ตอนที่ 640 ในที่สุดก็เคลื่อนไหว
โชคดีที่เขาไร้เรี่ยวแรงเมื่ออยู่ต่อหน้าเธอและยอมแพ้อย่างไม่มีเงื่อนไข ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่คิดมากหากต้องตายด้วยน้ำมือของหญิงสาว
ซิงเหอมองอีกฝ่ายอย่างสงสัยและคิดว่าเขากำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไรอยู่กันแน่
มู่ไป่ไม่ได้อธิบายอะไรนอกจากอมยิ้มอยู่คนเดียว นี่ทำให้ซิงเหอยิ่งสงสัยมากยิ่งขึ้น “คุณกำลังยิ้มอะไรอยู่”
“ผมแค่มีความสุข”
“มีความสุขเรื่องอะไร” ซิงเหอตระหนักทันทีว่าใจของผู้ชายนั้นบางครั้งก็ไม่สามารถคาดเดาได้
“ดีใจที่คุณไม่ได้ปฏิเสธผม…” มู่ไป๋โน้มตัวลงไปหาหญิงสาวที่อยู่ตรงหน้าเพื่อจูบลงบนริมฝีปากของเธออย่างดูดดื่ม
…
ซิงเหอเฝ้ารอให้ตระกูลหลินโต้ตอบแรงกดดันที่กำลังเผชิญ
ในขณะที่ทุกคนคิดว่าตระกูลหลินกำลังจะร่วงโรย บางอย่างไม่คาดฝันก็ได้เกิดขึ้น ในระหว่างการท่องเที่ยวบนเรือของเฉินหรู เธอเกิดพลัดตกลงไปในมหาสมุทรและเกือบจะจมน้ำ
เป็นความบังเอิญที่นายน้อยคนที่สามของตระกูลหลินอยู่แถวนั้น เขาไม่สนใจความปลอดภัยของตัวเองและว่ายน้ำลึกลงไปในมหาสมุทรเพื่อช่วยชีวิตเฉินหรูเอาไว้ ถ้าไม่ได้เขา เฉินหรูอาจจะเสียชีวิตในทะเลไปแล้ว
ไม่นานข่าวนี้ถูกเผยแพร่ไปทั่วเมือง A และสร้างความประหลาดใจให้ตระกูลถงและตระกูลเฉิน เพียงชั่วข้ามคืน ตระกูลหลินก็ได้กลายเป็นผู้ช่วยชีวีตของพวกเขา
ดังนั้นจึงเป็นเรื่องไม่ดีหากพวกเขายังคงกดดันตระกูลหลินอยู่ต่อไป
ยิ่งไปกว่านั้น เฉินหรูกล่าวชื่นชมหลินเซวียนต่อหน้าทุกคนในตระกูลถงและตระกูลหลินอย่างไม่หยุดหย่อนที่เขาได้ช่วยชีวิตเธอเอาไว้ ดังนั้นแผนการกดดันตระกูลหลินจึงยุติลงโดยอัตโนมัติ อันที่จริงพวกเขากลับรู้สึกขอบคุณตระกูลหลินที่ช่วยเหลือพวกเขาเสียด้วยซ้ำ…
เพียงพริบตาเดียว หลายตระกูลที่กำลังอยู่ในสงครามกลับกลายเป็นมิตรต่อกัน การเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันนี้สร้างความตกใจให้กับคนที่กำลังเฝ้ามองดูเหตุการณ์อยู่ แม้แต่ตระกูลสียังไม่เข้าใจว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น
ความย่อยยับของตระกูลหลินกำลังอยู่ใกล้แค่เอื้อมแต่อยู่ๆ แผนการทุกอย่างผันเปลี่ยนไปในอีกทิศทางหนึ่ง แล้วพวกเขาจะยอมรับบางสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างฮวบฮาบเช่นนี้ได้อย่างไร
นี่ผิดกับแผนที่วางไว้โดยสิ้นเชิง!
มีเพียงซิงเหอและมู่ไป๋เท่านั้นที่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
“ในที่สุดตระกูลหลินก็เคลื่อนไหว” ซิงเหอกล่าวพร้อมเผยรอยยิ้มบาง เธอรู้สึกอารมณ์ดีขึ้นนิดหน่อย
แม้แต่มู่ไป๋ก็ร่วมยิ้มด้วย “นั่นสิ เป็นการเคลื่อนไหวที่ดีเสียด้วย”
กลุ่มของแซมไม่อาจเข้าใจได้ว่าอะไรกำลังเกิดขึ้นกันแน่
“ตอนนี้พวกตระกูลหลินกำลังอยู่ในช่วงขาขึ้นอีกครั้ง แต่ทำไมพวกคุณสองคนถึงได้ดีใจที่ได้เห็นพัฒนาการของพวกนั้นแบบนี้ล่ะ” แซมถามด้วยท่าทีสงสัย อาลิและคนอื่นๆ มีท่าทีงุนงงเช่นกัน เมื่อพวกเขาได้ยินข่าวที่เกิดขึ้น พวกเขาเกือบจะระเบิดด้วยความหัวเสีย!
