SD:บทที่ 56 เพียงเรื่องล้อเล่น
ซู ฉิวไป่ กำลังใช้ทักษะการสังเกตพลังฉีเพื่อสังเกตเส้นเลือดและพลังฉี ในคนธรรมดาปกติมันควรที่จะทะลุถึงกันแต่สำหรับ กู่ เฉิงหยา นั้นไม่ใช่ นั่นคือเหตุผลที่ จางจงจิ่งได้กล่าวไว้ว่า เขาต้องการย้ายเส้นเลือดดำของเธอเข้าสู่ตำแหน่งที่เหมาะสมมันจะทำให้เธอสามารถฟื้นฟูได้
ในช่วงเวลานี้เข็มทองทุกอันได้เชื่อมต่อกับจุดที่มีปัญหาแล้ว ซู ฉิวไป่ เพียงต้องเชื่อมต่อเส้นเลือดเหล่านี้กับเข็มทอง
สายตาของเขาจ้องมองอย่างเข้มงวด เขาวางมือบนเข็มแรก….
…..
หมอข้างนอกไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในห้องพวกเขารู้เพียงว่าชายทั้งสองคนเข้าไปในห้องเป็นเวลานานแล้วและไม่มีเสียงใดๆในห้อง ทุกคนอดที่จะตั้งข้อสงสัยไม่ได้แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำสิ่งใดได้
เป็นไปไม่ได้!มันเป็นไปไม่ได้ ซู ฉิวไป่ คนโง่จะมีทักษะเช่นนี้ได้ยังไง!
หลายคนเริ่มรู้สึกกระวนกระวายใจ คนที่รู้สึกเป็นกังวลมากที่สุดคือ กู่ เทียน และ กู่ เชียนซาน สายตาของชายชราจับจ้องไปที่ประตูตลอดเวลาในขณะที่ กู่ เชียนซาน นั่งวิตกกังวลอยู่ข้างเขา
ภายในห้อง อาจารย์มู่หรงกำลังตกตะลึงเกินที่จะพูดอะไรออกมา!การเคลื่อนไหวของ ซู ฉิวไป่ ราวกับปาฏิหาริย์
เมื่อ ซู ฉิวไป่ มอบเข็มให้เขาครั้งแรกและขอให้เขาปักลงไปในจุดฝังเข็มเขารู้สึกสงสัยเพราะตำแหน่งเหล่านี้ในความเห็นของเขาไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเจ็บป่วยของ กู่ เฉิงหยา
อย่างไรก็ตามเมื่อเป็นคำเรียกร้องของ ซู ฉิวไป่ เขาจึงทำมัน และเมื่อเขาเห็น ซู ฉิวไป่ จับเข็มทองอันแรกเขารู้สึกสงสัยเป็นอย่างมากและต้องการที่จะหยุด ซู ฉิวไป่ จากการรักษานี้ เพราะท่าทางและพละกำลังของ ซู ฉิวไป่ ไม่เหมือนกับคนที่ศึกษามาด้านทางการแพทย์เลย
แต่ใครจะรู้หลังจากที่ ซู ฉิวไป่ ขยับเข็มแรกท่าทางของเขาก็เปลี่ยนไปราวกับว่าเขาสามารถมองเห็นเส้นเลือดที่อยู่ภายใต้ร่างกายของ กู่ เฉิงหยา ได้ เขาปรับเข็มทองอย่างต่อเนื่อง
แม้ว่าอาจารย์มู่หรงจะไม่เข้าใจในสิ่งที่ ซู ฉิวไป่ กำลังทำ แต่เห็นได้ว่าชายหนุ่มทุ่มเทและพยายามอย่างหนัก
พลังทั้งหมดของเขากำลังมุ่งเน้นไปที่เข็ม จิตใจของเขากระจ่างชัดไม่มีความคิดใดที่ทำให้เสียสมาธิ เขากำลังทำดีที่สุด…
ในขณะนั้นอาจารย์มู่หรงราวกับว่าเห็นตัวตนของตัวเองเมื่อตอนเยาว์วัย ในตอนนั้นเขามีเพียงความคิดที่จะช่วยเหลือชีวิตผู้คนเท่านั้น
บางทีคนเช่นนี้…สมควรเรียกว่าหมอ!
