ตอนที่ 342 เขามีจุดอ่อน / ตอนที่ 343 หมุนเงินไม่ทัน

หมอยาหวานใจท่านประธาน

ตอนที่ 342 เขามีจุดอ่อน

 

 

จะอย่างไรแบรนด์เคเอ็มคิวก็เพิ่งเริ่มเปิดตัวมาเพียงห้าปี เสื้อผ้าเมื่อเทียบกับเครื่องสำอางแล้ว ไม่ใช่ของที่ใช้หมดไป เครื่องสำอางจึงทำเงินได้มากกว่า

 

 

เฉวียนหมิงย่อมรู้ดีถึงข้อเปรียบเทียบดังกล่าว สัญชาตญาณบอกหลานเย่หมิงว่าเรื่องนี้ต้องมีอะไรบางอย่าง ขณะเดียวกันในใจก็เกิดความคิดขึ้นว่าหรือเขาก็ควรทิ้งหุ้นนี้ด้วย

 

 

อีลั่วเสวี่ยมองดูหลานเย่หมิงซึ่งจ้องมองตนไม่วางตา จากนั้นจึงผงกหัวแล้วว่า “ใช่ พิจารณาดีแล้ว เราไม่ร่วมหุ้นด้วย งั้นคุณก็สู้เต็มที่เลย” ที่จริงเธออยากเตือนหลานเย่หมิงเช่นกัน

 

 

แต่พอคิดดูแล้ว คนอย่างซีเหมินหลงเซี่ยวนอกจากจะเป็นซีอีโอของไหลย่ากรุ๊ปแล้ว ถ้าสถานภาพนั้นของเขาถูกเปิดเผย ย่อมทำให้ฐานะของไหลย่ากรุ๊ปสูงเด่นขึ้น ที่จริงการเข้าถือหุ้นย่อมไม่ขาดทุน เธอจึงไม่ได้เตือนหลานเย่หมิง

 

 

แต่สินค้าอย่างเครื่องสำอางจำเป็นต้องมีการปรับเปลี่ยนให้ทันสมัยอยู่เสมอ ไม่เช่นนั้นจะถูกเขี่ยออกจากตลาด แม้ว่าเบื้องหลังของซีเหมินหลงเซี่ยวจะใช้วิธีการที่โหดเ**้ยมร้ายกาจ แต่คิดแล้วคงไม่ใช้กับหลานเย่หมิงและพวกหรอก

 

 

เพราะอย่างไรพวกเขาอยู่ในแวดวงธุรกิจ ส่วนที่ทำลับหลังนั้น ไม่เกี่ยวข้องกับคนเหล่านี้

 

 

หลานเย่หมิงเลิกคิ้วขึ้น ไม่ถามต่ออีก แล้วเดินตรงไปข้างหน้า พยายามเพ่งมองให้ชัดว่าขณะนี้บนจอภาพมีใครบ้างที่เสนอราคาสูงสุด พร้อมกับฟังดูคนอื่นเสนอราคา

 

 

ในเวลานี้อีลั่วเสวี่ยกับเฉวียนหมิงทำอะไรกันอยู่ ทั้งคู่หยิบจาน คีบขนมและผลไม้ใส่ หยิบแก้วแชมเปญแล้วเดินหาที่ จากนั้นก็กินกันอย่างเพลิดเพลิน

 

 

บรรยากาศรอบๆ ที่คึกคักไม่ส่งผลกระทบต่อทั้งคู่แม้แต่น้อย กลับรู้สึกเหมือนกำลังกินดินเนอร์ใต้แสงเทียน

 

 

หนานหลิวเฟิงซึ่งกำลังเสนอราคาอยู่ คอยมองมาที่ทั้งสองเป็นระยะ พอเห็นเช่นนั้นใบหน้าก็ยิ่งไร้รอยยิ้ม

 

 

เฉวียนหมิง เป็นนายที่ทิ้งไปเอง โทษฉันไม่ได้หรอก! หนานหลิวเฟิงหรี่ตา กลับคืนสู่ความเป็นจริง เพิ่มราคาไม่หยุด อยู่ที่นี่ได้ระบายความรู้สึกอยากประมูลซื้ออย่างเต็มที่

 

 

ผ่านไปหนึ่งชั่วโมงเศษ คนที่แข่งกันเสนอราคามีน้อยลงแล้ว สุดท้ายเหลือมั่วเฉินเซวียนกับหนานหลิวเฟิงที่เสนอราคาสูงสุด สุดท้ายเสนอราคาเท่ากัน ทั้งยังจำนวนหุ้นเท่ากัน เป็นอันดับหนึ่งร่วม ถัดมาเป็นกลุ่มธุรกิจที่รองจากหนานกรุ๊ปละเฉวียนกรุ๊ปในเมืองเอฟ เท่านั้น ถัดลงมาอีกจึงเป็นหลานเย่หมิงกับเว่ยเหลียนเฉิง

 

 

