EG บทที่ 709 ใช้เงิน

 

เหวินเต๋อกวางถึงกับอึ้งเมื่อเขาได้ยินสิ่งที่เฝิงหยู่พูด

 

“เธอพูดว่าอะไรนะ? เปลี่ยนชื่อหมู่บ้านหรอ?”

 

“ใช่แล้วครับ ทำได้หรือเปล่าครับ?”

 

เฝิงซิ่งไท่มองหน้าเฝิงหยู่ด้วยความตกใจ เขาดุเฝิงหยู่ทันที “แกคิดจะทำอะไรอีก? ทำไมถึงคิดที่จะเปลี่ยนชื่อหมู่บ้าน?”

 

เฝิงหยู่มองไปที่พ่อของเขาและยิ้ม “พ่อครับ พ่อคิดว่าไงถ้าหมู่บ้านของเราจะเปลี่ยนชื่อเป็นหมู่บ้านไท่หัว ฟังดูดีออกจริงมั้ยครับ?”

 

ดวงตาของเฝิงซิ่งไท่เป็นประกายขึ้นมา “ห้ะ? หมู่บ้านไท่หัวหรอ? ก็ฟังดูดีนะ เป็นชื่อที่สมบูรณ์แบบสำหรับหมู่บ้านมาก! เต๋อกวางหมู่บ้านเราสามารถเปลี่ยนชื่อได้หรือเปล่า?”

 

เหวินเต๋อกวาง “……” พ่อลูกเหมือนกันเด๊ะ!

 

“แม้ว่าหมู่บ้านของเราจะไม่ใช่เขต แต่ก็อยู่ในระดับเดียวกัน เราจะเปลี่ยนชื่อตามใจชอบได้ยังไง?” เหวินเต๋อกวางตอบ

 

“ทำไมจะไม่ได้ล่ะ? เขต XXX นั่นก็เปลี่ยนชื่อเป็นเขต XXX เหมือนกัน” เฝิงซิ่งไท่พูด

 

“นั่นมันคือเขตที่เปลี่ยนเป็นอำเภอ มันจะเหมือนกันได้ยังไง? คุณคิดอะไรอยู่? คุณต้องการตั้งชื่อหมู่บ้านตามชื่อของคุณงั้นหรอ?”

 

“เขตซางจื้อนั่นก็ตั้งชื่อตามชื่อของใครสักคน เขตจิงอวี้ก็เหมือนกัน คุณคิดว่าผมไม่รู้เรื่องพวกนี้จริงๆ หรอ?” เฝิงซิ่งไท่เถียงกลับ ถ้าหมู่บ้านเราถูกตั้งชื่อเป็นหมู่บ้านไท่หัว จะถือเป็นเกียรติอย่างยิ่งแก่ครอบครัวของเขาและเขาก็จะพูดโอ้อวดไปชั่วชีวิตเลยทีเดียว!

 

“คนพวกนั้นล้วนเป็นวีรบุรุษของชาติที่ต่อสู้กับญี่ปุ่นในช่วงสงคราม คุณจะเปรียบเทียบตัวเองกับพวกเขาได้ยังไง? พอรวยแล้ว คุณก็บ้าไปแล้วหรอ? ผมช่วยคุณเปลี่ยนชื่อโรงเรียนเกือบทุกโรงเรียนในหมู่บ้านและแม้แต่โรงเรียนอนุบาลก็ยังตั้งชื่อว่าโรงเรียนอนุบาลไท่หัว แค่นี้ยังไม่พออีกหรอ? ตอนนี้ยังอยากจะมาตั้งชื่อหมู่บ้านเป็นไท่หัวอีกงั้นหรอ?” เหวินเต๋อกวางตอบด้วยความโกรธ

 

“แหม อิจฉา! อิจฉาล่ะสิ! ผมก็แค่ถามว่ามีโอกาสที่จะเปลี่ยนชื่อหมู่บ้าน คุณจะเปลี่ยนหรือเปล่า?” เฝิงซิ่งไท่จ้องหน้าเหวินเต๋อกวาง

 

“เลิกพูดจาไร้สาระได้แล้ว คุณรู้หรือเปล่าว่าต้องผ่านการอนุมัติมากแค่ไหนกว่าจะได้เปลี่ยนชื่อหมู่บ้าน? มีแต่รัฐบาลกลางที่สามารถตัดสินใจได้เท่านั้น! คุณคิดว่าเรื่องนี้จะถูกตัดสินโดยรัฐบาลเมืองหรือรัฐบาลท้องถิ่นงั้นหรอ?”

