บทที่ 289

ในตอนนี้ หม่าหลันที่อยู่ด้านข้างก็โล่งอก แล้วก็ลูบหน้าอกพูดว่า “วันนี้โชคดีจริงๆ เลย!เกือบจะถูกไอ้เกาเจี้ยนจูนทำไม่ดีไม่ร้ายเสียแล้ว”

เซียวชูหรันก็มองเธอ แล้วก็พูดอย่างเอือมระอาว่า “แม่คะ ต่อไปนี้จะทำอะไรก็ระวังให้มากกว่านี้หน่อยได้ไหมคะ? อย่าได้ถูกคนหลอกใช้ แล้วไม่รู้ตัวแบบนี้อีก!ถ้าวันนี้ไม่ได้เย่เฉิน เราสองคนได้จบเห่แน่!”

หม่าหลันก็รู้ว่าเถียงไม่ได้ แต่ปากก็ยังเถียงออกมาว่า “ทำไมล่ะ? แม่เองก็เป็นผู้เสียหายเหมือนกันนะ แล้วอีกอย่าง ทั้งหมดนี้มันก็เกิด

จากเย่เฉิน ถ้าไม่ใช่เพราะเขาไปหาเรื่องเกาจวิ้นเว่ย พวกเราจะตกอยู่ในอันตรายแบบนี้หรือ? จะว่าไปแล้ว ทั้งหมดก็เป็นเพราะเขา

นั่นแหละ!”

เซียวชูหรันก็หัวเสียพูดว่า “ทำไมแม่พูดไม่รู้เรื่องคะเนี่ย!”

พูดจบ ก็โมโหเปิดประตูลงรถไป แล้วเดินขึ้นตึกไป……..

หม่าหลันเห็นเซียวชูหรันขึ้นตึกไป ก็รีบเปิดประตูรถตามไป

เย่เฉินก็รีบตามไป พอตอนที่มาถึงบ้าน พอดีว่าพ่อตาไม่อยู่บ้าน จากนั้นหม่าหลันก็พูดกับเซียวชูหรันว่า “ชูหรัน เรื่องวันนี้ อย่าไปบอกพ่อแกเชียวนะ ได้ยินไหม?”

เซียวชูหรันก็ถามกลับ “แม่คิดว่าตัวเองไม่ผิดไม่ใช่หรือคะ? แล้วจะกลัวอะไร?”

หม่าหลันก็พูดปากแข็งว่า “แม่กลัวที่ไหน? แม่ก็แค่ไม่อยากให้พ่อแกกังวล พวกเราก็ปลอดภัยดีแล้วไม่ใช่หรือ? จะพูดออกมาให้เขากังวลทำไมกัน?”

เซียวชูหรันบอกว่า “ถ้าแม่ไม่ยอมรับว่าเรื่องนี้ไม่ใช่ความผิดตนเองละก็ หนูก็จะบอกพ่อ ให้พ่อเป็นคนตัดสิน!”

หม่าหลันก็รีบพูดว่า “แหย๋า โอเค! แม่ยอมรับว่าแม่คิดน้อยไป พอใจหรือยัง? ต้องโทษไอ้เกาจวิ้นเว่ยสมควรตายนั่น เหอะ แม้แต่แม่มันก็ยังจะปล้ำ!มีการบอกจะเอารถเบนซ์รุ่นS500มาให้แม่ แม่ขับรถไม่เป็นเสียด้วยซ้ำ!”

เซียวชูหรันก็ได้ยินว่าแม่พูดถึงรถเบนซ์รุ่นS500 ก็รีบถามไปว่า “อะไรนะรถเบนซ์รุ่นS500หรือ? แม่ มันเป็นอย่างไรกันแน่?!”

หม่าหลันก็เพิ่งรู้สึกตัวว่าตนเองพูดผิดไป แล้วก็รีบอธิบายว่า “ไอหย๋า ไอ้เกาจวิ้นเว่ยนั่น มันโทรหาแม่ บอกว่าอยากจะขอโทษ

พวกเราสองแม่ลูก ดังนั้นก็เลยจะให้รถเบนซ์เก๋งเรามาหนึ่งคันก่อน แม่ก็คิด ว่าแกและพ่อแกก็มีรถหมดแล้ว แม่ยังไม่มีรถให้ขับ พอดีว่าจะมีคนให้ ก็เป็นเรื่องดีไม่ใช่หรือ? ยังสามารถหางานตกแต่งให้แกได้ด้วย ดังนั้นก็เลยเลอะเลือนตอบรับมันไป”

พูดไป หม่าหลันก็รีบแก้ต่างว่า “แต่ทั้งหมด แม่ก็ทำเพื่อแกนะ ทำเพื่อบ้านพวกเรานะ!”