นั่นคือความคิดของอาจารย์มู่หรง ทันใดนั้นเขาก็เริ่มเชื่อว่า ซู ฉิวไป่ จะสามารถรักษา กู่ เฉิงหยา ได้จริงๆ
ปาฏิหาริย์…จะอยู่กับชายคนนี้!
ดังนั้นอาจารย์มู่หรงเชื่ออย่างสุดใจว่า ซู ฉิวไป่ กำลังพยายามทำอย่างดีที่สุด และเมื่อถึงช่วงสุดท้ายของการรักษาร่างของ ซู ฉิวไป่ เปียกโชกไปด้วยเหงื่อ บริเวณรอบดวงตาของเขาปกคลุมไปด้วยเหงื่อเล็กน้อยแต่เขาไม่มีเวลาที่จะเช็ดมันออก
เขาตั้งสมาธิแน่วแน่และจะไม่ทำผิดพลาดกับเข็มที่อยู่ในมือของเขาเด็ดขาดหากเขาไม่ระวังมันอาจเกิดความผิดพลาดได้ มันเหมือนกับของเขากำลังกอบกุมชีวิตของ กู่ เฉิงหยา
ไม่มีใครสามารถเข้าใจผลการฝังเข็มเป็นระยะเวลานานนั้นต้องใช้ความแข็งแกร่งของร่างกายและจิตใจ มันใช้เวลาถึง 4 ชั่วโมง ซู ฉิวไป่ เองไม่ได้สังเกตเห็นว่าเขาใช้เวลาอยู่ในห้องนี้ถึง 4 ชั่วโมงแล้ว เขาเพียงแต่มีสมาธิตั้งมั่นกับสิ่งที่เขาทำ เขาทนไม่ได้ที่จะเห็นหญิงสาวที่นอนอยู่บนเตียงนี้ต้องหลับไปตลอดกาล
อย่างไรก็ตามเขาพูดก่อนหน้านี้แล้วว่าเขาไม่ได้คาดหวังสิ่งตอบแทนใดๆในเวลาที่เขาช่วยเหลือผู้อื่น ที่เขาทำอย่างนั้นได้ก็เพราะว่า
การที่เขาสามารถช่วยใครบางคนได้แค่นั้นก็ถือว่าเพียงพอแล้ว!
ในที่สุดก็เหลือเข็มทองอันสุดท้าย เหงื่อไหลจากใบหน้าของ ซู ฉิวไป่ ลงมาที่ปลายคาง
“หนุ่มน้อย พักสักหน่อยไหม”
อาจารย์มู่หรงไม่สามารถที่จะอดทนได้อีกต่อไปดังนั้นเขาจึงอดพูดไม่ได้ ซู ฉิวไป่ หัวเราะเบาๆและส่ายหัวจากนั้นเขาหายใจลึกๆและเหยียดมือไปที่เข็มสุดท้าย
…….
ท้องฟ้าด้านนอกมืดแล้ว แต่ในห้องโถงยังคงสว่างไสวทุกคนกำลังเฝ้ารอ…ปาฏิหาริย์!
