บทที่ 288
มีประโยคหนึ่ง เขาไม่กล้าพูดออกมา
มึงก็คือเย่เฉิน ลูกเขยที่ไปแต่งเข้าบ้านผู้หญิง เป็นพวกกระจอกไม่เอาไหนไม่ใช่หรือไง?
เย่เฉินเห็นว่าเขาไม่กล้าพูดจา ก็ยิ้มพูดว่า “มึงต้องคิดว่า กูก็เป็นแค่พวกหัวโปกไม่เอาไหน ใช่ไหม?”
เกาจวิ้นเว่ยไม่กล้าตอบ
เย่เฉินก็ยิ้มเบาๆ พูดว่า “กูจะบอกความจริงให้ กูคือคุณชายตระกูลเย่แห่งเย่นจิง ประธานของตี้เหากรุ๊ป มึงคิดว่าตระกูลมึง ในสายตากูนั้น จะเป็นอย่างไร?”
เกาจวิ้นเว่ยก็รู้สึกกลัวมาก……
ตระกูลเย่แห่งเย่นจิงงั้นหรือ?
ก็เป็นตระกูลใหญ่ระดับประเทศเลยไม่ใช่หรือ?!
ทำไม……..
ทำไมคุณชายแห่งตระกูลเย่ ถึงได้ยอมมาเป็นเขยให้กับตระกูลเซียวเล็กๆ ในเมืองจินหลิง?!
เขาอดพูดไม่ได้ว่า “กูไม่เข้าใจ….กูไม่เข้าใจ……ถ้ามึงเป็นคุณชายตระกูลเย่จริงๆ ทำไมมึงถึงได้ยอมมาที่ตระกูลเซียว มาให้คน
หัวเราะเยาะทำไมกัน? มึงสามารถทำให้ตระกูลเซียวคุกเข่าให้ได้ด้วยซ้ำ สามารถทำให้คนทั้งเมืองจินหลิงก้มหัวให้ได้ด้วยซ้ำ…….”
เย่เฉินเอามือตบๆ หน้าเขา แล้วพูดนิ่งๆ ว่า “คนธรรมดา ไม่มีสิทธิ์ที่จะได้เห็นใบหน้าที่แท้จริงของมังกร มังกรเองก็ไม่ต้องให้พวกเขามายอมจำนน”
พูดจบ เย่เฉินก็มองเวลา แล้วพูดนิ่งๆ ว่า “ได้เวลาแล้วเกาจวิ้นเว่ย อาศัยจังหวะที่พ่อมึงยังไม่ไปไหนไกล ก็รีบตามไปเถอะ!พอถึงทางไปปรโลกแล้ว ก็รีบเดินหน่อย บางทีอาจจะตามพ่อมึงไปทัน จะได้อยู่เป็นเพื่อนกันสองพ่อลูก”
เกาจวิ้นเว่ยก็ร้องตะโกนด้วยความหวาดกลัว เย่เฉินก็ไม่ได้ให้โอกาสเขาอีก เขาลุกขึ้น แล้วบีบยิ้มส่งให้กับเกาจวิ้นเว่ย แล้วก็โบกมือ “สายฟ้าจงมา!”
เสียงดังเปรี้ยง ดังสนั่น ตามด้วยแสงสายฟ้าที่น่าตกใจได้ค่อยๆ มลายหายไป เกาจวิ้นเว่ยก็นำเอาความเสียดายและความกลัวตายไป กลายเป็นเศษผงธุลี ไม่หลงเหลือร่องรอยอะไรไว้บนโลกนี้เลย!
เย่เฉินก็มองภรรยาและแม่ยายตนเองที่นอนสลบอยู่ด้านข้าง แล้วก็ถอนหายใจเบาๆ หยิบโทรศัพท์ออกมา จากนั้นก็โทรหาท่านหงห้า
พอต่อสายได้ เย่เฉินก็รีบสั่งว่า “ผมอยู่ที่หมู่คฤหาสน์ริมแม่น้ำ คุณพาพวกมา แล้วก็รถหลายๆ คันด้วย แล้วก็เอาน้ำมันมาด้วย”
หงห้ารีบตอบว่า “อาจารย์เย่วางใจได้ ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้!”
ผ่านไป10นาที หงห้าก็พาคนมาถึง
เย่เฉินให้พวกเขาขับรถเข้ามาในสวนของบ้าน แล้วพูดกับหงห้าว่า “เอารถคุณมาให้ผมใช้หน่อย ผมจะพาภรรยาและแม่ยายผมกลับ
ไป ส่วนที่นี่ คุณก็ช่วยผมเผามันเสียให้หมด”
ท่านหงห้ารีบหยักหน้า แล้วก็เปิดรถเบนซ์ของตนเองด้วยความเคารพ
เย่เฉินก็นำภรรยา และแม่ยายตนเองเข้าไปนั่งเบาะหลัง แล้วพูดกับหงห้าว่า “ไปบอกกับพวกนักข่าวว่า ไม่ต้องรายงานเรื่องที่นี่”
“ได้ครับ อาจารย์เย่” ท่านหงห้ารีบตอบรับ
……
เย่เฉินขับรถออกมาจากหมู่คฤหาสน์ริมแม่น้ำ เพื่อกลับมายังบ้านในเมือง
หลังจากรถจอดหยุดที่ใต้ตึก เขาก็เก็บเอาพลังภายในที่ส่งไปในตัวของภรรยาและแม่ยายกลับมา จากนั้นทั้งสองก็เริ่มฟื้น
พอทั้งสองคนฟื้นมา ก็ยังคงอยู่ในอารมณ์ตกใจกลัว แต่พอเห็นว่าตนเองได้นั่งอยู่บนรถแล้ว และเย่เฉินก็หันหลังมามองทั้งสองคน ทั้งสองคนก็ยังคงตกใจเล็กน้อย
เซียวชูหรันก็อดถามไม่ได้ว่า “เย่เฉิน มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมพวกเรามาอยู่ที่นี่ได้? เกาจวิ้นเว่ยและพ่อมันล่ะ?”
เย่เฉินยิ้มเบาๆ แล้วพูดว่า “เนื่องจากพวกเขามีความผิดฐานลักพาตัว ก็เลยหลบหนีไปแล้ว ตอนนี้ตำรวจกำลังตามตัวเขาอยู่”
“หา?” เซียวชูหรันตกใจ แล้วถามว่า “แล้วคุณพาพวกเราหนีออกมาได้อย่างไรกัน?”
เย่เฉินตอบ “ก่อนหน้านั้นผมได้โทรไปแจ้งความแล้ว ดังนั้น ตอนที่พวกมันกำลังจะฆ่าพวกเรานั้น ตำรวจก็มาพอดี พวกมันสอง
พ่อลูกก็เลยรีบหนีไป!ผมคิดว่า ชีวิตนี้ พวกมันกลับมาเมืองจินหลิงไม่ได้อีกแล้วล่ะ!”
เซียวชูหรันหวนนึกถึงตอนที่เย่เฉินบุกเดี่ยวเข้าไปช่วยตนเอง ก็ซาบซึ้งจนตาแดง แล้วพูดเบาๆ ว่า “คุณสามีคะ ขอบคุณมากนะ…..”
เย่เฉินก็ยิ้มเล็กๆ “จะเกรงใจกับสามีทำไมกัน? ล้วนเป็นหน้าที่ที่สามีอย่างผมควรจะทำ!”
สำหรับเย่เฉินแล้ว เพียงได้ยินคำขอบคุณจากเซียวชูหรัน ต่อให้ต้องบุกน้ำลุยไฟ ก็คุ้มค่า!