ลู่ฝานถอดหน้ากากเงิน ถอดเสื้อคลุม แล้วกลับไปที่หอชั้นดี

ด้านใน หานเฟิงกับหลิงเหยาถือกระจกจำภาพในมือ กำลังดูอะไรสักอย่างอยู่

เจ้าดำนั่งอยู่บนเก้าอี้ ชิมอาหารบนโต๊ะอย่างละเอียด ท่าทางการกินงดงามมาก ลู่ฝานไม่รู้เลยว่าเจ้าดำแสร้งทำได้ถึงขั้นนี้

“ศิษย์น้องลู่ฝานกลับมาแล้วเหรอ รีบมาดูสิ ของเล่นของพวกผู้ฝึกชี่ไม่เลวเลย!”

ลู่ฝานชะโงกหน้ามาดู เห็นในกระจกจำภาพมีของลอยไปลอยมา เหมือนเปลี่ยนฉากอยู่ตลอดเวลา

“นี่มันอะไร”

ลู่ฝานถาม

หลิงเหยาพูดว่า “ผู้ฝึกชี่คนหนึ่งเอาวิวที่ตัวเองไปท่องเที่ยวมาในแต่ละประเทศ แสดงในรูปแบบม้วนภาพ แขวนไว้ในกระจกจำภาพ งดงามมาก นี่คือเมืองหลวงของเป่ยเจียง ดูยิ่งใหญ่มีพลังมาก”

หานเฟิงยิ้มแล้วพูดว่า “ศิษย์น้องลู่ฝาน ของเล่นนี้ไม่ใช่ถูกๆ นะ ต้องแลกด้วยยาเม็ดเลยนะ ยังดีที่ฉันฉลาดซัดเขาไปยกนึง เขาจึงยอมแลกกับฉันในราคาไม่สูง”

ลู่ฝานสีหน้าประหลาด ชกคนอื่นยกนึงงั้นเหรอ

เขามองไปรอบๆ อีกฝ่ายจะไม่เอาคนมาแก้แค้นใช่ไหม

ไม่เห็นพ่อค้าที่โดนต่อย แต่เห็นคนอื่นในร้านมองศิษย์พี่หานเฟิงด้วยสายตาประหลาด

เห็นได้ชัดว่าภาพที่ศิษย์พี่หานเฟิงจัดการพ่อค้า ทำให้พวกเขาตกใจ คนบางส่วนมองเจ้าดำจนตาค้าง

ลู่ฝานโยนเจ้าดำไว้บนโต๊ะ แล้วนั่งลง ยื่นหน้าไปมองอีกสองสามที ลู่ฝานยิ้มแล้วพูดว่า “ผู้ฝึกชี่คนนี้น่าเบื่อจริงๆ คงว่างมากด้วย ทำอะไรแบบนี้ หาเงินจนเป็นรูปแบบ”

หานเฟิงกับหลิงเหยาวางกระจกจำภาพลง เก็บไว้อย่างดี จากนั้นหานเฟิงมองลู่ฝานด้วยสีหน้าอบอุ่น “ได้ยันต์หยกไหม”

ลู่ฝานยิ้มแล้วเอายันต์หยกออกมา หลิงเหยากับหานเฟิงส่งเสียงเฮออกมา

หานเฟิงเอายันต์หยกมา ยักคิ้วหลิ่วตาให้ลู่ฝานแล้วพูดว่า “ศิษย์น้องลู่ฝาน เพื่อนนายที่เป็นผู้ฝึกชี่น่านับถือจริงๆ พูดว่าทำยันต์หยกได้ก็ได้จริงๆ ต้องแนะนำให้ฉันรู้จักสักวันนะ อย่างน้อยพากลับมากินข้าวด้วยกันก็ได้”

ลู่ฝานพูดว่า “ไม่ต้องลำบากหรอก เขาไม่มาหรอก”

หานเฟิงเห็นลู่ฝานพูดยืนยันขนาดนี้ จู่ๆ ก็พูดเสียงเบาว่า “ไม่ใช่ผู้หญิงใช่ไหม หน้าตาไม่ดี มันแย่มากเหรอ”

จู่ๆ หลิงเหยาตึงเครียดขึ้นมา

ลู่ฝานมองหานเฟิงอย่างดูหมิ่น “ผู้ชาย หล่อด้วย หนุ่มหล่ออันดับหนึ่งในใต้หล้า”

ศิษย์พี่หานเฟิงหัวเราะ “หล่อกว่าฉันเหรอ อย่าล้อเล่นเลย โอเค มียันต์หยกแล้ว เราไปหอแดนสวรรค์กันเถอะ เวลาไม่เคยคอยท่า รีบไปจับจองที่กันเถอะ!”

หลิงเหยาก็พูดด้วยสีหน้าตื่นเต้น “ใช่ รีบไป ถือโอกาสไปดูด้วยว่าเสียงระเบิดเมื่อกี้คืออะไร ฉันได้ยินคนด้านนอกคุยกัน เหมือนพูดว่าผู้ฝึกชี่เถ่เมี่ยนอะไรสักอย่าง”

ลู่ฝานที่กำลังกินข้าวเกือบพ่นอาหารออกมา

สิ่งที่รวดเร็วสุดบนโลกนี้ ไม่ใช่ลำแสง ไม่ใช่มีดบิน แต่เป็นข่าวซุบซิบ

เขาเพิ่งกลับมา คิดไม่ถึงว่าพวกศิษย์พี่หานเฟิงได้ยินชื่อผู้ฝึกชี่เถ่เมี่ยนแล้ว

“รอฉันกินข้าวเสร็จก่อน อย่าทิ้งขว้างของอร่อย!”

ศิษย์พี่หานเฟิงดึงลู่ฝานขึ้นมา

“กินอะไรกันล่ะ ไปได้แล้ว”

พูดจบ ศิษย์พี่หานเฟิงโยนเหรียญทองไว้บนโต๊ะ ลากลู่ฝานออกไป หลิงเหยารีบตามไป เจ้าดำมองซ้ายมองขวา จู่ๆ มันตัวใหญ่ขึ้น โดยเฉพาะปากของมัน อ้าปากกว้างเป็นสิบเท่า ท่ามกลางสายตาผู้คน อาหารบนโต๊ะถูกมันดูดเข้าไปหมดภายในคำเดียว จากนั้นเจ้าดำเดินสะบัดก้นตามไป เหลือเพียงคนในร้านที่ตกอยู่ในความตะลึง