กู่ เทียน นั่งถัดจากประตูในขณะนี้เขาดูเหมือนชายชราที่ไร้พลัง ใครก็ตามที่บอกเขาในเวลานี้เขาเหมือนกับชายชราธรรมดาที่ต้องการเห็นหน้าหลานสาวของตัวเองอีกครั้ง
กู่ เชียนซาน ดังถัดจากเขา พวกเขารู้สึกกลัวเกินกว่าที่จะทำใจสงบรอได้ พวกเขากลัวว่าหลังจากที่ประตูถูกเปิดอีกครั้งพวกเขาจะได้ยินคำตอบที่ผิดหวังหรือพวกเขาอาจจะไม่ได้มีโอกาสเห็นหญิงสาวที่น่ารักของพวกเขาอีกต่อไป
เธอใช้ชีวิตที่ร่าเริงและยิ้มแย้มตลอดเวลา พ่อและลูกชายยังคงทำใจไม่ได้ถ้าโลกนี้ไม่มีหญิงสาวคนนั้น พรุ่งนี้จะมีแสงสว่างที่ส่องมาในจิตใจของพวกเขาหรือไม่?
ในขณะนั้นเองประตูก็เปิดออก
จากนั้น ซู ฉิวไป่ เดินออกมา กู่ เชียนซาน และ กู่ เทียน พุ่งเข้ามาหา ซู ฉิวไป่ ทันทีและเห็นได้ชัดว่า ซู ฉิวไป่ นั้นเหน็ดเหนื่อยเป็นอย่างมากเขาจึงไม่กล้าที่จะถามเกี่ยวกับสภาพของ กู่ เฉิงหยา
“ เธอปลอดภัยแล้ว…”
หลังจากที่ ซู ฉิวไป่ พูดเสร็จเขาล้มลงทันที ไม่มีใครรู้ว่าการต่อสู้ของตระกูลกู่กับโรคของหลานสาวที่เป็นมาเนิ่นนานจะจบลงในคืนนี้ โดยเฉพาะเมื่อ กู่ เทียน และลูกชายของเขาเห็น กู่ เฉิงหยา ลืมตาขึ้น ใบหน้าของเธอเป็นสีชมพูเล็กน้อยดวงตาของเธอสดใส ชายชราอายุ 70 ปีตะโกนก้องราวกับเด็ก
อย่างไรก็ตาม ซู ฉิวไป่ ได้สลบไปแล้วและไม่รับรู้อะไร
…..
เช้าวันรุ่งขึ้น คนขับรถแท็กซี่ลืมตาขึ้นและเห็น กู่ เฉิงหยา นั่งอยู่ขอบเตียง
เธอสวมชุดสีขาวดูงดงามราวกับนางฟ้า เมื่อเธอเห็น ซู ฉิวไป่ ตื่นขึ้นเธอยิ้มและพูดว่า
“ขอบคุณ..”
ซู ฉิวไป่ ตื่นขึ้นมาและหัวเราะ
“ยินดีครับ ..คุณสวยมาก”
ประโยคนี้มาจากส่วนลึกในจิตใจของ ซู ฉิวไป่ กู่ เฉิงหยา นั้นดูงดงามมากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะเมื่อเธอฟื้นมาจากความตาย
“คุณเคยมีความรักไหม?”
กู่ เฉิงหยา ถามขึ้นอย่างอยากรู้อยากเห็น
ซู ฉิวไป่ ตกตะลึงสักครู่เขาไม่รู้ว่าทำไมหญิงสาวจึงถามถึงเรื่องนี้
“ฉันเคยคิดเกี่ยวกับสิ่งที่เรียกว่าตกหลุมรัก แต่ฉันไม่มีเวลามากพอที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับความรัก..ตอนนี้ฉันอยากจะสัมผัสมันสักครั้ง”
กู่ เฉิงหยา ไม่สนใจความเงียบของ ซู ฉิวไป่ อีกต่อไปเธอพูดออกมา ซู ฉิวไป่ กลายเป็นวิตกกังวลทันทีเขารู้สึกถึงบางอย่างเขากลัวในสิ่งที่เขากำลังคิดในตอนนี้
หลังจากฟังคำพูดของ กู่ เฉิงหยา เขารีบโบกมืออย่างเร็วแล้วพูดว่า
“เอ่อ..คุณไม่ต้องตอบแทนผมด้วยร่างกายหรอกนะ ผมแค่ช่วยคุณ..ไม่จำเป็นต้องทำอย่างนั้น..เอ่อ..”
