บทที่ 286

พอมองมาที่เย่เฉินอีกที ร่างของเขาก็มีสายฟ้าล้อมรอบ ราวกลับมังกรสวรรค์มาจุติ!

เกาจวิ้นเว่ยรีบตะโกนอย่างร้อนรนว่า “พ่อ มันเป็นตัวอะไรเนี่ย! รีบยิงมันให้ตายเลยพ่อ! เร็วเข้า!”

เกาเจี้ยนจูนก็ตกใจจนขาทั้งสองข้างสั่นระริก พร้อมพูดว่า “มือ…….มือของพ่อขยับไม่ได้………ไอ้เย่เฉินนี่ เหมือนมันจะสามารถเรียกสายฟ้ามาได้……..”

เกาจวิ้นเว่ยก็พูดโดยไม่สนหน้าใจว่า “คนที่ไหนจะสามารถเรียกสายฟ้ามาได้ ผมคิดว่ามันคงจะเล่นมายากลอะไรแน่ๆ รีบยิงมันให้ตายเลย!”

เย่เฉินก็พูดเสียงนิ่งๆ ว่า “เกาจวิ้นเว่ย มึงไม่เชื่อว่ากูเป็นมังกรบนฟ้าหรือ งั้นเดี๋ยวกูทำให้มึงเห็นกับตาเลย!”

จากนั้น เย่เฉินก็มองไปทางเกาเจี้ยนจูน แล้วพูดอย่างโหดเหี้ยมว่า “เกาเจี้ยนจูน บนทางไปปรโลก อย่าลืมแล้วกันว่าลูกชายมึง เป็นคนทำให้มึงตาย!”

พูดจบ เขาก็ยกมือไปทางเกาเจี้ยนจูน แล้วก็ตะโกนว่า “สายฟ้าฟาด!”

ได้ยินเป็นเสียง เปรี้ยง ดังสนั่น บนหัวของเกาเจี้ยนจูนก็มีแสงทอดยาวลงมา ความแรงของแสงนี้ ทำให้เกาจวิ้นเว่ยมองไม่เห็นไปชั่วขณะ!

พอแสงนั้นมันจางไป ก็เห็นเกาเจี้ยนจูนทั้งคน ได้ตายไปแล้ว ทั้งร่างได้กลายเป็นถ่านสีดำรูปร่างคน ปืนสีดำๆ ยังคงอยู่ที่มือ แต่เขาไม่เหลือร่องรอยของชีวิตอยู่แล้ว

พอเห็นดังนั้น เกาจวิ้นเว่ยก็อึ้งไป

เหี้ย ทำไมพ่อกูเป็นแบบนี้วะเนี่ย?

เมื่อครู่ยังยืนตรงนี้อยู่เลย พ่อกูยังมีชีวิตอยู่เลย ถูกเย่เฉินมันล่อสายฟ้ามาฟาดใส่ตายไปเลยงั้นหรือ?!

คนทั้งคน!

ถูกเย่เฉินเอาสายฟ้าฟาดตายเลยงั้นหรือ?

เกาจวิ้นเว่ยก็ตกใจจนตัวสั่นอย่างสุดขีด ทั้งหมดนี้ มันเกินความคิดของเขาไปเยอะมาก

เย่เฉินคนนี้ หรือว่าจะเป็นมังกรบนท้องฟ้าจริงๆ ?!

สังคมกำลังย้อนแย้งพวกความเชื่อของสมัยระบบศักดินาไม่ใช่หรือ? มนุษย์ต้องเชื่อวิทยาศาสตร์สิ จะมีมังกรอะไรได้อย่างไรกัน?

แต่ว่า พ่อที่ลายเป็นก้อนถ่าน ก็ยืนอยู่ตรงหน้าตนเองแล้ว ศพสีดำๆ กลายเป็นก้อนถ่าน แล้วยังมีเศษถ่านที่หลุดกร่อนลงไป

อย่างไม่หยุด นี่มันเป็นความจริงที่ตนเองกำลังเห็นอยู่ในตอนนี้นะสิ!

เย่เฉินเห็นเกาจวิ้นเว่ยตกใจจนโง่ไป ก็เลยพูดหัวเราะนิ่งๆ ว่า “เกาจวิ้นเว่ย ครั้งนี้มึงเชื่อหรือยังล่ะ?”

เกาจวิ้นเว่ยก็ลืมตาโตมองเย่เฉิน ราวกับเห็นผี แล้วก็หมดแรงไป สองขาอ่อนแรง คุกเข่าตรงหน้าเย่เฉิน ทั้งกายและใจ ตกใจจนเย็นยะเยือก

พอถึงตอนนี้ เขาก็เพิ่งเข้าใจ ว่าทำไมที่ผ่านมา เย่เฉินไม่มองตนเองอยู่ในสายตาเลย รู้แล้วว่าทำไมท่านหงห้า หวังเจิ้งกาง ฉินกางและพวกคนใหญ่โตของเมืองจินหลิง ถึงได้เคารพเย่เฉินกันนัก

ถ้าตนเองมีพลังที่แค่ยกมือก็สามารถดึงเอาสายฟ้ามาได้แบบเย่เฉินละก็ มีหรือที่จะต้องมากลัวพวกตระกูลใหญ่ๆ พวกนั้นด้วย?

ให้มึงมีอำนาจไปเลย เดี๋ยวกูเอาสายฟ้าฟาดให้ตายไปเอง!

ตำนานแบบนี้บนโลก ตนเองไม่มีทางจะไปหาเรื่องด้วยได้!

เกาจวิ้นเว่ยรู้สึกสิ้นหวังอย่างมาก แล้วก็คลานเข้าไปต่อหน้าเย่เฉิน แล้วโขกหัวขอโทษอย่างไม่หยุด พูดว่า “เย่เฉิน อาจารย์เย่ ผมผิดเอง ผมขอโทษ ขอร้องล่ะ ปล่อยผมไปเถอะ! ผมไม่ได้ทำอะไรชูหรันเลย คุณเป็นคนใจกว้าง ปล่อยผมไปเถอะ ขอร้องล่ะ ไว้ชีวิตผมเถอะ ไว้ชีวิตหมาๆ อย่างผมเถอะ!”

เย่เฉินมองเขา แล้วยิ้มเย็นๆ แล้วชี้ยันต์สายฟ้าไปทางสองขาของเขา แล้วพูดอย่างได้ใจว่า “สายฟ้าจงมา!”

เปรี้ยง!

สายฟ้าสองสาย ฟาดลงมายังขาทั้งสองข้างของเกาจวิ้นเว่ย!

เกาจวิ้นเว่ยก็ตกใจกรีดร้องดังลั่น รู้สึกเพียงสองขานั้นชาไป เหมือนว่าจะสูญเสียความรู้สึกไป พอก้มหน้ามองไป ขาทั้งสองข้างนั้น

ก็ได้กลายเป็นก้อนถ่านไปแล้ว

“ห๊ะ……..ห๊ะ………” เกาจวิ้นเว่ยไม่อยากจะเชื่อสายตาตนเอง ว่าสิ่งที่เห็นเป็นเรื่องจริง ตกใจจนต้องเอามือทั้งสองไปคลำจับขาตนเองดู

กลับนึกไม่ถึงว่า ขาทั้งสองข้างของเขา มันเหมือนกับท่อนไม้ที่ถูกเผาจนกลายเป็นถ่าน มองไปยังเห็นเป็นรูปร่างของขาเดิม แต่พอมาไปสัมผัส ก็ทำให้ถ่านทั้งสองข้างนี้กลายเป็นผุยผง!