ราชันเร้นลับ 594 : ภารกิจจากเดอะเวิร์ล

Lord of the Mysteries ราชันย์เร้นลับ

ราชันเร้นลับ 594 : ภารกิจจากเดอะเวิร์ล โดย Ink Stone_Fantasy

โชคยังดีว่า ใบหน้าของเดอะเวิร์ลมิอาจแดงก่ำได้เหมือนกับในชีวิตจริง ตราบใดที่ไคลน์ไม่ไปควบคุม เดอะเวิร์ลจะเป็นเพียงหุ่นเชิดปราศจากอารมณ์ความรู้สึก

ชายหนุ่มเผยรอยยิ้ม

“ขอเวลาอีกสองสามวัน”

จัสติส·ออเดรย์พยักหน้ารับอย่างสงวนกิริยา หญิงสาวไม่ออกอาการร้อนรน เพราะซูซี่ยังมิได้ส่งสัญญาณว่าต้องการเลื่อนลำดับในเร็ววัน

แน่นอนอยู่แล้ว ซูซี่เป็นแค่หมา

ทางด้านแฮงแมนและเดอะมูน พวกมันเพิ่งเลื่อนลำดับมาหมาด ๆ ยังอยู่ในช่วงทำความรู้จักและควบคุมพลังวิญญาณ อีกทั้งยังต้องฝึกฝนพลังชนิดใหม่ให้ชำนาญ จึงไม่มีความต้องการจะซื้อสูตรโอสถหรือตะกอนพลังในลำดับถัดไป ทำเพียงรอคอยอย่างใจเย็น จนกว่าช่วงเวลาค้าขายของชุมนุมจะจบลง

อีกหนึ่งสาเหตุสำคัญก็คือ พวกมันเหลือเงินติดตัวไม่มาก แม้แฮงแมน·อัลเจอร์จะทำกำไรจากการขายมรดกของบารอนผีดูดเลือดได้อย่างมหาศาล แบ่งเป็นค่าส่วนต่างเดิมหนึ่งพันหนึ่งร้อยปอนด์ และกำไรเพิ่มเติมที่ช่วยเดอะมูนต่อรองราคาอีกสามร้อยปอนด์ รวมเป็นกำไรสุทธิหนึ่งพันสี่ร้อยปอนด์ แต่ถึงอย่างนั้น เงินเก็บเกือบทั้งหมดของก็มันหมดไปกับการซื้อแหวน ‘แส้จิต’ เมื่อหลายวันก่อน เมื่อรวมกับกำไรที่ได้จากเอ็มลิน แฮงแมนจึงมีเงินสดพร้อมใช้เพียง 1,445 ปอนด์

ทางด้านเดอะมูน นอกจากจะควักเงินซื้อมรดกบารอนไปในราคาสี่พันสามร้อยปอนด์ มันยังซื้อตุ๊กตาตัวใหม่ เสื้อผ้าตุ๊กตา ส่งผลให้เหลือเงินเก็บเพียงสองพันสามร้อยปอนด์ อาจฟังดูเหมือนร่ำรวย แต่มรดกของไวเคาต์ผีดูดเลือดนั้นมีราคาไม่ต่ำกว่าแปดพันปอนด์ ไม่มีทางซื้อได้ในเร็ววันแน่

ในส่วนของเดอะซัน·เดอร์ริค คะแนนผลงานทั้งหมดถูกใช้ไปจนเกลี้ยง ต้องรอให้เสร็จภารกิจลาดตระเวนครั้งถัดไป จึงพอจะมีสิ่งของสำหรับแลกเปลี่ยนกับคนอื่น

สำหรับเมจิกเชี่ยน·ฟอร์ส และจัสติส·ออเดรย์ สองสาวไม่สนใจการซื้อสูตรผลิตโอสถเท่าไรนัก พวกเธอต่างมีช่องทางของตัวเอง แถมยังไม่ใช่ความลับที่ต้องปิดบัง จึงไม่ต้องทำเรื่องสิ้นเปลืองอย่างการซื้อสูตรผลิตโอสถกลบเกลื่อนบังหน้า