รอจนการเสนอราคาจบลงทุกคนจึงพบว่าบนนั้นไม่มีชื่อของเฉวียนหมิง จึงเริ่มมองหาตัวเฉวียนหมิงในงาน ต่างพากันคิดในใจว่าเขาอาจจะเสนอราคาครั้งสุดท้ายในราคาสูงสุดทีเดียวเลย ไม่ต้องเสียเวลาคอยเสนอราคา

 

 

แต่น่าเสียดาย เพราะเมื่อหาเฉวียนหมิงเจอ เขากำลังใช้ผ้าเช็ดหน้าเช็ดเนยที่เปื้อนมุมปากอีลั่วเสวี่ยอย่างทะนุถนอม ไม่ได้ใส่ใจด้านนี้แม้แต่น้อย

 

 

ซีเหมินหลงเซี่ยวเดินออกมาจากห้องเพราะการเสนอสิ้นสุดลงแล้ว เขามองตามสายตาของทุกคนและมองเห็นฉากนี้ แววตาดูลึกล้ำขึ้นทันที

 

 

พอชำเลืองมองก็พบว่าบนจอไม่มีชื่อของเฉวียนหมิง ขมวดคิ้วทันที แล้วคลายออกอย่างรวดเร็ว

 

 

ความจริงแล้วเขาพอจะคาดเดาเรื่องที่เฉวียนหมิงอาจจะไม่ร่วมหุ้น เพียงแต่คาดไม่ถึงว่าเขาจะละทิ้งจริงๆ

 

 

ทิ้งไปก็ทิ้งไป เขาไม่ขาดคนที่ร่วมมือ ถึงจะไม่ได้กลายเป็นผู้ถือหุ้นและร่วมงานกัน แต่ทางธุรกิจมากน้อยก็ต้องมีการติดต่อกัน ที่วันนี้เฉวียนหมิงทิ้งไป เขาจึงไม่นึกเสียดาย เพราะเขารู้ข่าวที่สำคัญกว่า

 

 

นั่นคือจุดอ่อนของเฉวียนหมิงก็คือผู้หญิงคนนี้ เป็นเธอแน่นอน

 

 

“ดูเหมือนเราสองคนจะเข้ากับคนอื่นไม่ได้” อีลั่วเสวี่ยกินอิ่มแล้ว มุมปากกระตุกเล็กน้อยเมื่อเห็นสายตาของทุกคน

 

 

“งั้นหรือ ต้นไม้ยืนเดี่ยวไม่ดีหรือไง?” เป็นคนพิเศษในหมู่คน ไม่ใช่ปลาที่ลอยไปตามกระแสน้ำ แบบนี้ย่อมดีกว่า

 

 

 

 

ตอนที่ 343 หมุนเงินไม่ทัน

 

 

อีลั่วเสวี่ยพยักหน้า “คูณพูดถูกค่ะ” คนอย่างเฉวียนหมิงอย่าเห็นว่าบางครั้งดูเย็นชา เหมือนพูดไม่เก่ง แต่อีคิวเขาสูงมาก

 

 

เฉวียนหมิงเม้มปากแล้วดึงอีลั่วเสวี่ยยืนขึ้น เนื่องจากซีเหมินหลงเซี่ยวเดินออกมาแล้ว ทุกคนจึงเลิกสนใจสองคนนี้

 

 

ถึงตอนนี้ซีเหมินหลงเซี่ยวมาทีเวทีด้านหน้าอีกครั้ง เขาถือไมโครโฟน มองดูทุกคนด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม

 

 

“ต้องขอบคุณอย่างยิ่งที่ทุกท่านให้การสนับสนุนไหลย่ากรุ๊ป ข้างบนนี้คือการจัดสรรสิทธิหุ้นในการลงทุนเข้าซื้อหุ้นครั้งนี้ อีกเดี๋ยวผมจะจัดสัญญามาให้ทุกท่านลงนาม ต่อไปนี้เราก็คือครอบครัวเดียวกันแล้ว ผมเป็นตัวแทนไหลย่ากรุ๊ปยินดีต้อนรับทุกท่านเข้าร่วมครับ”

 

 

“เยี่ยม!” ทุกคนได้ยินก็ปรบมือด้วยความตื่นเต้นทันที สำหรับไหลย่ากรุ๊ปนั้น ในประเทศนี้มีคนมากมายที่อยากร่วมหุ้นด้วย แต่พวกเขาได้ครอบครองโอกาสนี้ก่อน วันหน้าถ้าขายหุ้นนี้ออกไปต้องได้กำไรก้อนใหญ่แน่นอน!

