เทพสงครามพิทักษ์โลก บทที่ 675
ไม่ว่าพละกำลังความแข็งแกร่งของเย่หลงจะไม่อาจหยั่งรู้ได้

ไม่ว่าเขาจะมีไหวพริบและความเจ้าเล่ห์มากมายเท่าใด

อย่างไรเสียเขาก็เป็นเพียงแค่คนชราอายุร้อยปีคนหนึ่ง

นักบู๊ที่ฝึกฝนร่ำเรียนวิชามวย สามารถเสริมสร้างสุขภาพร่างกายให้มีอายุที่ยืนยาวได้ หากแต่ไม่สามารถมีชีวิตอยู่ได้ตลอดไป

และก็ไม่รู้เช่นกันว่า

ครั้งต่อไปที่ตนจะมาคือเมื่อใด

เพื่อนเก่าเพื่อนแก่คนนี้จะยังคงอยู่หรือไม่?

เมื่อคิดถึงจุดนี้

หยางเฟิงจึงหันไปทางแผ่นหลังของเย่หลงและโค้งคำนับให้อย่างน้อมนอบ

เพื่ออำลาเย่หลง

หยางเฟิงไม่หยุดพำนักอยู่ที่นี้ และเดินทางจากหมู่บ้านตระกูลเย่ไป

ระหว่างทาง

หยางเฟิงกล่าวกับจางเทียนซานและไป๋หลิงหลงว่า

“ครั้งนี้พวกเจ้าทั้งสองคนช่วยข้าแย่งชิงภาพมกุฎมังกรมาจนได้ ตามข้อตกลงก่อนหน้านี้ ข้าจะช่วยพวกเจ้าสร้างสำนักขึ้นมาใหม่”

ขณะที่กล่าว

หยางเฟิงก็หยิบเช็คเงินสดจำนวนสองพันล้านออกมาจากอ้อมแขนของเขา

“พวกเจ้ารับเงินจำนวนนี้ไปเสีย และกลับไปสร้างสำนักใหม่เถิด”

เมื่อเห็นเช็คเงินสดในมือ

ทั้งจางเทียนซานและไป๋หลิงหลง ดวงตาร้อนผ่าว สองมือไหวสั่น

ก่อนที่พวกเขาจะรู้ตัว หยางเฟิงก็ถือโอกาสผนวกรวมพวกเขาแล้ว

แต่หยางเฟิงหาได้ทำเช่นนั้นไม่

กลับสนับสนุนประคับประคองพวกเขาเสียด้วยซ้ำไป

“เจ้าพันธมิตรหยาง ข้าจางเทียนซาน ขอสาบานว่านับจากนี้ไปจะขอบุกน้ำลุยไปเพื่อท่าน!”

“เจ้าพันธมิตรหยาง ข้าไป๋หลิงหลง ขอสาบานว่านับจากวันนี้ไปจะเชื่อฟังแต่คำสั่งของท่านเพียงผู้เดียว!”

ตึ๋ง!

ตึ๋ง!

พูดยังไม่ทันขาดคำ

ทั้งสองก็คุกเข่าต่อหน้าหยางเฟิง

หลังจากผ่านเรื่องราวในครั้งนี้

ทั้งคู่ได้รู้เกี่ยวกับพละกำลังความแข็งแกร่งอันน่าทึ่งของหยางเฟิงแล้ว

คิดว่าการติดตามหยางเฟิงอย่างใจจดใจเท่านั้นที่จะเป็นทางออกของพวกเขา

หยางเฟิงมองไปยังคนทั้งสอง

รู้ว่าพวกเขายอมจำนนต่อตนอย่างสมบูรณ์แล้ว

หยางเฟิงกล่าวด้วยรอยยิ้ม “พวกเจ้าทั้งสองลุกขึ้นเถิด โลกบู๊ทางใต้หลังจากนี้ ยังคงต้องการให้พวกเจ้าบริหารจัดการเพื่อข้า”

“ขอรับ เจ้าพันธมิตรหยาง!”

ทั้งสองพยักหน้าตอบรับ

“เจ้าพันธมิตรหยาง งั้นพวกข้าขออำรา!”

