ตอนที่ 634 วันคืนที่ยากลำบากในอนาคตสำหรับตระกูลหลิน
แผนการต่างๆ ของพวกเขาล้มเหลว โอกาสที่จะได้นั่งเก้าอี้ประธานาธิบดีสูญสลาย สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคืนนี้อาจเป็นจุดเริ่มต้นการล้มสลายของตระกูลหลิน
แม้หลินเซวียนกำลังถูกต่อว่าแต่ท่าทีของเขายังคงไม่เปลี่ยนแปลงนอกเสียจากดวงตาที่ปรากฏความชั่วร้าย “คุณปู่ครับ มันเป็นความจำเป็นที่เราต้องต่อกรกับตระกูลสี ท่านเองก็เข้าใจว่าเราต้องการเงินและตระกูลสีเป็นเป้าหมายที่ง่ายที่สุดที่จะทำให้เราหาเงินได้”
“แต่ความผิดพลาดในครั้งนี้ทำให้ความพยายามของพวกเราทั้งหมดที่ผ่านมาสูญเปล่า!”
หลินคังร่วมตำหนิ “นับตั้งแต่วันที่เราตัดสินใจต่อกรกับตระกูลสี ทุกอย่างมีแต่จะเลวร้ายลง เราสูญเสียหลินอวิ๋น เป่าหวา แล้วตอนนี้ยังถูกโจมตีจากทั่วทุกสารทิศ ตระกูลสีเป็นพวกยอดมนุษย์จากต่างดาวหรือไงกัน”
“ยังไงซะเราต้องรอดจากเหตุการณ์คราวนี้ไปให้ได้ ไม่งั้นนี่จะเป็นจุดจบของตระกูลหลิน” ผู้อาวุโสหลินกล่าวสรุปด้วยความเกรี้ยวกราด
บรรดาสมาชิกผู้ชายของตระกูลหลินเริ่มต้นหารือเพื่อหาแนวคิดแต่พวกเขาจะรอดพ้นจากวิกฤตคราวนี้ไปได้ด้วยวิธีไหนกันล่ะ พวกเขาสูญความไว้วางใจของท่านประธานาธิบดีไปแล้ว พวกเขาจะแก้ไขมันได้ยังไงกัน
ยิ่งตระกูลหลินตกอยู่ในสถานการณ์นี้นานเท่าไหร่ ทุกอย่างก็ยิ่งแย่ลงเท่านั้น หากปล่อยให้ทุกอย่างเป็นแบบนี้ ตระกูลหลินคงไม่อาจอยู่รอดไปได้นานนัก
ตระกูหลินพยายามทุกวิถีทางเพื่อซ่อมความสัมพันธ์ที่มีกับตระกูลเฉินและตระกูลถงแต่ไร้ประโยนช์ พวกเขาใช้ประโยชน์ถงเยียนดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่พวกเขาจะได้รับการให้อภัยโดยง่าย
ทางเดียวที่ตระกูลหลินจะทำได้คือการปฏิเสธทุกข้อกล่าวหา พวกเขาไม่อาจยอมรับความผิดที่หลอกใช้ถงเยียนได้ ถ้าหากถงเยียนเกิดพลาดและซักทอดกลับมาหาพวกเขา ทุกอย่างก็มีแต่จะแย่ลงสำหรับตระกูลหลิน แต่การปฏิเสธก็ไร้ความหมายเพราะตระกูลเฉินและตระกูลถงต่างมองพวกเขาออกหมดแล้ว
ช่างเป็นช่วงเวลาวันคืนอันเลวร้ายสำหรับตระกูลหลินและพวกเขาทำได้เพียงแค่พยุงเขื่อนเอาไว้ไม่ให้พังลงมาเท่านั้น แต่นี่เป็นการลงโทษที่ยังไม่สาสมในสายตาของผู้อาวุโสสี
“ยังไม่จบ แค่นี้มันจะสาสมได้ยังไง! ให้ดีที่สุดต้องทำลายสมาชิกทุกคนของตระกูลหลินแล้วให้แน่ใจว่าจะไม่มีใครได้พบจุดจบที่ดี! เมื่อนั้นการลงโทษถึงจะถือว่าสาสม!” ผู้อาวุโสสีตะโกนเสียงดังด้วยความเกรี้ยวกราดอยู่ภายในบ้าน ตระกูลหลินเกือบจะทำลายตระกูลสีและเกือบจะฆ่าซิงเหอ พวกเขาจะไม่ยอมไล่ล่าตระกูลหลินจนกว่าอีกฝ่ายจะโดนฟาดหน้าด้วยผลกรรมอย่างสาสมที่สุดเท่านั้น!