 

เฝิงหยู่ขมวดคิ้ว มันยุ่งยากขนาดนั้นเลยหรอ? แค่หมู่บ้านเล็กๆ ถึงกับต้องให้รัฐบาลกลางตัดสินใจเลยหรอ?

 

เฝิงหยู่มองหน้าพ่อของเขาแล้วถามว่า “ถ้าอย่างนั้นผมต้องบริจาคเท่าไหร่รัฐบาลกลางถึงจะยอมเปลี่ยนชื่อหมู่บ้านให้ครับ?”

 

เหวินเต๋อกวาง “……” เจ้าเด็กบ้าคนนี้ยังไม่อยากยอมแพ้อีก!

 

“เธอคิดว่าเรื่องนี้จะจัดการได้ด้วยเงินงั้นหรอ? มันไม่เกี่ยวกับเงินเลย เธอต้องมีส่วนร่วมในการทำคุณประโยชน์สำคัญให้แก่ประเทศหรือช่วยชีวิตคนจำนวนมาก แม้ว่าเธอจะมีเงินมากหรือจ่ายภาษีเยอะ ก็ไม่มีประโยชน์อะไรทั้งนั้น แต่อาจจะมีทางออกอีกวิธีนึง ถ้าเธอสามารถบริจาคเงินทั้งหมดให้แก่ประเทศได้ ผู้นำระดับสูงอาจจะยอมเห็นด้วยก็ได้!”

 

ตลกละ! บริจาคเงินของผมทั้งหมดเนี่ยนะ? ผมหาเงินได้เยอะมากและยังใช้ชีวิตสนุกไม่เต็มที่เลย ผมจะบริจาคทุกอย่างทิ้งได้ยังไง?

 

นอกจากนี้ ผมสามารถใช้เงินที่ผมหามาเพื่อหารายได้เพิ่มเติมได้ หากบริจาคเงินให้กับข้าราชการพวกนั้นหมด ก็เท่ากับเป็นการเสียเปล่า!

 

ทำคุณประโยชน์สำคัญให้กับประเทศชาติงั้นหรอ? อีกไม่กี่ปีก็จะถึงเหตุการณ์สำคัญนั้นแล้ว ถ้าผมนำเรื่องนี้ไปรายงานหัวหน้าระดับสูง พวกเขาน่าจะเห็นด้วยกับคำขอของผม

 

เฝิงซิ่งไท่ตบที่หลังของเฝิงหยู่แล้วพูดว่า “ไม่เป็นไร เดี๋ยวเราก็ย้ายไปเมืองปิงเร็วๆ นี้แล้ว”

 

“แล้วเราจะไม่กลับมาที่หมู่บ้านอีกเลยหรอครับ? ไม่ต้องห่วงครับพ่อ ผมจะเปลี่ยนชื่อหมู่บ้านของเราเป็นหมู่บ้านไท่หัวภายใน 5 ปีนี้ให้ได้อย่างแน่นอน!” เฝิงหยู่กล่าว

 

“โอเค โอเค พ่อรู้ว่าแกมีความสามารถ หน้าแกแดงไปหมดแล้ว ถ้าแกดื่มไม่ได้ ก็ไม่ต้องดื่ม เรามีเครื่องดื่มเจี้ยนลี่เปาที่บ้านด้วย”

 

เฝิงหยู่มองบน เขากำลังพูดความจริง แต่กลับกลายเป็นว่าเหมือนคนเมาที่กำลังโม้เรื่องไร้สาระ

 

“พ่อครับ ถ้าเปลี่ยนชื่อหมู่บ้านไม่ได้ แล้วชื่อถนนล่ะครับ” เหวินตงจวินถามทันที

 

เอ๊ะ? นั่นเป็นความคิดที่ดีเลย เฝิงหยู่ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้มาก่อน

 

“ลุงเหวินครับ ตงจวินพูดถูก ถ้าเปลี่ยนชื่อถนนไม่น่าจะมีปัญหาอะไรใช่มั้ยครับ?”

