กู้ชูหน่วนสตรีอัปลักษณ์ บทที่ 1046

กู้ชูหน่วนปรากฏตัวในเรือนอี้หยุนเพียงลำพัง โดยไม่มีองครักษ์อยู่เคียงข้างเขาแม้แต่คนเดียว

รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่เศร้าหมองของอี้หยุนเฟย

“เจ้าบอกว่าจะจัดการเรื่องในราชสำนักให้เสร็จไม่ใช่หรือ? เหตุใดถึงมาที่นี่ได้? บรรดาสนมวังหลังของเจ้าไม่น้อยใจแย่หรือ?”

“ข้าจัดการเรื่องในราชสำนักเสร็จเรียบร้อยแล้ว ข้าเป็นห่วงเจ้าก็เลยมาหาเจ้า”

นางไม่ได้ตอบคำถามอื่น แต่เห็นนางมาที่เรือนอี้หยุนก็ทำให้อี้หยุนเฟยรู้สึกพอใจอย่างมากแล้ว จากนั้นเขาก็เรียกให้นางนั่งลงพร้อมกับรินน้ำชาให้นางด้วยตัวเอง

กู้ชูหน่วนเห็นว่าเขาสวมเสื้อผ้าค่อนข้างบางจึงได้ถอดชุดคลุมขนสุนัขจิ้งจอกไปสวมให้เขา

“ดึกดื่นออกจะหนาวเหน็บ คลุมเอาไว้จะได้อุ่น”

“น้องสาว เจ้าดีกับทุกคนเช่นนี้ทุกครั้งเลยหรือ?”

“แค่คลุมชุดขนสุนัขจิ้งจอกให้เท่านั้นเอง นับว่าเป็นการทำดีหรือ?”

“เจ้ายังกระโดดเข้าไปมาถ้ำที่มืดสนิทเพื่อช่วยข้าโดยไม่สนอันตรายใดๆ”

“เจ้าเป็นคนพึงพอใจง่ายเช่นนี้เลยหรือ?”

“เสด็จพ่อตรัสว่า คนที่รู้จักพอ ย่อมมีความสุขเสมอ”

“เสด็จพ่อของเจ้ารักเจ้ามาก”

“อืม เสด็จพ่อและเสด็จแม่ต่างรักและเอ็นดูข้ามาก แต่น่าเสียดายที่ข้าเป็นโรคประหลาดนี้ ทำให้ไม่สามารถแบ่งเบาภาระและไม่สามารถปกป้องดินแดนอาณาเขตรัฐอี้ให้เสด็จพ่อได้”

“อ้อใช่ คราวก่อนเจ้าบอกว่าเจ้าสามารถรักษาโรคนี้ให้หายได้ภายในหนึ่งปี เอ่อ…..รักษาอย่างไรหรือ?”

กู้ชูหน่วนถามขึ้นอย่างระมัดระวังเพราะกลัวจะพูดอะไรผิดและทำให้เขาโกรธเคืองเอาได้

อี้หยุนเฟยก็ฟังออกเช่นกัน เขาหมุนถ้วยน้ำชาและพูดอย่างเขินอาย “เสด็จพ่อตรัสว่า เพียงแค่ได้แต่งงานกับเจ้า…..และหลังจากได้เข้าหอกับเจ้าแล้ว…..ก็จะมีโอกาสรักษาให้หายได้”

“อึ่ก……”

น้ำชาที่กู้ชูหน่วนเพิ่งจะดื่มเข้าไปเกือบสำลักออกมา

“เข้าหอกับข้า? ก็จะมีโอกาสรักษาให้หายได้?”

“อืม”

กู้ชูหน่วนเคาะนิ้วลงกับโต๊ะ

จักรพรรดิอี้หมายความว่ายังไง?

ให้อี้หยุนเฟยอยู่ที่รัฐปิงอย่างสบายใจและใช้ชีวิตกับนางไป?

หรือว่า…..หากคิดจะรักษาโรคประหลาดของเขาให้หาย ประเด็นสำคัญก็คือนาง?

จักรพรรดิอี้ออกจะรักเขาเช่นนี้ เขาไม่มีทางส่งเขาอี้หยุนเฟยมาอย่างไร้เหตุผลและเปล่าประโยชน์หรอก

ดูจากอี้หยุนเฟยแล้วก็ไม่ได้เหมือนคนที่กำลังพูดโกหก

ที่สำคัญคือ…..นางไม่มีความสามารถที่จะรักษาเขาให้หายได้……

“เสี่ยวหยุนเฟย ข้าขอถามอะไรเจ้า นอกจาก…..เข้าหอกับข้าแล้วยังต้องการอะไรอีกไหม? เช่นยาสมุนไพรอะไรเหล่านั้น?”

