1950-1 vs 1950-2 Ink Stone_Romance

ตอนที่ 1950-1

ยอมเป็นเกย์เพื่อนาย

เมื่อรู้ว่ามีคนเข้ามาเยอะขึ้นเรื่อยๆ หลินเฟิงรีบสวมผ้าปิดปาก หมุนตัวจะวิ่งหนี

แต่อวิ๋นหู่กลับขวางทางไว้ “ฉันไม่เคยมีแฟน” แววตาเขาหนักแน่น “ถ้านายยังไม่ตกลงเป็นแฟนฉัน ฉันก็จะไม่หาแฟนทั้งนั้น ไม่ว่าชายหรือหญิง ฉันคิดว่านายน่าจะรู้ตั้งนานแล้ว”

หลินเฟิงได้ยินก็เหมือนจะทนไม่ไหว กระชากคอเสื้ออีกฝ่าย ผลักเข้าชนกำแพง “นายไม่มีแฟนเรอะ? แล้วผู้ชายคนนั้นล่ะ เป็นตัวปลอมงั้นดิ? อวิ๋นหู่ ฉันจะบอกอะไรให้ ไม่ว่านายจะชอบผู้หญิงหรือผู้ชาย ถ้าเป็นลูกผู้ชายก็อย่าทำตัวชั่ว” ชายหนุ่มรุนแรงจนสาวน้อยด้านข้างตกใจ

“ฝ่ายรับหึงเหรอ?”

“ชัดเลย แต่ฝ่ายรับหึงได้เท่อะ”

“ยังไม่ทันเห็นหน้าตา เธอก็บอกว่าเท่แล้ว”

“รูปร่างกับบุคลิกดีจะตาย ต้องหล่อแน่นอน ยิ่งใส่ผ้าปิดปากแบบนี้ ยิ่งคุ้นหน้าแฮะ”

“เอาเหอะ อย่าพูดอีกเลย คิดถึงเทพบุตร 2D ของเธออีกแล้วล่ะสิ”

“แต่คุ้นหน้าจริงๆนะ”

หลินเฟิงได้ยินเสียงด้านข้างจึงสะบัดอวิ๋นหู่ออก “พวกเราไปหาที่เงียบๆ คุยกัน”

“ได้”

ว่าง่ายแบบนี้ ทำเอาหลินเฟิงถึงกับอึ้ง เขาอยากต่อยหน้าอีกฝ่ายจริงๆ อวิ๋นหู่เป็นอะไรไป ล้อเล่นกับความรักเหรอ?

การจะหาที่เงียบๆ ในห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่ถือว่าไม่ง่าย

หลินเฟิงกระชากเพื่อนเดินตรงไปข้างหน้า สุดท้ายอวิ๋นหูเหลือบเห็นด้านข้าง “ทางซ้ายเป็นประตูหนีไฟ”

หลินเฟิงได้สติ เขาลากอวิ๋นหู่เข้าไปตรงทางเดินหนีไฟ เมื่อผลักประตูหนีไฟเปิด ตรงนั้นมีคนสูบบุหรี่อยู่สองคน เมื่อเห็นสภาพพวกเขาแล้วคิดว่าจะต้องมีเรื่องกันแน่ จึงรีบดับบุหรี่ก่อนจะเดินออกไป

หลินเฟิงสูดลมหายใจลึก กำลังจะพูดออกมา ทว่าอวิ๋นหู่กลับขัดขึ้นก่อน เอ่ยขึ้นด้วยรอยยิ้มว่า “ฉันดีใจมาก”

ดีใจ? หลินเฟิงยิ่งเดือดดาลหนักเข้าไปใหญ่ “นายยิ้มบ้าอะไร มีอะไรให้น่าดีใจ?”

อวิ๋นหู่มองเพื่อน แววตาลึกซึ้งยิ่งขึ้น “เพราะนายหึงฉันไง ถือเป็นเรื่องน่าดีใจไม่ใช่เหรอ?”