 

“เรื่องนี้……ดูเหมือนว่ารัฐบาลเมืองสามารถตัดสินใจเรื่องนี้ได้ แต่เธอแน่ใจหรอว่าเมืองจะยอมอนุมัติ?” เหวินเต๋อกวางถาม

 

“เรื่องนี้เดี๋ยวผมจัดการเองครับ ดูหมู่บ้านของเราสิ นอกเหนือจากสี่แยกที่เป็นถนนใหม่ ถนนที่เหลือยังอยู่ในสภาพแย่อยู่เลย เราจะบริจาคเงินเพื่อสร้างถนนคอนกรีต 8 หรือ 10 สายในหมู่บ้าน แบบนี้เราก็สามารถใช้ชื่อพ่อและแม่ของผมเป็นชื่อถนนได้”

 

“อ๊ะ? เธออยากซ่อมแซมถนน 8 ถึง 10 สายเลยหรอ? แต่พ่อแม่เธอมีแค่สองชื่อเท่านั้นนะ”

 

เฝิงหยู่วางตะเกียบสองสามคู่ลงบนโต๊ะแล้วชี้ไปที่ตะเกียบข้างหนึ่ง “ถนนสายนี้จะเรียกว่าถนนซิ่งไท่”

 

“ถนนนี้จะเรียกว่าถนนซิงไท่ 2 แล้วอีกสายจะเรียกว่าถนนซิงไท่ 3 ส่วนตรงนี้จะเป็นถนนมู่ฮวา และเส้นนี้จะเรียกว่าถนนมู่ฮวา 2 และตรงนี้จะเป็นถนนมู่ฮวา 3 ส่วนถนนที่เหลือจะถูกนับตามตัวเลขในลักษณะเดียวกัน”

 

เหวินเต๋อกวางมองหน้าเฝิงหยู่ด้วยความอึ้ง เจ้าเด็กบ้าจอมเจ้าเล่ห์นี่ แบบนี้ถนนทุกสายในหมู่บ้านก็จะมีชื่อตามพ่อแม่ของเธอหมดงั้นหรอ? หากคุณจัดเรียงถนนด้วยวิธีนี้ จะไม่มีถนนที่ใช้ชื่ออื่นในหมู่บ้านเลย มันก็ไม่ต่างอะไรกับการเปลี่ยนชื่อหมู่บ้านเลย ทุกคนในหมู่บ้านจะจดจำชื่อพ่อแม่ของเธอได้!

 

เฝิงซิ่งไท่ยกแก้วอย่างมีความสุข “นี่เป็นความคิดที่ดี!”

 

จางมู่ฮวาขมวดคิ้ว “แต่มันน่าจะต้องใช้เงินเยอะมากเลยนะ”

 

“แม่ไม่ต้องห่วงเรื่องเงินครับ ครอบครัวของเราไม่ได้เดือดร้อนเรื่องเงิน นอกจากนี้ การซ่อมแซมถนนต้องใช้ค่าใช้จ่ายมากเท่าไหร่กันเชียว? ยิ่งไปกว่านั้น หมู่บ้านนี้มีขนาดแค่นี้เอง ถนนก็ไม่ยาวมาก แค่ถนนสองทิศทางสี่เลนก็พอแล้ว มีถนนลูกรังอยู่หนึ่งเส้นด้วย เราแค่ต้องเคลียร์พื้นที่นิดหน่อยและปูคอนกรีตลงไปบนถนนที่มีอยู่เดิม ลองคิดดูนะครับ ในอนาคตถนนสายนี้จะมีชื่อว่าถนนมู่ฮวา แม่ไม่คิดว่าเงินที่ใช้จ่ายไปกับการซ่อมแซมมันคุ้มค่าหรอครับ?” เฝิงหยู่ถาม