เขาพูดติดอ่างในขณะที่ กู่ เฉิงหยา หัวเราะ
“เมื่อไหร่กันที่ฉันบอกคุณว่าฉันจะตอบแทนคุณด้วยร่างกาย?คุณคิดมากเกินไปแล้ว..คุณคิดว่าฉันน่าเกลียดไหม”
ซู ฉิวไป่ เกือบกระโดดขึ้นนั่งเมื่อได้ยินสิ่งนี้
“เอ่อ ไม่ ผมไม่ได้หมายความว่าอย่างนั้น คุณสวยมาก..สิ่งที่ผมหมายถึงก็คือ คุณไม่ต้องขอบคุณผมมันไม่เป็นอะไรจริงๆ!”
สุดท้ายแล้วเขากำลังรู้สึกว่าเขากำลังพูดวกไปวนมา ยังไงก็ตาม กู่ เฉิงหยา รู้สึกว่าการแกล้งชายคนนี้ทำให้เธอมีความสุขและอารมณ์ดีมากขึ้นอาจเป็นเพราะความเจ็บป่วยของเธอได้หายไปแล้ว
ซู ฉิวไป่ เองก็หัวเราะไปกับเธอเช่นกัน
ซู ฉิวไป่ ออกจากตระกูลกู่เมื่อเกือบถึงเวลาเที่ยง เนื่องจากพวกเขารู้สึกขอบคุณจริงๆ ซู ฉิวไป่ จึงไม่สามารถปฏิเสธได้ในขณะที่เขากำลังจะจากไปอาจารย์มู่หรงก็ให้เบอร์โทรศัพท์แก่เขาและบอกให้ ซู ฉิวไป่ โทรหาเขาหากว่า ซู ฉิวไป่ ไปที่ เป่ยตู แน่นอนว่า ซู ฉิวไป่ ไม่ได้ปฏิเสธข้อเสนอนี้ และเขายังให้หมอทุกคนที่เหลือทำสัญญาการติดหนี้บุญคุณ หมอคนอื่นๆไม่มีใครคัดค้านเนื่องจากความจริงที่ ซู ฉิวไป่ สามารถรักษา กู่ เฉิงหยา ได้ดังนั้นชายหนุ่มย่อมมีทักษะที่น่าเหลือเชื่อดังนั้นพวกเขาจึงยอมรับการพ่ายแพ้ของพวกเขา
หลังจากที่รวบรวมใบสัญญาทั้งหมดเขาก็ออกจากตระกูลกู่ กู่ เฉิงหยา มองดูรถของชายหนุ่มวิ่งรับไปจากประตูบ้านของเธอ
บางทีมีเธอเท่านั้นที่เข้าใจว่าคำพูดในตอนเช้าบางคำพูดที่เธอพูดออกมานั้นไม่ใช่เรื่องล้อเล่นทั้งหมด
ซู เซี่ยวเซี่ยว ที่อยู่โรงพยาบาลเธอยังคงปกติดีเธอมีคนคอยดูแลอยู่ตลอดดังนั้น ซู ฉิวไป่ จึงรู้สึกโล่งใจ ระหว่างทางเขาได้ผ่านไปที่สนามแข่ง เขาอดไม่ได้ที่จะหยุดดู อย่างไรก็ตามมีผู้หญิงขายาวสวมหมวกและแว่นตาดำเดินมาเปิดประตูรถทันที
ก่อนที่ ซู ฉิวไป่ จะเข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้นเธอที่นั่งถัดอยู่จากเขาก็หันไปมองหน้าต่างอย่างหงุดหงิดและพยายามก้มตัวลง หัวของเธอแทบจะแตะกับต้นขาของ ซู ฉิวไป่
“ออกรถเร็ว!”
—————————————————–