ในระยะหลัง ออเดรย์ลดการใช้เงินในชุมนุมทาโรต์ลงมาก เธออาจไม่ใช่คนงก แต่ก็ไม่ใช่คนโง่

เฮอร์มิท·แคทลียายังคงทำตัวเป็นผู้ชมเสียส่วนเป็นส่วนใหญ่ ไม่ยอมเปิดเผยความต้องการของตนให้ใครทราบ

เหตุผลไม่ซับซ้อน หากไม่นับเดอะฟูล เธอไม่เชื่อว่าสมาชิกชุมนุมทาโรต์จะสนองเป้าหมายของเธอได้ การคิดแบบนี้ไม่ใช่เรื่องผิด ในฐานะพลเรือโจรสลัดที่อยู่ในลำดับ 5 มานานหลายปี เป้าหมายของเธอคือครึ่งเทพ ดังนั้น ผู้วิเศษลำดับ 7 หรือ 6 จึงไม่น่าจะมีปัญญาช่วยเหลือ

แคทลียาจ้องไปทางเดอะซันและคนอื่น ๆ ด้วยดวงตาสีม่วงสว่างอย่างเงียบงัน รอคอยให้หัวข้อสนทนาในปัจจุบันจบลง

ไคลน์ครุ่นคิดสักพัก บังคับเดอะเวิร์ลกล่าวพลางมองหน้าทุกคน

“มีใครต้องการขายสมบัติวิเศษที่มุ่งเน้นด้านการโจมตีบ้างไหม?”

แน่นอน เป้าหมายของคำถามคือเฮอร์มิท หากเป็นสมบัติวิเศษในระดับที่สนองความต้องการของไคลน์ได้ ก็ต้องมาจากพลเรือโจรสลัดผู้คร่ำหวอดในทะเลมานานหลายปีเท่านั้น แม้แต่แฮงแมนกับช่างฝีมือก็ยังไม่เข้าตาไคลน์ นอกเสียจากว่า ตนจะหาตะกอนพลังลำดับ 6 หรือ 5 ไปให้อีกฝ่ายช่วยผลิต

เฮอร์มิท·แคทลียาเงียบงันสองวินาที ส่ายหน้าแผ่วเบาและเชื่องช้า มอบคำตอบเสียงไพเราะ

“หากดิฉันพบสิ่งที่ตรงตามคุณสมบัติของคุณในชุมนุมลับอื่น จะช่วยสอบถามข้อมูลให้”

ตลอดปลายปีที่ผ่านมา เธอสังหารผู้วิเศษไปเป็นจำนวนมาก ปริมาณสมบัติวิเศษที่ผ่านมือจึงมีไม่น้อย แต่ส่วนใหญ่จะถูกแจกจ่ายให้โจรสลัดลูกเรือในรูปแบบของรางวัล ในจำนวนดังกล่าว แคทลียาเลือกเก็บไว้เองสองชิ้น เนื่องจากพวกมันช่วยยกระดับพลังพิเศษและอัตราการรอดชีวิตของเธออย่างมาก ปัจจุบันจึงไม่เหลือสมบัติวิเศษสำหรับขายให้คนนอก

ส่วนสองชิ้นที่เธอใช้เอง หากไม่เลื่อนลำดับเป็นครึ่งเทพ ก็จะไม่มีวันขายให้ใครเด็ดขาด

ดูเหมือนว่า แม้แต่พลเรือเอกดวงดาวก็มิได้มั่งคั่งจนเหลือกินเหลือใช้สินะ… พอจะเข้าใจได้ ยิ่งเป็นกลุ่มโจรสลัดใหญ่ ค่าใช้จ่ายก็ยิ่งสูง…

