ตอนที่ 642 เฉินหรู
ซิงเหออธิบายช้าๆ “เหตุการณ์ที่หลินเซวียนบังเอิญช่วยไปช่วยชีวิตเฉินหรูเอาไว้นั้นดูบังเอิญและน่าสงสัยเกินไป หลังจากนั้นไม่นานถงเยียนและหลินเซวียนก็ประกาศการหมั้นของพวกเขา เหตุการณ์พวกนี้ดูเหมือนถูกจัดวางไว้แล้วอย่างรอบคอบ ประเด็นอยู่ที่เรารู้ว่านี่เป็นส่วนหนึ่งในการกลับมาของตระกูลหลินแต่ถ้าไม่ได้รับความร่วมมือจากตระกูลถง ทุกหมดที่ว่ามาก็จะเป็นไปไม่ได้”
“งั้นคุณคิดว่าเฉินหรูเป็นคนที่แอบช่วยพวกเขาอยู่ลับๆ อย่างนั้นเหรอ” มู่ไป๋ซักถาม
ซิงเหอพยักหน้า “ฉันคิดแบบนั้น เธอเป็นคนที่หลินเซวียนช่วยและถงเยียนเป็นลูกสาวของเธอ เธอพยายามที่จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องทั้งที่มีส่วนพัวพันอยู่มาก เพราะถ้าไม่มีการอนุญาตและอวยพรในฐานะแม่ของถงเยียน ถงเยียนไม่มีทางได้แต่งงานกับหลินเซวียนและพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลถง ตระกูลเฉินและตระกูลหลิน”
“ใช่แล้ว!” ผู้อาวุโสสีพยักหน้าและกล่าวเสริม “ฉันคุ้นเคยกับตาแก่สองคนจากตระกูลเฉนิและตระกูลถง หลังจากรู้ถึงปัญหาของตระกูลหลิน พวกเขาไม่มีทางอนุญาตให้หลานรักแต่งงานเข้าไปอยู่ในตระกูลอสรพิษแบบนั้นง่ายๆ แน่ หรือต่อให้พวกเขาต้องการจะทำให้การจับคู่นี้เป็นจริงอยู่แล้ว ตอนนี้ก็ไม่ใช่เวลาที่เหมาะสม ตระกูลหลินยังต้องพยายามอีกมากก่อนจะสามารถพิสูจน์ความจริงใจของพวกมันได้
“เรื่องที่ตระกูลหลินหลอกใช้ถงเยียนผ่านมาได้นานแค่ไหนแล้วนะ มันเพิ่งจะผ่านมาไม่ถึงเดือนหนึ่งด้วยซ้ำแล้วพวกเขาจะให้อภัยและล้มเรื่องทุกอย่างไปได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้เลยรึ ต่อให้หลินเซวียนช่วยชีวิตเฉินหรู ก็ช่วยได้แค่ทำให้ทุกอย่างสมดุลเท่านั้น ตระกูลถงและตระกูลเฉินไม่น่าจะชื่นชมความช่วยเหลือของพวกตระกูลหลินมากถึงขนาดยอมยกถงเยียนให้ตระกูลหลินหรอก”
ถงเยียนเป็นลูกรักของตระกูลเฉินและตระกูลถง โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับตระกูลเฉินแล้ว ถงเยียนมีค่ามากกว่าทองเสียอีก เพราะเธอเป็นหลานเพียงคนเดียวของผู้อาวุโสเฉิน หากไม่ได้รับการอนุญาตจากผู้อาวุโสเฉิน ก็ไม่มีใครสามารถแต่งงานกับถงเยียนได้ทั้งนั้น พูดอีกอย่างก็คือการหมั้นในครั้งนี้ได้รับการเห็นด้วยจากผู้อาวุโสเฉินแล้วนั่นเอง
แต่ทำไมเขาถึงได้เห็นด้วยและเห็นด้วยอย่างรวดเร็วขนาดนี้ล่ะ
พวกเขารู้ดีว่าถงเยียนไม่เกี่ยงงอนกับการจัดการในครั้งนี้อยู่แล้ว แต่การหมั้นหมายไม่ใช่สิ่งที่เธอจะสามารถตัดสินใจได้เพียงลำพัง ดังนั้นเฉินหรูจึงเป็นผู้ต้องสงสัยอันดับหนึ่ง เธอเป็นลูกสาวของผู้อาวุโสเฉิน จึงมีผลอย่างมากหากเธอเป็นคนพูดโน้มน้าวเรื่องทั้งหมดนี้
พวกเขาไม่เชื่อหากมีคนบอกว่าเฉินหรูเป็นผู้บริสุทธิ์!