“อืม”

หยางเฟิงพยักหน้า

ตึก!

ตึก!

จางเทียนซานและไป๋หลิงหลง เปลี่ยนเป็นสองเงาและหายไปในทันใด

สำหรับพวกเขาแล้ว การสร้างสำนักขึ้นมาใหม่เป็นสิ่งที่ควรกระทำเป็นอันดับแรก

มีเงินทองเป็นพันล้าน

การสร้างสำนักขึ้นมาใหม่ขึ้นอยู่กับเรื่องของเวลาเท่านั้น

หยางเฟิงก็ละสายตาจากพวกเขาแล้วเช่นกัน

สำหรับเขาแล้ว

การเก็บคนสองคนนี้ไว้ แค่เพื่อการบริหารจัดการโลกบู๊ทางใต้ให้ดีขึ้นเพียงเท่านั้น

“เดินทัพ!”

ตูมตาม!

เมื่อหยางเฟิงออกคำสั่ง

ฮัมเมอร์สีเขียวเข้มนับร้อยก็มุ่งหน้าสู่ตงไห่อย่างอึกทึกครึกโครม

ณ เวลานี้ ไอรีนโนเวล

ตระกูลหนิงแห่งจงโจว

คือสวนที่มีพื้นที่คิดเป็นร้อยไร่

มีประวัติศาสตร์มานับร้อยกว่าปี

หลังจากการสร้างตั้งแต่บรรพบุรุษรุ่นแรกของตระกูลหนิง

ก็ได้ผ่านการขยับขยายมาแล้วหลายร้อยปี

ตระกูลหนิง ณ เวลานี้ ยิ่งใหญ่เกรียงไกรเกินทัดเทียม

เป็นสำหนักใหญ่ของจริง!

ภายในห้องหนังสือของตระกูลหนิง

เพี๊ยะ!

ตบ

ผู้นำตระกูลแห่งตระกูลหนิง

หนิงเหลยถิง!

ตบหน้าของหนิงชิงเฉิงอย่างโหดเหี้ยม

หนิงชิงเฉิงยืนอยู่ที่นี่โดยไม่ขยับเขยื้อน

บนแก้มปรากฎเป็นรอยแดงห้านิ้ว

“ข้ามอบหมายให้เจ้าไปแย่งชิงชิ้นส่วนภาพมกุฎมังกร แต่เจ้ากลับสละสมบัติล้ำค่าในมือให้เจ้าเศษสวะนั่น!เจ้าอยากทำให้ข้าพิโรธรึ?”

“เจ้ารู้หรือไม่ เพื่อภาพมกุฎมังกรแล้วพวกเราตระกูลหนิงต้องใช้เวลาไปมากเพียงใด ทุ่มเทแรงกายแรงใจเท่าไหร่ ต้องใช้เงินทองมากมายเท่าใด ต้องใช้ทรัพยากรและผู้คนไปเท่าไหร่ ? ”

หนิงเหลยถิงจ้องหนิงชิงเฉิง สีหน้าโกรธเกรี้ยว

ยิ่งการที่เขารู้ว่าลูกสาวของตนยอมสละสมบัติล้ำค่าเพื่อเจ้าสวะ เพื่อคุณชายที่ถูกทอดทิ้งตระกูลหยางคนนั้น ยิ่งทำให้เขาโกรธเคือง

ภาพมกุฎมังกร เป็นถึงสมบัติล้ำค่าของต้าเซี่ย

มีผู้คนตั้งมากมายที่เท่าไหร่ยอมสละชีพเพื่อมัน

แต่หนิงชิงเฉิงกลับยอมเสียสละมันรึ?

ยอมสละมันเพื่อเศษสวะคนหนึ่งรึ?

ช่างไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย!

แม้จะถูกเขาตบไปก็ตาม

หนิงชิงเฉิงกลับไม่แสดงสีหน้าใดๆ ไร้คำพูดคำจา

เพียงมองไปยังบิดาของตนอย่างดื้อรั้น

หนิงเหลยถิงจึงใจอ่อนขึ้นมา

ต่อให้จะพูดอย่างไร หนิงชิงเฉิงก็ยังคงเป็นลูกสาวที่ดีเลิศที่สุดของเขา