เซียวชูหรันก็พูดอย่างโมโหว่า “แม่อย่าเอาทุกเรื่องที่ทำไปมาอ้างว่าทำเพื่อหนู ทำเพื่อบ้านเรา เพื่อแก้ต่างให้ตัวเองได้ไหมคะ? ถ้าวันนี้ไม่ได้เย่เฉิน หนูอาจจะตายไปแล้วก็ได้ แม่เองก็อาจจะตายไปแล้วก็ได้ แถมยังตายอย่างเสียศักดิ์ศรีอีกด้วย ถ้าไม่มีพวกเรา

แล้ว แล้วพ่อจะอยู่อย่างไร? ไม่ดีอาจจะสูญเสียกันไปทั้ง3คนเลย!เย่เฉินเสี่ยงอันตรายเพื่อไปช่วยพวกเราออกมา แม่ไม่มีแม้แต่

คำขอบคุณ แล้วยังจะมาแก้ตัวอีก ทำให้หนูผิดหวังมากจริงๆ !”

หม่าหลันได้ยินเซียวชูหรันเอ่ยปากโทษตนเอง ก็งอนจนนั่งลงที่พื้น แล้วก็ร้องไห้ร้องห่มตะโกนออกมา

“ไอหย๋า สวรรค์ ทำมีวิตฉันมันลำบากเช่นนี้ ทั้งชีวิตก็มีลูกแค่คนเดียว สุดท้ายเธอก็มาชี้หน้าด่าฉัน สวรรค์จะให้ฉันมีชีวิตอยู่

ต่อไปทำไมกัน!รีบเอาชีวิตฉันไปเสียเถอะ!”

โดยปกติ ถ้าหม่าหลันแกล้งร้องได้ เซียวชูหรันก็จะยอมโดยดี

แต่ว่าวันนี้ เซียวชูหรันไม่ยอมแม้แต่น้อย

เขามองหม่าหลันอย่างผิดหวังมาก แล้วพูดตาแดงๆ ว่า “แม่คะ แม่จะเป็นแบบทุกครั้งใช่ไหม ทำผิดก็ไม่ยอมรับ คิดว่าคนอื่นเขาจะไม่เอาเรื่อง ถ้าคนอื่นเอาเรื่องขึ้นมา ก็จะแกล้งร้องห่มร้องไห้ แม่คิดว่าคนอื่นเข้าข้างแม่ แล้วให้อภัยแม่งั้นหรือคะ?”

หม่าหลันก็ยังคงเล่นละครของตนเองต่อไป ร้องไห้พูดว่า “ฉันลำบากเหลือเกินสวรรค์เอ๋ย!ลูกสาวสุดที่รักที่ฉันให้กำเนิดมาพูด

แบบนี้กับฉัน เธอไม่รู้หรือว่าชีวิตพ่อแม่นั้นยิ่งใหญ่กว่าฟ้าดิน? ไม่ว่าพ่อแม่จะทำอะไรผิด ผู้เป็นลูกก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะมาต่อว่า! สวรรค์ ท่านว่าบ้านนี้ ยังมีที่ให้ฉันอยู่ต่อไปอีกหรือ? อยู่ไม่ได้แล้ว แล้วฉันจะมีชีวิตอยู่ต่อไปทำไมกันล่ะ……….”

เซียวชูหรันก็น้ำตาไหลอาบสองแก้ม แล้วก็พูดอย่างไม่ยอมอ่อนข้อว่า “แม่คะ ถ้าแม่ยังเป็นแบบนี้ หนูกับเย่เฉินก็จะย้ายออกไป หนูยังพอมีเงินเก็บอยู่บ้าง พวกเราสองคนจะออกไปเช่าบ้านอยู่ ก็ไม่น่าจะใช้เงินมาก”