ตอนที่ 483 สมรภูมิทางธุรกิจ

ปาฏิหาริย์รัก เทพธิดาจำแลง

ในเวลานี้ฉินซินหยิ่งซึ่งนั่งอยู่หน้าจอโทรทัศน์ จู่ๆ ก็โยนรีโมตคอนโทรลลงกับพื้นเมื่อเธอเห็นข่าว เธอจ้องมองถังซีในจอด้วยสายตาดุร้าย และคำรามออกมา “ถังซี! นังบ้า หน้าไม่อาย!” 

 

 

เธอได้รับการประกันตัวออกมาเพราะปู่เธอจ่ายเงินไปมหาศาล ถังซีกล้าพูดได้อย่างไรว่าตัวเองเป็นคนขอให้ตำรวจฝรั่งเศสปล่อยเธอ! และ… สิ่งที่เธอทำกลับดูเหมือนเป็นการช่วยถังซีมากกว่า เธอไม่สามารถเอาชนะถังซีได้ แต่ช่วยให้ถังซีได้รับความสนใจมากขึ้น 

 

 

ฉินซินหยิ่งลุกขึ้นปิดทีวี ขณะกำลังเดินไปห้องทำงานปู่เพื่อไปอธิบายกับฉินเย่ว์ เธอก็เห็นฉินเย่ว์เดินออกมาจากห้องทำงานด้วยใบหน้าถมึงทึง ฉินซินหยิ่งรู้สึกขลาดกลัวเล็กน้อยขณะเดินไปหาเขา เธอเม้มริมฝีปาก เดินเข้าไปด้วยรอยยิ้มแหยๆ บนใบหน้า “ปู่คะ…” 

 

 

ฉินเย่ว์มองหน้าฉินซินหยิ่ง แล้วกล่าวด้วยสีหน้าเฉยเมย “แกทำเสียเรื่องอีกแล้ว” 

 

 

“ปู่ค่ะ หนูรู้ว่าหนูทำผิด หนูไม่น่าประมาทขนาดนี้” ฉินซินหยิ่งเม้มริมฝีปาก กล่าวเสียงแผ่ว “ได้โปรดให้โอกาสหนูอีกครั้งนะคะ” 

 

 

“ได้ ฉันจะให้โอกาสแกอีกครั้ง แต่แกรู้ไหมว่าผลที่ตามมาคืออะไร ถ้าแกพ่ายแพ้ผู้หญิงคนนั้นอีก” ฉินเย่ว์หันมามองฉินซินหยิ่ง ใบหน้าเขาไม่แสดงความรู้สึกใดๆ “แกคิดดูถี่ถ้วนแล้วหรือยัง” 

 

 

ฉินซินหยิ่งพยักหน้าอย่างหนักแน่น ฉินเย่ว์พยักหน้า “แกจัดการนังเด็กคนนั้นไม่ได้หรอก ตอนนี้แกควรหาวิธีจัดการกับคดีดีกว่า ฉันจะให้เงินและเครือข่ายคนที่จะเป็นประโยชน์กับแก แต่แกต้องหาทางแก้ปัญหาที่มีกับทีมกฎหมายของเอ็มไพร์กรุปด้วยตัวเอง” 

 

 

“ขอบคุณค่ะ ปู่” 

 

 

ฉินซินหยิ่งไม่ได้คาดหวังอยู่แล้วว่าปู่จะไม่ดุด่าเธอ แต่ถึงแม้เธอจะทำเรื่องยุ่งวุ่นวายแค่ไหน เขาก็ยังตกลงยินยอมช่วยเธอ! 

 

 

ฉินเย่ว์เหลือบมองฉินซินหยิ่ง ประกายเยือกเย็นวาววับไปทั่วดวงตาเขา หลังจากฉินซินหยิ่งไปแล้วเขาก็กลับไปที่ห้องทำงาน โทรทัศน์ในห้องทำงานยังคงเสนอข่าวถังซี เขามองถังซีในจอและยิ้มอย่างเยือกเย็น “ถังเจิ้นหัว ดูเหมือนแกจะมีหลานสาวที่เก่งมากนะ เธอเป็นคนเจ้าเล่ห์และร้ายกาจพอๆ กับแก มาดูกันซิว่า ท้ายที่สุดแกหรือฉันจะเป็นผู้ชนะ” 