ต้องใช้ความพยายามเป็นอย่างมากในการต้อนตระกูลหลินให้จนมุม แต่ตอนนี้ความพยายามทั้งหมดสูญเปล่า แล้วพวกเขาจะไม่โกรธได้อย่างไร
ดังนั้นท่าทีของซิงเหอและมู่ไป๋จึงเป็นอะไรที่ผิดปกติ พวกเขาไม่ได้ผิดหวังหรือโกรธแต่กลับยินดี!
มันน่ายินดีตรงไหนกัน!
ซิงเหอรู้ว่าพวกเขาไม่เข้าใจเธอจึงอธิบายให้พวกเขาฟังอย่างใจเย็น “ตระกูลหลินไม่ได้ถูกจัดการได้ง่ายๆ การกดดันไม่ได้ทำให้พวกเขาดับสูญ ถ้าเป็นแบบนี้ต่อไปก็จะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับพวกเขา แล้วเราก็จะทำอะไรไม่ได้เช่นกัน ดังนั้นต้องให้พวกเขาเริ่มเคลื่อนไหว เราถึงจะสามารถจัดการกับพวกเขาได้”
อาลิยังคงไม่เข้าใจ “งั้นเธอก็ภาวนาให้พวกเขาเคลื่อนไหว แต่ทำไมล่ะ เรื่องนี้มีแต่จะทำให้พวกนั้นกลับมาแข็งแกร่งขึ้น แล้วตอนนี้เราจะทำยังไงกับพวกนั้นดี”
ซิงเหอยิ้มอย่างมั่นใจ “ขึ้นอยู่กับว่าพวกเขาจะทำอะไรต่อไป สิ่งที่เราต้องทำในตอนนี้คือเปิดตามองให้ดีและให้แน่ใจว่าไม่มีโอกาสที่เราจะโต้กลับใดๆ หลุดมือไปได้!”
ตอนที่ 641 การหมั้นหมาย
“แล้วถ้าไม่มีโอกาสนั้นล่ะ ถ้าตระกูลหลินไม่ลงมือทำอะไรเลย เราก็ไม่สามารถทำอะไรได้เหมือนกันใช่ไหม” อาลิถามอย่างกังวล
ซิงเหอส่ายหน้า “ไม่ พวกนั้นไม่มีทางนั่งอยู่เฉยๆ แน่นอน”
แคร์นจับใจความสำคัญได้และคาดเดา “ตระกูลหลินใช้เวลาตั้งนานกว่าจะมีฐานะได้อย่างทุกวันนี้ เพราะฉะนั้นพวกเขาไม่มีทางยอมทิ้งทุกอย่างที่ทำมาง่ายๆ …”
“ถูกต้อง” ซิงเหอพยักหน้า “พวกเขาเสียมามากเกินกว่าที่จะยอมแพ้ง่ายๆ พวกเขาจะไม่มีทางยอมแพ้จนกว่าจะถึงนาทีสุดท้าย”
“แล้วพวกนั้นจะต้องทำอะไรอีก ในเมื่อไม่มีใครคอยจับตามองพวกนั้นแล้ว ต่อให้ไม่ได้ทำอะไร พวกนั้นก็น่าจะกลับมาตั้งตัวได้อีกครั้งอยู่แล้ว” แซมกล่าวพร้อมคิ้วที่ขมวดย่น
ซิงเหอยิ้มบาง “เป็นไปไม่ได้ อย่างมากคราวนี้ตระกูลหลินก็ทำได้แค่ซ่อนตัว ตระกูลเฉินเพียงแต่หยุดข่มกดดันพวกเขา แต่พวกเขายังต้องพยายามอีกมากกว่าที่ความสัมพันธ์ของสองตระกูลจะกลับมาเป็นเหมือนเก่า ยิ่งไปกว่านั้น ท่านประธานาธิบดีเองก็เริ่มตั้งแง่กับพวกเขา ตระกูลหลินจะต้องทำอะไรอีกมากก่อนจะกลับมายืนหยัดอย่างเต็มภาคภูมิ”
“ใช่แล้ว!” ริมฝีปากของมู่ไป๋โค้งขึ้นเป็นรอยยิ้ม “ดังนั้นนี่เป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น และพวกเขาจะต้องไปต่อเพราะแรงขับเคลื่อนนี้นี่แหละ”
