ตอนที่ 2004 หมีวิญญาณ (1

Genius Doctor Black Belly Miss

ตอนที่ 2004 หมีวิญญาณ (1)
  “อาจารย์อาน่าหลานไม่ใช่หรือนั่น? ทำไม ช่วงนี้อารมณ์ดีเลยไม่อยู่แต่ในป่าโยวเมิ่งแล้ว ขยันวิ่งออกมาข้างนอกจังนะ” เมิ่งอีเหลียงเยาะเย้ย
  น่าหลานเยว่ขมวดคิ้ว ไม่อยากสนใจการแดกดันของเมิ่งอีเหลียง
  เมิ่งอีเหลียงเห็นน่าหลานเยว่ไม่ตอบโต้ ก็ยิ้มอย่างได้ใจ เขาเดินเข้าไปข้างๆจวินอู๋เสียแล้วพูดว่า “อู๋เสีย ข้าไม่เห็นเจ้าไปที่หอคอยโยวหลิงเลย ไม่สบายรึเปล่า? หอคอยโยวหลิงเป็นสถานที่ฝึกที่เหมาะที่สุดสำหรับวิญญาณมนุษย์ ดีกว่าฝึกกับคนดื้อรั้นหัวแข็งบางคนเยอะ”
  นี่เป็นครั้งแรกที่พวกเฉียวฉู่ได้เจอกับเมิ่งอีเหลียง ทุกคนต่างมองเจ้าคนที่ทำตัวสนิทสนมคุ้นเคยจนเกินไปด้วยความประหลาดใจ
  [อู๋เสีย?]
  [เรียกนางซะสนิทสนมขนาดนี้เชียว? ไอ้หมอนี่โผล่มาจากหินก้อนไหนเนี่ยถึงกล้าเรียกจวินอู๋เสียอย่างนั้น ไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้วใช่ไหม?]
  จวินอู๋เสียตวัดสายตามองเมิ่งอีเหลียง แต่ไม่ตอบเขา
  แต่เมิ่งอีเหลียงไม่ยอมแพ้
  “วันนี้ข้าพาศิษย์พี่ใหญ่ข้าออกมาเดินเล่น อู๋เสีย ถ้ามีอะไรที่เจ้าไม่เข้าใจเกี่ยวกับการฝึก เจ้าถามศิษย์พี่ใหญ่ข้าได้ พลังวิญญาณของศิษย์พี่ใหญ่ข้าตอนนี้เป็นรองแค่อาจารย์ข้าเท่านั้น แข็งแกร่งกว่าใครบางคนมาก”novel-lucky
  “ไม่จำเป็น” จวินอู๋เสียพูดพร้อมเลิกคิ้วขึ้นข้างหนึ่ง รู้สึกหงุดหงิดเล็กน้อย
  น่าหลานเยว่สูดหายใจเข้าลึก พยายามเต็มที่ที่จะไม่สนคำเหน็บแนมของเมิ่งอีเหลียง
  ปฏิกิริยาของจวินอู๋เสียเย็นชาราวน้ำแข็ง ไม่เหลือช่องให้พูดคุยต่อได้เลย มันทำให้เมิ่งอีเหลียงเสียหน้า ขณะเดียวกันพวกเฉียวฉู่ที่นั่งอยู่ตรงนั้นก็พากันกลั้นหัวเราะ
  โชคดีสำหรับเขาว่านี่คือโลกวิญญาณ ถ้าเป็นในอาณาจักรกลางหรืออาณาจักรล่าง ไอ้คนทรามอย่างเมิ่งอีเหลียงคงโดนจวินอู๋เสียฟาดตายด้วยฝ่ามือเดียวไปแล้ว
  เมิ่งอีเหลียงอยากพูดอะไรมากกว่านี้ แต่ทันใดนั้นก็เกิดเสียงเอะอะโกลาหลขึ้นที่ชั้นล่าง ชายคนหนึ่งที่สวมชุดแบบเดียวกับเมิ่งอีเหลียงวิ่งขึ้นมาและพูดอย่างตื่นเต้นว่า “ศิษย์พี่ใหญ่ ศิษย์พี่เมิ่ง เราเจอหมีวิญญาณแล้ว!”
  เจียงอวิ๋นหลงที่นั่งเงียบอยู่ลุกพรวดขึ้นจากเก้าอี้ทันที และวิ่งเข้าไปหาชายคนนั้น
  “หมีวิญญาณอยู่ที่ไหน?”
  “ที่มุมถนนสองชั้นล่าง เราเจอมันเมื่อกี้ มันพยายามจะหนี แต่เราล้อมมันเอาไว้แล้ว เจ้าสัตว์นั่นดูเหมือนจะได้พลังคืนมานิดหน่อย ตอนนี้มันดุร้ายมาก พวกเรากลัวว่าจะรั้งมันไม่ได้นาน ข้าเลยมาหาศิษย์พี่ใหญ่”
  เจียงอวิ๋นหลงรีบวิ่งลงไปข้างล่างทันทีโดยไม่รั้งรอให้ชักช้าแม้แต่วินาทีเดียว
  เมิ่งอีเหลียงยืนตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง และตัดสินใจว่าไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าเรื่องนั้น ก่อนจะวิ่งตามลงไป
  “หมีวิญญาณ?” เมื่อได้ยินคำพูดของชายคนนั้น เฉียวฉู่ก็อดสงสัยไม่ได้
  น่าหลานเยว่และจวินอู๋เสียเลิกคิ้วครุ่นคิด วิญญาณสัตว์อสูรหลายตัวที่นั่งอยู่บนชั้นสองก็ลุกขึ้นทันที และไล่ตามเจียงอวิ๋นหลงกับพวกวิญญาณมนุษย์คนอื่นไป
  “เกิดอะไรขึ้น? หมีวิญญาณคืออะไร?” เฟยเหยียนมองน่าหลานเยว่อย่างสงสัย
  น่าหลานเยว่ขมวดคิ้วและพูดว่า “หมีวิญญาณก็คล้ายๆกับวิญญาจารย์ของวิญญาณมนุษย์ ทั้งสองมีพรสวรรค์ทางวิญญาณสูงมาก ถือได้ว่าเป็นผู้นำของเผ่าพันธุ์วิญญาณ”
  “แข็งแกร่งขนาดนั้นเลย?” เฟยเหยียนเริ่มสนใจมากขึ้น
  แต่น่าหลานเยว่กลับขมวดคิ้วแน่น
  “แต่วิญญาณของหมีวิญญาณได้แตกกระจายไปจากอุบัติเหตุก่อนหน้านี้ ไม่มีหมีวิญญาณปรากฏในหมู่วิญญาณสัตว์อสูรมานานแล้ว ทำไมจู่ๆถึงได้……”
  ขณะที่น่าหลานเยว่กำลังงุนงงสับสนอยู่นั้น เสียงคำรามสะเทือนสวรรค์ของหมีตัวหนึ่งก็ดังผ่านหน้าต่างเข้ามา
  เสียงนั้นดังเข้าหูพวกจวินอู๋เสีย ทำให้พวกเขาสะดุ้งสุดตัว
  “นั่นเสียงคำรามของหมีวิญญาณหรือ? แต่ทำไมข้ารู้สึกว่า……เสียงคำรามนั่นฟังดูคุ้นๆ……” เฉียวฉู่กลืนน้ำลาย สังหรณ์ร้ายผุดขึ้นในใจเขา