ตอนที่ 214 หาหมอรักษา / ตอนที่ 215 ใช้วิธียั่วแม่ทัพ

จอมใจจ้าวพิษ

ตอนที่ 214 หาหมอรักษา 

 

 

 

 

 

ฮุ่ยฮุ่ยคุกเข่าอยู่นอกห้องของเถิงอวิ๋น แม้ว่าเขาศักดิ์สิทธิ์จะไม่ร้อนจัดแล้ว แต่ช่วงนี้ก็ยังถือทนได้ยาก ฮุ่ยฮุ่ยคุกเข่าครู่หนึ่งก็เหงื่อออกเต็มใบหน้า เถิงอวิ๋นไม่ใส่ใจเด็กคนนี้แม้แต่น้อย ที่ไม่ตายก็ถือว่าเป็นบุญแล้ว ต่อให้นางคุกเข่าที่นี่จนตายก็ไม่ได้ส่งผลใดใดต่อเขา 

 

 

“ฮุ่ยฮุ่ย เหตุใดจึงคุกเข่าอยู่นี่” 

 

 

ร่างฮุ่ยฮุ่ยโงนเงน เกือบจะเป็นลมล้มลงกับพื้น นางดึงเสื้อถังเฉียนแล้วพูดเบาๆ ว่า 

 

 

“ท่านพี่ ข้าได้ยินที่พี่คุยกับคุณชายแล้ว มีเพียงคุณชายใหญ่ที่จะช่วยให้ข้าจำท่านพี่ได้ ข้าอยากจำท่านพี่ได้ ข้าจึงมาขอร้องคุณชายใหญ่ หวังว่าเขาจะช่วยข้า” 

 

 

ถังเฉียนได้ยินเช่นนี้ก็ปวดร้าวใจ เมื่อเห็นท่าทางถังเวยจึงอดถามไม่ได้ 

 

 

“เหตุใดเจ้าต้องจำพี่ให้ได้ แค่เจ้าเชื่อก็พอแล้วไม่ใช่หรือ” 

 

 

ฮุ่ยฮุ่ยสั่นหัว แววตาเธอยังคงหวาดกลัวถังเฉียนอยู่ นางรู้ว่าถังเวยกังวลว่าถ้านางเป็นคนร้าย เป็นคนที่ฆ่าครอบครัวนาง แล้วจะทำอย่างไร 

 

 

“ท่านพี่ ท่านพี่เป็นพี่สาวข้า แต่ข้ากลับไม่รู้อะไรเลย ไม่แน่ใจ ไม่มีทางรู้และไม่อาจแน่ใจ แต่ข้ายังกลัวท่านพี่ ข้า…” 

 

 

ฮุ่ยฮุ่ยพูดพลางร้องไห้ ถังเฉียนช่วยเช็ดน้ำตาบนใบหน้าน้องสาว แต่น้ำตาไม่อาจหยุดไหลราวกับน้ำจากเขื่อนที่แตก 

 

 

“วางใจเถอะ พี่จะคิดหาวิธี เจ้ากลับไปก่อนเถอะ” 

 

 

ถังเฉียนอยากเกลี้ยกล่อมให้ถังเวยกลับไป แต่ไม่รู้ว่าเด็กคนนี้หัวรั้นตั้งแต่เกิดหรือไม่ ไม่ว่าจะพูดอย่างไรก็ไม่ยอมจากไป จะคุกเข่าอยู่ที่นี่ ถังเฉียนเห็นน้องสาวเป็นเช่นนี้ จึงไปเคาะประตูห้องเถิงอวิ๋น 

 

 

เถิงอวิ๋นเดินออกมา มองสำรวจสภาพตรงหน้า ยิ้มแล้วพูดว่า 

 

 

“เดิมทีได้ยินพวกคนรับใช้บอกว่าน้องสะใภ้เอาใจใส่คนระดับล่างเป็นพิเศษ ทีแรกก็ยังไม่เชื่อ คิดไม่ถึงว่าเจ้ามีใจเหมือนแม่พระจริงๆ” 

 

 

ถังเฉียนเดินไปข้างหน้าสองก้าว แล้วว่า 

 

 

“ฮุ่ยฮุ่ยมีเรื่องขอร้อง ต้องทำอย่างไรท่านจึงจะตกลง” 

 

 

เถิงอวิ๋นมองฮุ่ยฮุ่ยแวบหนึ่ง มีรอยยิ้มอย่างเย็นชาผุดขึ้นที่มุมปาก แล้วพูดว่า 

 

 

“ก็แค่สาวใช้คนหนึ่ง แม้จะบอกว่าเราเผ่าพีส่าไม่เคยปฏิบัติต่อคนระดับล่างอย่างเลวร้ายก็ตาม แต่ไม่ได้ถึงขั้นที่ทำตามคำขอร้องของพวกเขา ไม่เช่นนั้นนายกับบ่าวสลับกัน จะเป็นภัยร้ายแรง เจ้านายควรปกป้องคนรับใช้ แต่ไม่ควรเอาใจเกินไป” 

