ตอนที่ 336 ที่แท้เป็นคุณ
บังเอิญเมื่อคืนเฉวียนหมิงขับรถเอาน้ำแกงไก่มาให้อีลั่วเสวี่ย จึงออกมาโดยไม่ได้พกเครดิตการ์ดและกระเป๋าสตางค์มา เพียงแต่ในเสื้อติดนามบัตรมาสองสามใบ จะอย่างไรก็เป็นร้านของตนเอง สามารถใช้แทนเช็คได้
เดิมเขาตั้งใจจะจ่ายเงินโดยตรง ไม่อยากทำตัวเด่นแบบนี้ แต่จำเป็นต้องทำเพราะไม่เงินติดตัว
ถ้าเรื่องนี้รู้ไปถึงหูเจ้าลูกบอลเงิน ไม่แน่นะ มันคงร้องโวยวายแน่ ไม่มีเงิน ถ้าคนอย่างเฉวียนหมิงไม่มีเงิน งั้นโลกนี้คนไม่มีเงินก็มีเกลื่อนไปทั่วแน่
“อืม ตั้งใจทำงานกัน ไม่เลวเลย”
พอได้ยินคำชม หัวหน้าและพนักงานแนะนำสินค้าพากันยิ้มร่า ตื่นเต้นจนพูดไม่ออก
ขณะที่เฉวียนหมิงกำลังจะหิ้วถุงเสื้อผ้า อีลั่วเสวี่ยมือไวตาไว ชิงหิ้วถุงที่หนักที่สุดทั้งหมดไว้เอง ที่เหลือดูเหมือนมากแต่น้ำหนักเบาทิ้งให้เฉวียนหมิงหิ้ว
เฉวียนหมิงเห็นเช่นนั้นก็รู้สึกปลื้มใจ แล้วจู่ๆ ก็รู้สึกว่าที่ตนเองป่วยไม่เห็นจะไม่ดีตรงไหน ได้รับการดูแลอย่างห่วงใยจากเธอ เกรงว่านอกจากเขาแล้ว แม้แต่ก่อนหน้านี้ที่อวิ๋นเว่ยป่วยก็ยังไม่ได้รับการปฏิบัติที่ดีเช่นนี้จากเธอ
หลังจากเฉวียนหมิงและอีลั่วเสวี่ยผละไปแล้วครู่หนึ่ง บรรดาพนักงานยังไม่หายตื่นเต้น “เจ๊ ฉันดูไม่ผิดใช่ไหม เขาเป็นเถ้าแก่ของพวกเราจริงๆ หล่อจังเลย!”
ในร้านมีรูปถ่ายของเถ้าแก่พวกเขา เคยเห็นและจำได้ แต่วันนี้หลังจากได้เจอกับตัวจริงจึงพบว่าตัวจริงหล่อกว่าในรูปถ่ายเป็นร้อยเท่า!
หัวหน้าพยักหน้า “ใช่ เขานี่แหละ” เพราะคนอื่นคงไม่กล้าแอบอ้างใช้นามบัตรเขา ยังไงก็เป็นเรื่องที่ผิดกฎหมาย ดังนั้นนอกจากเขาแล้วก็ไม่มีใคร
เธอเองเคยได้ยินผู้จัดการร้านบอกว่าครึ่งปีก่อน ที่ร้านสาขาอีกแห่ง ท่านประธานเคยมาซื้อเสื้อผ้า เป็นเสื้อผ้าผู้หญิงทั้งหมด หรือว่าซื้อให้ผู้หญิงคนนี้
แย่จริง ลืมสังเกตว่าเธอหน้าตาเป็นอย่างไร คราวหน้าถ้าเธอมาอีกจะได้นอบน้อมเป็นพิเศษ
“ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครนะ ทำไมถึงใกล้ชิดกับท่านประธานอย่างนี้ ยัง…ยังสนิทสนมกันขนาดนี้” ประธานของพวกเขามีแฟนแล้ว น่าเศร้าจริงๆ ก่อนหน้านี้ยังคิดว่าเขาเป็นหนุ่มโสด ที่แท้ข่าวพวกนั้นกุขึ้น
“ไม่รู้เหมือนกัน เดี๋ยวฉันจะให้เพื่อนที่เป็นลูกหลานเศรษฐีสืบดู ดูสิว่าจะได้ข่าวไหม” เพื่อนพนักงานคนหนึ่งเอ่ยขึ้น
อีลั่วเสวี่ยและเฉวียนหมิงไม่ได้ใส่ใจว่าการมาซื้อเสื้อผ้าของพวกตนจะส่งผลสะเทือนต่อคนอื่นอย่างไร เธอกับเฉวียนหมิงไปหาอะไรกินที่ร้านอาหาร แล้วแวะหาที่เปลี่ยนชุดพิธีการ จากนั้นจึงตรงไปที่งานเลี้ยง
สถานที่แห่งนี้ก็คือที่ที่หนานหลิวเฟิงเคยเชิญไปฉลองวันเกิด เป็นโรงแรมแบบคฤหาสน์ที่ราคาแพงที่สุดของเมือง F
