เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 674
หากต้องมีเวทย์มนตร์ในการควบคุม

ถ้าหากมีพลังแล้วไม่ตอบแทน

เมื่อเวลาผ่านไป ก็ยากที่แตกสลายเป็นเศษเสี้ยว!

ณ เวลานี้

ผู้คนหลั่งไหลมาที่ปากทางเข้าหมู่บ้านตระกูลเย่

ด้านนอกของประตูคนยืนกันแน่นขนัด ผู้คนนับร้อยตะโกนเรียกผู้ใหญ่บ้านตระกูลเย่

“คุณหยาง!”

“คุณหยาง ได้ยินมาว่าท่านจะไปแล้ว พวกเราจึงตั้งใจมาเยี่ยมท่าน!”

“นี่เป็นน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ จากพวกเรา ท่านโปรดรับเอาไว้ด้วยเถิด!”

……

ชาวบ้านทั้งหมดตระกูลเย่ พวกเขาต่างแย่งกันที่จะมอบของขวัญให้หยางเฟิง

หยางเฟิงรู้สึกโล่งใจพลางพูดว่า “ชาวบ้านผู้เป็นที่รัก พวกเจ้าไม่จำเป็นต้องทำเช่นนี้เลย?ของเหล่านี้พวกเจ้านำกลับไปเสียเถิด”

“คุณหยาง หากไม่ใช่เพราะท่าน พวกคนสารเลวเหล่านั้นคงจะทำลายหมู่บ้านตระกูลเย่จนกลายเป็นสภาพเยี่ยงไร?”

“ใช่ขอรับ คุณหยาง ท่านได้โปรดรับไปเถอะ!”

“หากท่านไม่ยอมรับ พวกเราก็จะไม่ไป!”

เมื่อเห็นหยางเฟิง ไม่ยอมรับ

ชาวบ้านหมู่ตระกูลเย่ จึงล้อมเขาไว้ไม่ให้เขาจากไป

“นี่……”

หยางเฟิงไม่รู้จะพูดอะไรดี

เขาเขินอายเล็กน้อย

เขาสั่งการกองทหารนับพัน

ได้รับการทักทายจากนายพลทหาร

แต่กลับไม่รู้วิธีปฏิเสธความปรารถนาดีของประชาชน

เย่หลงเดินออกมาพลางพูดว่า “หยางเฟิง เจ้ารับไว้เถอะ นี่เป็นน้ำใจจองทุกคน!”

“หากเจ้าไม่รับ ทุกคนก็จะไม่ให้เจ้าไป!”

เมื่อได้ยินดังนั้น

หยางเฟิงถอดหายใจพลางพูดว่า “ขอรับ!งั้นข้าก็รู้สึกขอบคุณทุกคน!”

เสือขาวและคนอื่นก้าวขึ้นมารับของจากประชาชน

เมื่อเห็นสมบัติล้ำค่าที่กองพะเนินดั่งขุนเขา

ไม่ว่าจะเป็น ไข่ไก่ หรือ สัตว์จำพวกแม่ไก่ หรือแม่เป็ด

หยางเฟิงไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ

เขารู้สึกว่านี้เป็นเรื่องเล็กน้อย

รู้สึกชาวบ้านที่นี้ช่างกตัญญูรู้คุณ

บางทีสิ่งเหล่านี้อาจจะไม่มีค่าให้กล่าวถึง

แต่หยางเฟิงรู้ดีว่า

นี่เป็นสิ่งที่ดีที่สุดในหมู่บ้านตระกูลเย่แล้ว

เพื่อประชาชน

นี่ก็เพื่อประชาชน

นี่คือบุคคลอันเป็นที่รักที่สมควรให้รับการปกป้องจากทหารจำนวนมหาศาล

หากมีประชาชนเยี่ยงนี้

หยางเฟิงถึงจะรู้สึกว่าการกระทำของตนเองช่างคุ้มค่า

เย่หลงลืมตาขึ้นพลางพูดกับชาวบ้านว่า “ พอแล้ว ทุกคนแยกย้ายเถอะ!”

เมื่อได้ยินคำพูดของเย่หลง

ในใจของทุกคนก็รู้สึกไม่อยากจากไป แต่ก็ยอมแยกย้ายแต่โดยดี

ยังไงซะเย่หลงก็เป็นหัวหน้าหมู่บ้านตระกูลเย่

อำนาจของตระกูลเย่ เป็นของเขาแต่เพียงผู้เดียว

เมื่อชาวบ้านแยกย้ายกันหมดแล้ว

เย่หลงมองไปที่หยางเฟิงและถอนหายใจเบาๆพลางพูดว่า “เฮ้! หยางเฟิง เจ้าจากไปครั้งนี้ ก็ไม่รู้ว่าจะกลับมาที่หมู่บ้านตระกูลเมื่อใด บางทีเมื่อเจ้ากลับมา ข้าคงไม่มีชีวิตอยู่อีกต่อไปแล้ว! ”

“ท่านปู่……”

“เจ้าไม่ต้องพูดแล้ว!”

เมื่อเห็นหยางเฟิงกำลังจะพูดอะไร

เย่หลงขัดจังหวะเขาและพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ ปู่อายุมากแล้ว ความเป็นและความตายเป็นสิ่งที่ข้าเห็นมาหนักต่อหนักแล้ว! เจ้ากำลังจะจากไป และข้าก็ไม่มีอะไรจะให้เจ้าเลย ตำราหมัดหยงชุนนี้มีคำอธิบายประกอบไว้ ข้ามอบให้เจ้า!”

พูดพลาง

เย่หลงหยิบหนังสือจากอ้อมอกของเขาและยื่นให้หยางเฟิง

“คำอธิบายนี้เป็นสิ่งที่ข้าได้เรียนรู้จากการฝึกฝนหมัดหย่งชุนมาหลายปีแล้ว ข้าหวังว่ามันจะเป็นประโยชน์กับเจ้า!”

หยางเฟิงรับหนังสือมาโดยไม่รู้จะพูดอันใด

เขาทำได้เพียงพยักหน้าอย่างแรงพลางกล่าวว่า “ท่านปู่ ไม่ต้องกังวล ข้าจะพาหมัดหย่งชุนมุ่งสู่อนาคตแน่นอน!”

เมื่อได้ยินดังนั้น

เย่หลงยิ้มออกมา

คำพูดของหยางเฟิงแค่นี้ก็เพียงพอแล้ว

“พอแล้วล่ะ ข้าไม่พูดมากแล้ว ขอให้เจ้ามีชีวิตที่ราบรื่น!”

เมื่อพูดจบ

เย่หลงหันกายจากไป ไร้ซึ่งประโยคกำชับใดๆ

เมื่อเห็นเงาแผ่นหลังของเย่หลง

หยางเฟิงรู้สึกทันทีว่าแผ่นหลังของเย่หลงงอค่อมเล็กน้อย

ราวกับ เวลาเพียงชั่วข้ามคืนเขาก็แก่ลงไปสิบปี

เมื่อเห็นดังนั้น

ขอบตาของเขาพลันเป็นสีแดงระเรื่อเล็กน้อย