ลู่ฝานต้านทานความกระตือรือร้นของศิษย์พี่หานเฟิงกับหลิงเหยาไม่ได้ ทำได้เพียงพาพวกเขามาที่หอแดนสวรรค์อีกครั้ง

ครั้งนี้ลู่ฝานถือยันต์หยก พาศิษย์พี่หานเฟิงกับหลิงเหยามาข้างหน้าหุ่นเชิดเกราะทอง

ยันต์หยกแกว่งตรงหน้าหุ่นเชิดเกราะทอง จู่ๆ ลู่ฝานรู้สึกว่าฝ่ามือตัวเองมีความร้อนเล็กน้อย แววตาของหุ่นเชิดเกราะทองก็เป็นประกาย

ร่างสีทองขนาดใหญ่หลีกทางให้ ลู่ฝานพาศิษย์พี่หานเฟิงกับหลิงเหยาเข้าไปไนหอแดนสวรรค์

ศิษย์พี่หานเฟิงเดินไปข้างใน พลางพึมพำว่า “หุ่นเชิดทองแท้ รวยจริงๆ สู้แล้วเอากลับไปสักตัวก็พอแล้ว ศิษย์น้องลู่ฝาน จำหุ่นเชิดคณะหนึ่งเดียวของเราได้ไหม มีทองแค่ไม่กี่เปอร์เซ็นต์เอง”

เมื่อก้าวเข้ามาในประตู ฉากด้านหน้าเปลี่ยนไป

มีเสียงเอะอะดังข้างหู สิ่งที่ปรากฏตรงหน้าคือการตกแต่งที่ดูหรูหรา มีพลังของตึก และของที่งดงามสมบูรณ์

ลำแสงไหลเวียนเป็นทาง ด้านบนมีของพร้อมป้ายราคาวางอยู่หลากหลายชนิด ลอยอยู่เต็มไปหมด

หอขนาดใหญ่ ตรงกลางว่างเปล่า เมื่อเงยหน้ามอง แสงส่องจนสว่างไปทั่ว

รอบๆ มีห้องต่างๆ เต็มไปหมด เริ่มตั้งแต่ชั้นหนึ่งขึ้นไป ผู้คนมากมาย เสื้อผ้าหรูหราราคาแพง ลีลาการสนทนางดงาม คนที่เข้ามาที่นี่ได้ เห็นได้ชัดว่าล้วนเป็นคนมีฐานะ

ตึกใหญ่มาก แค่ชั้นหนึ่งก็ครอบคลุมพื้นที่ไม่รู้กี่ลี้แล้ว ตรงกลางมีแท่นลอยอยู่ เสาแสงสี่ต้นเคลื่อนไหว มีอักษรยันต์ต่างๆ กะพริบตลอดเวลา ดูหรูหรามีพลัง

หญิงคนหนึ่งเดินเข้ามาอย่างงดงาม “ลูกค้าเพิ่งมาหอแดนสวรรค์ครั้งแรกใช่ไหม”

หานเฟิงพูดด้วยความตกใจ “ดูออกด้วยเหรอ ผู้ฝึกชี่เก่งจริงๆ”

ผู้หญิงมีแววตาขบขัน “ฉันไม่ใช่ผู้ฝึกชี่ แค่คนแนะนำเท่านั้น ฉันเห็นทั้งสามคนดูบรรยากาศในหอแดนสวรรค์ แต่ไม่เข้าไปในห้องของตัวเอง เลยคิดว่าคงมาเป็นครั้งแรก ฉันขอดูยันต์หยกได้ไหม”

หานเฟิงยื่นยันต์หยกให้ผู้หญิง “งั้นรบกวนคุณผู้หญิงจัดห้องดีๆ ให้เราสักห้องสิ”

หลิงเหยาพูดว่า “เอาที่มีผลไม้ด้วย”

ผู้หญิงมองแวบหนึ่ง แล้วส่ายหน้าพูดว่า “ขอโทษด้วย ขอหยกชิ้นหลักให้ฉันด้วย”

“หยกชิ้นหลักอะไร” หานเฟิงขมวดคิ้วพูด

ลู่ฝานเอาหยกของตัวเองออกมาส่งให้ผู้หญิง

ผู้หญิงรับหยกมา แล้วพูดว่า “อันนี้แหละ”

พูดพลาง ผู้หญิงใช้แรงกดลงบนยันต์หยกของลู่ฝาน ทันใดนั้นมีแสงพุ่งขึ้นมาบนยันต์หยก มีตัวเลขศูนย์โผล่อยู่ข้างใน!

