ตอนที่ 354 ปล่อยเธอ ผมเอง / ตอนที่ 355 กัดลิ้นแล้ว

หมอยาหวานใจท่านประธาน

ตอนที่ 354 ปล่อยเธอ ผมเอง

 

 

แนน่อนว่าม่านตายังคงไม่เปลี่ยน แต่อยู่ดีๆ ใครจะมาตรวจว่าพวกเขาเป็นตัวจริงหรือไม่

 

 

“กลับไปแล้วถ่ายรูปส่งมาให้ฉัน ต้องสร้างสถานภาพคุณขึ้นมาใหม่จึงจะได้” แม้ว่าจะไม่มีคนคอยตรวจบัตรเขาบนถนนทุกวัน แต่ก็ควรป้องกันไว้ก่อน

 

 

ดวงตาเฟิงฉี่เจิดจ้าขึ้น “ว้าว เจ๊ คุณร้ายกาจจริงๆ ทำอย่างนี้วันหลังผมไปที่สถานที่ประมูลใต้ดินก็ไม่ต้องสวมหน้ากากแล้ว อิอิ กินยาแปลงโฉม รับประกันว่าพ่อผม ปู่ผมก็ดูไม่ออก”

 

 

อีลั่วเสวี่ยคิดในใจ “ดูไม่ออกหรือ ดูท่าทางขี้เล่นของเขาแล้ว จะดูผิดคนได้อย่างไร”

 

 

“จริงสิ เจ๊ คราวก่อนที่สถานที่ประมูลใต้ดินผมเห็นด้านหลังของผู้หญิงคนหนึ่งเหมือนคุณมาก คุณก็ไปที่นั่นใช่ไหม? จริงด้วย คุณยังประมูลซื้อแหวนหยกวงหนึ่ง เหมือนวงที่คุณสวมอยู่เลย”

 

 

เขาเห็นมืออีลั่วเสวี่ยวางอยู่บนพวงมาลัยรถ แหวนหยกวงนั้นยังคงดูเจิดจ้าแม้จะอยู่ในแสงสลัว เฟิงฉี่พูดเสริม แววตาดูจริงจัง

 

 

“แหวนวงนี้เป็นร้านพี่ชายเฟยเฟยทำขึ้น เราสามคน ฉัน เฟยเฟยและเสี่ยวเย่ มีกันคนละวง” ที่เธอพูดนั้นไม่ผิด แต่เธอไม่ปฏิเสธว่าคนที่อยู่ในสถานที่ประมูลใต้ดินนั้นไม่ใช่เธอ

 

 

เฟิงฉี่พยักหน้า “ผมได้ยินเรื่องนี้แล้ว ฮ่าฮ่า พี่ลั่วเสวี่ย วันไหนผมจะพาคุณไปเที่ยวที่สถานที่ประมูลใต้ดิน ที่นั่นน่าสนุก”

 

 

อีลั่วเสวี่ยยกมุมปากขึ้น “งั้นหรือ ถึงเวลานั้นแล้วค่อยว่า ไปกัน”

 

 

เมื่อทั้งคู่มาถึงทางแยกก็เห็นถนนสายยาวที่ข้างหน้าเต็มไปด้วยรถยนต์ ถึงกับตกตะลึง รถติด เป็นการติดขัดแบบที่รุนแรงมาก ดูเหมือนข้างหน้าจะมีรถชนกัน ขณะนี้ขับผ่านไปไม่ได้

 

 

“วันนี้ดูเหมือนจะไม่ค่อยราบลื่น” ลูกบอลเงินพึมพำ

 

 

ดวงตาอีลั่วเสวี่ยเป็นประกาย รีบบอกให้เจ้าลูกบอลเงินตรวจสอบในเน็ต ค้นหาเส้นทางที่ตอนนี้รถไม่ติด แล้วตัดสินใจใช้ถนนด้านข้าง จึงเตรียมจะเลี้ยวไปทางลัด

 

 

งานเปิดร้านKบาร์นรกอเวจี เธอต้องไปให้ทันจึงจะได้ ถ้าไปไม่ทันก็ต้องไปให้ถึงเร็วหน่อย การเปิดร้านในที่แบบนั้น วันแรกอาจจะไม่ค่อยสงบ

 

 

ขณะที่อีลั่วเสวี่ยขับรถมาถึงถนนที่นับว่ากว้าง ทันใดนั้นก็มีคนผู้หนึ่งวิ่งข้ามถนน แล้วหมอบลงตรงหน้ารถเธอ เมื่อครู่ต้องหยุดรถกะทันหัน เธอกับเฟิงฉี่ใข้พลังทิพย์ห่อหุ้มรถไว้ ทำให้รถไม่ชนคน

 

 

คนไม่ถูกรถชน แต่รถจอดลงแล้ว อีลั่วเสวี่ยเปิดประตูรถ เดินออกมา แล้วจู่ๆ ก็มีมีดมาจ่อที่เอวด้านหลังเธอ

 

 

“อย่าขยับ!”

