ตอนที่ 334 พบกันอีกแล้ว / ตอนที่ 335 เฉวียนหมิงรู้จักจีบสาว

หมอยาหวานใจท่านประธาน

ตอนที่ 334 พบกันอีกแล้ว 

 

 

“ผมเลือกเป็นหรอก  แต่ถ้าคุณเลือกให้ผมจะยิ่งชอบ” เสียงที่เปี่ยมด้วยเสน่ห์ดึงดูดบวกกับแววตาที่มีความรักอย่างลึกล้ำ ทำให้แม้แต่ดวงตาพนักงานแนะนำสินค้าที่อยู่ข้างๆ ยังทอประกายออกมา 

 

 

สวรรค์โปรด ถ้าสามารถมีผู้ชายที่หล่อเหลามีเสน่ห์แบบนี้มาจีบ จะให้เธอทำอะไรก็ยอมทั้งสิ้น  

 

 

อีลั่วเสวี่ยหน้าแดงทันที คนอย่างเขา ทำไมเธอถึงไม่รู้มาก่อนว่าเขามีวิธีพูดกับเด็กสาวขนาดนี้ แต่เขากลับไม่รู้ว่าพูดอย่างนี้เหมือนพูดจีบสาว 

 

 

“อาเสวี่ย คุณจะปฏิเสธผมหรือ?” เฉวียนหมิงเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย สีหน้าดูห่อเ**่ยวลง ราวกับปฏิเสธเรื่องที่สำคัญอย่างยิ่งยวด 

 

 

“ฉันไม่ได้บอกสักหน่อย” อีลั่วเสวี่ยยกมุมปากขึ้น สุดท้ายเธอไม่ได้ปฏิเสธเขา เฉวียนหมิงเห็นเช่นนี้ก็ยิ้มที่มุมปากทันที 

 

 

เฉวียนหมิงมองดูพนักงานแนะนำสินค้า “เสื้อผ้าผู้หญิงอยู่ไหน ให้เธอเลือกก่อน” 

 

 

พอพนักงานแนะนำสินค้าได้ยินจึงตั้งสติได้ หน้าแดงเล็กน้อย คุณพระช่วย คนหล่ออย่างนี้พูดกับเธอ ช่างโชคดีจริงๆ เดี๋ยวต้องไปคุยโม้กับเพื่อนสักหน่อย 

 

 

เธอเป็นพนักงานแนะนำสินค้าที่นี่มานาน เห็นหนุ่มหล่อทุกประเภทมาแล้ว แต่ยังไม่เคยเห็นใครหล่อเหลาทั้งยังเย็นชาและหยิ่งผยองแบบนี้มาก่อน 

 

 

“อ้อ เชิญคุณผู้ชายและคุณผู้หญิงมาทางนี้เลยค่ะ” เพราะถ้าเรียกว่าคุณน้องอาจทำให้คนเข้าใจผิดว่าไม่ชอบ ดังนั้นร้านค้าที่มีระดับหน่อยจะเรียกขานลูกค้าแบบนี้ ทั้งยังดูมีมารยาทมาก 

 

 

พออีลั่วเสวี่ยเห็นเฉวียนหมิงเดินนำหน้าไป จึงต้องเดินตามไป ราวกับแฟนสาวที่ทำตัวน่ารัก 

 

 

“ตัวนี้…อาเสวี่ย คุณคิดว่าอย่างไรบ้าง” ในเสื้อผ้าเลิศหรูมากมาย เฉวียนหมิงมักจะสามารถเลือกชุดที่เหมาะกับรสนิยมและขนาดของอีลั่วเสวี่ยได้เสมอ ไม่จำเป็นต้องดูเบอร์เสื้อเลย 

 

 

และเธอเองก็ชอบชุดที่เขาเลือกให้ จึงเพียงแต่พยักหน้า “ไม่เลว แต่ชุดนี้ใส่ในเวลาปกตินี่ค่ะ” ไหนบอกว่าไปงานเลี้ยงไม่ใช่หรือ น่าจะชื้อชุดแบบพิธีการประเภทกระโปรงยาว ที่ดูโดดเด่นและมีความเป็นผู้ใหญ่หน่อย 

 

 

“คุณใส่แล้วดูสวยก็พอ ส่วนชุดที่เป็นพิธีการเดี๋ยวค่อยซื้อ” คุณใส่แล้วสวยก็ใช้ได้แล้ว ซื้อเสื้อผ้าก็ต้องทั้งที่ใช้ในชีวิตประจำวันและใช้ใส่ออกงานใช่ไหม พอดีซื้อด้วยกันไปเลย 

 

 

“ฉันมีเสื้อผ้าเยอะแล้ว” ออกความเห็นอย่างเนือยๆ มีเงินไม่เท่ากับว่าจะใช้อย่างไรก็ได้ เธอมีเสื้อผ้ามากจริงๆ แล้ว ก่อนหน้านี้เฉวียนหมิงทยอยซื้อให้เธอไว้ไม่น้อย ยังมีที่ส่งมาให้อีก รวมทั้งที่เธอซื้อตอนที่ไปช้อปปิ้งกับหลิ่วเฟยซวงด้วย 