มู่ไป๋มาอยู่เป็นเพื่อนผู้อาวุโสสีในบ่ายวันนั้น เขาจิบน้ำชาในมือและพูดขึ้น “ไม่ต้องเป็นห่วงหรอกครับคุณปู่ บทลงโทษของพวกเขาจะต้องมาถึงในไม่ช้า แต่…”
“แต่อะไร” ผู้อาวุโสซักไซ้
ดวงตาสีเข้มของมู่ไป๋เป็นประกาย “ตระกูลหลินน่าจะมีแผนรับมือสำรอง การกำจัดพวกเขาคงไม่ง่ายนัก”
ซิงเหอพยักหน้า “ฉันเห็นด้วยค่ะ พวกเขาต้องทำอะไรเพื่อกอบกู้สถานการณ์นี้อย่างแน่นอน”
ผู้อาวุโสสีพยักหน้า “ความกังวลของพวกเจ้าสมเหตุสมผล เพราะถ้าตระกูลหลินถูกโค่นล้มได้ง่ายนักพวกมันคงไม่อยู่มาได้จนถึงทุกวันนี้ ฉันขอชื่นชมที่พวกเจ้าทั้งสองยังไม่ยอมอ่อนข้อเพียงเพราะชัยชนะชั่วคราวนี้ วันที่ศัตรูพ่ายแพ้ย่อยยับเท่านั้นถึงจะเป็นวันที่เราสามารถหายใจได้อย่างไร้กังวล”
“เข้าใจแล้วครับ” มู่ไป๋ตอบรับ
ซิงเหอพยักหน้า “นี่ยังไม่ใช่เวลาที่จะยอมแพ้ เพราะตอนนี้คือช่วงเวลาที่สำคัญที่สุด เราต้องเตรียมตัวเพื่อโจมตีทันทีที่พวกตระกูลหลินโผล่หางออกมา!”
“พูดได้ดี ฉันเชื่อมั่นในตัวพวกเธอทั้งสองคน” ผู้อาวุโสสีพยักหน้าด้วยความพึงพอใจที่ได้เห็นความร่วมมือกันของมู่ไป๋และซิงเหอ พวกเขาแต่ละคนโดดเด่นในความสามารถของตัวเองแต่เมื่ออยู่คู่กันแล้วไม่มีใครอาจต่อกรกับพวกเขาได้
ผู้อาวุโสสีกล่าวแนะนำพร้อมเสียงหัวเราะลั่น “คิดว่ายังไง ถ้าเรื่องนี้จบ พวกเธอสองคนก็กลับมาแต่งงานกันซะนะ ปู่สัญญาว่ามันจะต้องเป็นงานแต่งงานแห่งศตวรรษอย่างแน่นอน!”
ตอนที่ 635 สูญเสียการควบคุม
ข้อเสนอที่โผลงขึ้นสร้างความประหลาดใจแก่ซิงเหอและมู่ไป๋
มู่ไป๋เป็นแรกที่หัวเราะ “สมบูรณ์แบบ ผมไม่มีปัญหาครับ”
“…” ซิงเหอตกอยู่ในความเงียบ หรือเธอควรจะยอมรับข้อเสนอทั้งอย่างนั้น
ผู้อาวุโสสีไม่รอให้ซิงเหอตอยและประกาศขึ้นเอง “ถ้างั้นเป็นอันตกลง เราจะเชิญทุกคนมาร่วมงานแต่งงาน นานแล้วที่ตระกูลสีไม่ได้เฉลิมฉลองอะไรแบบนี้ การแต่งงานนี้ควรค่าที่จะฉลอง”
ผู้อาวุโสสีหัวเราะชุดใหญ่ ไม่มีอะไรที่ผู้อาวุโสชาวจีนจะชื่นชอบมากไปกว่าการมีพีธีมงคลภายในบ้าน มู่ไป๋เองก็ตื่นเต้นไม่แพ้ผู้อาวุโสสีแต่ต้องหน้านิ่วเมื่อเห็นท่าทีไม่ยี่หระของซิงเหอ
หลังจากผู้อาวุโสสีปลีกตัวออกไปพักผ่อน มู่ไป๋จับมือซิงเหอและเอ่ยถาม “คุณเป็นอะไรไหม หรือคุณยังต้องการปฏิเสธที่จะแต่งงานกับผม”
“ฉันแค่ยังไม่ได้คิดถึงเรื่องแต่งงานแค่นั้นเอง” ซิงเหอตอบอย่างสัตย์ซื่อ
ความกังวลภายในใจของมู่ไป๋ทุเลาลงเล็กน้อย “งั้นทำไมตอนนี้คุณไม่คิดถึงมันเสียล่ะ ผมจะไม่บังคับคุณนะ คุณบอกผมได้ถ้ามีอะไรที่คุณยังคับข้องใจระหว่างคุณกับผม เราจะแต่งงานกันก็ต่อเมื่อคุณยินยอม แต่ถ้าคุณยังต้องการเวลา ผมก็จะเคารพในการตัดสินใจของคุณ”