หลินเฟิงฟังแล้วสะอึก เอ่ยเสียงหนักเล็กน้อย “ฉันเปล่าซะหน่อย”

“ถ้าเปล่าแล้วทำไมนายถึงแสดงออกแบบนั้น” อวิ๋นหู่ปล่อยให้อีกฝ่ายกระชากคอเสื้อไป “ตอนนี้เรามาพูดถึงผู้ชายคนนั้นดีกว่า เขาไม่ใช่แฟนฉัน แต่เป็นคนที่ฉันให้มาแสดงละคนตบตาเท่านั้น”

“แสดงละครตบตา?” หลินเฟิงรู้สึกว่ายังไม่เข้าใจอีกฝ่าย

อวิ๋นหู่ก้าวเข้าไปหา “เพราะฉันกลัวว่านายจะผลักไสฉัน จนเป็นเพื่อนกันก็ยังไม่ได้ เลยไปหาคนมาช่วยเล่นละคร นายจะได้ไม่รังเกียจฉันยังไงล่ะ”

หลินเฟิงผ่อนแรงลงไปกว่าครึ่ง สีหน้าอึ้งตะลึงชัดเจนมาก เขาไม่คิดเลยว่าเรื่องจะกลายเป็นแบบนี้

อวิ๋นหู่กลับเป็นฝ่ายกักตัวเพื่อนไว้ที่หัวมุม “ตอนนั้นฉันก็คิดนะว่าถ้านายเห็นเข้าจะรู้สึกยังไง ขอแค่นายผิดปกติสักนิด ฉันก็อยากลอง แต่นายกลับอวยพรฉัน แถมยังทำท่าโล่งใจด้วย เหมือนรู้สึกว่าไม่ต้องโดนฉันก่อกวนอีกแล้ว นายน่าจะไม่เข้าใจว่าฉันรู้สึกยังไง คนที่เราชอบกลับไม่ชอบเรา แถมยังผลักให้เราไปจับคู่กับคนอื่นอีก ฉันถึงได้บอกว่าดีใจยังไงล่ะ ในที่สุดนายก็หึงแล้ว ยอมรับมาเถอะว่านายก็ชอบฉันเหมือนกัน”

 ……………………………………………….

ตอนที่ 1950-2

ยอมเป็นเกย์เพื่อนาย

หลินเฟิงตัวแข็งทื่อ ไม่รู้ว่าเพราะกิริยาของเขาหรือคำพูดของอวิ๋นหู่ ไม่รู้จะเอามือไปวางไว้ที่ตรงไหนแล้ว

อวิ๋นหู่กลับไม่กลัวสิ่งใด ไล้นิ้วตามเอวขึ้นไปเรื่อยๆ ในสายตาของเขา หากหลินเฟิงไม่รังเกียจ ทุกอย่างก็ไม่ยาก

หลินเฟิงเหมือนถูกจับจุดตาย เอวอ่อนยวบจนหูแดงไปหมด

อวิ๋นหู่หลุบตามอง แนบชิดกับเสี้ยวหน้าอีกฝ่าย “วันนั้นพอนายกลับ ฉันก็ให้เขาออกไป เพราะนอกจากนายแล้วฉันจะไม่มีวันนอนกับใคร เมื่อก่อนเป็นยังไง ต่อไปก็จะเป็นยังงั้น”

“นอน นอนบ้านนายสิ ใครพูดเรื่องนี้กับนายวะ” หลินเฟิงเบือนหน้าไปอีกทาง บ่นว่า “บ้าเอ๊ย แม่ง นายอย่าซี้ซั้วลูบสิวะ”

อวิ๋นหู่ยิ้มหนักขึ้น “จะไม่ซี้ซั้วลูบ”

“งั้นก็เอามือออกไปสิ ไอ้บ้า” หลินเฟิงทึ้งผมตัวเองแล้วผลักอีกฝ่ายออก “ต่อไปอย่าเล่นพิเรนทร์แบบนี้อีกนะ อุตส่าห์ไปหาคนมาเล่นละคร นึกว่าถ่ายหนังอยู่หรือไง?”

อวิ๋นหู่ตอบสั้นๆ ก่อนจะซบหน้าใกล้ๆ “แล้วนายจะคบกับฉันไหม?”

