TQF:บทที่ 580 ฮือฮาทั่วเมือง (2)

 

 

“เสี่ยวเสี่ยว ข้าจะแนะนำให้รู้จัก”

 

อาจารย์ปู่วิหารสวรรค์ลุกขึ้น แม้ว่าอายุของเขาจะพอๆกับผู้เฒ่าคนอื่น แต่ในแง่ของวิทยายุทธแล้วเหล่าผู้เฒ่าสูงกว่าเยอะ อาจารย์ปู่วิหารสวรรค์เองก็วางตัวเป็นคนรุ่นหลัง

 

แต่เดิมในโลกของผู้ฝึกฝนวิทยายุทธก็ถือคนแกร่งเป็นใหญ่อยู่แล้ว ขอแค่มีวิทยายุทธสูง ต่อให้อายุน้อยแต่เมื่อเหล่าผู้ฝึกฝนวิทยายุทธได้เจอก็ไม่กล้าวางมาดคนเป็นรุ่นพี่ กลับต้องมีท่าทีอ่อนน้อม

 

อาจารย์ปู่วิหารสวรรค์ลุกขึ้นแนะนำให้เฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็เหมือนผู้ใหญ่แนะนำแขกให้เด็กๆในบ้านรู้จัก เขาชี้ไปยังผู้เฒ่าจากสมาคมทหารรับจ้าง “ท่านนี้คืออาวุโสอู๋ เจ้าน่าจะเคยเจอแล้ว ท่านนี้คือผู้อาวุโสเว่ยจากสมาคมผู้ฝึกฝนวิทยายุทธไร้สำนัก ท่านนี้คือผู้อาวุโสเจี่ยงจากตำหนักเจ้าเมืองฮวงยัน ท่านนี้คือผู้อาวุโสเริ่นจากโถงวิหารสวรรค์ ท่านนี้คือผู้อาวุโสหงจากสำนักหลิวหยวน”

 

คนเหล่านี้ต่างเป็นตัวแทนจากอิทธิพลต่างๆ โดยเฉพาะที่แม้แต่ผู้อาวุโสจากโถงวิหารสวรรค์ยังมาถึงที่ ทำให้เฉิงเสี่ยวเสี่ยวประหลาดใจไม่น้อย

 

3 วันหลังจากนี้ก็จะถึงวันคัดตัวของโถงวิหารสวรรค์ ผู้อาวุโสของพวกเขากลับมาที่บ้าน นี่มันเรื่องบังเอิญหรอบัญชาสวรรค์กันแน่

 

ความคิดนี้ปรากฏเพียงแว้บเดียวก็หายไป เฉิงเสี่ยวเสี่ยวยังมีท่าทีเหมือนก่อน ยังคงยิ้มอ่อนๆให้กับทุกคนพลางประสานมือ “ข้าน้อยเฉิงเสี่ยวเสี่ยวคารวะท่านอาวุโสอู๋ ท่านอาวุโสเว่ย ท่านอาวุโสเจี่ยง ท่านอาวุโสเริ่น ท่านอาวุโสหง หลังจากนี้คงต้องรบกวนให้ทุกท่านช่วยแนะนำ ข้าน้อยสุดซึ้ง”

 

“หัวหน้ากลุ่มเฉิงพูดเกินไป วันนี้พวกเราแค่มาตรวจดูสมาชิกกลุ่มของเจ้า แม้จะยังไม่ได้เห็นแต่ตาแก่อย่างพวกเราก็รู้สึกได้แล้วล่ะ ต้องยอมรับเลยว่ากลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนของพวกเจ้านี่แข็งแกร่งจริงๆ”

 

ผู้อาวุโสอู่เอ่ยยิ้มๆ

 

ผู้อาวุโสหงแห่งสำนักหลิวหวินยิ้มตาหยี “ถูกต้อง ข้างในนี้นี่เต็มไปด้วยพยัคร้ายจริงๆ ท่าทางฮวงยันของเราจะได้มีชื่อเสียงโด่งดังแล้ว”

 

“กลุ่มทหารรับจ้างซื่อหุนยังไม่ทันได้แจ้งเกิดก็เป็นที่ร่ำลือไปทั่วเมืองแล้ว อยากไม่ดังก็ไม่ได้แล้ว…” ผู้อาวุโสเจี่ยงจากตำหนักเจ้าเมืองยิ้มไม่เป็นธรรมชาติเท่าไหร่

 

การที่บ้านตระกูลเฉิงแข็งแกร่งขนาดนี้ไม่ใช่เรื่องดีเท่าไหร่สำหรับตำหนักเจ้าเมือง ตรงกันข้าม พวกเขากลับกังวลใจมากกว่าว่าคนของบ้านตระกูลเฉิงจะก่อจลาจลขึ้น จุดจบของการก่อเรื่องของจักพรรดิ์อมตะนับร้อยนี่อย่าว่าแต่ฮวงยันเมืองเดียวเลย ต่อให้มีฮวงยันอีกหลายสิบเมืองก็ไม่พอให้พวกเขาละเลง