เขาอ่อนโยนกันเธอมากเหลือเกินและนี่มีแต่จะทำให้ซิงเหอตัดสินใจลำบากยิ่งขึ้น
เมื่อซิงเหอถามตัวเอง มันไม่มีอะไรมาห้ามไม่ให้เธอตอบตกลงนอกเสียจากชีวิตสมรสที่เธอมีร่วมกับเขาก่อนหน้านี้ ซิงเหอพอใจกับความสัมพันธ์ในปัจจุบันและเธอกลัวว่าการแต่งงานจะทำให้ทุกอย่างเปลี่ยนแปลงไป
เธอไม่กลัวที่จะเจ็บปวดหรือกลัวว่ามู่ไป๋จะนอกใจเธอ แต่เธอกลัวว่าตัวเองจะสูญเสียการควบคุมและสูญเสียตัวตนของตัวเองไปกับความสัมพันธ์ที่เป็นการถูกผูกมัด…
โดยปกติแล้วซิงเหอเป็นคนเก็บอาการ เธอกลัวอย่างจริงจังว่าเธอจะไม่สามารถคุ้นเคยกับความสัมพันธ์ที่เป็นการผูกมัดได้ แต่เธอเองก็นึกไม่ออกว่าตัวเองจะสามารถเลือกใครคนอื่นนอกจากสีมู่ไป๋เพื่อใช้ชีวิตร่วมกับเธอได้ ดังนั้นการปฏิเสธคำขอแต่งงานของเขาก็ดูจะไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้องเช่นกัน
ซิงเหอพยักหน้า “ขอบคุณค่ะ ฉันจะให้คำตอบคุณหลังจากนี้”
เธอจะใช้เวลาในการจัดการกับสภาพจิตใจของตัวเองเสียก่อน
มู่ไป๋ยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ขณะดึงอีกฝ่ายเข้ามาไว้ในอ้อมกอด เขาพูดที่ข้างหูของหญิงสาว “ไม่มีปัญหา ใช้เวลาคิดเรื่องทุกอย่างได้เลย ไม่จำเป็นต้องรีบหรอกและผมจะไม่กดดันให้คุณต้องตัดสินด้วย ผมหวังว่าคุณจะยังคงเป็นตัวคุณ ไม่ว่าคุณจะตัดสินใจยังไง ผมจะยอมรับมันตราบเท่าที่มันทำให้คุณมีความสุข”
ซิงเหอก้มหัวลงเล็กน้อย หัวใจของเธออบอวลไปด้วยความอบอุ่นและความใจดี
มู่ไป๋ยอมเปิดใจกว้างขนาดนี้เพื่อรักษาความรู้สึกของเธอดังนั้นเธอควรตอบรับความใจดีนี่ของเขา เธอจะเอาทัศนคตินี้ของเขามาประกอบการพิจารณ์ในขณะที่เธอพยายามหาคำตอบ หวังว่ามันจะเป็นคำตอบที่ทำให้ทั้งสองฝ่ายพึงพอใจ…
…
ขณะที่ตระกูลเฉินและตระกูลถงกำลังจัดการกับตระกูลหลิน ในที่สุดซิงเหอและตระกูลสีก็ได้มีโอกาสพักหายใจ ซิงเหอยังได้เวลากลับมาจัดการเรื่องหัวใจเชิงกลของท่านประธานาธิบดี
ตระกูลสีได้ทำการเปิดศูนย์วิจัยแห่งใหม่ขึ้นในเมือง A เพื่อขยายธุรกิจอวัยวะแขนขาเทียมของพวกเขา และได้กลายเป็นที่ที่ซิงเหอใช้เวลาในแต่ละวันอยู่ที่นั่น แต่ไม่มีใครรู้เรื่องนี้นอกจากมู่ไป๋และลู่ฉี
แม้แต่ท่านประธานาธิบดีเองยังคิดว่าพวกเขายังคงมองหาวัสดุที่เหมาะสมที่สุดในการสร้างหัวใจเชิงกล ตระกูลหลินคิดว่าอาการป่วยของท่านประธานาธิบดีจะยังคงคุกคามตัวท่านต่อไปเพระวัสดุทั้งหมดที่ตระกูลหลินพบไม่สามารถนำมาใช้งานได้
สภาพร่างกายของท่านประธานาธิบดีทรุดตัวลงอย่างต่อเนื่องและนี่ถือเป็นข่าวดีเพียงอย่างเดียวสำหรับตระกูลหลิน
ความกดดันถาโถมเข้ามาแต่ก่อนที่พวกเขาจะถึงจุดวิบัติ ตระกูลหลินบังเอิญพบกับวิธีที่จะช่วยพวกเขาให้รอดจากหายนะอันแสนหนักหน่วงนี้ไปได้