เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 671
เย่หลงยิ้มเล็กน้อย

ชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรชิ้นนี้เป็นสมบัติของโลกบู๊

ไม่รู้ว่ามีผู้คนจำนวนมากมายเท่าใดที่ต้องเสียสละชีวิตให้มัน

ท่าทางของหยางเฟิงเช่นนี้ก็เป็นเรื่องปกติ

ทันใดนั้น

เย่หลงสีหน้าจริงจังพลางพูดว่า “หยางเฟิง ข้าขอฝากชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรนี้ไว้กับเจ้า มันถูกทิ้งไว้โดยบรรพบุรุษของข้า และข้าหวังว่าเจ้าจะดูแลมันอย่างดี

“หากวันใด เจ้าใช้เศษเสี้ยวของชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรเพื่อทำสิ่งที่ผิด แม้ข้าจะมอดม้วยมรณา ข้าก็จะตามรังควาญเจ้า!”

เมื่อพูดจบ

สายตาของเย่หลงพลันเปล่งรังสีแห่งความสะพรึงกลัว

หยางเฟิงพยักหน้าอย่างเคร่งขรึมพลางพูดว่า ” นายท่าน ไม่ต้องกังวล ข้าจะดูแลชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรอย่างดี และข้าจะไม่ยอมให้ใครใช้การชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรเพื่อทำความชั่วร้ายเป็นอันขาด!”

เมื่อได้ยินดังนั้น

พลังลมปราณของเย่หลงค่อยๆหรี่แสงลง ราวกับว่าเขากลายเป็นชายชราธรรมดาอีกครั้ง

“นี่เป็นความมุ่งมั่นเล็กๆ ของข้า นายท่านได้โปรดรับมันไว้ด้วยเทอญ!”

หยางเฟิงเก็บชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรอย่างเคร่งขรึม

เขาหยิบเช็คเงินสดอีกหนึ่งพันล้านใบจากกระเป๋าของเขาแล้ววางลงบนโต๊ะ

หยางเฟิงเคยคิดที่จะปิดล้อมหุบเขา

ปัจจุบันเขาได้รับเงินพันล้าน

ช่วยเย่เวิ่นทำนุบำรุงกงเต๊ก

ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี

เย่หลงเหลือบมองไปยังเช็คเงินสด แต่เขากลับไร้ซึ่งความเกรงใจ และหยิบมันขึ้นมาดู

เทียบกับชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกรแล้ว

หนึ่งพันล้านเป็นแค่เงินเพียงเล็กน้อย

“จริงด้วย! นายท่าน ข้ายังมีสิ่งนี้!”

อยู่ๆ หยางเฟิงก็คิดอะไรออก

เขานำตำราหมัดหย่งชุนออกออกมาจากอกของเขา

เมื่อเห็นตำราหมัดหย่งชุน เย่หลงตกอยู่ในภวังค์แห่งการพิจารณา

ไม่นานนัก

เขาถอดหายเบาๆพลางพูดว่า “ตำราหมัดมวยนี้เจ้าเอาไปเถอะ!”

“นายท่าน ข้าจะรับไว้ได้เยี่ยงไร นี่มันคือสมบัติล้ำค่าของตระกูลท่าน?”หยางเฟิงไม่เข้าใจ น้ำเสียงแสดงความตื่นตกใจ。

“เหอะ เหอะ!”

เย่หลงหัวเราะเยาะกับตัวเอง พลางพูดว่า “ถ้าเป็นสิบปีก่อน ตำราหมัดมวยเล่มนี้ข้าไม่มีทางให้เจ้าเด็ดขาด! แต่น่าเสียดายที่ตอนนี้ข้าแก่แล้ว ไม่มีทั้งเวลาและพละกำลังที่จะสอนหมัดหย่งชุนแก่ชาวบ้านตระกูลเย่แล้ว”

“ในเมื่อพวกเขาคุ้นเคยที่จะเป็นชาวนา งั้นข้าก็จะไม่รบกวนชีวิตพวกเขาอีก!”

นี่คือตัวเลือกแห่งกาลเวลา

เมื่อไร้ซึ่งโอกาสแห่งโชคชะตาแล้ว

ก็อาจจะมอดม้วยมรณา

นับประสาอะไรกับ

ผู้ที่ป่าวร้องว่าการเป็นชาวนามันไม่ดี

การใช้ชีวิตอย่างสงบสุข มีสุขภาพร่างกายแข็งแรง ก็เป็นเรื่องที่ดีไม่ใช่รึ?

ระหว่างที่พูด

ใบหน้าของเย่หลงเปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มที่หยางเฟิงมิอาจเข้าใจได้

อะไรคือชีวิตมนุษย์

หยางเฟิงยังหนุ่มยังแน่น นี่เป็นสิ่งที่เขามิอาจตรัสรู้

แต่ตาเฒ่าผู้นี้ ตรัสรู้มานมนานแล้ว

ระหว่างที่พูด

เย่หลงฮัมเพลงเล็กน้อยและจากไปอย่างสงบ

ภายใต้ค่ำคืนที่เงียบสงัด

ด้วยน้ำเสียงที่ผ่อนคลายและเปี่ยมไปด้วยความสุขของเขา

จนท้ายที่สุดก็ค่อยๆ จางหายไป……

เมื่อตอนที่เย่หลงจะลาลับโลก หยางเฟิงยังไม่ได้สติกลับมา

แค่ก แค่ก

เขาไออย่างหนัก

แค่กๆ!

เขาอาเจียนออกมาเป็นเลือดสีดำ

เย่หลงใช้มือเช็ดเลือดสดที่มุมปาก ส่ายหัวไปมาพลางพูดกับตนเองว่า “บุคคลเมื่อแก่แล้ว ควรยอมรับในความชราภาพของตนเอง และข้าเองก็ไม่รู้ข้าจะอยู่ได้อีกนานเพียงใด”

สำหรับเย่หลงผู้เฒ่าที่มีอายุร้อยปีแล้ว

การกระทำเช่นนี้

เป็นการผลาญพละกำลังของเขาอย่างมาก

ไม่ต้องพูดถึง ตอนที่เขาโดนหมัดเดียวของเหลิงฉาน

นี่ทำให้เขามีร่างกายที่อ่อนแอลง ทำให้ความอยากอาหารลดลง

เย่หลงถอนหายใจอีกครั้งและกล่าวว่า “ชราภาพแล้ว ข้าเองก็สมควรตายเช่นกัน… ด้วยภาพมกุฎมังกรและตำราหมัดหย่งชุน หยางเฟิงเจ้าจะต้องปกป้องหมู่บ้านตระกูลเย่ไว้ได้อย่างแน่นอน ตัวข้าไร้สิ้นความเสียใจภายหลังแล้ว…”

สำหรับเย่หลงแล้ว

เขาไร้ซึ่งบุตรชายและบุตรสาว

ที่น่าเป็นห่วงที่สุดคือหมู่บ้านตระกูลเย่

ขอเพียงชาวบ้านหมู่บ้านตระกูลเย่มีชีวิตที่ดี เขาก็ไร้ซึ่งความเสียใจแล้ว

ระหว่างที่พูดไป

เย่หลงก็ส่ายหัวและลาลับโลกาไปในที่สุด

ท่วงท่าการลาลับโลก ช่างดูน่าตกตะลึง

ทำให้คนเจ็บปวดรวดร้าวที่ฤทัย

ในเวลานั้น

หยางเฟิงก็เก็บตำราหมัดมวยหย่งชุนขึ้น และมุ่งสู่ที่พำนักของตนเอง