ไคลน์ถอนหายใจยาว บังคับเดอะเวิร์ลพูดขอบคุณด้วยเสียงแหบ

ขณะช่วงเวลาค้าขายใกล้ถึงจบลง ชายหนุ่มควบคุมเดอะเวิร์ลมองไปทางเมจิกเชี่ยน·ฟอร์ส

“ผมมีงานให้คุณ”

“ฉัน?” ฟอร์สค่อนข้างประหลาดใจ

คงเป็นงานจิปาถะเหมือนกับการหาซื้อเครื่องรับโทรเลขไร้สายกระมัง… หญิงสาวครุ่นคิดกับตัวเองพลางขยับมุมปาก

เดอะเวิร์ลพยักหน้า

“ช่วยเดินไปรอบ ๆ ถนนวิลเลียมส์ที่ตั้งอยู่ระหว่างเขตตะวันตกและเขตราชินี คอยจับตามองความผิดปรกติเอาไว้ หากพบเมื่อใด รีบแจ้งให้ผมทราบทันที”

มันไม่เสียเวลาอธิบายว่าต้องแจ้งข่าวผ่านการวิงวอนถึงเดอะฟูล เพราะทุกคนในชุมนุมทาโรต์คุ้นเคยกับระบบนี้เป็นอย่างดีแล้ว

“ความผิดปรกติ… ผิดปรกติในลักษณะใด?” ฟอร์สซักถามอย่างรอบคอบด้วยสีหน้าฉงน

ถนนวิลเลียมส์ในกรุงเบ็คลันด์จะมีความผิดปรกติเกิดขึ้น…?

เดิมที จัสติส·ออเดรย์ไม่สนใจงานของเดอะเวิร์ลสักเท่าไร แต่เมื่อตระหนักว่าเกี่ยวข้องกับเมืองที่เธออาศัย ความกังวลจึงตามมา

สาเหตุเพราะ หญิงสาวไม่กล้าเคลือบแคลงความน่าเชื่อถือของแหล่งข่าวจากเดอะเวิร์ล โศกนาฏกรรมหมอกพิษในกรุงเบ็คลันด์คือเครื่องพิสูจน์ได้เป็นอย่างดี!

เขตตะวันตก… เขตราชินี… ฟังดูเหมือนย่านหนึ่งในเบ็คลันด์ เมืองหลวงของโลเอ็น…

มิสเมจิกเชี่ยนอาศัยอยู่ในกรุงโลเอ็น?

นึกแล้วเชียว ถึงภายนอกจะดูธรรมดา แต่ก็มีประโยชน์ในด้านการหาข่าว… สำหรับองค์กรลับทั่วไป สมาชิกที่อยู่ในเมืองหลวงจะมีประโยชน์กว่าสมาชิกตามชนบทหลายเท่า… แต่เธออาจเป็นเหมือนกับเรา บังเอิญถูกดึงเข้าร่วมชุมนุมเพราะมิสเตอร์ฟูลช่วยรักษาชีวิตเอาไว้ เป็นการพานพบทางโชคชะตา…

เฮอร์มิท·แคทลียาชำเลืองฟอร์สด้วยหางตา สมองกำลังวิเคราะห์รายละเอียดจากเนื้อหาของบทสนทนา

แฮงแมน·อัลเจอร์เริ่มตื่นเต้น เพราะมันทราบว่าเดอะเวิร์ลคือข้ารับใช้ของมิสเตอร์ฟูล การที่อีกฝ่ายใส่ใจเป็นพิเศษ หมายความว่าย่านดังกล่าวกำลังจะเกิดเหตุการณ์ใหญ่!

ถนนที่ชื่อวิลเลียมส์ซ่อนความลับใดไว้?

อัลเจอร์ทำได้เพียงควบคุมตัวเองมิให้ตื่นเต้นเกินสมควร ภายในใจไตร่ตรองอย่างเงียบงัน

ผิดปรกติในลักษณะใด? ใครจะไปรู้กันเล่า!