 

 

ซีเหมินหลงเซี่ยวมองเห็นปฏิกิริยาของทุกคน แต่เขาคาดเดาล่วงหน้าแล้ว จึงดูเหมือนจะไม่แปลกใจนัก

 

 

“เมื่อเป็นเช่นนี้ ขอเชิญทุกท่านตามผมไปยังห้องประชุมทางด้านนี้ เราจะลงนามในสัญญาแล้วร่วมรับประทานอาหารค่ำกัน” ซีเหมินหลงเซี่ยววางไมโครโฟนลง ผายมือเป็นการเชื้อเชิญ ขณะเดียวกันก็มีบริกรเดินนำคนเหล่านั้นไปในห้องจัดเลี้ยง

 

 

พวกเขาทยอยกันผละไป เหลือเพียงคนที่มาด้วยยังอยู่ในบริเวณงาน ซีเหมินหลงเซี่ยวเดินลงจากเวที ตรงมาหาเฉวียนหมิงและคนอื่นๆ

 

 

“ทุกท่าน ขอบคุณมากที่มาร่วมงาน เชิญ”

 

 

หนานหลิวเฟิงยิ้ม “เกรงใจเกินไปแล้วครับ” มั่วเฉินเซวียนซึ่งอยู่ห่างจากพวกเขามองมาทางนี้แวบหนึ่ง แล้วผละไป

 

 

เมื่อคนเหล่านี้เดินไปที่ห้องประชุม ซีเหมินหลงเซี่ยวชะงักเล็กน้อย หันมาทางเฉวียนหมิง “คุณชายเฉวียน ไม่ทราบว่าเพราะเหตุไรจึงทิ้งการเข้าร่วมหุ้น ทำให้ผมรู้สึกเสียใจ เดิมคิดว่าคราวนี้เราจะได้ร่วมมือกันยาวเสียอีก”

 

 

พอเฉวียนหมิงได้ยินก็คล้องแขนอีลั่วเสวี่ย มีรอยยิ้มที่งดงามผุดขึ้นที่มุมปาก จากนั้นจึงถอนหายใจพลางส่ายหน้า “จนใจจริงๆ ระยะนี้หมุนเงินไม่ทัน ทำให้คุณซีเหมินผิดหวังแล้ว”

 

 

หมุนเงินไม่ทัน? คำพูดของเฉวียนหมิงเข้าหูซีเหมินหลงเซี่ยวรวมทั้งหนานหลิวเฟิงและหลานเย่หมิงซึ่งอยู่ไม่ห่าง ต่างพากันประหลาดใจ

 

 

พวกเขาพบเรื่องหนึ่ง นั่นคือขณะที่คนอย่างเฉวียนหมิงโกหกนั้น ไม่กะพริบตาแม้แต่น้อย

 

 

มุมปากซีเหมินหลงเซี่ยวกระตุก “ที่แท้เป็นอย่างนี้เอง ต้องการความช่วยเหลือจากเพื่อนอย่างผมไหม?” ไม่มีเงิน ถ้าเขาไม่มีเงิน ไม่ต้องพูดถึงทั้งโลก แค่เมืองเอฟก็มีคนนับไม่ถ้วนที่ไม่มีข้าวกิน

 

 

“ผมน้อมรับความปรารถนาดีของคุณซีเหมิน บริษัทพวกคุณเพิ่งเริ่มต้น มีหลายเรื่องล้วนต้องใช้เงิน ผมจะเอ่ยปากง่ายๆ ได้อย่างไร ขอบคุณมาก” เฉวียนหมิงปฏิเสธอย่างมีมารยาท

 

 

สุดท้ายซีเหมินหลงเซี่ยวกับบรรดาผู้ร่วมหุ้นที่ได้มาจากการแข่งขันก็ไปยังห้องประชุม ส่วนคนในงานยังคงพูดคุยกันต่อ

 

 

พวกที่โชคดีในการแข่งขันล้วนยิ้มสีหน้าระรื่น คนที่ไม่ชนะการแข่งขันพากันมาเอาใจ ต่างกินดื่มและพูดคุยกันอย่างสนิทสนม มีเพียงอีลั่วเสวี่ยและเฉวียนหมิงที่แยกตัวออกมา

 

 

อย่างไรเดิมที่เฉวียนหมิงได้รับการคาดหมายว่าจะเป็นผู้ร่วมหุ้นมากที่สุด แต่กลับทิ้งไป นี่เป็นเรื่องที่ทุกคนคิดไม่ตก

 

 

“ละทิ้งการเข้าร่วมหุ้นครั้งนี้ คุณนึกเสียใจไหมคะ?” อีลั่วเสวี่ยยกมุมปากขึ้น มองเฉวียนหมิงแล้วเอ่ยถาม

 

 

เฉวียนหมิงเก็บงำสายตาที่ล้ำลึกดูสวยงาม แววตาเปี่ยมด้วยความมั่นใจ “ผมเฉวียนหมิงไม่เคยทำเรื่องที่ต้องเสียใจภายหลัง แต่มีเรื่องหนึ่งที่ผมนึกเสียใจ”

 

 

“อะไรคะ?”

 

 

“นั่นคือไม่ได้พบคุณเร็วกว่านี้” พูดให้ถูกต้องก็คือไม่ได้หาคุณพบเร็วกว่านี้

 

 

หัวใจอีลั่วเสวี่ยเต้นระทึก ให้ตายสิ โดนเขาจีบอีกแล้ว

 

 

“เฉวียนหมิง ฉันเคยบอกคุณไหมว่าคุณจีบผู้หญิงเก่งขึ้น” อีลั่วเสวี่ยยิ้มสีหน้าสดใส แต่ยังแกล้งพูดด้วยความโมโห