 

จางมู่ฮวาเริ่มคิดตามและพยักหน้า “แม่จะปล่อยให้แกและพ่อเป็นคนตัดสินใจละกัน”

 

แม้ว่าเรื่องนี้จะฟังดูไร้สาระ แต่เหวินเต๋อกวางจะไม่ห้ามพวกเขา คำสั่งย้ายของเขาจะออกมาหลังช่วงตรุษจีน ถ้าเขาสามารถช่วยเฝิงซิ่งไท่จัดการเรื่องการสร้างถนนแห่งนี้ได้ เขาก็จะได้รับความดีความชอบด้วย

 

การซ่อมแซมถนนนั้นไม่ง่ายอย่างที่เฝิงหยู่กล่าวอ้าง การสร้างถนนไม่ได้ใช้เงินเพียงแค่เล็กน้อยแน่นอน ไม่งั้นหมู่บ้านคงจะสร้างถนนคอนกรีตไปนานแล้ว แต่ตอนนี้เหวินเต๋อกวางจะเป็นผู้ที่แนะนำและพาผู้สนับสนุนมาสร้างถนนพวกนั้น

 

รัฐบาลและหมู่บ้านไม่จำเป็นต้องใช้เงินแม้แต่สตางค์เดียวและชาวบ้านจะได้รับผลประโยชน์ด้วย นี่เป็นความดีความชอบของเขาล้วนๆ

 

ยิ่งเหวินเต๋อกวางมีความดีความชอบมากไหร่ เขาก็ยิ่งมีอิทธิพลมากขึ้นเท่านั้นเมื่อเขาถูกย้ายไปยังสถานที่ใหม่ เขารู้ว่าพ่อของจางฮั่นเป็นคนที่ช่วยให้เขาได้รับการเลื่อนตำแหน่ง หากเขาไม่สร้างผลงานที่ประสบความสำเร็จอะไรเลย อาชีพการงานของเขาต้องถึงจุดจบแน่ เขาอายุยังไม่ถึงห้าสิบเลยและยังต้องการได้รับการเลื่อนตำแหน่งต่อไป

 

“เสี่ยวหยู่ มาที่ออฟฟิศของลุงในวันพรุ่งนี้เพื่อคุยเรื่องนี้กัน”

 

“ตอนนี้เรากำลังทานอาหารเย็น ทำไมถึงคุยกันแต่เรื่องงานนะ?” แม่ของเหวินตงจวินแอบบ่น

 

“โอเคๆ งั้นเลิกคุยเรื่องงานกัน ตาเฒ่าเฝิง เรามาดื่มฉลองกันเถอะ!”

 

เฝิงหยู่และเหวินตงจวินยกแก้วขึ้นมาชนกัน เหวินตงจวินรีบดื่มจนหมดแก้วและเฝิงหยู่แค่…… จิบนิดหน่อยเท่านั้น

 

เหวินตงจวินจ้องหน้าเฝิงหยู่อย่างโกรธเคือง เฝิงหยู่ยิ้มอายๆ และดื่มเบียร์ของเขาจนหมดแก้ว นี่คือบ้านของเขาและพวกเขาไม่ได้พูดคุยเรื่องธุรกิจกัน แต่เฝิงหยู่เคยชินกับการแอบขี้โกงในระหว่างที่ดื่ม

 

“วันนี้พวกเราอารมณ์ดีกันทุกคน ไปเปิดเครื่องเล่นซุปเปอร์วีซีดีให้พ่อหน่อยลูก ลุงเหวินกับพ่อจะร้องเพลงให้ทุกคนฟังเอง!” ใบหน้าของเฝิงซิ่งไท่เริ่มแดง

 

เฝิงหยู่และเหวินตงจวินหันมามองหน้ากันและคิดในใจ พวกเขาจะกลับไปบ้านของเหวินตงจวินทันที พวกเขาทนฟังชายชราสองคนนี้ร้องเพลงไม่ได้!