AST
บทที่1788 – ครอบครัวสุขสันต์
ชิงสุ่ยจ้องมองไปที่หญิงสาวผู้ทรงเสน่ห์แม้ว่าวันเวลาจะผ่านไปอย่างยาวนานแต่ใบหน้าของเธอยังคงเดิมไม่มีริ้วรอยใดๆ
”ข้าคิดว่าเจ้าจะไม่ต้องการพวกเราอีกแล้วมาเถิด หลายปีที่ผ่านมา พวกเราไม่ได้กอดเขาเลย หมิงเยวี่ย มานี้เร็ว”ห่าวหยุนลิ่วลี่ยิ้มกว้างขณะผลักตัวออกจากชิงสุ่ย และผลักชางห่ายหมิงเยวี่ยเข้าไปในอ้อมกอดชิงสุ่ยแทน
ชิงสุ่ยกอดชางห่ายหมิงเยวี่ยอย่างแน่นหนาก่อนจะละสายตาจากห่าวหยุนลิ่วลี่ที่เหมือนกับนางมารร้าย เธอยังคงเป็นคนที่เจ้าเลห์ไม่มีเปลี่ยน
ตอนนี้ใบหน้าของชางห่ายหมิงเยวี่ยแลดูเขิลอายเล็กน้อยก่อนจะเงยหน้ามองดูชิงสุ่ยพร้อมกับรอยยิ้ม”ในที่สุดเจ้าก็กลับมา!!” ”อืมข้าคิดถึงเจ้า แล้วเจ้าละคิดถึงข้าหรือไม่?”ชิงสุ่ยกล่าวกระซิบข้างหู เบาจนคนอื่นแทบไม่ได้ยิน
”ข้าคิดถึงเจ้า”ชางห่ายหมิงเยวี่ยตอบกลับด้วยน้ำเสียงเบาเช่นกัน
หากย้อนกลับไปในอดีตชางห่ายหมิงเยวี่ยถือว่าเป็นเทพธิดาแน่นอน ครั้งแรกที่เขาได้เจอเธอตอนนั้นเธออยู่บนตัวของนกแร้งอสนีปีกทองคำ รอบกายของเธอเต็มไปด้วยกลิ่นอายอันแสนบริสุทธิ์ เขาไม่คาดคิดเลยว่าจะมีวันที่เธอกลายเป็นของเขา
เวลาผ่านไปโดยไม่รู้ตัวตอนนี้เขามีลูกๆมากกว่า 20 คนแล้ว
”ฉิงจวง!!”ชิงสุ่ยโอบกอดหญิงสาวที่ไม่ได้ดูเย็นชาอย่างที่เธอเคยเป็น เธอคือหญิงสาวคนแรกของชิงสุ่ย แล้วยังเป็นคนที่เขารู้จักเป็นคนแรกตอนที่อยู่ในหมู่บ้านชิง
”เจ้ายังจะกลับออกไปหลังจากที่กลับมาคราวนี้ใช่หรือไม่?”สือฉิงจวงกล่าวถามแน่นอนว่าเธอย่อมต้องรู้ดีว่าเธอเองก็คงไม่สามารถรั้งตัวเขาไม่ให้จากบ้านไปได้
”เจ้าคงทนอยู่ห่างจากข้าไม่ได้ใช่หรือไม่?”ชิงสุ่ยต้องมองหญิงสาวโฉมงามที่อยู่ในชุดคลุมสีแดงโลหิตมันคือความงามที่เขาไม่เคยเบื่อ
”ถูกต้อง!!”สือฉิงจวงตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม
”ข้าจะอยู่บ้านซักพักใหญ่จนกว่าเจ้าพอใจตกลงไหม?”ชิงสุ่ยกล่าวหยอกล้อ
ทั้งสองคนพูดคุยกันอย่างใกล้ชิดด้วยน้ำเสียงที่เบามากจนคนอื่นไม่ได้ยินเช่นกัน
สือฉิงจวงใบหน้าแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงกล่ำเธอรู้ดีว่าชิงสุ่ยต้องการจะสื่อความหมายไปในทางใด เธอจึงรู้สึกเขินอายและผลักเขาออกจากนั้นก็หันไปคุยกับอีเย่เจี้ยนเก้อแทน
ชิงสุ่ยจับมือจรู้ชิงหญิงสาวที่ดูอ่อนน้อมและมีส่วนสูงที่น้อยที่สุดในบรรดาหญิงสาวทั้งหมด แม้ว่าเธอจะมีความสูงเพียงแค่ 1.6 เมตร แต่สัดส่วนรูปร่างของเธอนั้นก็ถือเป็นรูปลักษณ์ที่น่าหลงใหล สามารถดึงดูดชาติทั้งโลกได้
ชิงสุ่ยได้เปลี่ยนแปลงชีวิตของเธอไปโดยสิ้นเชิงตอนนี้เธอได้กลายเป็นทั้งแม่ และยังได้อยู่ในตระกูลชิง เธอมีความสุขอย่างมาก เมื่อเห็นสีหน้ามันมีความสุขของชิงสุ่ย
”คืนนี้อย่าลืมเปิดประตูรอข้าละ”ชิงสุ่ยยิ้มขณะกล่าวตอบสั้นๆ
”ข้าจะรอเจ้าแม้ว่าเจ้าจะมาช้าแค่ไหนก็ตาม”จรู้ชิงตอบกลับด้วยคำพูดที่เต็มไปด้วยเสน่ห์เย้ายวน
…………………..
