TQF:บทที่ 581  จดจำไว้ไม่ลืมเลือน (1)

 

ผู้อาวุโสจากโถงวิหารสวรรค์มาอยู่ที่นี่แล้ว ไม่ว่ายังไงรู้จักไว้ก็จะเป็นการดีกว่า

 

“ผู้อาวุโสทุกท่าน นี่คือท่านย่าของข้า พวกเขาคืออาจารย์และอาจารย์หญิงของข้า ขอให้ทุกท่านช่วยดูแลด้วย” เฉิงเสี่ยวเสี่ยวแนะนำพวกเขา

 

ส่วนฐานะของผู้เฒ่าเหล่านี้เฉิงเสี่ยวเสี่ยวก็แนะนำให้ฟังอีกรอบ ทุกคนต่างทักทายกัน

 

เหล่าผู้อาวุโสไม่ได้ให้ความสนใจกับ 2 สามีภรรยาโม่อู๋เซอเท่าไหร่ แต่กลับมีสีหน้าตกใจกับฟางซูหยุน อย่างไรซะยอดฝีมือในอายุแค่นี้ธรรมดาซะที่ไหน

 

พวกเขาที่นอบน้อมอยู่แล้วก็ยิ่งนอบน้อมกว่าเดิม แตกต่างกับท่าทียโสเมื่อตอนเพิ่งมาถึงบ้านตระกูลเฉิงราวฟ้ากับเหว

 

“ข้ามีคำถาม ไม่ทราบว่าถามได้มั้ย”

 

สายตาของผู้อาวุโสเริ่นวนไปมาระหว่างอาจารย์ปู่วิหารสวรรค์และ 2 สามีภรรยาโม่อู๋เซอ เขาอดเอ่ยปากถามไม่ได้

 

เมื่อได้ฟังคำพูดของเขา สายตาของทุกคนก็ถูกเขาดึงดูดไปทันที

 

ผู้อาวุโสท่านอื่นก็มองเขาอย่างสงสัย ไม่รู้ว่าเขาจะถามอะไร

 

เฉิงเสี่ยวเสี่ยวแอบดีใจ มุมปากยกขึ้นเล็กน้อย ตอบเรียบๆ “ผู้อาวุโสเริ่นไม่ต้องเกรงใจ มีอะไรก็พูดได้เลย พวกเราพร้อมรับฟัง”

 

“ดี ถ้าอย่างนั้นข้าก็จะไม่ซ่อนความในใจ” ผู้อาวุโสเริ่นยิ้มออก “พวกท่านทั้ง 3 เหมือนจะมีวาสนาเกี่ยวดองกับโถงวิหารสวรรค์ของเรา ข้าเองก็ไม่ได้รู้ลึกเกี่ยวกับวิชาวิหารสวรรค์นัก แต่ก็พอสัมผัสผู้มีวาสนาได้บ้าง ไม่ทราบว่าวิชาวิหารสวรรค์ของทั้ง 3 ท่านมาจากที่ไหน”

 

ทุกคนชะงักไป โดยเฉพาะคนของเฉิงเสี่ยวเสี่ยวยิ่งประหลาดใจเข้าไปใหญ่ คิดไม่ถึงเลยว่าผู้อาวุโสเริ่นจากโถงวิหารสวรรค์คนนี้จะมีความสามารถมากขนาดที่มองทั้ง 3 คนออกทะลุปรุโปร่ง

 

ทั้ง 3 คนเป็นถึงเจ้าโถงวิหารสวรรค์ วิชาวิหารสวรรค์ย่อมไม่แย่ แต่วิทยายุทธของพวกเขาก็ยังดูต่ำไปหน่อยในสายตาของผู้อาวุโสเริ่น ถึงได้มองอิทธฤทธิ์ในตัวพวกเขาออกอย่างง่ายดาย

 

วิชาวิหารสวรรค์น่ะลึกลับยิ่งกว่าลึกลับ ทุกคนที่พอมีฝีมือในวิชาวิหารสวรรค์อยู่บ้างก็จะมีลมปราณลึกลับแผ่ซ่านออกมา ลมปราณแบบนี้ผู้ฝึกฝนวิทยายุทธทั่วไปแยกไม่ออก แต่สำหรับคนของโถงวิหารสวรรค์แล้ว คนที่วิทยายุทธสูงย่อมมองออกทั้งนั้น

