บทที่ 615 ข้ารู้ว่ามุกมังกรเม็ดที่เจ็ดอยู่ไหน

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม

อัจฉริยะแพทย์สาว ข้ามภพรักอ๋องเทพสงคราม บทที่ 615 ข้ารู้ว่ามุกมังกรเม็ดที่เจ็ดอยู่ไหน
กู้ชูหน่วนเอ่ยถาม “คนแก่นั้นผมขาว สูงๆผอมๆ ดูแล้วผ่าเผยเหมือนเทพเซียน แต่ชั่วร้ายขึ้นมากลับเหมือนปีศาจใช่หรือไม่?”

องค์หญิงรัชทายาทผงกศีรษะด้วยความยากลำบาก นางกวาดตามองดูศพที่อยู่ทั่วทุกแห่ง เบ้าตาแดงก่ำ “แคว้นคนแคระของพวกเรา ถูกเขา…..สังหารหมดแล้ว…..ใช่หรือไม่?”

กู้ชูหน่วนกอดองค์หญิงรัชทายาทแน่น แม้ว่าว่านางจะตัวเท่าเข่าตัวเอง

“พี่สาวจะไม่ปล่อยให้เจ้าตาย พี่สาวจะรักษาเจ้าให้หาย”

“พี่สาว…….ท่านเคยบอกว่า จะพาข้าไปดู…….ไปดูโลกภายนอก ข้าอยากไปดูว่าโลกภายนอก…….เป็นยังไง”

“ดี พี่สาวจะพาเจ้าไปเดี๋ยวนี้ เจ้าอดทนไว้”

กู้ชูหน่วนเพิ่งจะอุ้มองค์หญิงรัชทายาทขึ้นมา องค์หญิงรัชทายาทก็กระอักเลือดออกมาแล้ว ลมหายใจของนางก็ลดอ่อนลงในทันใด

พวกนางล้วนเป็นคนแคระ เดิมทีการเจริญเติบโตก็ไม่ค่อยดีนัก บวกกับร่างกายที่อ่อนแอ จะทนรับลูกหลงของรองหัวหน้าเผ่าซือคง

สุดยอดผู้มีฝีมือประเภทนั้นได้อย่างไร

องค์หญิงรัชทายาทเหลือเพียงลมหายใจเดียว เพียงแรงกำลังของคนช่วยเหลือไม่ได้โดยสิ้นเชิง

กู้ชูหน่วนเบ้าตาแดง

นางเพิ่งจะอายุสิบสามปี

ชีวิตเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้น……

ก็ถูกช่วงชิงชีวิตไปอย่างอำมหิตเช่นนี้แล้ว

“ข้า……ข้าชอบพี่สาวมาก……ได้เห็นพี่สาว ก็เหมือนกับได้เห็นโลก……ภายนอก”

“ท่านอย่า…..อย่าเสียใจ สามารถตายพร้อมกับคนในครอบครัวตัวเองได้ ข้า……ข้าไม่กลัวสักนิด ข้า….ข้าต้องไปหาพวก….พวกเขาแล้ว….”

ทุกคำพูดที่องค์หญิงรัชทายาทกล่าว ราวกับว่าใช้แรงกำลังทั้งหมดของตัวเอง

ฉับพลันนั้น มือที่ยกขึ้นของนางก็ร่วงลง การหายใจก็หยุดลงอย่างกะทันหัน

กู้ชูหน่วนกอดร่างที่ยังมีความอุ่นของนางไว้แน่น น้ำตาไหลอาบแก้มลงมา

เย่จิ่งหานกล่าว “คนตายไม่สามารถฟื้นได้ นางไม่มีทั้งคนในครอบครัวและผู้คนในแคว้น แม้ว่าจะมีชีวิตอยู่ ทุกๆวันคืนในอนาคตต่อจากนี้ก็จะเป็นความทรมาน”

“พระชายา โปรดระงับความโศกด้วยพ่ะย่ะค่ะ”

กู้ชูหน่วนปล่อยองค์หญิงรัชทายาทออก ความเกลียดแค้นฉายแววในดวงตาอันเย็นชา

รองหัวหน้าเผ่าซือคง……

นางกู้ชูหน่วนสาบาน ทั้งชีวิตนี้ชาตินี้ จะต้องฆ่าเขาด้วยมือให้ได้ ช่วยล้างแค้นแทนประชาชนทั้งหมดของแคว้นคนแคระ

ชิงเฟิงเจี่ยงเสวียส่งคนไปเพื่อนำศพทั้งหมดของแคว้นคนแคระไปเผา พร้อมทั้งเผาบ้านเรือนทั้งหมดของแคว้นคนแคระไปด้วย หายสาบสูญจากโลกนี้ไปตลอดกาล