ไคลน์รำพันตัดพ้อ บังคับเดอะเวิร์ลมอบคำตอบด้วยเสียงมืดมน

“รายงานทุกสิ่งที่คุณคิดว่าไม่ปรกติ แต่ขอเตือนไว้ก่อนว่า หากพบสิ่งไม่ปรกติแม้แต่เพียงเล็กน้อย ห้ามขุดคุ้ยด้วยตัวเองเด็ดขาด ให้คนอื่นทำก็ไม่ได้เช่นกัน เรื่องนี้อันตรายเกินไป คุณต้องการค่าจ้างเท่าไร”

งานอันตราย… ฟอร์สเริ่มลังเลว่าตนควรปฏิเสธดีหรือไม่

แต่เมื่อประเมินว่า โศกนาฏกรรมหมอกพิษเมื่อเดือนก่อนส่งผลกระทบเป็นวงกว้างจนเกือบทำให้เธอเดือดร้อนไปด้วย ความผิดปรกติบนถนนวิลเลียมส์อาจไม่รุนแรงเท่าเก่า แต่ก็ไม่มีสิ่งใดรับประกันว่าเธอจะไม่โดนผลกระทบ

ภายในใจหญิงสาวเริ่มเกิดความขัดแย้ง

ไม่กี่อึดใจถัดมา ฟอร์สเปลี่ยนอากัปกิริยาพร้อมกับมอบคำตอบ

“หนึ่งร้อยปอนด์”

“ถูกกว่าที่ผมคิดไว้” เดอะเวิร์ลเผยรอยยิ้ม

เมจิกเชี่ยน·ฟอร์สผายมือสองข้าง

“ส่วนหนึ่ง ฉันทำไปเพื่อตัวเอง”

ก็แค่ภารกิจจับตามองผู้คน… ถือเป็นวัตถุดิบชั้นดีสำหรับนิยายเรื่องถัดไป…

แล้วอีกอย่าง เราไม่ควรหมกตัวอยู่แต่ในบ้านทั้งวัน ถึงเวลาออกไปยืดเส้นยืดสายบ้าง…

ไม่ใช่แค่นั้น เราควรหาโอกาสสวมบทบาทเป็นนักตุกติก ลำพังการเล่นกลให้ซิลดู คงไม่เพียงพอที่จะย่อยโอสถได้อย่างมีประสิทธิภาพ… แล้วเราต้องสวมบทบาทอย่างไร? ไปขอทำงานกับคณะละครสัตว์เพื่อแสดงมายากล? หรือควรแสดงกลเปิดหมวกกลางจัตุรัส? เราไม่เคยกังวลภาพลักษณ์ของตัวเอง ในฐานะนักเขียนนิยาย ทุกรสชาติของชีวิตคือประสบการณ์อันล้ำค่า…

ความคิดฟอร์สเริ่มกระเจิดกระเจิง

เมื่อตกลงกับอีกฝ่ายสำเร็จ ไคลน์บังคับเดอะเวิร์ลมองไปทางแฮงแมน เผยรอยยิ้มมืดมน

“ผมได้รับข้อมูลมาว่า หลังจากโบสถ์วายุสลาตันออกปฏิบัติการครั้งใหญ่ ปัญหาของท่าเรือแบนชีได้ถูกสะสางเป็นที่เรียบร้อย”

ตลอดหนึ่งสัปดาห์ที่ผ่านมา อัลเจอร์เอาแต่ล่องทะเลจนขาดการติดต่อกับโบสถ์โดยสิ้นเชิง

มันถามกลับด้วยเสียงลุ่มลึก

“ผลลัพธ์เป็นอย่างไร”

“คงไม่มีท่าเรือแบนชีไปอีกพักใหญ่”

เดอะเวิร์ลเผยรอยยิ้มแฝงเลศนัย

ได้ยินคำตอบดังกล่าว จัสติส·ออเดรย์และคนที่เหลือเริ่มจับประเด็นการสนทนาได้

ทั้งสองกำลังพูดถึงเมืองท่าแบนชี หรือที่เคยมีชื่อโบราณว่าหมู่บ้านบินซี่!