 

ผู้อาวุโสก็เป็นเช่นนั้น ที่จริงเขาสัมผัสได้ตั้งแต่ที่อาจารย์ปู่วิหารสวรรค์ปรากฏตัวแล้ว เพียงแต่เขาอดทนไว้ จน 2 สามีภรรยาโม่อู๋เซอปรากฏตัวเขาจึงทนไม่ไหวอีกต่อไป ต้องเอ่ยถามเสีย

 

ใครๆก็รู้ว่ามีคำสั่งจากเบื้องบน ลูกศิษย์ที่จะรับเข้าในปีนี้ไม่จำเป็นต้องมีวิทยายุทธที่สูง สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องมีพรสวรรค์แห่งวิชาวิหารสวรรค์ และตรงหน้านี้ก็มีมากทีเดียวถึง 3 คน เขาจะยอมพลาดได้อย่างไร

 

ตอนนี้สายตาของเขาที่มอง 2 สามีภรรยาโม่อู๋เซอนอกจากความยินดีแล้วยังมีความเร่าร้อนด้วย 2 คนนี้คือบุคคลเลอค่าที่แท้จริง

 

หากได้ 2 คนนี้เข้าโถงวิหารสวรรค์ งั้นรางวัลปีนี้ของเขา…

 

คิดมาถึงตรงนี้รอยยิ้มบนใบหน้าผู้อาวุโสเริ่นก็ยิ่งเบิกบานเข้าไปใหญ่

 

โถงหลักวิหารสวรรค์

 

“เพลง แกะที่คลุมหนังหมาป่าไว้”

 

ทำนองประหลาดที่แฝงไปด้วยความโศกเศร้าดังมาจากที่ใกล้ๆ หยินเฟิ่งจ้องเขม็งไปที่แผ่นหลังแผ่นนั้น เพลิงริษยาแทบจะเผานางจนสิ้นซาก

 

นางคิดไม่ถึงจริงๆว่าผู้ชายคนนี้จะรักลึกซึ้งได้ขนาดนี้ ต่อให้ความทรงจำหายไปก็ยังจดจำเพลงประหลาดๆพวกนี้ได้อยู่

 

นางเจ็บใจ เจ็บใจจริงๆ

 

เพื่อให้ผู้ชายคนนี้สนใจ นางล้มเลิกการเก็บตัว ล้มเลิกการออกไปข้างนอก เพื่อที่จะอยู่เฝ้าผู้ชายคนนี้ไว้ตลอด

 

แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ เวลาผ่านไปเกือบปีแล้ว นางก็ยังไม่อยู่ในสายตาของผู้ชายคนนั้นสักที

 

นางทั้งแค้นและเจ็บใจ อิจฉาริษยานังบ้านั่นอย่างถึงที่สุด

 

นางมีสิทธิ์อะไรที่จะได้ครอบครองหัวใจเขา นางก็แค่คนบ้านนอก มีสิทธิ์อะไรได้ความรักจากเขา

 

หยินเฟิ่งยอมรับไม่ได้เด็ดขาด

 

เกิดความรู้สึกขึ้นในใจของหยินเฟิ่งมากมายจนนางกัดฟันกรอด แต่ไม่ว่าอย่างไรนางก็ไม่กล้าไปขัดจังหวะของเขาตอนนี้

 

และก็มีเพลงที่นางฟังจนคุ้นหูอีกเพลงดังขึ้นมา

 

“เพลงหนูรักข้าว”

 

เพลงนี้อีกแล้ว

 

ทุกครั้งที่ได้ยินเขาฮัมเพลงบอกรักแบบนี้หยินเฟิ่งก็แค้นจนกัดฟันกรอด เพราะทุกครั้งที่เพลงนี้ดังขึ้น เขาก็จะต้องนึกถึงภาพที่นังผู้หญิงบ้านนอกนั่นอยู่เคียงคู่กับเขา

————————