ทันใดนั้นก็เหมือนมีดอกขาวบานสะพรั่งออก เจิดจรัสเกินจะเทียบ ยังดีที่ในห้องรับแขกมีแต่พวกตาเฒ่า ไม่อย่างนั้นคงต้องมีคนเสียอาการแน่

 

ผู้เฒ่าที่รับลงทะเบียนเมื่อวานประสานมือกับเฉิงเสี่ยวเสี่ยวพร้อมรอยยิ้ม “หัวหน้ากลุ่มเฉิง ข้าพาเพื่อนเก่าเพื่อนแก่มาด้วย หวังว่าหัวหน้ากลุ่มเฉิงจะไม่ว่ากันนะ”

 

“ท่านอาวุโสไม่ต้องเกรงใจ แขกแต่ละท่านล้วนเป็นคนที่ยากจะเชิญ วันนี้ให้เกียรติมาที่นี่เป็นเกียรติของพวกเรา” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวย่อตัวเล็กน้อยเป็นการทำความเคารพ

 

เหล่าผู้เฒ่ายิ้ม พวกเขาย่อมมองวิทยายุทธของหญิงสาวตรงหน้าออก แต่ไม่คิดเลยว่านางจะไม่มีความผยองเหมือนหนุ่มสาวผู้อื่น กลับดูวางท่าเรียบร้อยและสง่าเหมือนคุณหนูตระกูลดัง

—————————-