“ต้องการ ยาสมุนไพรเหล่านี้ต่างหาได้แล้ว เหลือเพียงอย่างเดียวเท่านั้น”

“คืออะไร?”

“นั่นคือแผ่นอักษรสีเหลือง สมบัติของรัฐปิง”

“แผ่นอักษรสีเหลือง? แผ่นอักษรที่เผ่าเพลิงฟ้ากำลังตามหาอยู่น่ะหรือ?”

“ใช่ แผ่นอักษรสีเหลืองผสมกับเลือดของเจ้าแล้วดื่มเข้าไปก็สามารถรักษาให้หายได้”

“ข้าก็กำลังตามหาแผ่นอักษรสีเหลืองด้วยเช่นกัน”

“น้องสาว ข้ารู้ว่าแผ่นอักษรสีเหลืองอยู่ที่ใด”

กู้ชูหน่วนสะดุ้ง “เจ้ารู้?”

“ใช่ ปู่เจียงกำลังไปเอามาและบอกว่าอย่างมากต้องใช้เวลาหนึ่งเดือนก็สามารถนำกลับมาได้ ข้าไม่จำเป็นต้องรอถึงหนึ่งปีแล้ว”

“ข้าเองยังไม่รู้เลยว่าสมบัติของรัฐปิงอยู่ที่ไหน พวกเจ้ารู้ได้อย่างไร?”

“ข้าอยู่นอกวังหลวงตั้งแต่เล็กจนโต รวมถึงแผ่นอักษรสีเหลืองก็หายสาบสูญไปเป็นร้อยปี เจ้าไม่รู้ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไร รัฐอี้ของเราระดมกำลังทั้งรัฐเพื่อตามหามาโดยตลอด ฉะนั้นเราจึงรู้ดีกว่าเจ้า”

แต่จู่ๆ อี้หยุนเฟยก็กล่าวออกมา “น่าเสียดายที่เราใช้เวลาอยู่หลายปีและสุดท้ายกลับเพิ่งได้รับข่าวคราวเบาะแสของแผ่นอักษรสีเหลือง หวังว่าปู่เจียงสามารถหามันเจอด้วยเถอะ”

“แผ่นอักษรสีเหลือง…..อยู่ที่ไหนหรือ?”

“ข้าก็ไม่รู้ ปู่เจียงบอกว่าเป็นสถานที่ที่อันตรายมาก แต่เขาบอกว่าเขาจะนำมันกลับมาให้ได้”

“เผ่าเพลิงฟ้ารู้เรื่องนี้ไหม?”

“ตอนนี้เผ่าเพลิงฟ้ายังไม่รู้เรื่องนี้ นอกบอกข้าและปู่เจ้าพวกเขาแล้ว ก็มีเพียงเจ้าคนเดียวที่รู้เรื่องนี้”

กู้ชูหน่วนลูบศีรษะของเขา

แม้ว่านางอยากให้เหวินเส่าอี๋ได้แผ่นอักษรสีเหลืองไป แต่เห็นได้ชัดว่าอี้หยุนเฟยต้องการมันมากกว่าเขา

“อย่าลูบศีรษะของข้า ไม่งั้นเจ้าไม่โตแน่”

“เสี่ยวหยุนเฟย ข้าขอถามอะไรเจ้าได้ไหม?”

“ได้สิ เจ้าถามมาเลย”

“ข้ากำลังตามหาดวงวิญญาณดวงหนึ่ง และข้าสัมผัสได้ว่ามันอยู่ที่เรือนอี้หยุนแห่งนี้ แต่…..พลังของดวงวิญญาณนั้นอ่อนแอมาก เจ้ารู้หรือไม่ว่าที่นี่มีดวงวิญญาณหรือไม่?”

เมื่อได้ยิน สีหน้าของอี้หยุนเฟยก็เปลี่ยนไป

รอยยิ้มบนใบหน้าก็แข็งทื่อลง

“เจ้าตามหาดวงวิญญาณไปเพื่ออะไร?”

กู้ชูหน่วนใจเต้นแรง

การแสดงออกเช่นนี้……หรือว่าเขาจะรู้ว่าดวงวิญญาณอยู่ที่ไหน?

“เจ้าของดวงวิญญาณนั้นเป็นของเพื่อนข้า พวกเขาอยากให้นางฟื้นคืน……”

กู้ชูหน่วนยังพูดไม่จบก็ถูกอี้หยุนเฟยพูดแทรกขึ้นมา

“น้องสาว ข้าไม่รู้เรื่องดวงวิญญาณอะไรทั้งนั้น ข้ารู้เพียงข้าต้องการรักษาโรคประหลาดของข้าให้หาย และต้องการให้รัฐอี้อยู่อย่างสงบร่มเย็น”