 

 

ถังเฉียนเข้าใจความหมายของเถิงอวิ๋น เขาต้องการบอกว่านางทำเพื่อคนระดับล่างมากเกินไปแล้ว ถังเฉียนมองดูฮุ่ยฮุ่ยแล้วหันมา แววตานางดูลึกล้ำ 

 

 

“ข้ามาที่เขาศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีใครที่จะไว้ใจได้ นี่เป็นข้อแรก แต่ไม่ใช่ข้อสุดท้าย การที่ข้าเอาใจใส่คนของตัวเองบ้างย่อมเป็นเรื่องดี วันหน้าจะได้ซื่อสัตย์ต่อข้า พี่ใหญ่ ท่านบอกมาว่าข้าต้องทำเช่นไร ท่านจึงจะรับปากตามที่นางขอร้อง” 

 

 

เมื่อถังเฉียนพูดจบ เถิงอวิ๋นก็สั่นหัว 

 

 

“เมื่อครู่อาห่าวพูดถึงจุดมุ่งหมายของพวกเจ้าแล้ว พวกเจ้าสองคนเข้ามาเถอะ อย่าทำให้อาเฟิงขายหน้า” 

 

 

ถังเฉียนเม้มปากแน่นแล้วเดินตามเถิงอวิ๋นเข้ามาในห้อง เถิงเฟิงอยู่ในห้อง เมื่อเขาเห็นถังเฉียนก็ส่ายหน้าเล็กน้อย ความหมายก็คือเขาเกลี้ยกล่อมพี่ชายไม่สำเร็จ 

 

 

ถังเฉียนคาดเดาถึงผลลัพธ์เช่นนี้ก่อนแล้ว เพียงแต่หากนางไม่ลองพยายามดู ก็คงรู้สึกคาใจ เถิงอวิ๋นชิงพูดขึ้นก่อนที่นางจะเอ่ยปาก 

 

 

“ข้ารู้ว่าเจ้ามาที่นี่เพื่อยอมเป็นเครื่องทดลอง จุดมุ่งหมายก็คือให้ข้าช่วยหาและชิงวิญญาณเด็กคนนี้คืนจากนิกายเทพมังกร ข้าขอบอกให้รู้ไว้ เจ้าเลิกล้มความคิดนี้เสีย ข้าไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ต่อให้รู้ก็ไม่บอกเจ้าหรอก” 

 

 

 

 

 

ตอนที่ 215 ใช้วิธียั่วแม่ทัพ 

 

 

 

 

 

คำพูดเถิงอวิ๋นทำให้ถังเฉียนพูดไม่ออก ได้แต่กำหมัดแน่นพลางมองดูเถิงเฟิง เขาทำได้เพียงแต่ส่ายหน้าตลอดเวลา 

 

 

“ที่แท้พี่ใหญ่ไม่รู้วิธี เช่นนั้นข้าก็ไม่ควรฝืนขอร้อง เถิงเฟิงบอกกับอาหรูน่าเสมอว่าไม่มีอะไรที่พี่ใหญ่ของเขาไม่รู้หรือทำไม่ได้ ที่จริงก็แค่นี้เอง วันนี้ถือว่ารบกวนพี่ใหญ่แล้ว” 

 

 

มีรอยยิ้มอย่างรู้ทันผุดขึ้นที่มุมปากถังเฉียน นางหันมาดึงตัวฮุ่ยฮุ่ยพลางพูดว่า 

 

 

“เขาไม่รู้ว่าจะช่วยเจ้าอย่างไร เช่นนั้นก็ช่างเถอะ” 

 

 

แววตาฮุยฮุ่ยฉายแววทุกข์ทรมานออกมา แต่เมื่อฝ่ายนั้นเป็นเช่นนี้ จึงไม่มีความจำเป็นที่ต้องอยู่ต่อแล้ว 

 

 

“วิธียั่วแม่ทัพ อย่าคิดว่าทำเช่นนี้กับข้าแล้วจะได้ผล” 

 

 

ถังเฉียนเดินออกไปไม่ถึงสองก้าว เถิงอวิ๋นก็เอ่ยขึ้น นางหันหลังให้พวกเขา แล้วอดยิ้มไม่ได้ ก่อนเข้าไปในห้อง เถิงเฟิงเคยบอกความลับเรื่องหนึ่งให้ถังเฉียนรู้ นั่นคือพี่ใหญ่เขาเป็นผู้ชายที่หยิ่งผยองมาก 

 

 

นางเข้าใจความหมายของคำพูดนี้ จึงทำให้นางคิดหาวิธีที่จะปลุกขวัญการต่อสู้ของเขา 

 

 

“อ้อ? อาหรูน่าพลั้งปากไป ไม่ใช่พี่ใหญ่ไม่เก่ง เพียงแต่แก้ปัญหานี้ไม่ได้เท่านั้นเอง” 

 

 