หลินเฟิงอึ้งงัน มองหน้าอวิ๋นหู่โดยไม่รีบตอบรับ

ตระกูลหลินมีเขาเพียงคนเดียว ส่วนตระกูลอวิ๋นก็มีเจ้าหู่คนเดียว

อวิ๋นหู่เห็นหลินเฟิงไม่พูด รอยยิ้มทที่มุมปากจึงเลือนหาย

เมื่อเวลาผ่านไปนาน เขาเริ่มจะเย็นชาแล้ว “พูดกันขนาดนี้แล้ว นายยังจะเป็นแบบนี้อีก หลินเฟิง เมื่อไรนายจะรู้ตัวสักที ต่อให้ชอบมากแค่ไหน คนเราก็เลิกชอบได้เหมือนกัน” ว่าแล้วอวิ๋นหู่ก็สะบัดตัวจะเดินไป

เขาเห็นหลายสิ่งหลายอย่างจากใบหน้าของเพื่อน ต่อให้ชอบก็รับไม่ได้หรือไง?

แบบนี้ต่างหากที่ทำให้คนหมดกำลังใจที่สุด

หลินเฟิงมองแผ่นหลังอีกฝ่าย กระชากข้อมือเพื่อนโดยอัตโนมัติ

อวิ๋นหู่ชะงักฝีเท้า อยากจะสลัดมือเพื่อนทิ้ง ไม่ใช่เพราะเหตุใด แต่เพราะมือถือในกระเป๋าดังขึ้น น่าจะเป็นผลจากการแชร์ที่อยู่เมื่อครู่นี้ ทว่าหลินเฟิงกลับเข้าใจผิดคิดว่าเจ้าหู่จะพูดเองเออเอง จึงร้อนรน “นายต้องให้เวลาฉันคิดก่อนตัดสินใจบ้างสิ แม่ง ฉันเป็นผู้ชายแท้มายี่สิบกว่าปี อุตส่าห์ยอมเป็นเกย์เพื่อนายทั้งที จะไม่ให้ลังเลใจได้เหรอ มันต้องเตรียมใจกันบ้าง นายรู้ว่าฉันแอบชอบมานาน….นาย”

ยังไม่ทันพูดจบ หลินเฟิงพูดไม่ออก เขานิ่งตะลึงงันไม่ใช่เพราะเหตุอื่นใด แต่เป็นเพราะเมื่อเขาร้องตะโกนว่า ‘อุตส่าห์เป็นเกย์เพื่อนาย’ ก็มีคนผลักประตูเข้ามาสูบบุหรี่พอดี

เมื่อสบตาเข้ากับหลินเฟิงก็ปิดประตูทันที! สีหน้านั่นเหมือนจะบอกว่า ‘คนในเมืองใหญ่อย่างพวกนายก็รู้จักเล่นเนอะ’

หลินเฟิงอยากทึ้งผมตัวเองอีก

แต่ยังไม่จบแค่นี้ เพราะมีเสียงปรบมือดังขึ้นเหนือศีรษะ พอหลินเฟิงหันไปดูก็เห็นเด็กผมสีเงินยืนพิงอยู่แถวนั้นพลางยิ้มร้ายให้ เธอปรบมือเบาๆ “พี่หลินสุดสวย พี่ประกาศรักได้ไม่เหมือนใครเลยแฮะ อุตส่าห์ยอมเป็นเกย์เพื่อนาย เล่นเอาคนมาสูบบุหรี่หนีไปเลย รูปแบบประกาศความรักของพี่ช่างสดใหม่ไม่เหมือนใคร”

หลินเฟิงอ้าปากค้าง เฮ้ย เจ้าแบล็กมาตั้งแต่เมื่อไรวะ แถมหัวหน้ายังยืนอยู่ด้านหลังด้วย!

ทำไมถึงไม่พูดสักนิด

เดี๋ยวก่อน! เหมือนหัวหน้าจะเปิดลำโพงให้กรุ๊ปรวมฟังด้วย หมายความว่า….ไอ้เวรๆๆๆ!

ชื่อเสียงของเขา!

หลินเฟิงอยากมุดดินเหลือเกิน! มาดูหนังในครั้งนี้เสียเปรียบจริงๆ!

……………………………………..