“ฉะนั้นสิ่งที่เราต้องทำคือการรอเวลาของเรา ต่อให้ไม่มีโอกาส เราก็จะสร้างโอกาสขึ้นมาเอง!” ความมุ่งมั่นอันเยือกเย็นส่องแสงวูบวาบอยู่ภายในแววตาของซิงเหอ คราวนี้พวกเขาจะบดขนี้ตระกูลหลิน นี่เป็นโอกาสเหมาะที่สุด หากพลาดโอกาสนี้ไปอาจเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง
ภายหลังการตกต่ำของตระกูลหลิน ขั้วอำนาจภายในเมือง A จะเปลี่ยนแปลงไป ดังนั้นสงครามครั้งนี้จะเป็นศึกชี้ขาดอย่างแท้จริง ทั้งฝ่ายซิงเหอและตระกูลหลินต่างเข้าใจจุดนี้ พวกเขาคุ้นเคยกับการที่สิ่งต่างๆ อยู่บนความไม่แน่นอนเช่นนี้
นับจากนี้ไป จะไม่มีใครกล้าพลาด พวกเขาต่างระวังในทุกฝีก้าวและกลัวสิ่งที่ไม่คาดฝัน
…
แต่ด้วยความระแวดระวังตัวของตระกูลหลินทำให้พวกเขาต้องลงมือทำอะไรสักอย่าง พวกเขาจำเป็นต้องกอบกู้จุดยืนก่อนหน้านี้มาให้ได้ก่อนการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้น พวกเขาจำเป็นต้องซ่อมแซมความสัมพันธ์ที่มีต้องตระกูลอันทรงอำนาจอื่นๆ
เป็นอย่างที่ซิงเหอและมู่ไป๋คาดการณ์ มีข่าวใหญ่ออกมาจากฝั่งตระกูลหลิน
นายน้อยคนที่สามของตระกูลหลินและคุณหนูตระกูลถงกำลังจะหมั้นหมายกัน!
บรรดาคนนอกต่างไม่แปลกใจกับเรื่องของคนทั้งคุ่ เพราะเป็นที่รู้กันดีอยุ่แล้วว่าถงเยียนนั้นตกหลุมรักหลินเซวียน ดังนั้นพวกเขาจึงสรุปกันไปเองว่าในที่สุดหลินเซวียนก็ยอมรับรักจากถงเยียน
แต่สำหรับซิงเหอและคนที่เหลือแล้วพัฒนาการนี้น่าสงสัยเกินไป ถงเยียนเพิ่งถูกหลินเซวียนหลอกใช้ และต่อให้หลินเซวียนได้ช่วยชีวิตเฉินหรูก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่พวกเขาจะยอมยกถงเยียนให้กับตระกูลหลิน ยิ่งไปกว่านั้นเหตุการณ์ทั้งหมดยังเกิดขึ้นในช่วงเวลาอันสั้น
การที่หลินเซวียนหมั้นหมายกับถงเยียนในเวลาแบบนี้ ต้องมีแผนการใหญ่บางอย่างอยู่เบื้องหลังแน่!
ซิงเหอไม่เข้าใจว่าทำไมตระกูลถงถึงยอมรับการหมั้นหมายในครั้งนี้
ตระกูลถงมีส่วนสำคัญในการช่วยให้ตระกูลหลินก้าวถึงจุดสูงสุด ทำไมพวกเขาถึงทำเช่นนี้ทั้งที่รู้ถึงความทะเยอทะยานอันแสนชั่วช้าของตระกูลหลิน
แม้แต่มู่ไป๋และผู้อาวุโสสีเองก็ไม่อาจเข้าใจเรื่องนี้
ผู้อาวุโสสีออกความเห็นด้วยท่าทีจริงจัง “ต้องมีอะไรบางอย่างเกิดขึ้นแน่!”
“มีบางอย่างผิดปกติเกิดขึ้นกับตระกูลถงด้วยเหมือนกัน” มู่ไป๋คาดเดาแต่น้ำเสียงของเขานั้นเต็มไปด้วยความมั่นใจ
ซิงเหอพยักหน้ารับ “อันที่จริงตระกูลถงดูเหมือนจะทำตัวตรงข้ามกับความต้องการของตัวเอง ฉันเชื่อว่ากุญแจที่จะทำให้เราเข้าใจเรื่องทั้งหมดอยู่ที่เฉินหรู”
ผู้อาวุโสสีและมู่ไป๋หันไปมองซิงเหอและรอฟังคำวิเคราะห์ของเธอ