”ต้วนเอ๋อ!!”ชิงสุ่ยกล่าวเรียกชื่อของเธอ
หยุนต้วนโผกอดชิงสุยอย่างแน่นหนาหลังจากแยกห่างกันมาหลายปีเธอคิดถึงเขามาก
ตระกูลและครอบครัวของหยุนต้วนเปลี่ยนแปลงไปอย่างสมบูรณ์หลังจากที่ได้พบกับชิงสุ่ยเธอพึงพอใจในความเป็นอยู่ปัจจุบันอย่างมาก เธอได้อยู่ร่วมกับผู้ชายที่เธอรักและมีลูกสาวที่น่ารักพร้อมทั้งสร้างสมาคมการค้าอย่างที่เธอต้องการ
หลังจากกอดหยุนต้วนชิงสุ่ยก็หันไปจับมือหมิงเยวี่ยเก้อโหลว หญิงสาวโฉมงาม จากนั้นก็นึกภาพความหลังตอนที่เธออุ้มอวี้ฉางเข้ามาเพื่อให้เขารักษา จากวันนั้นจนถึงวันนี้เธอได้กลายเป็นรูปของชิงสุ่ยแม้จะไม่ใช่ลูกแท้ๆก็ตาม และจากการช่วยเหลือของหมิงเยวี่ยเก้อโหลว มันก็ทำให้ชีวิตรายการเป็นอยู่ของเขาดีขึ้น แน่นอนว่าเขาเองก็โทษตัวเองที่เจอเธอช้าไป จึงทำให้ก่อนหน้าเธอต้องแบกรับเหตุการณ์วุ่นวายมากมาย
…………………………
แม้ว่าคนอื่นๆจะได้รับข่าวสารแจ้งเรื่องราวที่ชิงสุ่ยเดินทางกลับแต่ทุกคนจำเป็นต้องใช้เวลาในการเดินทางอีกเกือบหลายวันกว่าจะมาถึง อย่างไรก็ตามชิงสุ่ยก็รู้สึกว่ามันคงจะเป็นการดีกว่าถ้าตัวเขาพาทุกคนกลับมาเอง
เวลายังคงดำเนินต่อไปอย่างรวดเร็วทุกคนชุมนุมกันในห้องโถงใหญ่พร้อมกับพูดคุยเรื่องราวที่เกิดขึ้นในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทางด้านของชิงสุ่ยเองก็เรื่องเล่าเรื่องราวการเดินทางที่เขาประสบพบเจอ
ชิงอี้ยืนอุ้มชิงซิ่วหลานชายคนสุดท้องส่วนพี่ชายของอีเย่เจี้ยนเก้อ มักจะใช้เวลาอยู่กับเหล่าเด็กๆ อีเย่ทงตอนนี้เติบโตเป็นผู้ใหญ่และกลายเป็นชายหนุ่มที่หล่อเหลา เขาใช้เวลาส่วนใหญ่ในการออกล่าสัตว์จนทำให้มีกล้ามเนื้อร่างกายที่ใหญ่โต เขาเป็นคนที่มีความสามารถและมีบุคลิกที่แน่วแน่ ทันทีที่เขาเห็นอีเย่เจี้ยนเก้อ เขาแสดงความดีใจอย่างมากแต่ก็ค่อยๆเรียกเธอว่า “ท่านป้า”อย่างเชื่องช้า
อีเย่เจี้ยนเก้อลูบหัวเด็กหนุ่ม”เจ้ายังคงขี้อายเหมือนเดิม สงสัยเจ้าจะได้ความขี้อายจากลุงของเจ้ามา”
อีเย่เจี้ยนเก้อนำกระบี่ที่ชิงสุ่ยจัดเตรียมเอาไว้ก่อนจะส่งมอบให้กับอีเย่ทงมันคือกระบี่ชั้นเลิศแม้จะไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกับสิ่งของชนชั้นบัญชาสวรรค์พินาศ แต่ก็ไม่ต่างอะไรจากอาวุธในตำนานเลย
มันทำขึ้นจากก่อนเหล็กสหัสวรรษและวัสดุที่มีค่าอื่นๆ แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือทักษะการหลอมของชิงสุ่ย มันจึงกลายเป็นศาสตราวุธศักดิ์สิทธิ์ที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อเจาะจงผู้ใช้
อีเย่ทงมองดูกระบี่ยาวที่กำลังทอแสงสีม่วงอยู่ในมืออีเย่เจี้ยนเก้อ”สิ่งนี้จะบอกให้มอบจริงๆหรือ?”
”เจ้าเด็กโง่ป้าจะโกหกไปทำไม?”อีเย่เจี้ยนเก้อวางกระบี่ลงในมือของเขา
”ท่านป้าใจดีที่สุดเลยแต่ท่านต้องช่วยข้าหาวิธีขอบคุณท่านลุง”อีเย่ทงยิ้มกว้าง
”เจ้าไม่จำเป็นต้องมีพิธีรีตองใดๆทั้งสิ้นและไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้าหรอกขอแค่เจ้าขยันหมั่นเพียรในการฝึกฝนก็เพียงพอแล้ว”ชิงสุ่ยยิ้มขณะกล่าวตอบอีเย่ทง