จากนั้นถังเฉียนก็ดึงมือถังเวยแล้วปลอบใจว่า 

 

 

“ฮุ่ยฮุ่ย ที่ข้าเคยพูดกับเจ้า เจ้าก็อย่าเสียใจเกินไปนักเลย เจ้าเป็นสาวใช้ เรื่องของเจ้านั้นง่ายมาก ต่อให้คุณชายเถิงอวิ๋นไม่รู้จะช่วยเจ้าเช่นไร ยังมีคนมากมายที่รู้ จะอย่างไรในเผ่าก็มีผู้อาวุโสมากมาย พวกท่านคงมีวิธีหรอก เจ้าอย่าอยู่ขัดหูขัดตาที่นี่เลย จะทำให้พี่เถิงอวิ๋นเสื่อมเสียชื่อเสียง” 

 

 

“ท่านพี่ ท่านพี่หมายความว่าอย่างไร” 

 

 

ถังเฉียนเห็นท่าทางถังเวยไม่เข้าใจ ก็ยิ้มทันทีแล้วบอกว่า 

 

 

“เด็กโง่ ต้องให้ข้าพูดออกมาหรือ เจ้าช่างโง่จริง ต่อให้เจ้าคุกเข่าอยู่ที่นี่ พี่เถิงอวิ๋นก็คิดไม่ออก ถ้าเจ้าทำให้เขาลำบากใจ ระวังจะเขาจะฆ่าเจ้า” 

 

 

ถังเวยร้องด้วยความตกใจ แล้วรีบดึงถังเฉียนไป ครั้งก่อนถูกหงหลิงเอ๋อร์จุดไฟเผา ไฟลามถูกแขน ยังเจ็บอยู่เลย ทำให้นางไม่ยอมให้คนแปลกหน้าเข้าใกล้ตัว  

 

 

ใบหน้าขาวซีดของเถิงอวิ๋นถูกถังเฉียนพูดยั่วจนแดงก่ำ แต่ยังคงกำหมัดแน่นไม่เอ่ยปากพูด เถิงเฟิงเห็นว่าน่าจะได้โอกาสแล้ว จึงตบไหล่เถิงอวิ๋นพลางพูดว่า 

 

 

“พี่ใหญ่ไม่เป็นไรหรอก ข้ารู้ดี ข้าจะพาอาหรูน่ากลับก่อน นางไม่ประสีประสา กลับไปแล้วข้าจะอบรมนางเอง” 

 

 

มุมปากเถิงอวิ๋นกระตุก ทั้งๆ ที่รู้ว่านี่เป็นการจงใจท้าทาย แต่เขาก็ยังอดใจไม่อยู่ หลุดปากพูดออกมาว่า 

 

 

“ไม่ต้อง!” 

 

 

จากนั้นก็มองถังเฉียนแล้วพูดว่า 

 

 

“พานางกลับมา ข้าอยากดูนางดีๆ โรคอะไรที่ข้าดูไม่ออก” 

 

 

ถังเฉียนดึงมือถังเวย เกือบจะหัวเราะออกมาเพราะอดใจไม่อยู่ นางพยายามอดกลั้น ในที่สุดก็กลั้นหัวเราะได้สำเร็จ แล้วหันกลับมา ท่าทางจริงจัง สีหน้าเหมือนจะบอกว่าข้าไม่เชื่อเจ้าหรอก 

 

 

“พี่เถิงอวิ๋น จะลองตรวจนางเท่านั้นหรือ” 

 

 

ถังเฉียนตั้งใจยั่วเขา และแล้วใบหน้าที่หล่อเหลาของเถิงอวิ๋นก็กระตุกเล็กน้อย แสดงว่าเขาโมโหไม่น้อยเลย แล้วพูดออกมาอย่างยากเย็นว่า 

 

 

“อาหรูน่า อย่าได้ทีขี่แพะไล่ วิธียั่วแม่ทัพต้องมีขีดจำกัด” 

 

 

ถังเฉียนรีบดึงถังเวยมาอยู่ตรงหน้าเถิงอวิ๋น แล้วทำเป็นปากแข็ง แสร้งพูดว่า 

 

 

“ไม่เป็นไร ถึงจะรักษาเด็กคนนี้ไม่ได้ก็ไม่มีอะไรเสียหาย พี่เถิงอวิ๋นไม่ต้องวิตกหรอก” 

 

 

เถิงอวิ๋นถูกถังเฉวียนยั่วจนโมโหแทบคลั่ง แล้วไล่สองคนนั้นออกไปจากห้อง เมื่อนางเดินออกจากประตูห้องก็หันมายิ้มให้เถิงเฟิง เขาดึงนางไปข้างๆ แอบหัวเราะแล้วว่า 

 

 

“คำพูดเจ้าร้ายกาจนัก พี่ใหญ่ถูกเจ้ายั่วโมโหจนควันออกหู ไม่เสียทีที่เป็นสหายร่วมกินไก่ เป็นเพื่อนที่รู้ใจขนานแท้”