 

 

“ปล่อยเธอ ไม่งั้นฉันยิงนะ!” เสียงหนึ่งดังขึ้น ทำให้อีลั่วเสวี่ยหันไปมอง ถึงตรงนี้เฟิงฉี่ลงจากรถแล้ว มองเห็นคนในเครื่องแบบตำรวจ เหงื่อเต็มใบหน้า ชูปืนเล็งไปที่ชายที่อยู่ข้างหลังอีลั่วเสวี่ย

 

 

“อย่ายิง!” เฟิงฉี่ร้องบอกทันที เวรกรรม นี่มันเรื่องอะไร

 

 

ที่แท้ชายคนนี้เป็นผู้ร้าย เป็นผู้ร้ายฆ่าคนตาย ข้างหน้าที่ขวางถนนไว้เป็นรถคุมตัวคนร้าย ถูกเขาเล่นงาน เขาฆ่าเจ้าหน้าที่ที่คุมตัวกับคนขับรถ แล้ววิ่งหนีมา มีตำรวจนายหนึ่งไล่ตามมา

 

 

ชายหนุ่มคนนั้นไม่มีเวลาจะปาดเหงื่อบนใบหน้า เขาขยับทีละก้วเข้าใกล้อีลั่วเสวี่ย “หลี่ชิงเฟิง อย่าวู่วาม ปล่อยเธอ ฉันเป็นตัวประกันแทนเธอเอง!”

 

 

“อย่าฝันไปเลย!” เสียงหัวเราะที่อำมหิตดังขึ้น มีดสั้นเปลี่ยนมาจ่อที่คออีลั่วเสวี่ย แตะบนผิวหนัง ระหว่างนี้อีลั่วเสวี่ยสงบนิ่งมาก

 

 

เฟิงฉี่ชูมือขึ้นทันที “งั้นฉันล่ะ ฉันเอง ฉันเป็นตัวประกันให้นาย ปล่อยพี่สาวฉันซะ”

 

 

ตอนนี้สมองของเฟิงฉี่สับสน เขาลืมไปว่าอีลั่วเสวี่ยมีฝีมือเหนือกว่าเขา

 

 

ตำรวจหนุ่มคนนั้นผงะเล็กน้อย แล้วสั่นหัว “ไม่ได้ ฉันเอง ฉันเหมาะที่สุด นายปล่อยเขา ฉันเอง”

 

 

 

 

ตอนที่ 355 กัดลิ้นแล้ว

 

 

เขาพูดพลางกางแขนออก ค่อยๆ วางปืนในมือลงบนพื้น อีลั่วเสวี่ยเห็นเช่นนั้นก็ทำตาขวาง โง่จริง เดี๋ยวคนร้ายคงบอกให้เขาเตะปืนมา เท่ากับรนหาที่ตายชัดๆ

 

 

ในสภาพเช่นนี้ก็ยิ่งช่วยตัวประกันได้ยากขึ้น ควรจะใช้เหตุผลเอาชนะ ใช้สงครามประสาทสู้กับคนร้าย ไม่ใช่ยอมอ่อนข้อเร็วแบบนี้ เฮ้อ ยังไงก็เป็นตำรวจหนุ่ม

 

 

“แม่คุณ เวลาอย่างนี้ยังอุตส่าห์คิดเรื่องนี้อีก เจ้าไม่คิดหรือว่าที่สงบนิ่งเกินไปอย่างนี้ เหนือกว่าคนทั่วไปหรือ?” ลูกบอลเงินบันทึกภาพพลางพูดเย้ย

 

 

ที่บอกว่าบันทึกภาพนั้นที่จริงไม่ถูกต้องนัก มันกำลังถ่ายทอดสดไปยังดวงดาวอันไกลโพ้น ให้เพื่อนๆ ของมันดู สามารถทำเงินได้ ฮ่าฮ่า เงินมากซะด้วย

 

 

“หรือเจ้าไม่รู้ว่ามีสภาพที่เรียกว่าตกใจจนทำอะไรไม่ถูก จากนั้นยืนตัวแข็งทื่อ คิดอะไรไม่ออก ฉันอาจจะเป็นแบบนั้นก็ได้” แต่ถ้าร้องไห้โวยวายอาจทำให้คนร้ายหงุดหงิด แล้วลงมือเล่นงานเธอล่ะ จะทำยังไง

 

 

อีกอย่างเธอรู้สึกถึงพลังสายนั้นในร่างชายคนนี้ เขาไม่ใช่เป็นแค่ฆาตกรโหดเ**้ยมง่ายๆ แค่นั้น กลิ่นคาวเลือดบนตัวเข้มข้นมาก น่าแปลกจริงๆ

 

 

กลัวจนยืนแข็งทื่อ? ผีถึงจะเชื่อ ลูกบอลเงินนึกโต้แย้งในใจ แต่ไม่กล้าพูดออกมา

 

 