แต่กระนั้น ซิงเหอและทุกคนกลับไม่เข้าใจว่าทำไมเฉินหรูถึงเข้าข้างตระกูลหลิน
…
เพื่อให้รู้ถึงที่มาของปริศนาในครั้งนี้ ผู้อาวุโสสีจึงเชิญผู้อาวุโสมาร่วมดื่มชาเป็นการส่วนตัว โดยใช้การระบายความคับข้องใจเป็นเครื่องบังหน้า พวกเขาตกลงกันไว้แล้วว่าจะร่วมกดดันตระกูลหลินแล้วสิ่งที่เกิดขึ้นนี้หมายความว่าอย่างไร
ตระกูลสีตัดสินใจที่จะไม่เอาเรื่องถงเยียนในข้อหาพยายามฆ่าก็ต่อเมื่อพวกเขายอมที่จะอยู่ฝ่ายเดียวกันเพื่อต่อสู้กับตระกูลหลินเท่านั้น
ถ้าเป็นเช่นนี้ ตระกูลสีไม่จำเป็นต้องให้เกียรติข้อตกลงของพวกเขาอีกต่อไป!
เพราะถึงอย่างไรเหตุการณ์ลักพาตัวที่ถงเยียนเป็นคนวางแผนยังคงเป็นคดีที่ยังไม่ได้รับการตัดสิน ดังนั้นตระกูลสีจึงยังสามารถรื้อฟื้นคดีและพลิกสถานการณ์ตระกูลหลายๆ ตระกูลได้
ผู้อาวุโสสีวิพากษ์วิจารณ์ผู้อาวุโสเฉินอย่างรุนแรง โดยอีกฝ่ายได้แต่นั่งเงียบราวกับนักเรียนที่ถูกจับได้ว่ากระทำผิด ในที่สุดผู้อาวุโสสีกล่าวสรุป “อาเฉิน ถ้าคุณไม่ให้คำตอบที่ผมพอใจภายในวันนี้เห็นทีนี่ได้กลายเป็นสงครามแน่! เพราะถงเยียน หลานชายคนโตของผมเกือบจะสูญเสียครึ่งหนึ่งของชีวิตเขาไปและเขากำลังอยู่ในระหว่างการพักฟื้น เพื่อเห็นแก่การมีศัตรูเดียวกัน ตระกูลสีของเราถึงได้ยอมปล่อยเรื่องนี้ไปแต่ตอนนี้… ถ้าคุณไม่ให้คำอธิบายที่ดีภายในวันนี้ งั้นเราก็ไปเจอกันในศาล! ดังนั้นบอกผมมาว่าทำไมคุณถึงได้ตัดสินใจทรยศเกียรติของตัวเองและคุกคามตระกูลสีของผมที่ไม่เคยทำอะไรให้นอกจากการเป็นมิตรที่ดีของคุณ!”