เฉวียนหมิงเพิ่งจอดรถ กำลังเปิดประตูรถให้อีลั่วเสวี่ย ก็มีรถสองสามคันทยอยมาถึง เธอรู้จักทุกคนที่ลงมาจากรถ หนานหลิวเฟิง มั่วเฉินเซวียน หลานเย่หมิงและเว่ยเหลียนเฉิง คนเหล่านี้เป็นตัวแทนของคนรุ่นใหม่ จะพลาดโอกาสแบบนี้ได้อย่างไร
บางคนอย่าเห็นว่าตอนที่อยู่ในมหาวิทยาลัยเหมือนอยู่ว่างไม่มีอะไรทำ ที่จริงพวกเขาอยู่ข้างนอกทุ่มเทไม่น้อย ต้องเข้าร่วมงานเลี้ยงประเภทต่างๆ เรียนรู้การสร้างความสัมพันธ์กับคนในแวดวงไฮโซด้วยกัน เรื่องนี้มีการแข่งขันรุนแรงยิ่งกว่าในงานอาชีพ
นอกจากพวกเขาแล้วอีลั่วเสวี่ยยังเห็นอีกคน คนผู้นี้ไม่ถือว่าแปลกหน้า เขาก็คือซีเหมินหลงเซี่ยว
“เฉวียนหมิง คุณพาคนสำคัญที่บ้านมาแล้วจริงๆ ไม่แนะนำหน่อยหรือ” ซีเหมินหลงเซี่ยวพูด แกล้งทำสีหน้าแปลกใจ ทำท่าเหมือนเห็นอีลั่วเสวี่ยแต่ไม่รู้จักชื่อเธอ
เฉวียนหมิงชำเลืองมองอีลั่วเสวี่ยซึ่งไม่มีท่าทีแปลกใจ จึงรู้ทันทีว่าเธอจำซีเหมินหลงเซี่ยวได้
“อีลั่วเสวี่ย ภรรยาผมครับ ซีเหมินหลงเซี่ยว ซีอีโอของไหลย่ากรุ๊ป เป็นเจ้าภาพของงานในคืนนี้ อาเสวี่ย รู้จักกันหน่อย” เขาเองก็ต้องทำทีว่าซีเหมินหลงเซี่ยวไม่เคยพบอีลั่วเสวี่ย
ตอนที่ 337 โดนคุณหลอกแล้ว
อีลั่วเสวี่ยยิ้ม ยื่นมือออกไป “สวัสดีค่ะ ได้ยินเฉวียนหมิงบอกว่าคืนนี้มีงานเลี้ยงอยากให้ฉันมาด้วย คิดไม่ถึงว่าเจ้าภาพของงานจะเป็นคุณ ยิ่งคิดไม่ถึงว่าที่แท้คุณก็คือซีอีโอของไหลย่ากรุ๊ป”
ใช่แล้ว ตอนนั้นที่ร้านเครื่องหยกของหลิ่วเฟยอวิ๋น ตอนนั้นซีเหมินหลงเซี่ยวไม่ได้เอ่ยถึงสถานพภาพเบื้องหลังนามบัตรนั้น เธอย่อมแกล้งทำเป็นไม่รู้
เธอตีสีหน้ายิ้มด้วยความแปลกใจได้อย่างพอเหมาะ ท่าทางเหมือนนึกไม่ถึงจริงๆ แม้แต่เฉวียนหมิงเห็นแล้วก็ยังนึกชมในใจ “ผู้หญิงคนนี้เวลาแสดงละคร แสดงได้สมบทบาทยิ่งกว่าตนเอง”
ไม่เลวจริงๆ ดูเหมือนเธอจะเรียนรู้เล่ห์กลที่ใช้ในสังคมไฮโซตามปกติได้แล้ว เป็นเด็กสาวที่เก่ง เรียนรู้ได้เร็ว
ซีเหมินหลงเซี่ยวเลิกคิ้วขึ้น “ผมเองก็คิดไม่ถึงว่าคุณอีจะเป็นภรรยาของเฉวียนหมิง” เขาพูดพลางยื่นมือออกไปจับมือกับอีลั่วเสวี่ย สายตาจับจ้องที่แหวนหยกบนนิ้วเธอ
“แหวนหยกสวยมากครับ น่าเสียดาย คราวก่อนผมไปซื้อแหวนที่พิเศษแบบนี้ไม่ได้ ได้ยินว่าเถ้าแก่ร้านเครื่องหยกเป็นเพื่อนกับคุณอี มิน่าถึงได้มอบแหวนหยกเนื้อดีอย่างนี้ให้คุณ ลูกค้าอย่างเราไม่โชคดีอย่างนั้น”
พอเขาพูดจบก็แกล้งชำเลืองมองเฉวียนหมิงอย่างท้าทาย ผู้ชายคนอื่นมอบของให้เธอ เขาจะไม่พอใจหรือไม่
และแล้วเฉวียนหมิงก็ผงะเล็กน้อย เขารู้ว่าบนมืออีลั่วเสวี่ยนอกจากกำไลแล้วยังมีแหวนหยกเพิ่มขึ้นอีกวง เนื่องจากเขารู้ว่าเธอชอบของโบราณจึงไม่ได้คิดอะไรมาก แต่กลับเป็นหลิ่วเฟยอวิ๋นที่ให้แหวนวงนี้กับเธอ
เดี๋ยวก่อน ทำไมแหวนวงนี้ถึงดูเหมือนของที่ขายในสถานที่ประมูลใต้ดินล่ะ?