และแล้วคนที่จับเธอไว้ก็บอกให้ตำรวจเต๊ะปืนมาให้ เขามองอีลั่วเสวี่ยแล้วจำเป็นต้องทำตาม ถ้าเกิดอะไรกับนักศึกษาสาวคนนี้ย่อมไม่ดีแน่ เขาจึงต้องเสี่ยงดู

 

 

เขาอยู่ห่างจากโจรคนนี้เพียงห้าหกเมตร ขอเพียงเจ้านั่นก้มลงหยิบปืน เขาจะฉวยโอกาสบุกใส่ ขณะเดียวกันก็ขยิบตาให้สัญญาณอีลั่วเสวี่ย แต่ใบหน้าเธอไร้ความรู้สึก เขารู้สึกไม่มั่นใจ

 

 

เขาก็คิดว่าอีลั่วเสวี่ยตกใจจนทำอะไรไม่ถูก จึงหันไปขยิบตากับเฟิงฉี่ เห็นเขายืนอยู่อีกด้านหนึ่งของรถ ดูว่าพอจะทำอะไรได้บ้าง

 

 

ขณะที่ตำรวจเตะปืนออกไป ปืนมาอยู่ที่ปลายเท้าอีลั่วเสวี่ยพอดี โจรยิ้มอย่างเยือกเย็นแล้วก้มลงหยิบปืน

 

 

ถึงตอนนี้อีลั่วเสวี่ยยกเท้าเหยียบปืนไว้ แล้วพลิกมือคว้าแขนโจรไว้ ออกแรงบิด เกิดเสียงดังขวาก ข้อต่อมือหลุดออก

 

 

“รนหาที่ตาย!” เขาดูท่าทางเหมือนไม่เจ็บปวดนัก เขาถูกอีลั่วเสวี่ยเล่นงานทำให้ขณะนี้หันหลังให้กับตำรวจหนุ่ม บังอีลั่วเสวี่ยไว้พอดี

 

 

ขณะนั้นเองอีลั่วเสวี่ยก็นั่งลงบนพื้น ยื่นมือออกไปส่งพลังทิพย์เข้าไปในร่างคนผู้นี้ มีไอร้ายสายหนึ่งถูกขับออกมาทันที ถูกเจ้าลูกบอลเงินทำให้สลายไป

 

 

“หลี่ชิงเฟิง!” ตำรวจหนุ่มตะโกนด้วยความโกรธเกรี้ยว แล้วโผเข้ามาชนโจรล้มลง มีรอยยิ้มอย่างพอใจผุดขึ้น ดูเหมือนเขาจะภาคภูมิใจกับความกล้าหาญของตนเอง

 

 

ถึงตอนนี้เฟิงฉี่มาอยู่ข้างตัวอีลั่วเสวี่ยแล้ว เขาถามด้วยความห่วงใย “เจ๊ เป็นอะไรไหม?” ขณะนี้ทั้งคู่ผ่านการแปลงโฉมแล้ว เขารู้ดีจึงไม่เรียกชื่ออีลั่วเสวี่ยออกมา

 

 

ตำรวจหนุ่งล้วงกุญแจมือออกมา จัดการใส่กุญแจมือไพล่หลังให้คนร้าย โจรจ้องมองอีลั่วเสวี่ยด้วยความเคียดแค้น กำลังจะพูดอะไรก็เกิดกระอักเลือดออกมา แล้วแววตาดูเลื่อนลอย

 

 

“ดูซิว่ายังจะกล้าหนีอีกไหม?” ตำรวจหนุ่มถอนหายใจแล้วปาดเหงื่อบนใบหน้า เขาหยิบวิทยุสื่อสารออกมาเรียกกำลังเสริม

 

 

“เรียกศูนย์ใหญ่ เรียกศูนย์ ผมคือห่าวเหริน หมายเลข 948 ผมอยู่ที่xxx คนร้ายที่หนีมาชื่อหลี่ชิงเฟิงถูกคุมตัวไว้แล้ว ทราบแล้วเปลี่ยน”

 

 

วิทยุสื่อสารมีเสียงหึ่งๆ จากนั้นก็เป็นเสียงพูดตอบ “ศูนย์ได้รับแล้ว อยู่กับที่รอคำสั่ง จะส่งกำลังเสริมไปเดี๋ยวนี้

 

 

“ทราบแล้ว” ถึงตอนนี้ห่าวเหรินจึงหันมามองอีลั่วเสวี่ยและเฟิงฉี่ สีหน้าขออภัย

 

 

“ต้องขอโทษจริงๆ ทำให้พวกคุณตกใจ บาดเจ็บไหมครับ เดี๋ยวส่งตัวคนร้ายแล้ว ผมจะให้คนพาพวกคุณไปตรวจที่โรงพยาบาล”

 

 

อีลั่วเสวี่ยลุกขึ้น แล้วโบกมือ “ไม่ต้องหรอก แต่เขาต่างหากที่ต้องไปโรงพยาบาล” อีลั่วเสวี่ยพูดจบก็ชี้ไปที่หลี่ชิงเฟิง ขณะนี้เขาสงบนิ่งไม่ขัดขืน