ตอนที่ 643 พ่ายแพ้ต่อหลานของเขา
ผู้อาวุโสเฉินอับอายเมื่อต้องเผชิญหน้ากับการซักถามของผู้อาวุโสสี เขาถอนหายใจและกล่าว “ท่านสี ที่จริงแล้วเราไม่อยากให้เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นหรอกนะ แต่ตระกูลหลินช่วยชีวิตลูกสาวผมไว้จริงๆ แล้วจะให้ผมกดดันพวกเขาต่อไปได้ยังไงกัน”
“ถ้างั้นคุณก็คงรู้สึกขอบคุณพวกนั้นมากจนรอที่จะเกี่ยวดองกันไม่ไหวเลยอย่างงั้นสินะ!” ผู้อาวุโสสีตั้งคำถามด้วยความเกรี้ยวกราด
ความไม่พอใจปรากฏขึ้นบนใบหน้าของผู้อาวุโสเฉินเช่นกันระหว่างที่พวกเขากำลังพูดคุยกันในเรื่องนี้ “มันไม่ใช่ความต้องการของผมที่จะเกี่ยวดองกับตระกูลหลิน!”
“ถงเยียนกับหลินเซวียนกำลังจะแต่งงานกัน คุณยังจะมาโกหกใส่หน้าผมอีกงั้นเรอะ”
“มันมีบางอย่างที่ผมไม่สามารถช่วยได้” ผู้อาวุโสหลินถอนหายใจอย่างอดไม่ได้ “ทุกคนก็รู้ว่าหลานสาวของผมชื่นชอบลูกหลานจากตระกูลหลิน การกักบริเวณหลานสาวผมเมื่อไม่นานมานี้อาจทำให้เธอไม่พอใจ เธอเลยหาโอกาสหนีออกจากบ้าน และสิ่งแรกที่ทำคือตรงดิ่งไปหาเด็กตระกูลหลิน เรื่องหนึ่งนำไปสู่อีกเรื่อง… พวกเขาเกิดได้เสียกัน! เสี่ยวเยียนของผมบอกมาทีหลังว่าเธอตกเป็นผู้หญิงของผู้ชายคนนั้นแล้ว และจะไม่ยอมแต่งงานกับใครอื่นนอกจากเขา แล้วผมจะมีทางเลือกอะไรอีกอย่างนั้นรึ ยิ่งไปกว่านั้นเสี่ยวหรูเองก็เห็นชอบในการแต่งงานครั้งนี้แล้วจะให้ผมปฏิเสธพวกเขาได้ยังไงกัน แม้แต่ตระกูลถงเองก็ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากยอมละมือ แล้วจะให้ผมทำยังไง”
“คุณหมายความว่าพวกเขาสองคน…” ผู้อาวุโสสีหน้านิ่ว
ผู้อาวุโสเฉินพยักหน้าราวกับแสงแห่งความหวังทั้งหมดได้มอดดับลงไปหมดแล้ว “ถูกแล้ว ถ้าเรื่องนั้นไม่เกิดขึ้น ผมคงทำทุกอย่างด้วยอำนาจที่ผมมีในการบดขยี้ตระกูลหลินชั้นต่ำนั่น! พวกมันกล้าดียังไงถึงได้มาลอบกัดพวกเรา มาล่อลวงทายาททางสายเลือดเพียงคนเดียวของตระกูลเฉิน!”
แต่ถึงกระนั้นพวกเขามีทางเลือกอื่นอีกอย่างนั้นหรือ
ตระกูลหลินทำเรื่องต่ำทรามกับถงเยียน แต่เด็กสาวคนนั้นกลับโง่และยอมให้หลินเซวียนหลอกใช้ ดังนั้นไม่ว่าพวกเขาจะมีอิทธิพลมากมายเพียงใดก็ไร้ค่าในเมื่อถงเยียนได้ยอมพลีกายตัวเองให้แก่หลินเซวียนไปแล้ว
ผู้อาวุโสทำอะไรไม่ได้เมื่อเป็นเรื่องของเด็กสาวคนนี้ ดังนั้นพวกเขาจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกเหนือจากการยอมรับการหมั้นหมายในครั้งนี้
การยอมรับอาจทำลายชีวิตของเธอ แต่การปฏิเสธกลับจะยิ่งทำลายชีวิตของเธอมากเสียยิ่งกว่า โชคยังดีที่ถงเยียนมีตัวตนที่เป็นเอกลักษณ์ ดังนั้นเธอคงไม่ถูกข่มเหงรังแกมากนักถึงแม้เธอจะแต่งงานเข้าไปอยู่ในตระกูลที่ไร้หัวใจอย่างตระกูลหลิน
แต่กระนั้นพวกเขาจำเป็นต้องยอมยกสมบัติอันมีค่าเพียงหนึ่งเดียวให้อีกฝ่ายไปทั้งอย่างนั้นทั้งๆ ที่พวกเขาไม่เต็มใจเลยสักนิด!