 

กลับอำนาจที่ไม่สามารถควบคุมได้แล้ว พวกเขามีแต่ความระแวงและความไม่สบายใจ แต่ก็ไม่กล้าพูดอะไรมากอยู่ดี

 

ความระแวงในแววตาเขาเฉิงเสี่ยวเสี่ยวรู้สึกได้ ตั้งแต่ได้เรียนอิทธฤทธิ์ไม่น้อยจากหยูเฮงน้อย บางทีนางก็สามารถล่วงรู้ได้ถึงความคิดในจิตใจผู้อื่นโดยไม่รู้ตัว

 

เมื่อกี้ตอนที่ผู้อาวุโสเจี่ยงกำลังพูดอยู่เฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็สัมผัสได้ถึงจิตใจที่เปลี่ยนไปของเขา นางจึงเข้าใจความหมายโดยนัยที่เขาจะสื่อ

 

“ผู้อาวุโสทุกท่านพูดเป็นเล่นไป กฎของพวกเราคือหากผู้อื่นไม่มาหาเรื่อง เราก็จะไม่วุ่นวาย แน่นอนว่าถึงแม้พวกเราจะไม่ใช่พวกหาเรื่องแต่ก็ไม่ใช่พวกขี้ขลาด การถูกผู้อื่นข่มขู่โดยไม่ตอบโต้ก็ไม่ใช่วิถีของพวกเรา หวังว่าผู้อาวุโสจะคอยให้คำแนะนำข้าด้วย”

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวกล่าวถึงปัญหาเหล่านี้เรียบๆ อย่างไรซะก็เป็นเรื่องที่ต้องเจอในภายภาคหน้า ไม่จำเป็นต้องเกรงใจ

 

อีกอย่างระหว่างผู้ฝึกฝนวิทยายุทธด้วยกันเองจะไม่มีการต่อสู้ได้อย่างไร เรื่องนี้ทุกคนก็รู้ดี ขณะเดียวกันก็ถือเป็นการแบไต๋

 

พวกนางจะไม่ไปโจมตีคนอื่นก่อน แต่ก็อย่าคิดซะว่าจะรังแกพวกนางได้ คนที่กล้ามาแหยมไม่ว่าจะเป็นใคร นางไม่ออมมือแน่

 

เมื่อผู้อาวุโสทุกท่านได้ฟังไม่ได้โกรธแต่กลับเบาใจลง วิทยายุทธมาถึงขั้นพวกเขาได้ย่อมรับรู้ได้ว่าคนอื่นพูดเรื่องจริงอยู่รึเปล่า

 

เรื่องนี้น่าจะจบแล้วล่ะ เฉิงเสี่ยวเสี่ยวหันไปสั่งคนที่เฝ้าอยู่ข้างๆ “สั่งลงไปว่าให้เตรียมจัดงานเลี้ยง พวกเรามีเรื่องจะคุยกับเหล่าผู้อาวุโส”

 

“ขอรับคุณหนู” ผู้เฒ่าหยิงรีบสั่งลงไป

 

แม้จะยังอีกนานกว่าจะถึงเวลาอาหารเที่ยง แต่เมื่ออยากจะต้อนรับแขกจริงๆก็ไม่จำเป็นต้องใส่ใจเรื่องยิบย่อยพวกนี้

 

เหล่าผู้อาวุโสพวกนี้ยังอยากจะสืบเบื้องลึกเบื้องหลังของบ้านตระกูลเฉิงอยู่ย่อมไม่รีบจะไปอยู่แล้ว จึงฟังยิ้มๆโดยไม่คัดค้านอะไร

 

เมื่ออาหารอันโอชะทั้งหลายถูกยกขึ้นโต๊ะ เหล่าผู้อาวุโสตะลึงกันไม่น้อย ด้วยสายตาของพวกเขาย่อมดูออกว่าทุกจานมีพลังวิญญาณหนาแน่นผสมอยู่ด้วย

 

อาหารที่ผสมพลังวิญญาณพวกเขาเองก็กินมาไม่น้อย แต่การที่อาหารหลายสิบจานนี้ที่บ้านตระกูลเฉิงล้วนผสมหมดโดยไม่มียกเว้นนี่ทำให้พวกเขาตะลึงไม่น้อย

 

ในสายตาพวกเขา บ้านตระกูลเฉิงช่างลึกลับเสียจริง และพลังที่หนุนหลังอยู่ก็แข็งแกร่งมากจริงๆ

 

ก่อนที่งานเลี้ยงจะเริ่ม ฟางซูหยุนและ 2 สามีภรรยาโม่อู๋เซอก็มาด้วยเช่นกัน

 

ครั้งนี้เฉิงเสี่ยวเสี่ยวตั้งใจให้พวกเขาปรากฏตัว