ลู่ฝานถามว่า “นี่หมายความว่าอะไร”

ผู้หญิงยิ้มแล้วพูดว่า “ตัวเลขด้านในเหมือนจำนวนเงินในบัตรผลึกหินหรือบัตรเหรียญทอง แต่ที่นี่เราจะเรียกกันว่าคะแนน การซื้อของในหอแดนสวรรค์ ต้องใช้คะแนน ลูกค้าสามารถใช้เหรียญทองซื้อคะแนน อีกทั้งยังสามารถเอาของที่ตัวเองต้องการขายพร้อมราคา วางไว้บนลำแสงที่เคลื่อนตัวอยู่ หลังจากนั้นรอให้คนมาซื้อ แน่นอนว่าถ้าคุณต้องการซื้อของ สามารถเอายันต์หยกวางไว้บนของชิ้นนั้น จะหักคะแนนไปเอง ในหอแดนสวรรค์มีทุกสิ่งที่คุณต้องการ”

ลู่ฝานกับหานเฟิงมองหน้ากัน ตกใจกับขั้นตอนสุดอัศจรรย์ของหอแดนสวรรค์

ไม่เคยได้ยินวิธีการซื้อขายแบบนี้มาก่อนเลย

ลู่ฝานถามคำถามสุดท้าย “งั้นขอถามหน่อย ถ้าใช้เหรียญทองซื้อ หนึ่งคะแนนต้องใช้เหรียญทองเท่าไร”

ผู้หญิงยกนิ้วขึ้นมาหนึ่งนิ้ว

หานเฟิงหัวเราะแล้วพูดว่า “เหรียญทองละหนึ่งคะแนนใช่ไหม เข้าใจแล้ว เอาเงินแลกคะแนนใช่ไหม ง่ายมาก ไม่ทราบว่าแลกตรงไหน”

ผู้หญิงส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ขอโทษด้วย ไม่ใช่หนึ่งเหรียญทอง แต่เป็นหนึ่งหมื่นเหรียญทองแลกหนึ่งคะแนน ส่วนสถานที่แลก เชิญลูกค้าเดินเข้าไปข้างใน ด้านหน้ามีเคาน์เตอร์แลกโดยเฉพาะ”

หานเฟิงอ้าปากค้าง พูดอะไรไม่ออก

ลู่ฝานตกใจเล็กน้อย เหรียญทองหนึ่งหมื่นแลกหนึ่งคะแนน คะแนนราคาสูงจริงๆ!

ลู่ฝานรีบมองของที่อยู่บนลำแสง ราคาทั้งหมดล้วนห้าร้อยคะแนนขึ้นไป ถูกสุดก็หลายสิบคะแนน

งั้นแสดงว่าของพวกนี้ ไม่ทันทำอะไรก็เกือบล้านเหรียญทองแล้ว

หลิงเหยาจิปากเบาๆ ไม่พูดอะไรอีกแล้ว

เหมือนศิษย์พี่หานเฟิงนับเหรียญทองของตัวเอง จากนั้นส่งเสียงพูดกับลู่ฝาน “ศิษย์น้องลู่ฝาน นายว่าถ้าเธอตกเป็นของฉัน เธอจะให้คะแนนฉันไหม”

ลู่ฝานพยักหน้าตอบว่า “พี่ลองดูได้ ผมแนะนำให้พี่ลองดู”

หลังจากนั้นทั้งสองคนมองผู้หญิงด้วยรอยยิ้มประหลาด

จู่ๆ ผู้หญิงขมวดคิ้วขึ้นมา