“ท่านสี ตระกูลเฉินของผมมีถงเยียนเป็นทายาทเพียงคนเดียว ผมรู้ว่าผมทำผิดกับท่านและตระกูลสีแต่ผมทำอะไรไม่ได้เมื่ออยู่ต่อหน้าคู่แม่ลูก” ผู้อาวุโสเฉินถอนใจด้วยความเจ็บปวดอย่างชัดเจน ดูราวกับเขาแก่ตัวลงต่อหน้าต่อตาของผู้อาวุโสสี
ผู้อาวุโสเฉินทำงานหนักมาตลอดชีวิต สร้างชื่อเสียงมาด้วยตัวเองและได้รับความนับถือจากคนในประเทศ แต่สุดท้ายกลับต้องมาพ่ายแพ้ให้กับหลานสาวของตัวเอง
เขาไม่มีลูกชายและลูกสาวทั้งสองก็ไม่มีโชคเรื่องลูก เขามีเพียงหลานสาวคนเดียวแต่แค่นั้นเขาก็พอใจแล้ว
อนิจจา ถงเยียนกลับเอาแต่ทำผิดพลาดที่น่าสลดใจซ้ำแล้วซ้ำเล่าและตอนนี้ยังทำลายทุกสิ่งทุกอย่างที่เขาใช้เวลาทั้งชีวิตเพื่อสร้างขึ้นมา
แล้วเขาจะมีเงินมหาศาลและอำนาจล้นฟ้าไปเพื่ออะไรกัน
ทั้งหมดนั้นสุดท้ายต้องถูกส่งต่อไปยังลูกหลานในอนาคตของเขา และด้วยประเด็นนี้ ผู้อาวุโสเฉินดันได้คนที่แย่ที่สุดมารับช่วงต่อไป
เมื่อพูดคุยถึงเรื่องนี้ก็มีแต่จะทำให้ผู้อาวุโสเฉินรู้สึกอิจฉาผู้อาวุโสสี
“ท้ายที่สุด ท่านจะเป็นผู้กำชัยชนะคนสุดท้าย ถึงแม้ท่านเลือกที่จะออกจากเส้นทางนี้ไปตั้งแต่เมื่อหลายปีก่อน หลานชายทั้งสองของท่านก็เป็นคนหนุ่มที่ตั้งมั่น เมื่อมีหลานทั้งสองพร้อมที่จะรับช่วงต่อตำนานของท่านแล้วจะยังมีอะไรให้ท่านต้องกังวลอีกอย่างนั้นหรือ แต่ผมนี่สิ จะใช้ชีวิตอย่างหรูหราและฟุ่มเฟือยไปตลอดชีวิตเพื่ออะไร ในเมื่อความรุ่งโรจน์ของตระกูลเฉินกำลังจะร่วงโรยไปพร้อมกับการตายของผม เอาจริงๆ จะให้ผมเชื่อมั่นในตัวถงเยียนได้ยังไง แค่เด็กผู้หญิงคนนั้นสามารถหาความสุขในชีวิตของตัวเองเจอได้แค่นั้นผมก็รู้สึกของคุณสวรรค์มากแล้ว…”
ผู้อาวุโสสีรู้สึกสงสารผู้อาวุโสเฉินที่กำลังจ้องมองมาที่เขาด้วยปัจจัยแวดล้อมปัจจุบันไม่ได้
การมีหลานสาวอย่างถงเยียนนั้นพอๆ กับการเอาโชคร้ายที่เกิดขึ้นจากคนในครอบครัวหลายรุ่นมารวมกัน