มิสเตอร์ฟูลเล่าว่า สถานที่ดังกล่าวมีความเกี่ยวพันกับลูกหลานตระกูลเมดีซี หนึ่งในราชาเทวทูต!

ตีความจากคำพูดของมิสเตอร์เวิร์ล โบสถ์วายุสลาตันลงมือถล่มเกาะแบนชีจนราบเป็นหน้ากลอง?

วิธีการสมกับเป็นโบสถ์วายุ… ไม่เลว อย่างน้อยก็ไม่ต้องกังวลว่าชาวเมืองบริสุทธิ์จะปนเปื้อนความชั่วร้าย… ชักอยากรู้แล้วว่า ราชาเทวทูตปรากฏตัวออกมาหรือไม่ หนีรอดไหม สันตะปาปาออกโรงด้วยตัวเองรึเปล่า และโบสถ์ใช้สมบัติปิดผนึกระดับ 0 ชิ้นใดในปฏิบัติการ…

จัสติส·ออเดรย์หายใจทั่วท้อง ดวงตาเผยความระยิบระยับขณะหันมาถาม

“มิสเตอร์เวิร์ล คุณทราบรายละเอียดของปฏิบัติการไหมคะ”

“ไม่… คงไม่มีใครทราบรายละเอียดนอกจากบุคคลระดับอาวุโสใหญ่ของโบสถ์ขึ้นไป” เดอะเวิร์ลหรี่ตาลง ชำเลืองไปทางแฮงแมน

แฮงแมนเงียบงัน ภายในใจเกิดความทะเยอทะยานที่จะพัฒนาตัวเอง

เราต้องเป็นสมาชิกระดับสูงของโบสถ์ให้ได้!

มันสาบานกับตัวเอง

เดอะเฮอร์มิท·แคทลียา ผู้เพิ่งเข้าร่วมชุมนุมทาโรต์เป็นครั้งที่สอง ย่อมไม่เข้าใจว่าคนเหล่านี้กำลังพูดถึงเรื่องใด

ในฐานะพลเรือโจรสลัด เธอย่อมรู้จักเมืองท่าแบนชีแห่งทะเลโซเนีย เพียงแต่ไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น ทำไมโบสถ์วายุสลาตันถึงต้องลงมือทำลายทิ้งทั้งเกาะ เพราะการฟื้นฟูใหม่จะสิ้นเปลืองเวลาและทรัพยากรอย่างมาก

ฟังจากรายละเอียด คงเป็นเหตุการณ์ใหญ่ที่เกี่ยวพันกับตัวตนระดับสูง… สมาชิกชุมนุมทาโรต์เหล่านี้ ถึงแม้จะมีลำดับพลังไม่มาก แต่ข้อมูลในมือกลับหลากหลายและเชิงลึกจนน่าทึ่ง แถมยังเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์สำคัญไม่น้อย…

ยกเว้นเดอะซันไว้หนึ่งคน…

นี่คือเหตุผลที่มิสเตอร์ฟูลเลือกเฟ้นคนเหล่านี้มาก่อตั้งเป็นชุมนุม? ท่านกำลังวางแผนสร้างอิทธิพลต่อโลกความเป็นจริง ผ่านอำนาจขององค์กรลับที่มีสมาชิกชุมนุมทาโรต์แฝงตัวสังกัด?