 

 

… 

 

 

ทันทีที่เข้ามาในห้องทำงานถังซีก็เปิดโหมดคนบ้างาน เธอทำงานไม่หยุดจนกระทั่งบ่าย และที่เธอหยุดก็เพียงเพราะเธอตัดสินใจจะไปที่เอ็มไพร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ สืบเนื่องจากเรื่องอื้อฉาวของสวีฟัง ทีมงานเอ็มไพร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ทุกคนจึงยิ่งนับถือในตัวถังซี พวกเขาอยากจัดงานเลี้ยงฉลองให้ถังซีมานานแล้ว เมื่อถังซีเดินเข้ามาในเอ็มไพร์เอ็นเตอร์เทนเมนต์ รองประธานหยางเล่อจึงมอบช่อดอกลิลลี่ให้เธอ “ยินดีต้อนรับกลับบ้านครับ ท่านประธาน” 

 

 

ถังซีรับช่อดอกไม้ส่งให้เฉียวเหลียงซึ่งอยู่ข้างหลัง แล้วยิ้ม “ไม่คิดเลยนะคะว่าคุณก็โรแมนติคเป็นเหมือนกัน” 

 

 

ถังซีแกล้งล้อเขาเล่นเป็นครั้งแรก หยางเล่อหน้าแดง ชี้ไปที่เหล่าพนักงานและศิลปินที่อยู่ข้างหลังเขา แล้วหัวเราะ “ทุกคนร่วมกันเตรียมไว้ครับ ผมแค่เป็นตัวแทนพวกเขา” 

 

 

ถังซีกล่าวขอบคุณทุกคน แล้วกล่าวว่า “เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้ อาจทำให้พวกคุณตื่นตระหนก แต่ทุกคนโปรดจำไว้ว่า ในฐานะสมาชิกเอ็มไพร์กรุป เราจะไม่ยอมพ่ายแพ้ต่ออุปสรรคเล็กๆ น้อยๆ เหล่านี้ เข้าใจใช่ไหมคะ” 

 

 

“เข้าใจค่ะ!” 

 

 

“เข้าใจครับ!” 

 

 

… 

 

 

เดือนถัดมาถังซีต้องเดินทางไปๆ มาๆ ระหว่างเมือง A กับเมืองหลวง บางครั้งเธอต้องเรียนหนังสือตอนกลางวัน และตอนกลางคืนเธอต้องทำงานหนักที่สำนักงานของเอ็มไพร์กรุป  

 

 

ในช่วงเดือนนี้เอ็มไพร์กรุปกับฉินกรุปต้องเผชิญหน้าชิงไหวชิงพริบกันหลายครั้ง ทุกครั้งที่เอ็มไพร์กรุปโจมตีฉินกรุป ฉินกรุปจะกลับมาตั้งหลักได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งสร้างความประทับใจแก่ถังซีเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามหลังจากนั้นเธอก็ได้ยินมาว่า ฉินกรุปยืนหยัดอยู่ได้ยาวนานเพราะหุ้นบริษัทที่อยู่ในมือฉินเย่ว์นั้น ได้รับการสนับสนุนจากใครบางคนอยู่เบื้องหลัง และความนับถือที่เธอมีให้ฉินเปิ่นหยวนเพียงเล็กน้อยก็มลายหายไปทันที 

 

 

ในช่วงเวลานี้สิ่งเดียวที่ทำให้ถังซีมีความสุขคือ เฉียวเหลียงยอมรับความสามารถของเธอในที่สุด และไม่ได้ตามติดเธอตลอดเวลาเหมือนเมื่อก่อน ในที่สุดเธอก็ได้มีอิสระในการจัดการกับเรื่องต่างๆ แต่แน่นอนว่าโดยมีเงื่อนไขคือ ต้องให้อาหกติดตามไปเป็นผู้คุ้มครองเธอ 

 

 

ช่วงเวลาดังกล่าวกินเวลานานกว่าหนึ่งเดือน แล้วท้ายที่สุดสงครามระหว่างเอ็มไพร์กรุปกับฉินกรุปก็ยุติลง ด้วยชัยชนะของเอ็มไพร์กรุป 

 

 