วันนี้ ทุกคนหนักหน่วงมาก

ในวันนี้ อาการป่วยของกู้ชูหน่วนย่ำแย่ขึ้น เป็นลมหมดสติไป

และเพราะว่าเย่จิ่งหานใช้แรงจนหมด ก็ล้มทรุดไปด้วย

ชิงเฟิงเจี่ยงเสวียและคนอื่นๆพาพวกเขากลับไปที่พระนครแคว้นเย่

ขณะที่กู้ชูหน่วนฟื้น ก็เป็นสองสามวันหลังจากนั้นแล้ว

แต่ละฉากที่ได้ผ่านไปวนเวียนอยู่ในสมองของกู้ชูหน่วน กู้ชูหน่วนลุกขึ้นนั่งอย่างฉับพลัน

สิ่งที่อยู่ในสายตาคือบ้านที่คุ้นเคย นี่คือห้องนอนตอนแต่งงานใหม่ของนางกับเย่จิ่งหาน และเป็นจวนอ๋องหาน

“คุณหนู ในที่สุดท่านก็ตื่นแล้ว ชิวเอ๋อร์เป็นห่วงจนแทบตายอยู่แล้วเพคะ ท่านว่าหลังจากนี้หากท่านจะเดินทางไกล พาชิวเอ๋อร์ไปด้วยได้หรือไม่เพคะ”

“ตอนนี้กี่โมงแล้ว?”

“ตอนนี้……ตอนนี้ใกล้จะเที่ยงแล้วเพคะ คุณหนู ท่านหิวแล้วใช่หรือไม่? ชิวเอ๋อร์จะไปยกอาหารมากให้เดี๋ยวนี้เพคะ”

“กลับมา ที่ข้าจะถามคือ ตอนนี้เป็นวันอะไร”

“สิบ…….สิบแปดเพคะ มีอะไรเหรอเพคะ?”

ชิวเอ๋อร์หดตัวเล็กน้อย

ไม่รู้ว่าพลังบนตัวคุณหนูของตัวเองแข็งแกร่งมากขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่

แต่ไม่ว่าจะแข็งแกร่งเพียงใด คุณหนูก็ยังพูดจากับนางอย่างอ่อนโยนมาโดยตลอด จริงจังและตื่นตระหนกเช่นนี้น้อยมาก

สีหน้าของกู้ชูหน่วนซีดขาวทันที แทบจะเป็นลมไปอีกครั้ง

นางล้วงมุกมังกรเม็ดที่หกออกมาและจ้องมองอย่างเลื่อนลอย

สิบแปดแล้ว……

ทำไมสิบแปดแล้วล่ะ……

ทำไมนางถึงได้หมดสติไปเป็นเวลาหลายวันขนาดนี้?

ผ่านสิบห้ามาแล้ว ประชาชนเผ่าหยกล่ะ พวกเขาได้เผชิญกับคำสาปโลหิตอันแสนจะน่าเศร้าไร้ที่เปรียบนั่นอีกครั้งแล้วใช่หรือไม่?

กู้ชูหน่วนกุมศีรษะตัวเองไว้แน่น ร้องไห้ด้วยความจนปัญญา

การตำหนิตนเอง ความรู้สึกผิด ความเป็นห่วง ความหวาดกลัว ทุกอย่างครอบงำนางไว้

ชิวเอ๋อร์ตกใจมากจนทำอะไรไม่ถูก นางก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างสั่นเทา อยากจะกอดกู้ชูหน่วนไว้ แต่กลับไม่กล้า

คุณหนูในเวลานี้ เสมือนกับตุ๊กตากระเบื้อง ทันทีที่สัมผัสก็จะแตกเป็นเสี่ยงๆ

ตั้งแต่คุณหนูของนางความจำเสื่อม จะมีแต่ความบ้าบิ่น เย่อหยิ่ง หลอกปั่นหัวคนจนยับเยิน เคยโศกเศร้าเช่นนี้ที่ไหนกัน

ชิวเอ๋อร์กล่าวอย่างสะอึกสะอื้น “คุณหนู ท่านเป็นอะไรเพคะ เกิดเรื่องอะไรขึ้นใช่หรือไม่ ท่านอย่าทำให้ชิวเอ๋อร์ตกใจสิเพคะ”

“วันที่สิบห้าผ่านไปแล้ว……ข้าไม่สามารถหามุกมังกรได้ครบเจ็ดเม็ดก่อนวันที่สิบห้า….เจ้ารู้รึเปล่า ข้าไม่สามารถหามุกมังกรได้ครบเจ็ดเม็ดก่อนวันที่สิบห้า”

กู้ชูหน่วนกุมศีรษะด้วยความทุกข์ทรมาน ปากก็พึมพำกับตัวเอง

ชิวเอ๋อร์สับสนมึนงง และก็ร้องไห้ตาม

“คุณหนู ชิวเอ๋อร์ไม่เข้าใจว่าอะไรคือวันที่สิบห้า และไม่เข้าใจว่าอะไรคือมุกมังกร แต่ว่าวันที่สิบห้าจะมีทุกๆเดือน มุกมังกร……มุกมังกรหาไม่เจอ พวกเราก็หาต่อไปก็ได้ ชิวเอ๋อร์ไปขอให้ชิงเฟิงช่วย ชิงเฟิงเก่งกาจมาก เขาจะต้องช่วยคุณหนูหามุกมังกรได้อย่างแน่นอนเพคะ”

“กึกกัก…..”