เป็นอีกครั้งที่เดอะเฮอร์มิท·แคทลียา มองชุมนุมทาโรต์ในแง่มุมใหม่ พร้อมกับประเมินสมาชิกเหล่านี้สูงขึ้นเรื่อย ๆ

เมื่อเห็นพลเรือเอกดวงดาวเอาแต่นั่งสงบเสงี่ยม ไม่เอ่ยปากซักถามสิ่งใด ออเดรย์รู้สึกผิดหวังรุนแรง เพราะเธอรอที่จะโอ้อวดข้อมูลของราชาเทวทูตให้อีกฝ่ายฟังด้วยใจจดจ่อ

ถึงจะเป็นมาดามเฮอร์มิท แต่ก็คงไม่เคยพบราชาเทวทูตตัวเป็น ๆ แน่… ไม่สิ อาจไม่ทราบด้วยซ้ำว่าโลกนี้มีราชาเทวทูตอยู่… ออเดรย์ครุ่นคิดอย่างนึกเสียดาย

เมื่อช่วงเวลาค้าขายจบลง เดอะมูน·เอ็มลินที่รอคอยมานาน รีบส่งเสียงกระแอมล้างคอ

“ต้องขอบคุณความช่วยเหลือจากมิสเตอร์แฮงแมน ข้าจึงกลายเป็นบารอนอย่างราบรื่น แต่ข้ามีคำถาม ในฐานะบารอนผีดูดเลือด ข้าจำเป็นต้องใช้เทคนิคสวมบทบาทเหมือนกับมนุษย์หรือไม่ หากไม่ต้อง พลังพิเศษจะกลมกลืนเป็นหนึ่งเดียวกับร่างกายไหม?” เอ็มลินซักถามในท่าหลังเหยียดตรง คอเกร็ง คางเชิด

สหาย ขอแสดงความเสียใจล่วงหน้า แม้แต่มิสเตอร์ฟูลผู้ยิ่งใหญ่ก็ตอบคำถามนี้ไม่ได้…

แต่ในเชิงทฤษฎี นายควรสวมบทบาท เพราะตะกอนพลังที่กินเข้าไปเป็นของคนอื่น…

ไคลน์เอนหลังพิงพนัก รายล้อมไปด้วยม่านหมอกหนาทึบ กวาดสายตาสำรวจสมาชิกชุมนุมทาโรต์อย่างผ่อนคลาย

เฮอร์มิท·แคทลียามองรอบตัวหนึ่งหน

“บารอนผีดูดเลือด… หมายถึงโอสถลำดับ 6 ศาสตราจารย์โอสถ?”

“ถูกต้อง” เอ็มลินฉีกยิ้มกว้าง

มันไม่ใช่คนโง่ หากไม่นับเดอะเวิร์ลที่ไม่เคยประกาศซื้อสูตรโอสถในชุมนุม เอ็มลินสามารถคาดเดาลำดับของสมาชิกชุมนุมทาโรต์ทุกคนได้จากข้อมูลการซื้อขายในสัปดาห์ก่อน ๆ มันจึงเชื่อว่าตนมีลำดับสูงกว่าใครทั้งหมด ถ้าไม่รวมเดอะฟูลและมาดามเฮอร์มิทที่เพิ่งเข้าร่วม

มิสเตอร์มูนลำดับ 6 แล้ว? แต่ทำไมถึงทำตัวเด็กน้อยยิ่งกว่าเดอะซันเสียอีก…

ออเดรย์เม้มปากอย่างสงวนกิริยา

เฮอร์มิท·แคทลียากล่าวต่อ

“คุณจำเป็นต้องสวมบทบาท สาเหตุที่ไม่ต้องทำในลำดับก่อนหน้า เพราะพวกคุณเกิดมาพร้อมกับพลังลำดับ 7 ‘แวมไพร์’ อยู่แล้ว ขอเพียงเป็นตัวของตัวเอง ก็ถือว่าได้ใช้เทคนิคสวมบทบาทโดยไม่รู้ตัว”

“มาดามเฮอร์มิท คุณพอจะทราบไหมคะ ว่าลำดับ 7 แวมไพร์ มีชื่อเส้นทางว่าอะไร”

จัสติส·ออเดรย์ซักถามพลางกะพริบตาถี่ ชิงตัดหน้าเอ็มลินที่กำลังพะงาบปากเตรียมกล่าวบางสิ่ง

……………………