อีลั่วเสวี่ยย่อมรู้ดีว่าเฉวียนหมิงเป็นคนขี้หึง เธอชำเลืองมอง เห็นใบหน้าเขาหมองลง จึงเบียดเข้าใกล้เขา
“นั่นเป็นเรื่องธรรมดาค่ะ นั่นต้องยกความดีให้เพื่อนฉัน ถ้าเราไม่ใช่เพื่อนของน้องสาวเขา คงไม่ได้รับน้ำใจแบบนี้ ควรจะรู้ว่าโลกนี้มีแหวนหยกเนื้อดีแบบนี้เพียงสามวง ถูกพวกเราเหมาครอบครองหมดค่ะ”
พวกเรา สามวง ตามข้อมูลนี้ทำให้เฉวียนหมิงรู้ทันทีว่าเป็นใครสามคนที่มีแหวนนี้ สีหน้าเขาสดใสขึ้นทันที
ซีเหมินหลงเซี่ยวเชิดมุมปากขึ้น ไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดาจริงๆ สามารถทำให้ใจเฉวียนหมิงหวั่นไหวได้ คำพูดแค่สองสามประโยคก็ทำให้เฉวียนหมิงเปลี่ยนไปได้ ไม่ธรรมดาเลย
หนานหลิวเฟิงจ้องแขนอีลั่วเสวี่ยที่คล้องกับแขนเฉวียนหมิง ไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่ ส่วนที่ซีเหมินหลงเซี่ยวคุยกับอีลั่วเสวี่ยนั้นดูเหมือนเขาไม่มีใจจะฟัง
“ฮ่าฮ่า งั้นผมคงได้แต่นึกเสียดาย ในฐานะคนในย่อมเหนือกว่า ได้แหวนหยกที่ดีที่สุด พวกคุณว่าจริงไหม?” ซีเหมินหลงเซี่ยวหัวเราะเหมือนนักเลงดูน่ารำคาญ แน่นอนว่านี่คือความคิดของอีลั่วเสวี่ย
เมื่อเทียบกับมั่วเฉินเซวียน มีคนที่เธอไม่อยากสัมผัสด้วยเพิ่มขึ้นอีกคน
“คุณซีเหมินก็รู้สึกเสียดายเรื่องอย่างนี้ด้วย น่าแปลกใจจริงๆ แต่ว่าที่นี่ไม่ใช่ที่ที่จะสนทนากัน งานเลี้ยงกลางคืนอากาศเย็น ไปคุยกันข้างในดีกว่าครับ” มั่วเฉินเซวียนเสนอ สุดท้ายยังมองมาที่อีลั่วเสวี่ย
ผู้หญิงคนนี้เหมือนนางปีศาจ ทุกครั้งที่เห็นรู้สึกว่าจะสวยขึ้น เหลือเกินจริงๆ แม้แต่ซีเหมินหลงเซี่ยวก็ยังสนใจเธอ
เดิมเฉวียนหมิงคล้องแขนอีลั่วเสวี่ย พอได้ยินเช่นนี้ก็โอบเธอเข้ามาในอ้อมกอดโดยตรง ใช้ความร้อนในร่างกายให้ความอบอุ่นแก่เธอ ดูสนิทชิดเชื้อทั้งยังแสดงถึงการเอาใจใส่เป็นพิเศษด้วย
นอกจากนี้ยังเป็นการอาศัยโอกาสนี้เป็นการเตือนต่อสายตาที่มุ่งร้ายว่าเธอเป็นของเขา!
“ไปแล้ว” หลานเย่หมิงและเว่ยเหลียนเฉิงใช้ข้อศอกกระทุ้งหนานหลิวเฟิงที่ยังยืนเหม่ออยู่
พอเข้ามาในห้องโถงใหญ่อีลั่วเสวี่ยจึงพบว่าตนถูกเฉวียนหมิงหลอก ที่บอกว่าต้องพาเพื่อนหญิงมาด้วย ที่จริงไม่จำเป็นเลย ในนี้คนที่มากันแล้วส่วนใหญ่เป็นผู้ชาย แน่นอนว่ามีเด็กสาวไม่น้อย แต่ไม่ใช่งานเลี้ยงทั่วไปแน่
“เฉวียนหมิง คุณถึงกับหลอกฉัน” อีลั่วเสวี่ยขยับเข้าใกล้เฉวียนหมิง พูดด้วยความไม่พอใจ
เฉวียนหมิงไม่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่ เขาก้มหน้าเล็กน้อย “เอ๊ะ? เรื่องนี้โทษผมไม่ได้ ผมเองก็ไม่รู้ว่าพวกเขาไม่พาเพื่อนหญิงมา อีกอย่างมีคุณอยู่ด้วยผมรู้สึกดีมาก”