ประตูใหญ่ถูกเปิดออกอย่างเร่งรีบ เย่จิ่งหานได้ข่าวว่านางฟื้นแล้ว ก็รีบมาทันที

เมื่อเห็นกู้ชูหน่วนอ้างว้างไร้ที่พึ่งเช่นนี้ ก็ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งก่อน จากนั้นก็เต็มไปด้วยความสงสาร

ชิวเอ๋อร์เช็ดน้ำตา ถอยออกไปอย่างรู้สถานการณ์

เย่จิ่งหานไม่ได้สวมหน้ากาก เผยให้เห็นโฉมหน้าอันสง่างามไร้ที่เปรียบ

เขาพูดอย่างอ่อนโยน “อาหน่วน ในเมื่อวันที่สิบห้าผ่านไปแล้ว ก็จนปัญญาที่จะเปลี่ยนแปลงอะไรได้แล้ว แต่พวกเราสามารถพยายามหามุกมังกรให้ได้ก่อนวันที่สิบห้าเดือนหน้าได้นี่ หามุกมังกรเม็ดสุดท้ายให้เจอ”

ตั้งแต่แรกเริ่มจนสุดท้ายเย่จิ่งหานก็ไม่เข้าใจว่า ทำไมนางถึงได้เป็นห่วงเป็นใยเรื่องของเผ่าหยกขนาดนี้ นางเป็นคนเผ่าหยกหรือไม่กันแน่นะ

แต่สิ่งเหล่านี้ล้วนไม่สำคัญ เพียงแค่นางสนใจ ก็เป็นสิ่งที่เขาเย่จิ่งหานสนใจด้วย

กู้ชูหน่วนหัวเราะอย่างเย็นชาเงียบ ๆ

นางปาดน้ำตาตรงหางตา พยายามปริยิ้มอย่างสดใส แสร้งทำเป็นไม่แยแส ท่าทางสบายใจ

ใครจะรู้ นางที่เป็นเช่นนี้ เย่จิ่งหานยิ่งสงสารจับใจ

“ข้าไม่เป็นไร”

แม้ว่าจะมีความทุกข์มากแค่ไหน นางก็ไม่คู่ควรจะเป็นทุกข์

นางเป็นหัวหน้าเผ่าหยก ความหวังทุกอย่างของเผ่าหยกล้วนฝากฝังไว้บนตัวของนาง

นอกจากนางจะพยายามแล้ว ก็ทำได้แค่พยายามเท่านั้น

กู้ชูหน่วนไม่กล้าจินตนาการแล้วว่าอี้เฉินเฟยยังมีชีวิตอยู่อีกหรือไม่

เย่จิ่งหานลูบผมที่ดำดั่งหมึกและลื่นสลวยของนาง เสียงทุ้มต่ำแฝงไปด้วยแรงดึงดูด “เจ้าอยากร้องก็ร้องออกมาเถอะ ข้าอยู่เป็นเพื่อนเจ้า”

“ข้าจะออกไปรอบหนึ่ง”

“หมอบอกว่าอาการป่วยของเจ้ายังไม่หายดี ยังต้องพักผ่อนอีกสองสามวัน”

“พักผ่อน? ข้าสามารถพักผ่อนได้ แต่พวกเขามีเวลาให้พักผ่อนได้หรือ?”

“เวลาหนึ่งเดือนสั้นๆ เจ้าก็หามุกมังกรได้หลายเม็ดแล้ว ถือว่าเร็วมากแล้ว”

“ไม่พอ รวบรวมมุกมังกรไม่ครบเจ็ดเม็ด ทุกอย่างก็ยังห่างไกล”

“มุกมังกรเม็ดที่เจ็ด อยู่ในพระนคร”

ฝีเท้าที่จะจากไปของกู้ชูหน่วนหยุดชะงักทันที

“ท่านว่าอะไรนะ มุกมังกรเม็ดที่เจ็ดอยู่ในพระนครหรือ? ท่านรู้ว่าอยู่ที่ไหน?”

ความหวังอันรำไรผุดขึ้นในหัวใจของกู้ชูหน่วน พยับเมฆมืดครึ้มทั้งหมดก็ถูกกวาดออกไปเกลี้ยงทันที

“รู้ แต่เจ้าจะตัดใจไปเอาไม่ได้ และจะไม่ไปเอา”

“มุกมังกรอยู่ที่ไหน แม้ว่าจะขึ้นสวรรค์หรือลงนรก ข้าก็จะไปเอา”

“มุกมังกรเม็ดที่เจ็ด คือเลือดหัวใจของแม่ทัพใหญ่เซียว”

รอยยิ้มบนใบหน้าของกู้ชูหน่วนแข็งทื่อไปทันที

“ท่านพูดอะไร? นี่จะเป็นไปได้อย่างไร?”