 

 

เสื้อผ้าเหล่านี้เกือบจะเท่ากับที่เจ้าของร่างเดิมซื้อเมื่อก่อนหลายปีแล้ว เมื่อรวมเข้ากับร่างนี้ นิสัยประหยัดมัธยัสถ์ของอีลั่วเสวี่ยจึงหล่อหลอมเข้าด้วยกันอย่างไม่รู้ตัว 

 

 

เฉวียนหมิงเลิกคิ้วขึ้น “แต่ผมรู้สึกว่ายังไม่พอ ลองดูตัวนี้” เขาพูดพลางหยิบอีกตัวขึ้นมา วางตรงหน้าอีลั่วเสวี่ยเพื่อทาบดู แล้วมองพิจารณาอย่างจริงจัง 

 

 

คำสนทนาแบบนี้ คำพูดที่แข็งกร้าวและวางอำนาจแบบนี้ เหมือนท่านประธานจอมเผด็จการในละครดราม่าทางทีวีที่พูดจาเฉียบขาด ใช้จ่ายมือเติบ พนักงานแนะนำสินค้าที่อยู่ข้างๆ มองดูด้วยสีหน้าอิจฉา 

 

 

“นี่คุณพูดเองนะ งั้นอย่าโทษว่าฉันทำให้คุณกระเป๋าฉีกล่ะ” ฝ่ายชายใจกว้างอย่างนี้แล้ว ถ้าเธอขืนขัดใจอีก ก็เท่ากับเธอตระหนี่ไปหน่อย อีกอย่างร้านนี้เป็นของเฉวียนหมิงนี่นา จะกลัวอะไร 

 

 

ตามกฎหมายแล้วเธอมีส่วนในทรัพย์สินของเฉวียนหมิงด้วย พอคิดดีแล้วอีลั่วเสวี่ยจึงเลิกกังวล มาซื้อของในร้านของตัวเองยังมีอะไรที่ต้องกลัวอีก! 

 

 

“เฉียบมาก แม่คุณ ซื้อเสื้อผ้าร้านเขาให้เกลี้ยงเลย แล้วเราค่อยเอาไปขายต่อ ฮ่า ฮ่า!” ลูกบอลเงินเปล่งแสงออกมาจากลูกตา ทุกอย่างที่มันเห็นว่าขายได้เงินย่อมดีทั้งสิ้น 

 

 

ซื้อให้เกลี้ยงร้านหรือ ฝันไปเหอะ! 

 

 

เฉวียนหมิงเลือกอยู่ข้างหน้า อีลั่วเสวี่ยอยู่ข้างหลังค่อยเอามาเทียบตัวกับกระจกที่มีอยู่เป็นระยะ ดูว่าใส่แล้วจะเป็นอย่างไร พอรู้สึกถูกใจก็จะยื่นให้พนักงาน 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 335 เฉวียนหมิงรู้จักจีบสาว 

 

 

ไม่นานนัก พนักงานแนะนำสินค้าแทบจะถือเสื้อผ้าในมือไม่ไหวแล้ว คนในร้านรู้แล้วว่ามีเศรษฐีใหญ่มา จึงมีพนักงานอีกคนมาสมทบทันที 

 

 

“ได้แล้วค่ะ น่าจะพอแล้ว เราไปดูชุดของคุณก่อน แล้วค่อยลองใส่ดูว่าเป็นยังไง” บางชุดก็ดูดี แต่พอใส่แล้วอาจรู้สึกต่างกัน 

 

 

เฉวียนหมิงได้ฟังก็รู้สึกว่ามีเหตุผล จากนั้นจึงเดินตามอีลั่วเสวี่ยไปที่แผนกเสื้อผ้าผู้ชาย  

 

 

เป็นครั้งแรกที่อีลั่วเสวี่ยซื้อเสื้อผ้าให้ผู้ชาย ถึงกับมีเหงื่อซึมออกมากลางฝ่ามือ สองตัวแรกที่เลือกให้ เฉวียนหมิงไม่แสดงอาการตื่นเต้นยินดีเป็นพิเศษ แต่ต่อมาเธอจึงหาไสตล์ที่เขาชอบเจอ 

 

 

ถึงตอนนี้ที่ทั้งคู่ทำสลับกับเมื่อกี้ อีลั่วเสวี่ยเลือกกางเกงยื่นให้เฉวียนหมิง ส่วนเขามาเทียบดูที่หน้ากระจก ท่าทางเขาดูแล้วสบายตามาก ราวกับนายแบบชื่อดังกำลังเดินโชว์ 

 

 

แน่นอนว่าเขาย่อมมีความภูมิฐานกว่านายแบบ สองสาวพนักงานแนะนำสินค้าจ้องมองเฉวียนหมิงไม่วางตา 

 

 