ถังซีกลับไปเรียนหนังสือที่โรงเรียน และเข้าสอบในระหว่างช่วงพักรบ สิ่งที่ทำให้คนทั้งโรงเรียนประหลาดใจก็คือ ถังซีสอบได้ที่หนึ่งแม้เธอแทบจะไม่ได้มาโรงเรียนเลยก็ตาม ถังซีจึงยื่นขออนุญาตสอบเข้ามหาวิทยาลัยโดยตรง โดยไม่ต้องเข้าชั้นเรียน… 

 

 

อาจารย์ใหญ่ลังเลเล็กน้อยเพราะผลการเรียนของถังซีนั้นดีมากเหลือเกิน “เธอมาโรงเรียนบ้างไม่มาบ้าง แต่ด้วยความสามารถของเธอผลการเรียนเธอดีมาก เธอสามารถเลือกมหาวิทยาลัยชั้นนำในต่างประเทศได้ ทำไมไม่ลองไปเรียนต่อที่ต่างประเทศล่ะ” 

 

 

เหนือกว่าสิ่งใดครอบครัวเธอมีเงินส่งเสียให้เธอเรียนต่อต่างประเทศได้อยู่แล้ว! 

 

 

ถังซีปฏิเสธความเมตตาของอาจารย์ใหญ่อย่างสุภาพ และในโอกาสที่เทศกาลตรุษจีนกำลังจะมาถึง ถังซีจึงอวยพรล่วงหน้าให้อาจารย์ใหญ่มีความสุขในวันตรุษจีน หลังจากได้รับอนุญาตตามที่เธอต้องการแล้ว ถังซีก็ไปที่บริษัทของเธอกับอาหก 

 

 

ใช่แล้ว เธอไปที่เดอะควีน ทุกวันนี้เดอะควีนได้รับคำสั่งซื้อจำนวนมาก ห้างสรรพสินค้าขนาดใหญ่หลายแห่งเชิญให้เดอะควีนมาเปิดร้านในห้าง ตอนนี้เดอะควีนเกือบจะกลายเป็นผู้นำแฟชั่นของเมือง A ไปแล้ว คนดังและดาราหลายคนเลือกสวมชุดโอร์ กูตูร์ของเดอะควีน แทนที่จะเลือกดิออร์ หรือชาแนลในการเข้าร่วมงานต่างๆ 

 

 

ถังซีอยากให้เดอะควีนเป็นแบรนด์หรูมากกว่าเป็นแบรนด์ยอดนิยม หากได้รับความนิยมมากเกินไป แบรนด์นั้นจะไม่ได้อยู่ในระดับสูง ดังนั้นในช่วงห้าปีแรกเธอจะพยายามไม่ให้เดอะควีนเป็นที่นิยมมากเกินไป 

 

 

สิ่งที่เธอต้องการคือการทำเงิน และการทำเงินจากคนรวยนั้นง่ายที่สุด 

 

 

ดวงตาถังซีจึงเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น เมื่อเธอเห็นรถหรูหลายคันจอดอยู่ด้านนอกเดอะควีน ดูเหมือนเธอจะใช้หนี้เงินกู้ได้หมดภายในเดือนนี้ 

 

 

ทันทีที่ถังซีเดินเข้าไปในห้องโถง ผู้คนทั้งหมดที่กำลังรอเธออยู่ก็เข้ามารวมตัวกัน แม้แต่บรรดาสุภาพสตรีชั้นสูงผู้มักวางท่าเย่อหยิ่งตลอดเวลา ก็อดหันมามองถังซีไม่ได้ เพราะความสำคัญอยู่ที่ว่าเซียวโหรวคือตัวแทนภาพลักษณ์ของเดอะควีนในตอนนี้! 

 

 

เธอมาที่นี่เพราะเดอะควีนกำลังจะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ใหม่หรือเปล่า 

 

 

ใช่ เป็นความภาคภูมิใจของถังซี เสื้อผ้าของเดอะควีนขายดีมากเพราะเธอเป็นตัวแทนภาพลักษณ์ 

 

 

ตอนนี้เธอสวยขึ้นมาก รูปร่างก็ดีขึ้นด้วย แม้เธอจะยังดูบอบบางอยู่บ้าง แต่ก็เกือบสมส่วนอย่างไม่มีที่ติ เดอะควีนดึงดูดลูกค้าสตรีจำนวนมากได้ก็เพราะเธอ