อีลั่วเสวี่ยกำลังหยิบเสื้อตัวหนึ่ง พอหันมาเห็นสายตาของพนักงานแนะนำสินค้าก็สะอึก รู้สึกไม่พอใจ ผู้ชายคนนี้เป็นของเธอ ห้ามไม่ให้ใครหมายตาเด็ดขาด 

 

 

“ลองดูค่ะ ตัวนี้เข้าท่าไหม” เธอไม่ได้ยื่นให้เฉวียนหมิง กลับมายืนตรงหน้าเขา เขย่งเท้าเล็กน้อย เอาเสื้อทาบอกเขา ยิ้มอย่างอ่อนหวาน 

 

 

เฉวียนหมิงหันกลับมาจ้องมองเธอ ก้มหน้าลงเล็กน้อย จุมพิตหน้าผากเธอเบาๆ “สวยสู้คุณไม่ได้หรอก” 

 

 

คริ ถูกจีบอีกแล้ว อีลั่วเสวี่ยบ่นในใจ แต่เป็นการบ่นที่ชื่นมื่น 

 

 

เธอเชิดหน้าขึ้น “ฉันสวยขนาดนั้นเลยหรือคะ?” อยากจีบใช่ไหม งั้นให้คุณจีบให้พอใจเลย ทำให้สองสาวข้างๆ อิจฉาตาร้อนจนอกแตกตายเลย 

 

 

ลูกบอลเงิน “โห! จีบเก่งจริงนะ หัวใจข้าแทบเต้นไม่เป็นจังหวะแล้ว” 

 

 

อีลั่วเสวี่ยยิ้มที่มุมปากอย่างไม่รู้ตัว ก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ดึงชายเสื้อเขาขึ้นเล็กน้อย “นับว่าคุณตาแหลม แต่คำพูดทำนองนี้ ถ้าภายหลังฉันพบว่าคุณพูดกับคนอื่น คุณต้องโดนเล่นงานแน่” 

 

 

“ต่อหน้าสาวอื่น ผมพูดอะไรไม่ออกเลย” เฉวียนหมิงตอบเช่นนี้ จากนั้นทั้งคู่ก็ไปที่แผนกชุดพิธีการ เลือกชุดที่เป็นแบบคู่รัก รวมกับที่เลือกไว้ก่อน ให้ห่อเลยโดยไม่ต้องลองใส่ก่อน 

 

 

พนักงานหลายคนช่วยกันเอาเสื้อผ้าบรรจุ “นี่เป็นชุดราตรีค่ะ อันนี้ของคุณผู้ชาย อันนี้ของคุณผู้หญิง กรุณาตรวจดูว่าของครบไหมค่ะ” 

 

 

ท่าทางเหมือนซื้อมากเกินไปจึงเพียงแต่ดูจะจำนวน ไม่ใช่ดูว่าซื้อเสื้อผ้าแบบไหนบ้าง 

 

 

“ทั้งหมดสามสิบสองชุด ไม่ผิด” ชุดพิธีการสองชุด เธอกับเฉวียนหมิงคนละสิบห้าชุด ในหนึ่งสัปดาห์ใส่วันละหนึ่งชุดจะไม่ซ้ำเลย 

 

 

พนักงานแนะนำสินค้ายิ้ม “ทั้งหมดแปดแสนเก้าหมื่นค่ะ ลดราคาให้ท่านเหลือแปดแสนแปดหมื่น ไม่ทราบว่าพวกท่านจะรูดบัตรหรือจ่ายเป็นเช็คคะ?” การซื้อของจำนวนมากในร้านแบบนี้ ไม่ต้องคำนึงถึงเงินสดเลย เพราะคงไม่มีใครติดเงินสดมากมายมาซื้อเสื้อผ้ามากขนาดนี้ ไม่งั้นพวกเธอคงเสียเวลานับนานแน่ 

 

 

“ไม่ต้องเลย” เฉวียนหมิงหยิบนามบัตรของตนเองออกมา เขียนคำว่าแปดแสนเก้าหมื่นลงไป แล้วเซ็นชื่อ “เอาไปให้ที่ฝ่ายการเงินก็พอ” 

 

 

หัวหน้าพนักงานขายถึงกับตะลึง มองดูเฉวียนหมิงด้วยความแปลกใจ พูดติดอ่างเล็กน้อย “ท่าน…ท่านประธาน” คุณพระช่วย เถ้าแก่ของพวกตนมาซื้อของที่ร้านนี้! 

 

 

ที่เฉวียนหมิงมาซื้อของที่นี่ไม่ใช่เรื่องแปลก คราวก่อนก็ไปอีกร้านหนึ่ง แต่เพราะคนที่ร้านนั้นจำเขาได้แล้ว ครั้งนี้จึงเปลี่ยนร้าน ข้อแรกมาเพื่อสัมผัสกับการซื้อสินค้าตามปกติ ข้อสองมาดูว่าพนักงานของตนเองได้มาตรฐานหรือไม่ ถ้าไม่ได้มาตรฐานคงต้องมีการตรวจสอบกันใหม่ เห็นได้ชัดว่าเขาค่อนข้างพอใจ